ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 95
บทที่ 95 การกลับมาของเจ้าสาว
โจวชิงไป๋กลับมาที่บ้านหลังเวลาบ่ายโมงตรงพร้อมกับฟืนเต็มคันรถอย่างน้อยสี่หรือห้ามัด
“คุณน่าจะหิวแล้ว รีบมากินเถอะค่ะ ฉันจะอุ่นให้นะคะ” หลินชิงเหอบอก
“เดี๋ยวผมจะถือโอกาสหลายวันนี้นำมันกลับมาอีกนะ” โจวชิงไป๋พยักหน้า
การมีจักรยานทำให้เขาแบกฟืนกลับมาได้มาก เพียงแค่รอบเดียวก็เกือบจะได้ฟืนในปริมาณพอใช้ หลินชิงเหอจึงไม่โต้แย้งใด ๆ เธออุ่นหมั่นโถวและกับข้าวให้เขาทาน
ขณะที่หลินชิงเหออุ่นอาหารของเขา เขาก็นำฟืนไปกองที่สวนหลังบ้าน ภรรยาของเขาจึงไม่ต้องเป็นคนขนฟืนไปกองในภายหลังอีก
แน่นอนว่าโจวชิงไป๋กำลังหิวโซจนมีความอยากอาหารมาก เขากวาดทุกสิ่งที่หลินชิงเหออุ่นจนหมดเกลี้ยง
“นอนพักผ่อนสักหน่อยนะคะ ที่บ้านไม่มีอะไรต้องทำแล้วล่ะค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยเร้า
โจวชิงไป๋เห็นด้วย
เขายังไม่รู้เกี่ยวกับการต่อสู้ของภรรยา แต่มารู้ก็ตอนที่กำลังจะออกไปเก็บฟืนในวันต่อมาแล้วพี่ชายรองมาขวางไว้ก่อนได้ยินเสียงฮึดฮัด
“ผมยังไม่รู้เรื่องนี้เลย ก็เลยยังบอกอะไรพี่ไม่ได้ เราค่อยคุยกันหลังผมกลับมาแล้วเถอะ” โจวชิงไป๋ตัดบทและกระโดดขึ้นจักรยาน
เมื่อเขากลับมาในตอนบ่าย เขาก็ถามภรรยาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในขณะที่ล้างหน้า
“อะไรนะคะ? เขากล้ามาถามมาบ่นเรื่องนี้กับคุณเหรอ? เป็นหล่อนต่างหากละคะที่เปิดปากเป็นคนแรก แล้วก็ยังเป็นคนลงมือก่อนด้วย แต่กล้ามาบ่นงั้นเหรอ?” หลินชิงเหอแค่นเสียง
“หล่อนตีคุณงั้นเหรอ?” โจวชิงไป๋ถาม
หลินชิงเหอสังเกตว่าสายตาของเขาจับจ้องมาและรู้สึกเหมือนถูกเยียวยาในทันที เธอยิ้มกว้าง “ฉันไม่เป็นไรค่ะ หล่อนแค่ผลักฉันแล้วก็โดนฉันจับทุ่มเท่านั้น”
จากนั้นเธอก็เอ่ยเสริม “ในตอนนั้น คุณพ่อ คุณแม่ กับพี่สะใภ้อีกสองคนก็อยู่ตรงนั้นด้วยนะคะ ฉันมีพยานรู้เห็นเรื่องนี้หลายคนเลยล่ะ ต่อให้ครอบครัวตระกูลเฉินของหล่อนมาฉันก็โต้กลับพวกเขาได้!”
