ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก Yaoi - ตอนที่ 78 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (1) / ตอนที่ 79 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (2)
- Home
- ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก Yaoi
- ตอนที่ 78 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (1) / ตอนที่ 79 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (2)
[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก – ตอนที่ 78 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (1) / ตอนที่ 79 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (2)
ตอนที่ 78 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (1)
ตันหวายรู้สึกว่าเวลาสามวันช่างผ่านไปไวเหมือนโกหก พวกเขาหยัดยืนอยู่ท่ามกลางกระแสธารแห่งกาลเวลา ทุ่มเทอย่างสุดกำลังเพื่อมอบความอบอุ่นแก่กันและกันเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อถึงเวลาต้องจากกันจริงๆ ตันหวายกลับจิตใจสงบนิ่ง เขาซุกอยู่ในอ้อมกอดของเริ่นตงหลิวเงียบๆ ราวกับกำลังทำพิธีลึกลับบางอย่าง
ในโลกถัดไป พวกเขาอาจจะได้พบกันอีก
“เริ่นตงหลิว ลาก่อน” ตันหวายจรดจูบลงที่มุมปากของเริ่นตงหลิว
ชั่ววินาทีสุดท้ายที่รู้สึกตัว ตันหวายมองเห็นบางสิ่งที่เรียกว่าความหวาดกลัวฉายวาบขึ้นในดวงตาของเริ่นตงหลิว
___________
ยามตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ตันหวายรู้สึกว่ามีตรงไหนสักแห่งผิดปกติ ทำไมรู้สึกว่าบนหัวคันยุบยิบจังนะ?
(ท่านเจ้าของร่าง ไม่ทราบว่าท่านตื่นแล้วหรือยัง?)
ตันหวายมองสำรวจศาลเจ้าร้างที่ตนอาศัยอยู่จนทั่วรอบหนึ่ง เอื้อมมือไปลูบใบหูเรียวยาวบนยอดศีรษะกับหางสั้นป้อมขนปุกปุยด้านหลังบั้นท้ายตน ก่อนจะยืนแข็งทื่อไม่ไหวติงเป็นเวลาสิบนาทีเต็ม
(ท่านเจ้าของร่าง? ท่านเจ้าของร่าง! ท่าน…)
“ไม่ต้องมาท่านเทิ่นแล้ว!” ตันหวายอกจะแตกตาย “ตอนนี้ผมอยากรู้แค่ว่าผมกลายเป็นตัวอะไร”
(ท่านเจ้าของร่าง ท่านดูเอาจากความทรงจำเจ้าของร่างเดิมก็ได้) ระบบแจ้งเตือนอย่างระมัดระวัง
ตันหวายนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จริงด้วยแฮะ เขาดูจากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมก็ได้ เขาคงจะเกิดอาการช็อคที่จู่ๆ ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน ไม่ใช่เพราะโง่หรอก ไม่ใช่เพราะโง่แน่ๆ
บานหน้าต่างภายในศาลเจ้าร้างเล็กๆ แห่งนี้ล้วนผุพัง ลมหนาวที่พัดโกรกเข้ามาจากข้างนอกโถมปะทะร่างที่ไร้อาภรณ์ปิดบังของตันหวายอย่างจัง
ตันหวายฉีกชายเสื้อที่ถูกเผาจนไหม้เกรียมอย่างรังเกียจ แล้วจึงไปหามุมนั่งดูความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม
เจ้าของร่างเดิมไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นกระต่ายหิมะตัวหนึ่ง ถูกต้อง ไม่ใช่กระต่ายแมนจูเรียและไม่ใช่กระต่ายที่ราบสูง แต่เป็นกระต่ายหิมะขนขาวโพลนตลอดทั้งตัวที่ฝังลูกตาดำไว้สองข้าง
กระต่ายหิมะนอกจากช่วงระยะติดสัดมักจะแยกตัวโดดเดี่ยว เจ้าของร่างเดิมก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่ไม่พูดไม่ได้ว่า เจ้าของร่างเดิมเป็นกระต่ายที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่จริงๆ…
ถึงแม้เจ้าของร่างเดิมจะกลายร่างเป็นภูตมาหนึ่งร้อยปีแล้ว แต่เหตุผลที่โสดสนิทตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่ใช่อะไรอื่น เจ้าของร่างเดิมต้องการตามหาบัณฑิตคนนั้นที่ช่วยชีวิตมันเมื่อครั้งมันยังเป็นลูกเล็กมาโดยตลอด
โคตรน้ำเน่าใช่ป่ะล่ะ! ช่างน้ำเน่าอะไรอย่างนี้! เจ้าของร่างเดิมเป็นกระต่ายที่มุ่งมั่นหาทางตอบแทนบุญคุณทว่าเกรงผู้มีพระคุณจะต้องการให้ตนพลีกายถวายชีวิตจนไม่ยอมหาคู่เป็นตัวเป็นตนสักที!
