ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 254 ผายปอด
บทที่ 254 ผายปอด
นี่ถ้าเป็นแต่ก่อน นางอาจจะโยนเขาออกไปจริง ๆ แล้วก็ได้
แต่พอนึกถึงวันวาน เขาก็ทำดีกับนางไว้ไม่น้อย คนเรามีหัวใจกันทั้งนั้น ต่อให้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกวุ่นวายใจ แต่เวลาแบบนี้ก็ต้องไปดูแลเนี่ยหย่วนเฉียว
จางชุนเถาถอนหายใจอย่างโล่งอก นางคิดว่าตัวเองค่อนข้างรู้จักพี่สาวดี เมื่อครู่นางกังวลขึ้นมาจริง ๆ ว่าจางซิ่วเอ๋อจะไม่สนใจเนี่ยหย่วนเฉียวเพื่อป้องกันปัญหา
“ข้าไปทำกับข้าวนะเจ้าคะ พี่ตั้งใจดูแลพี่หนิงอันก็พอ” จางชุนเถาพูดเสร็จก็พุ่งพรวดเข้าไปในห้องครัว ไม่ให้โอกาสจางซิ่วเอ๋อปฏิเสธเลยสักนิด
“ทำข้าวต้มเหลว ๆ นะ ข้าว่าหนิงอันน่าจะกินได้แค่นั้นแหละ” จางซิ่วเอ๋อเบ้ปากบอก
ครั้งนี้ไม่ใช่ว่านางตั้งใจจะทารุณเนี่ยหย่วนเฉียว แต่สภาพเนี่ยหย่วนเฉียวตอนนี้คงจะกินอย่างอื่นไม่ลง และจางซิ่วเอ๋อก็ไม่กล้าให้เนี่ยหย่วนเฉียวกินอะไรมั่วซั่ว
รอจนพวกบัณฑิตจ้าวกินข้าวเย็นเสร็จและกลับบ้านแล้ว จางซิ่วเอ๋อถึงยกข้าวต้มไปที่ห้องของเนี่ยหย่วนเฉียว
พอนางเดินเข้าไปในห้องก็อดบ่นงึมงำไม่ได้ “เจ้าเถี่ยเสวียนเดนตายนั่นไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ทำไมยังไม่กลับมาอีก?”
ให้นางช่วยดูแลเนี่ยหย่วนเฉียวนั้นไม่มีปัญหาหรอก แต่ปัญหาก็คือนางไม่รู้เลยว่าตอนนี้เนี่ยหย่วนเฉียวเป็นอย่างไรบ้าง จึงรู้สึกทำอะไรไม่ถูก
จางซิ่วเอ๋อเดินไปวางข้าวต้มลงตรงหน้าเนี่ยหย่วนเฉียว และยื่นมือไปจิ้มเนี่ยหย่วนเฉียว “หนิงอัน ตอนนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ดีขึ้นหรือยัง?”
แต่เนี่ยหย่วนเฉียวไม่ตอบจางซิ่วเอ๋อ
เขานอนแน่นิ่งไม่ไหวติงราวกับตายไปแล้ว
จางซิ่วเอ๋อมองเนี่ยหย่วนเฉียวที่เป็นแบบนี้แล้วรู้สึกใจไม่ดี เขา….เขาคงไม่…..
จางซิ่วเอ๋ออดเกิดความคิดไม่ดีขึ้นมาไม่ได้ รู้สึกหัวใจหนักหน่วง และคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้ของเนี่ยหย่วนเฉียวไม่ดีเอาเสียเลย
นางยื่นมือออกไป ลองเอามือไปอังแถวจมูกของเนี่ยหย่วนเฉียว
แล้วจางซิ่วเอ๋อก็ตกตะลึง!
นี่…..
เขา…..เขาไม่มีลมหายใจ……
จางซิ่วเอ๋อยิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม นางเสียขวัญขึ้นมาเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่าเนี่ยหย่วนเฉียวตายไปแล้วหรอกนะ?