โจวชิงไป๋ได้ยินก็พยักหน้าเอ่ยขึ้นมา “ถ้าพวกเขากล้ามาหาจริง ๆ คุณไม่จำเป็นต้องลงมือหรอก”
หลินชิงเหอรับรู้ความหมายของเขาและส่งยิ้มให้ โจวชิงไป๋ตอบกลับมาด้วยสายตาอ่อนโยนก่อนจะบอกเธอ “ในอนาคตบอกผมในเรื่องพวกนี้ตรง ๆ นะ ผมไม่โกรธหรอก”
“ค่ะ” หลินชิงเหอพยักหน้าและเอ่ยต่อ “จริง ๆ แล้วฉันก็ไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิดจริงจังหรอกค่ะ หล่อนทนฉันมานานมากแล้ว ฉันเองก็ไม่ชอบขี้หน้าหล่อนมานานแล้วเหมือนกัน เมื่อวานซืนก่อนจะมีการสู้กันช่างเป็นวันที่สดชื่นจริง ๆ”
คราวนี้โจวชิงไป๋ถึงกับเงียบไป สายตาที่มองภรรยามีแววจนใจเล็กน้อย
เขารู้ว่าภรรยาไม่ผิดในเรื่องนี้ จึงเมินสิ่งที่พี่ชายรองพูดเสีย พี่ชายรองทำเพียงบ่นให้เขาฟังในเรื่องนี้ ความจริงแล้วเหนือสิ่งอื่นใดเขาอยากจะระบายว่าทำไมน้องชายถึงสอนภรรยาตัวเองให้ต่อสู้กัน?
แต่ก่อนที่ประเด็นหลักนี้จะจบ โจวชิงไป๋ก็ไม่ใส่ใจมัน แล้วเรื่องนี้มันก็จบลง
โจวชิงไป๋ง่วนกับการทำงานหาฟืนมาหลายวันนี้ เขาเตรียมฟืนทั้งหมดให้พร้อมใช้ในหน้าหนาวสำหรับครอบครัวของเขา
เมื่อเขาทำเสร็จ หิมะก็ตก
ยิ่งกว่านั้นมันยังตกหนักเสียด้วย
โจวเสี่ยวเม่ยได้แต่งงานในสิ้นเดือนพฤศจิกายน โดยทั้งครอบครัวเป็นคนส่งหล่อน แต่เนื่องจากอากาศหนาวเย็นเกินไปและหิมะก็ยังคงตกโปรยปราย ทุกอย่างจึงจัดแบบเรียบง่าย
ทางครอบครัวตระกูลโจวกันจักรยานไว้เป็นของขวัญแต่งงาน ส่วนของอื่น ๆ ก็ถูกนำออกมาครู่หนึ่งก่อนจะถูกยกกลับไปให้คู่บ่าวสาว
งานเลี้ยงฉลองถูกจัดขึ้นที่บ้านฝ่ายเจ้าบ่าว โดยที่โจวชิงไป๋กับบรรดาพี่ชายของเขาเข้าร่วมงาน ขณะที่หลินชิงเหอกับเด็ก ๆ ไม่ได้เข้าร่วม
โจวเสี่ยวเม่ยชอบผ้านวมกับสบู่สองก้อนที่หลินชิงเหอมอบให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสบู่สองก้อนนั้น ใครก็ตามที่ได้ใช้มันก็จะรู้ว่ามันใช้ดีและกลิ่นหอมขนาดไหน
สะใภ้ใหญ่มอบของขวัญให้หล่อนเป็นถ้วยกระเบื้องเคลือบคู่หนึ่ง ขณะที่สะใภ้สามให้ผ้าเช็ดตัวสองผืน ส่วนสะใภ้รองนั้นเงียบไป หล่อนไม่ได้ให้อะไรมาเลย
ไม่มีใครว่าอะไรหล่อนเลย เพราะพวกเขาไม่อยากให้เรื่องเล็ก ๆ นี้มาเป็นเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ หล่อนจะให้หรือไม่ให้อะไรมามันก็ไม่แตกต่างกันอยู่แล้ว
สามวันหลังจากนั้น โจวเสี่ยวเม่ยก็กลับมาที่บ้านแม่พร้อมกับซูต้าหลิน
