ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน [更名为《冲喜娘子的锦绣田园》] - บทที่ 296 โจร
บทที่ 296 โจร
“จริงสิ เจ้ารู้หรือยัง” อยู่ ๆ กู๋อวี่ก็พูดด้วยท่าทีมีความลับขึ้นมา และเจือความอยากได้คำชมในน้ำเสียงด้วย
จางซิ่วเอ๋อมึนงงไปชั่วขณะ นี่นางยังไม่ได้พูดอะไรเลย นางจะรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องอะไร?
จางซิ่วเอ๋อถามกู๋อวี่ “รู้เรื่องอะไรหรือ?”
“คนตระกูลเถาน่ะสิ ข้าได้ยินแต่เช้าเลยว่าเมื่อคืนตอนคนตระกูลเถาเดินทางกลับบ้านเจอโจรด้วย” กู๋อวี่พูดอย่างสมน้ำหน้า
ตอนนี้นางยังมองจางซิ่วเอ๋อดีอยู่ แต่มองคนตระกูลเถาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เวลานี้จึงอยากเข้าข้างจางซิ่วเอ๋อมากกว่า
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วก็อึ้งไป “เจอกับโจรรึ?”
“ก็ใช่น่ะสิ ได้ยินมาว่าโจรพวกนั้นสมองไม่ค่อยปกติด้วย คงจะเป็นพวกบ้า ๆ บอ ๆ กระมัง หลังจากพวกเขาชิงของไปแล้วยังบังคับให้บรรดาพี่น้องและผู้หญิงของตระกูลเถาตบกันเองด้วย…” กู๋อวี่พูดมาถึงนี่ก็มีสายตางุนงง
จางซิ่วเอ๋อฟังแล้วหัวเราะลั่น “สะใจจริง ๆ โจรพวกนั้นเป็นใครกัน?” ถ้านางรู้ว่าโจรเป็นใครต้องไปขอบคุณโจรเหล่านั้นอย่างงามเลยล่ะ
ช่วยจัดการคนเลวให้นางได้ดีจริง ๆ
“เรื่องนั้นข้าไม่รู้จริง ๆ ได้ยินว่าพวกคนตระกูลเถาก็ไม่เห็นหน้าของสองคนนั้น” กู๋อวี่พูดพลางมองจางซิ่วเอ๋ออย่างพิจารณา
นางรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลก ๆ แม้ว่าคนพวกนี้เป็นโจร แต่เรื่องมันจะบังเอิญไปหรือเปล่า? หรือว่ามีใครออกหน้าให้จางซิ่วเอ๋อกัน? พอคิดแบบนั้นกู๋อวี่ก็รำพึงในใจว่าหลังจากนี้ตัวเองห้ามล่วงเกินจางซิ่วเอ๋อเด็ดขาด
แต่พริบตาเดียวกู๋อวี่ก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
คนตระกูลเถาออกจากหมู่บ้านไปไม่นานก็โดนจัดการ
แต่ทุกคนเห็นกับตาว่าจางซิ่วเอ๋อกลับไปที่บ้านผีสิงแล้ว ต่อให้จางซิ่วเอ๋อตามคนหลังจากกลับแล้วก็ไม่น่าจะทันจัดการพวกคนตระกูลเถานะ
“แค่สองคนเหรอ?” จางซิ่วเอ๋อถามอย่างสงสัย
นางนึกว่าเป็นคนกลุ่มหนึ่งเสียอีก คนตระกูลเถาตั้งมากตั้งมายกลับโดนโจรแค่สองคนจัดการ
