ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 538
บทที่538 คำทำนายเกิดขึ้นอีกครั้ง
อยู่ในกลางหุบเขาที่มีต้นไม้ขึ้นอย่างหนักแน่น
ในกลางหุบเขาปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของพิษนาๆชนิด เป็นป่ารกชื่นที่มืดมนมาก ช่างหวาดผวายิ่งนัก
ฉินหลานโดดเดี่ยวเพียงลำพังอยู่ในหุบเขา เธอรู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน
เพราะที่นี่เหมือนจะไม่มีคนเลย
แต่ว่า เธอเดินทะลุผ่านกลางหุบเขาจุดหนึ่งไปเห็นท้องฟ้าที่สดใสและอากาศที่บริสุทธิ์ปลอดโปร่ง
ตรงหน้ามีลำธารสายหนึ่ง สามารถได้ยินเสียงสายน้ำไหลรินอย่างชัดเจน
และข้างๆลำธารมีหญิงสาวสวมชุดขาวยืนอยู่ตรงนั้น
ในสิ่งแวดล้อมที่เปล่าเปลี่ยวไร้ซึ่งผู้คน เมื่อเห็นสาวชุดขาวผมยาวสยาย เป็นใครก็คงรู้สึกกลัวเป็นเรื่องธรรดม
“คุณ……คุณคือใคร?”
ฉินหลานเห็นเธอหันหลังยืนให้ตน จึงถามด้วยเสียงเบา
“ช่วยฉันด้วย มีเพียงคุณที่จะสามารถพาเขามาช่วยฉันได้!”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นอย่างโศกเศร้า
“ใครช่วยคุณได้นะ?”
“ช่วยฉันด้วย มีเพียงคุณที่จะสามารถพาเขามาช่วยฉันได้!”
หญิงสาวพูดด้วยเสียงสะอื้นอีกครั้ง
จากนั้นฉินหลานก็เห็นเธอค่อยๆหันหน้ามามอง
ฉินหลานจ้องมองตาค้าง
แต่กลับเห็นดวงตาทั้งคู่มีเลือดไหลรินและมีใบหน้าที่ซีดขาว
“หา!”
ฉินหลานตกใจจนกรีดร้องเสียงดัง
“เป็นอะไรเหรอพี่หลาน?”
ข้างหูเป็นเสียงเฉินเกอส่งมาอย่างเป็นห่วง
ทำให้ฉินหลานค่อยๆได้สติตื่นขึ้นมา
ฉินหลานรีบเข้ากอดเฉินเกอ หัวใจเต้นเร็วมากๆ
“ฝันร้ายเหรอ?”
เฉินเกอถาม
“อืม เป็นฝันที่น่าสะพรึงกลัวมาก ฉันฝันเห็นฉันวิ่งเข้าไปในหุบเขาลี้ลับที่มืดมนแห่งหนึ่ง ที่นั่นไม่มีคนเลย แต่สุดท้าย กลับเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีเลือดเต็มหน้า เธอบอกว่าให้ไปช่วยเธอด้วย!”
ฉินหลานรีบเล่าเรื่องราวในฝันร้าย
“อาจเป็นเพราะช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย คุณคงเหนื่อยมากพี่หลาน อีกนานกว่าจะสว่าง คุณพักผ่อนต่ออีกสักพักนะ มีผมอยู่ด้วย ไม่มีอะไรหรอก!”
เฉินเกอพูดพลางส่ายหัว
“ฉันนอนไม่หลับ ตั้งแต่ที่เห็นรูปภาพหวูหมิงฉันก็รู้สึกไม่สบายใจเลย รู้สึกว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้น ยังมีอีกเสี่ยวเกอ ตอนนี้ฉันยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าแผ่นหลังของหญิงสาวเหมือนคนคนหนึ่ง!”
“เหมือนคน?”
“ใช่ ฉันเคยบอกกับคุณแล้วว่า ฉันเห็นในรูปภาพหวูหมิงมีรูปปั้นหินหญิงสาว ร่างเธอถูกคนตีจนหัก และรูปปั้นหินนั้นเหมือนหญิงชุดขาวในฝันมาก เหมือนมากเลย!”
ฉินหลานตกใจจนหน้าแดง
“ไม่เป็นไรแล้ว มันปกติ คุณอาจจะถูกรูปภาพหวูหมิงทำให้เสียขวัญ พักผ่อนอีกสักครู่เถอะ!”