ลางสังหรณ์แย่ ๆ ของจางซิ่วเอ๋อรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นี่ถ้าคนโบราณทั่วไปเห็นว่าเนี่ยหย่วนเฉียวไม่มีลมหายใจคงต้องนึกว่าเนี่ยหย่วนเฉียวตายไปแล้ว
แต่ถึงอย่างไรจางซิ่วเอ๋อก็เป็นคนเห็นอะไรมามาก รู้ว่าบางครั้งต่อให้ไม่มีลมหายใจไปชั่วขณะก็ยังมีชีวิตอยู่ เวลาแบบนี้ขอแค่ช่วยเหลือให้ทันเวลา เป็นไปได้สูงว่าจะช่วยให้ฟื้นกลับมาได้
อีกกรณีหนึ่งก็คือคนผู้นั้นหมดสติไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากลมหายใจแผ่วเกินไปและประสาทสัมผัสที่มือของคนทั่วไปก็ไม่ได้ไวนัก บางครั้งอาจไม่รู้สึกถึงลมหายใจแผ่วเบานั้น
ในตอนนี้จางซิ่วเอ๋อไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว นางวางมือบนอกของเนี่ยหย่วนเฉียวทันที แล้วก็ไม่ทราบว่าเป็นอุปาทานหรือไม่ เพราะนางยังรู้สึกได้ถึงจังหวะชีพจรอันแผ่วเบาของเนี่ยหย่วนเฉียว
จางซิ่วเอ๋อไม่มีเวลามาคิดอะไรอย่างอื่นแล้ว ในตอนนี้นางเหลือบมองเนี่ยหย่วนเฉียวด้วยแววตาซับซ้อน และในที่สุดก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
ซึ่งก็คือ….
การผายปอด!
ถึงอย่างไรจางซิ่วเอ๋อก็ยังเป็นผู้มีมโนธรรมทั้งห้าอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะทนเห็นใครค่อย ๆ หมดลมไปต่อหน้าต่อตาได้
และนางเองก็เป็นคนที่ตายมาแล้วรอบหนึ่ง เมื่อเผชิญกับเนี่ยหย่วนเฉียวที่อยู่ในอาการปางตายแบบนี้แล้วนางก็ไม่นึกกลัวแต่อย่างใด
ต่อให้ครั้งนี้จะช่วยเนี่ยหย่วนเฉียวไม่ได้ จางซิ่วเอ๋อก็คิดว่านางมีสติมากพอ
ดังนั้นจางซิ่วเอ๋อจึงสูดหายใจลึกและประกบริมฝีปากเข้ากับปากของอีกฝ่าย
ริมฝีปากของเนี่ยหย่วนเฉียวเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง ต่างกับริมฝีปากอุ่นของจางซิ่วเอ๋ออย่างสุดขั้ว
แต่จางซิ่วเอ๋อก็ไม่ได้สนใจความรู้สึกเหล่านี้แต่อย่างใด ในใจของนางมีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือนางต้องทำให้เนี่ยหย่วนเฉียวกลับมาหายใจเป็นปกติดังเดิมให้ได้
สำหรับเรื่องต้องรักนวลสงวนตัวของคนโบราณนั้น จางซิ่วเอ๋อลืมไปเกือบหมดสิ้นแล้ว
นางจะไปสนใจเรื่องพรรค์นั้นได้อย่างไร? ต่อให้ตอนนี้นางเป็นคนยุคโบราณแล้วก็ตาม ถึงคนอื่นอาจจะสนใจ แต่ในใจของจางซิ่วเอ๋อนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยยิ่งกว่าชีวิตเสียอีก
ถ้าตอนนี้นางไม่รู้จักเนี่ยหย่วนเฉียว บางทีอาจไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ แต่ตอนนี้นางรู้จักเนี่ยหย่วนเฉียวนะ!
ไม่เพียงแต่นางจะรู้จักเนี่ยหย่วนเฉียว แต่ยังรู้สึกด้วยว่าพวกเขาทั้งสองต่างเข้ากันด้วยดี
ยิ่งกว่านั้นนางยังช่วยชีวิตเนี่ยหย่วนเฉียวมาถึงสองครั้ง ซึ่งไม่ด้อยไปกว่าครั้งนี้เลย ตอนนี้เมื่อคิดว่าต้องดูเนี่ยหย่วนเฉียวตายไปต่อหน้า ก็รู้สึกทนรับไม่ได้ขึ้นมา
จางซิ่วเอ๋อทำการเป่าปากเพียงสองครั้งเท่านั้น
ทันใดนั้นเองเนี่ยหย่วนเฉียวก็ลืมตาขึ้น จางซิ่วเอ๋อมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้าง ขณะกำลังเป่าอากาศเข้าไปในปากของเนี่ยหย่วนเฉียว!