“แค่สองคนนั้นแหละ หลังจากคนตระกูลเถาโดนปล้นพวกนั้นก็เจ็บใจกัน จึงไปหาทางการที่แคว้น…แต่พวกเขาไม่เห็นหน้าโจร และบอกว่าเป็นการกระทำของคนเพียงสองคน ทางการไม่เชื่อเลยสักนิดจึงไล่พวกเขากลับ” กู๋อวี่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
ที่นางรู้ได้ก็เพราะเมื่อเช้านางเจอพ่อค้าหาบเร่ที่ขายของที่หมู่บ้านนั้นมา
จางซิ่วเอ๋อได้ยินแบบนี้ก็มีรอยยิ้มระบายอยู่เต็มหน้า “สมน้ำหน้า พวกเขาทำความชั่วไว้เยอะ สวรรค์ยังทนดูต่อไปไม่ไหวเลย”
กู๋อวี่กล่าวต่อ “ได้ข่าวว่าแม่เฒ่าเถามือหักไปข้างหนึ่งเลยล่ะ ข้าว่าต่อให้มือนางหายเป็นปกติ วันหน้าเวลาทะเลาะกับใครก็คงไม่กระฉับกระเฉงขนาดนั้นแล้ว”
รอยยิ้มบนใบหน้าของจางซิ่วเอ๋อกว้างขึ้นเรื่อย ๆ นางไม่ปกปิดความดีใจของตัวเองเลยสักนิด ถ้ารู้ว่าคนตระกูลเถาตกอับแต่นางยังแสดงท่าทีเหมือนเศร้าใจสิจะผิดปกติในสายตาคนอื่น
ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีอะไรต้องปิดบัง
จางซิ่วเอ๋อคุยกับกู๋อวี่อีกพักใหญ่ด้วยรอยยิ้ม แล้วถึงกลับไปยังบ้านผีสิง
มาพูดถึงตระกูลเถาในตอนนี้
ตอนนี้ตระกูลเถาบรรยากาศมัวหมองสุด ๆ
เถาซานเหนียงร้องไห้โวยวายกับแม่เฒ่าเถา “ท่านแม่ ทำไมแม่ยังไม่ไปแลกกำไลข้าคืนมาอีก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปข้าไม่กล้ากลับบ้านสามีแล้วนะ!”
แม่เฒ่าเถาโวยวายอย่างหงุดหงิด “เจ้าไม่เห็นเหรอว่าสภาพข้าเป็นแบบนี้น่ะ เรื่องของเจ้าไว้ค่อยว่ากันทีหลัง”
“งั้นแม่เอาเงินมา ข้าจะไปแลกเอง” เถาซานเหนียงกัดฟันพูด
แม่เฒ่าเถาเลิกคิ้ว “เจ้าบอกว่าซื่อเหนียงแอบเก็บเงินไว้เองจำนวนหนึ่ง ข้าว่าไม่แน่เจ้าก็คงมีเหมือนกันแหละ เจ้านำเงินที่เจ้าเก็บไว้เองไปแลกก่อนเถอะ”
เถาซานเหนียงได้ยินแบบนั้นแล้วหัวใจเย็นวาบ เอ่ยขึ้นเสียงแหลม “ท่านแม่! ท่านพูดแบบนี้ได้อย่างไร ไม่ต้องพูดเรื่องที่ข้าไม่เคยเก็บเงินไว้เอง ต่อให้ข้ามีก็ไม่สมควรต้องเป็นข้าที่เอาเงินไปแลก!”
ตอนนี้แม่เฒ่าเถายังบาดเจ็บอยู่ จึงไม่มีความอดทนคุยกับเถาซานเหนียงเท่าไหร่ “นั่นก็เพราะเจ้าขี้อวด ไปมีเรื่องยังจะใส่กำไลไปอีก”
เถาซานเหนียงเดือด “แม่หมายความว่าอย่างไร ท่านจะไม่สนเรื่องนี้แล้วเหรอ? แม่ไม่กลัวว่าคนบ้านสามีข้าจะมาหาเรื่องรึ?”