เฉินเกอปลอบประโลม จากนั้นประคองตัวฉินหลานไปนอนบนเตียง
และเฉินเกอก็ไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ
พอฟ้าสว่าง ทั้งสองต่างลุกขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวัน
“คุณชาย ท่านปู่สั่งมาว่าเช้าวันนี้ คนทั้งตระกูลล้างหน้าทำความสะอาดเสร็จก็ไปดูภาพสุริยันอีกครั้งหนึ่ง คุณนายน้อยก็ต้องไปด้วยครับ!”
บัดนี้ มีคนรับใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาพูด
“ผมรู้แล้ว!”
เฉินเกอพยักหน้า
คุณปู่เห็นความสำคัญของภาพสุริยันมาก ตั้งแต่เมื่อวานเป็นต้นมา คุณปู่ให้คนทั้งตระกูลไปศึกษาดูภาพนั้น
เพราะความสามารถของคนคนหนึ่งนั้นมีจำกัด และคนมากมายทั้งตระกูลมารวมตัวกันศึกษาก็คงได้รับความคิดเห็นที่ลึกล้ำมากมาย
เฉินเกอเข้าใจดี คุณปู่เป็นกังวลเรื่องคำสาปแช่งของภาพสุริยันที่ทำนายไว้ว่า ตระกูลเฉินต้องดับสูญ
ดังนั้นจึงได้เตรียมตัวรับมืออยู่ตลอดเวลา
ในเวลาเช้าที่สดใส คนทั้งตระกูลเฉินได้รวมตัวกันอยู่ในห้องลับขนาดใหญ่
เฉินเกอก็ตามพี่หลานเข้าไปด้วย
ห้องลับเงียบสงบเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งเด็กวัยสามขวบก็ศึกษาทำความเข้าใจอย่างสงบ
พวกคุณปู่ตั้งใจศึกษาตั้งนานแล้ว
เฉินเกอดึงตัวพี่หลานไปนั่งข้างๆ
“พี่หลาน อันนี่คือภาพสุริยันเป็นมรดกตกทอดประจำตระกูลเฉิน ในเมื่อคุณปู่ให้คุณมาศึกษาดู ถ้างั้นคุณก็ลองดูๆนะ!”
เฉินเกอกระซิบ
“อืม!”
ฉินหลานพยักหน้าแรงๆ
พูดตามความจริงภาพสุริยันนั้นมีจุดรั่วมาก ดูอะไรไม่ออกเลย
แต่ฉินหลานไม่เป็นอย่างนั้น มีความคิดอยู่ในหัวมากมาย
เพราะเธอสังเกตเห็นว่าเสี่ยวเกอค่อยๆยอมรับตัวเธอแล้ว ซึ่งมันเป็นข่าวดีอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับเรื่องอื่น มันไม่มีความสำคัญต่อฉินหลาน
เแต่เห็นเฉินเกอเริ่มสังเกตดูอย่างตั้งใจ
ฉินหลานจึงค่อยๆขยับตัวเข้าไปใกล้เฉินเกอ เธอจึงเงยหน้าไปดูบ้าง
เมื่อเก็บความคิดฟุ้งซ่านไว้ ความกระตือรือร้นของคนก็จะรวบรวมได้สูงมาก
ฉินหลานก็เป็นเช่นนั้น
“หืม?”
บัดนี้ ฉินหลานขมวดคิ้วขึ้นมากะทันหัน
เธอนั่งตัวตรง แววตามีความหวาดผวาซุกซ่อนอยู่
“ไม่นะ!ไม่นะ!!!”
ทันใดนั้น ฉินหลานเอามือแตะศีรษะของตนแล้วตะโกนด้วยความบ้าบิ่น
ภาพที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทุกคนต้องสะดุ้งตกใจ
“พี่หลานคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
เฉินเกอกล่าว
“อะล๋าน หนูเป็นอะไรเหรอ?”
บัดนี้เฉินเตี๋ยนชางก็ลุกขึ้นยืน
เดินมาหาฉินหลาน
ฉินหลานชี้ภาพสุริยันด้วยความตื่นตระหนกตกใจ“หนูเห็น……หนูเห็น……”
เธอตกใจจนพูดไม่ออก
เฉินเตี๋ยนชางกับเฉินเกอ สบตากัน
ปู่หลานพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “คุณเห็นอะไร?”