พวกเขามอบของขวัญให้กับทั้งสามครอบครัวกลับคืน ทางฝั่งหลินชิงเหอก็ได้นมผงรสมอลต์โหลหนึ่งกับลูกอมกระต่ายขาวสองถุง โดยพวกเขาทั้งคู่ได้นำมาให้ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่บ้านตระกูลโจว
สะใภ้ใหญ่กับสะใภ้สามต่างได้ลูกอมกระต่ายขาวกันคนละถุง ขณะที่สะใภ้รองไม่ได้อะไรเลย
โจวเสี่ยวเม่ยไม่ใช่คนใจกว้างนัก หล่อนรู้ดีว่าใครปฏิบัติต่อหล่อนดีและใครไม่ใส่ใจหล่อน
อย่างเช่นสะใภ้รองเป็นต้น ในเมื่อฝ่ายนั้นไม่แม้แต่จะให้ของขวัญแต่งงานเล็ก ๆ น้อย ๆ มา หล่อนก็ไม่ให้ความนับถือใด ๆ กลับเหมือนกัน
ความจริงแล้วโจวเสี่ยวเม่ยรู้ว่าสะใภ้สี่ของเธอมีสภาพความเป็นอยู่ดีที่สุด หล่อนจึงไม่คาดหวังว่าสะใภ้อีกสามคนที่เหลือจะให้อะไรมา หากแต่เป็นเจตนาความหวังดีที่พวกหล่อนแสดงออกมาต่างหาก
อย่างเช่นถ้วยกระเบื้องเคลือบของสะใภ้ใหญ่กับผ้าเช็ดตัวของสะใภ้สามที่ไม่ได้มีราคาค่างวดมากนัก แต่มันก็ถูกมอบให้ด้วยความใส่ใจล่ะถูกไหม?
สะใภ้รองไม่ได้ให้อะไรหล่อนเลย แล้วทำไมหล่อนจะต้องให้ของขวัญกลับด้วย? ต่อให้ซูต้าหลินบอกว่าควรให้จะดีกว่า แต่หล่อนก็ยังคงยืนกรานคำเดิม
หลังเยี่ยมบ้านตระกูลโจวแล้ว โจวเสี่ยวเม่ยก็พาซูต้าหลินมาเยี่ยมบ้านพี่ชายสี่กับสะใภ้สี่
ซูต้าหลินสนทนากับโจวชิงไป๋ในห้องโถง ขณะที่หลินชิงเหอคุยกับโจวเสี่ยวเม่ยในห้องนอนของเธอ
“ดูตัวเธอตอนนี้เหมือนได้รับน้ำหล่อเลี้ยงดีเชียวล่ะ ผิวเธอขาวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้นนะ” ทันทีที่พวกหล่อนเข้าไปในห้อง หลินชิงเหอก็เปิดประเด็นเรื่องใต้สะดือขึ้นมา ทำให้โจวเสี่ยวเม่ยที่เพิ่งแต่งงานและกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัวถึงกับหน้าแดงจัด
“หลัก ๆ เลยที่จะถามก็คือ อาเขยของเจ้าใหญ่ดูแลเธอดีไหม?” หลินชิงเหอถามเสียงทุ้ม
“เขาดูแลฉันดีมากค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยตอบด้วยใบหน้าแดงซ่าน
“ดีแล้วล่ะ ถ้างั้นฉันก็สบายใจแล้ว” หลินชิงเหอเอ่ยอย่างพึงพอใจ “ตอนนี้อากาศหนาว บ้านเธอคงจะใช้เตาถ่านกันแล้ว อย่าลืมระบายอากาศให้ดีล่ะ”
“ค่ะ ต้าหลินรู้เรื่องนี้ดี” โจวเสี่ยวเม่ยพยักหน้า
“ฉันเพิ่งเห็นว่ามีเรื่องไม่ลงรอยเล็กน้อยบางอย่างตอนที่เธอสองคนมา ทำไมกันเหรอ?” หลินชิงเหอถาม