ยิ่งกว่านั้น เจ้าของร่างเดิมเปี่ยมด้วยหัวใจที่อยากจะบำเพ็ญตนเป็นภูตไปตอบแทนบุญคุณ แต่ทำอย่างไรก็ยังเป็นกระต่ายโง่ไร้ปัญญาที่บำเพ็ญตนไม่สำเร็จ เพื่อให้กลายเป็นภูต เจ้าของร่างเดิมพยายามงัดสารพัดวิธีมาลองใช้ ภายหลังโชคเข้าข้าง จับพลัดจับผลูกลืนโอสถปีศาจของปีศาจเฒ่าอายุครึ่งพันปีจนได้กลายเป็นภูต
กระต่ายโง่เจ้าของร่างเดิมตัวนี้โง่งมถึงขั้นไหนกัน? โง่จนกระทั่งพอเห็นยาใน[1]ครึ่งเม็ดระหว่างทางก็ดีอกดีใจเกินเหตุจนกลืนลงไปทั้งคำ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นยาในฤทธิ์ร้ายแรงพรรค์ไหนกันแน่!
ยาในถือเป็นของดี หลังจากเจ้าของร่างเดิมกลืนลงท้องก็กลายร่างเป็นมนุษย์ทันที น่าเสียดายที่ร่างมนุษย์บำเพ็ญเพียรสำเร็จแล้ว เจ้าของร่างเดิมกลับไม่อาจหลอมยาในมาใช้ได้เลย พลังอาคมจึงเบาบางอย่างยิ่ง
ภายหลังจึงค่อยรู้ ยาในภายในร่างกายเจ้าของร่างเดิมคือยาในของปีศาจจิ้งจอก
เป็นอย่างไรล่ะ? น้ำเน่าหรือเปล่าล่ะ? ปีศาจจิ้งจอก! เจ้าของร่างเดิมกินยาในจากศัตรูคู่แค้นของตัวเอง!
แม้ว่ากระต่ายหิมะจะขี้ขลาด หากแต่อุปนิสัยหยิ่งทะนง เพื่อนร่วมฝูงต่างคิดว่าเจ้าของร่างเดิมฉวยโอกาสเอาเปรียบจึงไม่ยอมรับเขา กระต่ายตัวอื่นได้กลิ่นสุนัขจิ้งจอกบนกายเขาก็พากันวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน
ขอเพียงเป็นปีศาจ เมื่อผ่านไปทุกหนึ่งร้อยปีล้วนต้องรับทัณฑ์สวรรค์หนึ่งหน ระดับการบำเพ็ญเพียรยิ่งสูงส่ง อัสนีสวรรค์ก็ยิ่งแรงกล้า ใครจะรู้ว่าเพราะมียาในภายในร่างกาย อัสนีสวรรค์จึงถือเอาว่าเจ้าของร่างเดิมเป็นจอมมารผู้บำเพ็ญเพียรนับพันปี พริบตาเดียวเจ้าของร่างเดิมก็ถูกฟ้าผ่าจนสิ้นใจตาย
ถูกต้อง เจ้าของร่างเดิมถูกฟ้าผ่าตาย ถูกอัสนีสวรรค์ฟาดจนขาดใจตาย เขาเป็นปีศาจน้อยเพียงตนเดียวที่ไม่เคยทำกรรมชั่ว ทว่าถูกทัณฑ์อัสนีฟาดผ่าตายในรอบหนึ่งร้อยปีแรก คาดว่าน่าจะจารึกลงในทะเบียนมารได้แล้ว
ตันหวายดูความทรงจำจนจบ รู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เจ้าของร่างเดิมผู้นี้ช่าง…ดวงซวยเกินไปหน่อยไหม?
(อ่ะแฮ่ม ท่านเจ้าของร่าง ปณิธานของปีศาจน้อยตนนี้คือตามหาผู้มีบุญคุณช่วยชีวิต และตอบแทนบุญคุณ จากนั้นก็กลายเป็นจ่าฝูงของเผ่าพันธุ์กระต่ายหิมะทั้งมวล!)