เนี่ยหย่วนเฉียวพลันลืมตาโพลงอย่างไร้สัญญาณบอกกล่าวล่วงหน้า ทำให้จางซิ่วเอ๋อตกใจ จนลืมไปว่าต้องมีปฏิกิริยาอย่างไร
เนี่ยหย่วนเฉียวเองก็ดูเหมือนจะตกตะลึงไปกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
หลังจากที่จางซิ่วเอ๋อได้สติกลับคืนมาอย่างฉับพลันแล้ว นางก็รีบผละใบหน้าออกไปพร้อมกับมองเนี่ยหย่วนเฉียวอย่างประหลาดใจ “เจ้าฟื้นแล้วเหรอ? เป็นอะไรหรือไม่?”
เนี่ยหย่วนเฉียวมองจางซิ่วเอ๋อด้วยดวงตาซับซ้อน เห็นชัดว่ามีบางสิ่งที่เขายังไม่อยากจะทำความเข้าใจในตอนนี้
จางซิ่วเอ๋อพลันหน้าแดง นางไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องผิดแปลกอะไรสักนิด แต่พอเนี่ยหย่วนเฉียวมาเห็นเข้า นางก็กลับรู้สึกว่าตนเพิ่งกระทำเรื่องหน้าไม่อายลงไป
นางปลอบใจกับตัวเอง บอกว่านางเพิ่งทำการผายปอดช่วยชีวิตเนี่ยหย่วนเฉียวไปเท่านั้น
ในยุคปัจจุบันมีคนหลายคนทำแบบนี้กันเยอะแยะถมเถไป!
แต่สถานการณ์และสถานที่ในตอนนี้กับตอนนั้นมันไม่เหมือนกัน
นี่เป็นยุคโบราณที่ยังคงความอนุรักษ์นิยมอย่างเข้มข้น!
ยิ่งกว่านั้น เนี่ยหย่วนเฉียวคงไม่มีวันเข้าใจว่านางทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร
จางซิ่วเอ๋อคิดดังนั้นแล้วก็รู้สึกร้อนใจมากขึ้น ไม่ นางต้องอธิบายเรื่องนี้กับเนี่ยหย่วนเฉียวให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นแล้วเกิดเนี่ยหย่วนเฉียวคิดว่านางเป็นปีศาจยั่วสวาทขึ้นมาล่ะ?
เรื่องนี้ช่างน่าอายเหลือเกิน ถ้านางไม่อธิบายให้ชัดเจนล่ะก็ หากต้องเผชิญหน้ากับเนี่ยหย่วนเฉียวในอนาคต ตัวนางคงหดเล็กกว่าคนอื่นแน่!
จางซิ่วเอ๋อคิดว่าเรื่องนี้จบเห่แล้วและเตรียมตัวจะอธิบาย
เนี่ยหย่วนเฉียวกลับหลับตาลงเล็กน้อย สติของเขาเริ่มพร่าเลือนอีกครั้ง
“หนาว…” เนี่ยหย่วนเฉียวเอ่ยราวพูดพึมพำกับตัวเอง
จางซิ่วเอ๋อลังเลไปครู่หนึ่ง เมื่อสังเกตเห็นว่าลมหายใจของเนี่ยหย่วนเฉียวในคราวนี้ดูสม่ำเสมอก็รู้สึกโล่งใจ ครั้นดูสภาพของเนี่ยหย่วนเฉียวในตอนนี้แล้ว นางก็ลอบถอนหายใจอยู่ในใจ
เนี่ยหย่วนเฉียวพ้นขีดอันตรายถึงชีวิตแล้ว แต่พูดตามตรงก็คือเขาน่าจะยังไม่ฟื้นตัวดี
แม้เขาจะลืมตาขึ้นมา แต่สติสัมปชัญญะก็ยังไม่เต็มร้อย
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว…ก็แสดงว่าเนี่ยหย่วนเฉียวจะไม่มีทางจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้น! เป็นเช่นนั้นทำไมนางต้องหาทางอธิบายอีกล่ะ? การอธิบายในเรื่องนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนกับที่นี่ไม่มีเงินสามร้อยตำลึงอย่างไรอย่างนั้นแหละ!
ดังนั้นไม่อธิบายคงจะดีกว่า
ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อไม่คาดหวังแล้วว่าเนี่ยหย่วนเฉียวจะจดจำการช่วยชีวิตในครั้งนี้ได้หรือไม่ ครั้นเขาจดจำได้ครั้งหนึ่งเขาก็หาทางตอบแทนทุกวิธีทาง ซึ่งความตั้งใจของเขาทำให้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกอึดอัดใจ
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มันก็แค่ผายปอดเอง อย่าคิดมากค่ะ
/ว่าแต่ทำไมลูกเรือเฉียวเอ๋อหยิบไม้พายกันแล้วล่ะ?/
บทที่ 255 รอสักครู่นะคะ
ไหหม่า(海馬)