“เป็นพี่สะใภ้รองค่ะ หล่อนพูดอะไรเป็นนัย ๆ สักอย่างตอนที่เรามาหา เมื่อฉันแต่งงานไปหล่อนก็ไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรให้เลย ในเมื่อหล่อนไม่ได้ให้อะไรมา ฉันก็ไม่ได้ให้อะไรหล่อนกลับเหมือนกัน ต้าหลินบอกว่าทำตัวแบบนี้มันไม่ดี แต่ฉันก็แย้งเขากลับไป” โจวเสี่ยวเม่ยอธิบาย
“อาเขยของเจ้าใหญ่ใจดีเกินไปแล้ว”
“เขาน่ะใช่ แต่ฉันไม่ใช่ค่ะ หล่อนสมควรถูกพี่จับทุ่มเมื่อคราวนั้นแล้ว หล่อนดูปากจัดกว่าเดิมอีกนะคะ” โจวเสี่ยวเม่ยแค่นเสียง
“อย่าสนใจหล่อนเลย ไม่ใช่ว่าโลกจะแตกถ้าไม่มีหล่อนสักหน่อย” หลินชิงเหอบอก
“พี่สะใภ้สี่คะ ตอนนี้ฉันรู้สึกมีความสุขมากเลย” โจวเสี่ยวเม่ยยิ้มกว้างอีกครั้ง
หลินชิงเหอได้ฟังก็ยิ้มและให้คำแนะนำ “พวกเธอทั้งคู่ต่างมีงานทำ นับแต่ตอนนี้ก็จงประหยัดสักหน่อยเพื่อที่จะได้เก็บเงินไว้ซื้อบ้านหลังใหญ่กว่านี้ได้”
“เขาเก็บไว้บางส่วนแล้วค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยตอบอย่างเอียงอาย
“ถูกแล้วที่เขาจะเก็บไว้บ้าง แต่เขาก็ใช้จ่ายไปจำนวนมากเพื่อจัดงานแต่งให้เธออย่างยิ่งใหญ่ ดังนั้นในอนาคตก็ควรจะประหยัดไว้บ้างนะ พี่เองตอนนี้ก็เริ่มเก็บเงินแล้ว หากพี่ซื้อบ้านได้พี่ก็จะซื้อบ้านในเมืองสักหลัง” หลินชิงเหอบอก
“พี่วางแผนจะซื้อบ้านในเมืองเหรอคะ?” โจวเสี่ยวเม่ยมองพี่สะใภ้
“สถานการณ์ตอนนี้น่ะยังซื้อไม่ได้หรอก เมื่อไหร่ที่เราย้ายไปที่นั้นก็จะไม่มีงานทำ ฉันซื้อไว้เพื่ออนาคตข้างหน้าต่างหาก” หลินชิงเหอตอบ
“ในภายภาคหน้าสถานการณ์จะดีขึ้นเหรอคะ?” โจวเสี่ยวเม่ยอึ้งไป
“ผู้คนต้องเรียนรู้เพื่อจะเห็นทางสว่าง หากว่าเราไม่มีเงินในมือ ต่อให้ภายภาคหน้าสถานการณ์จะดีขึ้น เราก็จะไม่มีโอกาส หากเรามีเงินเก็บอยู่ในมือล่ะก็ เราก็จะซื้อมันได้หากมีโอกาสที่จะได้ซื้อ” หลินชิงเหออธิบาย
“อืม ฉันจะเชื่อฟังพี่ค่ะพี่สะใภ้สี่ แล้วฉันจะเก็บเงินนะคะ” โจวเสี่ยวเม่ยพยักหน้า
“ช่วงนี้ก็อากาศเย็นลงแล้ว อย่าแตะน้ำเย็นในยามปกติล่ะ แล้วก็ใส่ใจกับรอบเดือนของตัวเองด้วย พี่คิดว่าอีกไม่นานเธอก็จะท้องแล้ว” หลินชิงเหอแนะนำ
โจวเสี่ยวเม่ยถึงกับหน้าแดงอีกครั้ง
……………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
พ่อได้ยินคงภาคภูมิใจที่ได้ภรรยาเก่งนะคะ ไม่ว่าอะไรแถมยังพร้อมบวกแทนแม่เต็มที่ ส่วนสะใภ้รองก็โดนเทรัว ๆ ไป
เรามาคอยดูกันค่ะว่าระหว่างชิงเหอกับเสี่ยวเม่ยใครจะมีน้องก่อนกัน ดูท่าต้าหลินก็แซ่บไม่แพ้พ่อนะคะ
ไหหม่า (海馬)