ตันหวายยิ้มเยาะ “ผมฝากไปบอกเจ้าของร่างเดิมสักอย่างได้หรือเปล่า? บอกว่าคนเรามีความฝันน่ะเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องอยู่กับความเป็นจริงด้วย”
ไม่ใช่ว่าเขาดูถูกเจ้าของร่างเดิม แต่เจ้าของร่างเดิมไม่ใช่คนประเภทที่จะเป็นจ่าฝูงได้จริงๆ
(ท่านเจ้าของร่าง วิญญาณเจ้าของร่างเดิมเข้าสู่วัฏสังสารแล้ว)
ตันหวาย ‘ฉันรู้แล้ว ไม่ต้องมาย้ำ ขอบใจ ฉันแค่พูดเล่นเฉยๆ โว้ย’
——
[1] ยาใน (内丹) คือยาวิเศษที่ใช้พลังชีวิตของตนหลอมออกมา
ตอนที่ 79 จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์กับกระต่ายน้อยน่ารัก (2)
ศาลเจ้าร้างตั้งเดียวดายอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง ดูจากความเก่าแก่ทรุดโทรมของศาลเจ้านี้แล้ว น่าจะถูกทิ้งร้างไว้ไม่ต่ำกว่าสิบปี
หลังจากตันหวายฉีกผ้าเหลืองที่เปรอะเปื้อนขี้เถ้าเต็มไปหมดบนรูปสลักหินออกมาทำเป็นเสื้อคลุมยาวที่พอจะปกปิดร่างกายได้ ก็มองทะลุออกไปนอกบานหน้าต่างอีกครั้ง พบว่าที่นี่เป็นหุบเขารกร้างของแท้ บริเวณโดยรอบไม่มีแม้กระทั่งสีเขียว
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สักการบูชาภายในศาลเจ้าคือเทพจิ้งจอก รูปสลักหินขนาดมหึมาปกคลุมด้วยใยแมงมุม ทำให้เกิดความรู้สึกวังเวงใจเป็นอย่างยิ่ง
ตันหวายที่เกิดเป็นคนมาตั้งหลายปี จู่ๆ โผล่มาอยู่ในสถานที่แบบนี้ก็รู้สึกอกสั่นขวัญผวาอยู่นิดหน่อยจริงๆ
อยากรีบเผ่นออกจากที่นี่แล้ว มองดูก็รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ควรอ้อยอิ่งอยู่นาน
นั่งลงขัดสมาธิ ตันหวายข้องใจกับภารกิจนี้เล็กน้อย “คุณว่า คนที่มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนอย่างผม จะพลีกายถวายชีวิตตอบแทนบุญคุณเขาอีกได้อย่างไร?”
คนที่ต้องตอบแทนบุญคุณเป็นภรรยาตนยังพอว่า ถ้าไม่ใช่ภรรยาตนเขาก็ฝืนใจทำไม่ลงจริงๆ
ระบบทำเสียงจุปาก ไม่ได้โต้แย้งจุดยืนอันผิดพลาดในประเด็น ‘ภรรยา’ ที่ตันหวายกล่าวถึง แต่กลับเอ่ยขึ้นว่า (ปีศาจน้อยตนนี้อ่านนิยายเยอะเกินไปหน่อย คิดว่าการตอบแทนบุญคุณต้องพลีกายถวายชีพเท่านั้น การตอบแทนบุญคุณไม่จำเป็นต้องพลีกายถวายชีพ เขาจะเบี่ยงเบนหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ)
ตันหวายครุ่นคิดดูว่าก็จริงอยู่ เดินทีละก้าวอย่างรอบคอบจะดีกว่า แต่ตอนนี้เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะก้าวต่อไปทางไหน
“ผมรู้สึกว่าเจ้าของร่างเดิมออกจะทึ่มไปหน่อยจริงๆ แม้แต่คนคนนั้นอยู่ที่ไหนก็ยังไม่รู้ แล้วนี่จะตามหาอย่างไร?”
(ท่านเจ้าของร่างต้องการเปิดใช้งานฟังก์ชั่นตรวจสอบข้อมูลหรือไม่?)
ตันหวาย “…”
จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม ค่าประสบการณ์ของเขาเยอะมากมั้ง มาถึงก็ให้เขาตรวจสอบข้อมูลเลย!
“ไม่ตรวจสอบข้อมูลได้หรือเปล่า?” ตันหวายตั้งใจจะปรึกษาระบบสักหน่อย มัวแต่ตรวจสอบข้อมูลอย่างนี้ แล้วเมื่อไหร่จะได้เก็บครบหนึ่งพันแต้มล่ะ!
(ขณะนี้ยังสามารถลงจากภูเขา อาศัยสัญชาตญาณค้นหาทีละนิดทีละหน่อย กำหนดเวลาภารกิจครั้งนี้ไม่จำกัด จบลงเมื่อวายปราณเช่นเคย)
จบลงเมื่อวายปราณหาส้นเท้าเอ็งเถอะ!
ตันหวายตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ตรวจสอบข้อมูล!”
(หักค่าประสบการณ์จำนวนห้าสิบแต้มแล้ว คงเหลือประสบการณ์หนึ่งร้อยแปดสิบแต้ม ท่านเจ้าของร่างโปรดใช้งานอย่างคุ้มค่า)
ตันหวาย “??? ไม่ใช่ว่าคุณให้ผมตรวจสอบข้อมูลหรอกเหรอ?”
(อ่ะแฮ่ม จากการตรวจสอบระบบ บุคคลที่ท่านต้องการตามหาอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากเป็นเควสท์คอมโบ[1] เราจะแจ้งเตือนตำแหน่งของเขาตามการเปลี่ยนแปลงทิศทางในภายหลัง)
“คุณว่าไงนะ? คุณตรวจสอบข้อมูลมั่วซั่วอะไรมาให้เนี่ย?” ตันหวายร้อนรนขึ้นมาทันใด นายนึกว่านายเป็นแผนที่ออนไลน์หรือไง?
(ท่านเจ้าของร่างโปรดเริ่มค้นหาตามผลลัพธ์ที่ตรวจสอบได้โดยเร็วที่สุด หากเกิดปัญหา ทางระบบจะไม่รับผิดชอบ)
ไม่รับผิดชอบเชี่ยไรของเอ็ง! ทำไมเอ็งไม่ขึ้นสวรรค์ไปซะเลย เอ็งไม่รับผิดชอบแล้วจะเอาเอ็งไว้ทำง้าวอะไร!
ไม่ว่าจะก่นด่าในใจอย่างไร ตันหวายก็ยังเดินออกจากศาลเจ้าด้วยความระทมขมขื่น ใครจะรู้ว่าออกจากศาลเจ้ามาแล้วก็ยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก ที่นี่รกร้างว่างเปล่า เขาไม่คุ้นเคยที่ทางแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ทิศไหน!
(สหาย~แนะนำให้ท่านสังเกตพระอาทิตย์ดูสิ~)
ช่างบังเอิญดีแท้ วันนี้เป็นวันฟ้าปิด
ตันหวาย “…”
ระบบ (…ดูพระจันทร์เอาก็ได้)
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เดินหลงทาง ตันหวายจึงกลับเข้าไปในศาลเจ้าอย่างเงียบๆ เฝ้ารอให้พระจันทร์ลอยขึ้นมาตอนค่ำ
ม่านราตรีมาเยือน ตันหวายแหงนหน้ามองพระจันทร์ ทันใดนั้นก็พบว่าวันนี้ไม่มีพระจันทร์
จริงสิ ท้องฟ้ามืดครึ้ม มองไม่เห็นแม้กระทั่งพระอาทิตย์ แล้วจะมองเห็นพระจันทร์ได้อย่างไร?
“นี่ระบบ” ตันหวายกล่าว “พวกคุณเข้าทำงานไม่ต้องทดสอบไอคิวเหรอ?”
(เจ้าของร่างไม่เห็นต้องทดสอบ ทำไมพวกเราต้องทดสอบด้วย?)
โอ้โห นายพูดมีเหตุผลอยู่นะเนี่ย~ ตันหวายกลอกตาอย่างคาดคิดไม่ถึง
ในที่สุดตันหวายก็หาเจอว่าทิศตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ทางไหน เพราะว่าวันถัดมาพระอาทิตย์ก็โผล่พ้นให้เห็นแล้ว เขาจึงเดินลงเขาตั้งแต่ตอนเช้าตรู่
ท้องส่งเสียงประท้วงดังโครกคราก ตันหวายคิดว่าเจ้าของร่างเดิมเป็นปีศาจที่ค่อนข้างอดอยาก ในฐานะปีศาจตนหนึ่ง เขากลับยังปล่อยให้ตัวเองท้องกิ่วอย่างนี้ มันชักจะไร้น้ำยาเกินไปแล้ว
ภายในภูเขาร้างลูกนี้ไม่ไม่มีหญ้าขึ้นสักต้น กระต่ายอย่างเขาแม้แต่กิ่งไม้ก็ยังไม่ได้แทะกิน ช่างน่าเจ็บปวด
“โอ้ เจ้าปีศาจน้อยชั้นต่ำจากที่ไหนกัน เอาอาหารมาส่งให้ข้างั้นรึ?”
——
[1] เควสท์คอมโบ หมายถึง ภารกิจเสริมที่ทำแล้วจะได้รับสกิลโจมตีอย่างต่อเนื่อง