ฉินหลานมองเฉินเกอ “ฉันเห็น……เสี่ยวเกอถูกคนฆ่าตาย!!!”
เธอพูดจนตกใจร้องไห้ออกมา
“ถูกคนฆ่า?เป็นยังไง อะล๋านหนูอย่าเพิ่งเป็นกังวลไป พูดสิ่งที่หนูเห็นให้หมดเลย!”
เฉินเตี๋ยนชางถาม
พูดตามความเป็นจริง ครั้งแรกที่เขาเห็นฉินหลานก็รู้สึกว่าหลานรักของตนดีมากเลย
แน่นอนว่าไม่ได้หมายถึงหน้าตาและราศีที่มีอยู่ในตัว
แต่เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง
แต่คิดไม่ถึงว่าหลานสะใภ้ของตนจะสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของภาพสุริยัน
ดังนั้น ฉินหลานจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ให้ฟัง
เมื่อกี้……
ตอนที่ฉินหลานดูภาพสุริยัน ภาพสุริยันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
ปรากฏสถานที่ที่ไม่คุ้นตาขึ้น
เป็นด้านในถ้ำที่มองเห็นท้องฟ้าได้
ด้านในถ้ำ มีแท่นหินสูงๆอันหนึ่ง
สายน้ำจากภูเขาไหลริน ส่งเสียงแปลกพิลึก
มีหญิงชุดขาวคนหนึ่งกำลังปีนคลานไปที่แท่นหินตรงหน้า
และบนแท่นหิน ถูกลากด้วยโซ่ขนาดใหญ่ห้าเส้นอย่างมั่นคง
มีหลายคนสวมหน้ากากที่ดุร้ายไว้ กำลังลากโซ่ทั้งห้าเส้นไปยังทิศทางต่างๆ
และคนถูกลากโซ่ผู้นี้ไม่ใช่คนอื่น แต่คือเฉินเกอ!
เมื่อเสี่ยวเกอถูกลากโซ่ จึงร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวด
ไม่นะ!
ฉินหลานคิดจะไปช่วยเฉินเกอสุดกำลัง
แต่พบว่าตัวเองขยับเขยื้อนไม่ได้
กึก กึก กึก!
จากเสียงที่น่าสะพรึงกลัว ร่างกายของเสี่ยวเกอก็ถูกลากดึงแตกเป็นชิ้นๆ เลือดสดๆได้พุ่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย!
ฉินหลานบรรยายเหตุการณ์
ก็ร้องไห้ฟูมฟายจนเสียงแหกแห้ง
“มันเป็นไปได้อย่างไร อะล๋านหนูแน่ใจนะว่าเป็นเสี่ยวเกอ?”
เฉินจิ้นตงพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ส่วนเฉินเกอก็มีสีหน้าเคร่งขรึม
แม้กระทั่งสีหน้าของเฉินเตี๋ยนชางก็แย่มาก
“ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หญิงชุดขาวคนนั้น เช้าตรู่วันนี้ฉันเพิ่งจะฝันถึง ตอนนี้ก็มาเห็นเธอคนนี้อีก ทำไมบังเอิญอย่างนี้!”
ฉินหลานสะบัดผมตัวเอง
“ภาพสุริยันไม่เคยหลอกคน!”
เฉินเตี๋ยนชางพูดอย่างกังวล
“นี่น่าจะเป็นคำทำนายที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า เสี่ยวเกอจะถูกคนอื่นดึงร่างแยกเป็นชิ้นๆจนตาย!!!และที่สำคัญ เสี่ยวเกอราวกับไม่มีพละกำลังต่อต้านเลย!”
เฉินเตี๋ยนชางกล่าว
“คุณพ่อ เป็นไปได้อย่างไร ท่านเคยพูดแล้วว่าเสี่ยวเกอบรรลุถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว คนปกติจะไม่สามารถทำร้ายเสี่ยวเกอได้ มันเป็นไปไม่ได้หรอก!”
หยางยู่ผิงกับเฉินเสี่ยวก็รู้สึกเกรงกลัว เพราะแม้กระทั่งเฉินเตี๋ยนชางยังรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย