ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 558
บทที่558 เฉินเกอมึนงง
“คนสวย ทำไมเหรอ ไม่มีเงินเหรอ”
ในเวลานี้เอง อันธพาลที่อยู่แถวนั้นก็เดินเข้ามา ยกมือขึ้น ตั้งใจจะจับคางของฉินหยา
ฉินหยารีบหลบ
อันธพาลกลุ่มนั้นรีบจับแขนของฉินหยาไว้ และเตรียมจะลวนลาม
แต่ฉินหยารีบดิ้นหนี อ้าปากกัดมือของพวกเขา
“อ๊าก” อันธพาลคนนั้นร้องออกมาอย่างเจ็บปวด บนนิ้วมือของเขามีห้อเลือด
พวกเขาไม่กล้าทำอะไรอีก ได้แต่มองฉินหยาอย่างตกตะลึง
เพราะแววตาของฉินหยาเต็มไปด้วยรังสีสังหาร
แต่ว่า เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้ฉินหยายิ่งทรมาน เธอหมดแรงทรุดลงไปนั่งบนพื้น แต่ก่อนจะหมดสติไป
“เจ้านาย สุดยอดเลย ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้โหดขนาดนี้ นิ้วของผมเกือบจะถูกกัดหลุดแล้วนะ”
ในขณะที่ฉินหยาไม่มีแรงจะลุกขึ้นยืน พวกอันธพาลก็หันไปร้องโอดโอยกับชายหนุ่มคนหนึ่ง
ชายหนุ่มคนนั้นยื่นการ์ดให้พวกเขาหนึ่งใบ “นี่เป็นค่ายา รหัสผ่านคือวันที่ของวันนี้”
“ขอบคุณครับเจ้านาย”อันธพาลกลุ่มนั้นดีใจ
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกว่าจ้างมา จงใจทำแบบนี้
ฉินหยาได้ยินเสียงคนพูดก็รีบเงยหน้าขึ้นมอง
ชายหนุ่มคนนั้นคือเฉินเกอนั่นเอง
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องไม่ทิ้งฉันแน่ๆ”ฉินหยาร้องไห้ออกมาทันที
ความจริงแล้ว ถึงแม้เฉินเกอจะเดินเร็วมาก แต่หลังจากสลัดฉินหยาได้แล้ว เขาก็ต้องเดินกลับมาอีกรอบ เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
แต่คิดไม่ถึงว่าฉินหยาจะเดินตามเขามาทั้งวัน
เดิมทีเฉินเกอคิดว่าเธอไม่เห็นเขาแล้วจะยอมแพ้ไป แต่เธอไม่ทำแบบนั้น เขาจึงหาคนมาขู่ให้เธอกลัว แต่ฉินหยากลับ…
เฮ้อ
จริงๆเลย เฉินเกอไม่ได้มีความหมายอื่น เขาไม่อยาดให้เรื่องราวมันยื้อไปเรื่อยๆ จึงอยาดทำให้ฉินหยาตายใจ และกลับไปใช้ชีวิตตามเดิมของเธอ
ตลอดเหตุการณ์ เฉินเกอยืนมองอยู่ด้านข้าง ในใจรู้สึกเป็นห่วง
แต่หลังจากที่ฉินหยาพูดจบ เธอก็หมดสติไปทันที
“ฉินหยา”
เฉินเกอรีบวิ่งไปหาอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะอุ้มฉินหยาขึ้นมา
“หืม”
แต่พออุ้มฉินหยาขึ้นมา เฉินเกอถึงรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“ทำไมคุณถึงได้ป่วยหนักถึงขนาดนี้”
เฉินเกอคิดว่าฉินกยาแค่เล่นละครหลอกเขา แต่พอจับชีพจรดู ถึงได้รู้ว่าฉินหยาป่วยหนักมาก…
เฉินเกอรีบอุ้มฉินหยาจากไปทันที
ตอนที่ฉินหยาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนอากาศ ข้างหูได้เสียงะึมพำ
เธอคิดว่าตัวเองตายไปแล้ว เพราะในเวลานั้น มันทรมานมาก
แต่ตอนนี้ ตัวเธอกลับเบาสบายมาก
เธอบนอยู่บนเก้าอี้ยาว มีเสื้อคลุมไว้บนตัวเธอ
ด้านข้างมีเฉินเกอนั่งอยู่
“เฉินเกอ ฉัน… นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”ฉินหยาพูดอย่างตื้นตันใจ
“ทำไมคุณถึงได้โง่ขนาดนี้ ป่วยหนักขนาดนี้ ถ้าไม่เจอเข้ากับผม คุณมีอันตรายถึงชีวิตเลยนะ”เฉินเกอย่นคิ้ว
“ในที่สุดคุณก็ยอมรับ ว่าคุณก็คือเฉินเกอ ทำไมต้องโกหกฉันด้วย คุณไม่อยากเจอหน้าฉันขนาดนั้นเลยเหรอคะ ฉันคิดไว้อยู่แล้ว ถ้าหาคุณไม่เจอ ฉันขอตายดีกว่า” ฉินหยาขิบตาแดง
เฉินเกอคนตรงหน้า รู้สึกจะสุขุมขึ้นกว่าเมื่อหนึ่งปีก่อนมาก เรื่องที่ฉินหยาอยากจะรู้มีเยอะขึ้นเรื่อยๆ
การที่ได้อยู่ข้างกายเฉินเกอ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
“เราจะไปไหนกันคะ” ฉินหยาถาม
“กลับตระกูลเฉิน ผมจะให้แพทย์เฉพาะทางรักษาให้คุณ”
พอเห็นฉินหยา เฉินเกอก็ไม่รู้จะเผชิญหน้ากับเธอยังไง นี่เป็นจุดที่เขาลังเลใจมาโดยตลอด
ถ้าจับอกว่าตอนนี้เขาไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอเลย คงจะเป็นเรื่องโกหก แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็หวังว่าเธอจะมีชีวิตที่ดี
“หนึ่งปีกว่ามานี้ คุณไปที่ไหนมาบ้างคะ” ฉินหยาถาม
“พูดแล้วเรื่องมันยาวครับ คุณพักผ่อนก่อนเถอะ แล้วผมจะเล่าให้ฟังทีหลัง”
“คุณเฉินครับ เข้าเกาะแล้วครับ แต่ว่า ตรงทางขึ้นเกาะดูเหมือนจะเกิดเรื่องครับ มีคนยืนมองเยอะมาก”
บอดี้การ์ดของตระกูลเฉินยืนรายงานอยู่ด้านข้าง
หลังจากที่เฉินเกอหาโลงศพอมตะเจอ สิ่งแรกทีาต้องทำคือเดินทางกลับตระกูลเฉิน เพราะยังมีข้อสงสัยหลายข้อที่คลี่คลายปริศนาไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงเรียกเฮลิคอปเตอร์มารับเขากลับ และแน่นอนว่าเขากังวลอาการของฉินหยาด้วย
“หืม”
พอได้ยินคำรายงาน เฉินเกอก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปดูสถานการณ์ข้างล่างทันที
และตรงทางเข้าเกาะ พวกคุณปู่ของเขายืนอยู่ที่นั่นด้วย
ไม่เหมือนกำลังมายืนต้อนรับเขา เพราะยังมีผู้หญิงอีกคนยืนอยู่ด้วย ดูเหมือนกำลังคุยอะไรกันอยู่
“ดูแลคุณฉินหยาให้ดี ฉันจะลงไปดูก่อน”เฉินเกอพูด
พอพูดจบ เขาก็เปิดประตูเฮลิคอปเตอร์แล้วกระโดดลงไปทันที
“เฉินเกอ”
“คุณชายเฉินครับ”
ฉินหยากับบอดี้การ์ดคนนั้นตกใจมาก
พระเจ้า นี่มันอยู่ห่างจากพื้นดินเกือบแปดร้อยเมตรเลยนะ
ทุกคนเหงื่อไหลอาบหน้า
แต่ทุกคนคงจะลืมไป เฉินเกอในตอนนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว
เฉินเกอกระโดดลงบนพื้นอย่างมั่นคง
“คุณ… คุณชายเฉินกลับมาแล้ว”
บอดี้การ์ดที่รักษาความปลอดภัยในคฤหาสน์ตระกูลเฉินพากันตกใจ ว่าทำไมคุณชายเฉินถึงได้ลงมาจากบนฟ้า
เฉินเตี๋ยนชางกับเฉินจิ้นตงที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ตกใจ