เถาเอ้อเหนียงที่หน้าฟกช้ำพูดอย่างโมโห “จะมาหาเรื่องก็มา สภาพพวกเราเป็นอย่างนี้แล้วมีอะไรต้องกลัวอีก”
เถาซานเหนียงโกรธจนตาแดง นางไม่ได้ทำอะไรเลยเหตุใดต้องเจอเรื่องราวแย่ ๆ เช่นนี้ด้วย
เถาซานเหนียงพูดต่อ “ข้าไม่สน เงินนี้พวกเจ้าต้องเป็นคนออก”
“เรื่องอะไร ที่ไปมีเรื่องครั้งนี้ทุกคนมีส่วนหมด ทำไมเจ้าถึงออกไม่ได้?” เสียงแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
คนผู้นี้คือแม่เฉิน เมียของเถาต้า
ตอนนี้แม่เฉินก็ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก แม่เฒ่าเถาเอาเงินออกไปตั้ง 20 กว่าตำลึงโดยไม่บอกอะไร ต่อให้เอาไปให้เถาซื่อเหนียงยืมก็ต้องบอกลูกสะใภ้อย่างพวกนางหน่อยสิ
อีกอย่าง เรื่องอะไรต้องโปะรูให้เถาซื่อเหนียงด้วย
เวลานี้แม่เฉินรู้สึกว่าจะหวังให้เถาซื่อเหนียงคืนเงินนั้นเป็นไปได้ยาก จึงต้องหาทางลดความเสียหายลงให้น้อยที่สุด
นางไม่ยอมให้เอาเงินออกไปอีก 3 ตำลึงหรอก
ตำลึงเงินที่บ้านตอนนี้เหลือแค่นิดเดียวแล้ว
เงินเหมือนจะเยอะ แต่ก็มาจากการอดออมของทั้งบ้านที่กินน้อยดื่มน้อย
หายไปหมดเลยทีเดียว มีหรือที่แม่เฉินจะไม่โกรธ
เถาซานเหนียงไม่ยอม “คนที่ลงไม้ลงมือไม่ใช่ข้าเสียหน่อย เรื่องอะไรข้าต้องออกเงินนี้ด้วย”
ตระกูลเถาที่โชคร้ายอยู่แล้วเกิดศึกขึ้นอีกครั้ง แม่เฉินและเถาซานเหนียงตีกันจนวุ่นวาย
ในขณะเดียวกัน จางซิ่วเอ๋อถึงบ้านแล้ว
นางยืนอยู่หน้าประตูบ้านและทบทวนคำพูดกู๋อวี่โดยละเอียดอีกครั้ง อย่างไรนางก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มีพิรุธ นางเพิ่งจะได้รับความอยุติธรรมจากคนตระกูลเถามา เหตุใดคนตระกูลเถาก็เจอเคราะห์ร้ายเลยล่ะ
ทำไมถึงมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้นะ
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา คงไม่ใช่อยู่ ๆ สวรรค์ก็มีตาหรอก เหมือนมีคนตั้งใจไปล้างแค้นให้นางมากกว่า
แต่คน ๆ นั้นคือใครกัน?
แค่สองคนก็กำราบคนตระกูลเถาได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่
จางซิ่วเอ๋อรู้จักคนไม่เยอะ คนที่เก่งกล้าสามารถขนาดนี้ยิ่งน้อย
ต่อให้จางซิ่วเอ๋อไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ แต่ชื่อของคนคนนั้นก็โผล่เข้ามาในใจของจางซิ่วเอ๋อ
หนิงอัน
ใช่แล้ว! เรื่องนี้เป็นไปได้สูงว่าหนิงอันเป็นคนทำ
เมื่อวานตอนนางมีเรื่องหนิงอันไม่อยู่ แต่รู้ว่านางบาดเจ็บ มิหนำซ้ำเมื่อคืนยังกลับมาดึกมากด้วย
จางซิ่วเอ๋อยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้
เพียงแต่ทำไมหนิงอันต้องออกหน้าให้นางด้วย ถ้าจะบอกว่าตอบแทนบุญคุณที่นางช่วยชีวิตไว้ จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าฝืนเกินไป
หรือหนิงอันเกิดมาเป็นคนดีที่โลกรอ ทุกครั้งที่เห็นตัวเองเจอปัญหาก็อดช่วยไม่ได้
จางซิ่วเอ๋อคลึงขมับ พึมพำด้วยเสียงหลากความรู้สึก “หนิงอัน”
นางบ่นกับตัวเอง ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมหนิงอันต้องทำแบบนี้ด้วย
“ข้าอยู่นี่” เสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูจางซิ่วเอ๋อ
จางซิ่วเอ๋อเงยหน้าก็เห็นหนิงอันในชุดสีเทายืนอยู่ข้างนาง