“เสี่ยวเกอ กลับมาแล้วเหรอ”
เฉินเตี๋ยนชางดีใจมาก แววตาของเขาเป็นประกาย
“ครับคุณปู่ ขอโทษที่ทำให้คุณปู่เป็นห่วงนะครับ”เฉินเกอเดินเข้าไปหา
“ฮ่าฮ่าฮ่า หมี่ฟ่าน มานี่เร็ว พ่อของลูกกลับมาแล้ว”
ในเวลานี้เอง มีผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กทารกเดินออกมาจากวงล้อม
พอเห็นเฉินเกอ เธอก็ก้มลงไปพูดกับเด็กทารกในอ้อมกอด
และเฉินเตี๋ยนชางกับเฉินจิ้นตงต่างก็มองหน้ากันไปมา สีหน้าลำบากใจ
“จ้าว… จ้าวยีฟาน”พอเฉินเกอเห็นผู้หญิงคนนั้นก็ถลึงตาโต
“คุณพ่อกลับมาแล้วอะไรกัน ทำไมเธอถึงได้อุ้มเด็กทารกไว้ล่ะ” เฉินเกอสูดหายใจเข้าลึก
ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ตัวเองถูกผู้หญิงคนนี้มอมยาสลบจนพลาดเวลานัดพบกับซูมู่หานไป เฉินเกอก็ไม่ได้ติดต่อหาผู้หญิงคนนี้อีกเลย
อีกทั้งเฉินเกอยังรู้สึกแค้นเธอมากด้วย
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหนึ่งปีครึ่งหลังจากนั้น เธอจะมาที่นี่
“นี่เป็นลูกสาวของเราสองคนไงคะ ตอนนี้เธออายุหกเดือนแล้ว ชื่อว่าหมี่ฟ่าน”
จ้าวยีฟานมีสีหน้าได้ใจมาก
“ลูก… ลูกสาวของเรา”เฉินเกอถลึงตาโต
“เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าคืนนั้นพวกเราไม่ได้…”
“ถ้าฉันไม่พูดแบบนั้น คุณจะปล่อยฉันไปเหรอ แล้วอีกอย่าง ถ้าฉันไม่ปิดบังคุณไว้ ลูกสาวของเราจะคลอดออกมาอย่างราบรื่นได้เหรอ ตามนิสัยของคุณ คุณไม่มีทางยอมให้ฉันคลอดเด็กคนนี้ออกมาแน่”
จ้าวยีฟานปล่อยผมยาว แต่งตัวเหมือนหญิงสาวไร้เดียงสา
“คุณ… คุณมันเลวมาก”
ในแววตาของเฉินเกอเคียดแค้นมาก
“คุณ… คุณด่าฉันว่าอะไรนะ ว่าฉันเลวอย่างนั้นเหรอ”
จ้าวยีฟานร้อนใจแล้วเหมือนกัน
เธอหันไปมองเฉินเสี่ยวที่ยืนตะลึงอยู่ด้านข้าง “พี่คะ พี่เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าเขาทำกับหนูยังไง”
เฉินเสี่ยวเกาท้ายทอย ก่อนจะหันหน้าหนี
“คุณแม่คะ คุณแม่ดูเขาสิ เขาทำกับพวก้ราสองแม่ลูกแบบนี้ได้ยังไงกัน”เธอหันไปพูดกับหยางยู่ผิง
หยางยู่ปิงยิ้มแห้ง “หนูอย่าเพิ่งรีบเรียกแม่เลยจ้ะ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือเคลียร์เรื่องนี้ให้เข้าใจก่อน เพราะเสี่ยวเกอไม่เคยบอกเรื่องนี้กับพวกเราเลย”
“ฉันเองก็คิดเหมือนกัน ยังไงซะ เด็กคนนี้ก็เป็นลูกของตระกูลเฉิน พวกคุณอยากจะพิสูจน์ยังไงก็ทำเถอะ”
จ้าวยีฟานเบ้ปากให้เฉินเกอ ก่อนจะมองไปทางเฉินจิ้นตงแล้วพูด “คุณพ่อคะ”
“อืม”
เฉินจิ้นตงตอบกลับ ก่อนจะรีบส่ายหน้ารัวๆ “หนู อย่าเพิ่งใจร้อน หนูอุ้มลูกเข้าไปข้างในก่อนเถอะ ข้างนอกลมแรง เดี๋ยวฉันจะเรียกหมอมาดูอาการให้”
เฉินจิ้นตงเองก็ปวดหัว
เฉินเกอยังมึนงงกับข่าวที่ได้รับ “นี่เราเป็นพ่อคนแล้วเหรอ”