ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 564
บทที่ 564 กล่องไม้
เฉินเกิอนึกคิดกับประโยคสองประโยคนั้น
คำข้างหน้าที่พูดคือข้างดอกฮิกังปะนะ(เป็นดอกไม้ที่เติบโตในนรก) ได้เกิดใหม่ หลังจากนั้นก็จะปรากฏมังกรขึ้นที่เอ๋อตง
เอ๋อตง!
เฉิน!
ในใจของเฉินเกอตกใจมาก
ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็ไม่อยากเชื่อว่า บนโลกใบนี้จะมีคนทำลายขอบเขตขีดจำกัดทั้งหมดได้ มาถึงจุดที่อดีตและปัจจุบันสามารถไปมาหาสู่กันได้ แต่ทั้งหมดของทั้งหมด ก็กำลังพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งอยู่!
“บรรพบุรุษของฉันคาดคะเนว่า คนคนนี้น่าจะนามสกุลเฉิน หลังจากที่มีการกำเนิดเขาแล้ว ชาติตระกูลจะมีชื่อว่าเฉิน!”
หยางเว่ยมองไปทางเฉินเกอแล้วพูด “คุณผู้ชายหน้าตาของคุณกับคนที่อยู่บนรูปภาพคล้ายกันมาก แต่แค่ไม่รู้ว่า วงศ์ตระกูลของท่านนามสกุลอะไร! ถ้าหากว่านามสกุลในวงศ์ตระกูลก็ถูกต้อง งั้นคุณผู้ชาย คุณก็คือคนที่พวกเราตระกูลหยางรอคอย”
เฉินเกอขมวดคิ้ว ขณะนั้นพยักหน้า
“ฉันชื่อเฉินเกอ!”
เฉินเกอพูด
“อ้า! นั่นท่านก็คือ….ใช่แล้ว จริงๆ ด้วย!”
หยางเว่ยดีใจมาก
แต่เฉินเกอกลับรู้สึกเศร้ามาก
ก็เหมือนกับมือล่องหนอันใหญ่ใบหนึ่ง ที่ปกปิดทั้งหมด ยิ่งเรื่องราวการจัดการทั้งหมด ก็อยู่ภายใต้มือใหญ่นี้ ทุกคนต่างก็เป็นหมากเดินของเขา ต่างก็เดินในทางที่เขาได้วางไว้แล้ว
โศกเศร้า หวาดกลัว ทำให้คนหายใจไม่ออก
เขา….เป็นใครกันแน่?
เฉินเกอรู้สึกว่าหลังของเขาเย็นไปหมด ขณะนั้น ได้เก็บอารมณ์ของเขากลับไป
หยางเว่ย ได้นำกล่องๆ หนึ่ง ออกมาจากห้องลับห้องหนึ่ง
เป็นกล่อมไม้โบราณที่แปลกตามากๆ
“นี่ก็คือสิ่งที่ขอทานชราท่านนั้นได้ให้ฉันส่งต่อให้คุณ!”
หยางเว่ยไอไปหนึ่งที
“คุณผู้ชาย คุณดูเลย ฉันจะออกไป!”
“ไม่ต้องแล้ว ก็ไม่ใช่อะไรที่จะให้คนอื่นเห็นไม่ได้ บนโลกใบนี้สำหรับเขาแล้ว เหมือนว่าจะไม่มีความลับอะไรที่สามารถเก็บไว้ได้ เฮอะๆ!”
เฉินเกอฝืนยิ้ม
ขณะนั้นก็เปิดกล่องไม้ออก
เปิดกล่องไม้ออก มีกลิ่นแปลกๆ กลิ่นหนึ่งลอยผ่านมา
หลังจากนั้นก็เห็นภายในกล่องไม้ ก็มีป้ายยันต์สีทองที่ยาวกับราวกับหางปลาทอง นอนอยู่ข้างในอย่างเงียบๆ ยาวประมาณสามมิล เนื้อดูแข็ง
ข้างๆ คือยาสีดำเม็ดหนึ่ง
เหมือนจะเป็นยา
“หอมขนาดนี้เลย!”
หยางเว่ยพูดด้วยความตกใจ
เฉินเกอหยิบขึ้นมาดมที่จมูก แล้วคิดในใจอย่างสงบ ไม่ได้พูดอะไร
“คุณผู้ชาย นานขนาดนี้แล้ว ยาเม็ดนี้ยังสามารถทานได้อยู่หรือเปล่า?”
หยางเว่ยถาม
“ไม่สามารถทานได้ตั้งนานแล้ว นี่คือยาเลือดลม สามารถทำให้คนคนหนึ่งอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกอย่างถ้าหากว่ามาถึงทางที่หมดหวังแล้ว สามารถใช้ยาเลือดลมเม็ดนี้ได้ ไม่แน่อาจจะเกินใหม่อีกครั้งในที่อื่นก็เป็นได้!”
เฉินเกอนึกถึงหยกชิ้นนั้นที่นำความทรงจำแปลกๆ มาให้ตัวเอง ขณะนั้นจึงมองยานั้นออก
“คุณผู้ชายฉลาดมาก!”
หยางเว่ยชื่นชม
“จะฝึกฝนและผลิตยาแบบนี้ ส่วนประกอบที่ใช้จำเป็นต้องรุนแรงมาก จริงด้วย เมื่อกี้ตอนที่ฉันเข้ามาในบ้านของนาย ก็ได้กลิ่นของยาสมุนไพร ฟุ้งเต็มไปทั่ว ตระกูลหยางของพวกนายทำธุรกิจอะไรหรอ?”
เฉินเกอถาม
“ประเภทส่วนประกอบของยาสมุนไพรครับ ส่วนมากจะเป็นยาสมุนไพรที่มาจากทะเล!”
หยางเว่ยพูด
“ไม่รู้ว่าพวกเธอมียาชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าหวู่เว่ยเฉ่าไหม? นี่คือส่วนประกอบหลักที่ใช้ฝึกฝนและผลิตยาเลือดลมนี้”
“หวู่เว่ยเฉ่า? ฉัน….ฉันไม่เคยได้ยินเลย!” หยางเว่ยยิ้มด้วยความฝืน
“เฮ้อ ดูแล้วเหมือนจะไม่มี!” เฉินเกอส่ายหัวเบาๆ
คนลึกลับคนนี้มอบยาเลือดลมนี้ให้ตัวเอง แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะไม่เข้าใจว่า ยาเลือดลมมีอายุเพียงหนึ่งเดือน นี่เขาอยากจะให้ตัวเองใช้ช่วยเหลือตัวเองตอนที่ฝึกฝนและผลิตยาชนิดนี้หรอ
“แต่ก็ไม่แน่นอน ฉันเป็นแค่เจ้านาย เฮะเฮะ ไม่ได้เรียนรู้สิ่งของด้านนี้มา คำพูดที่จะพูด….แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว?” หยางเว่ยมองไปด้วยความลังเลหนึ่งที มองเฉินเกอแล้วพูดว่า “คุณผู้ชายคุณเคยได้ยินงานประมูลยาแพทย์แผนจีนโบราณชื่อดังหรือเปล่า?”
“นายหมายถึงงานประมูลงานฉลองฟ้าสมุทรนั่น?” เฉินเกอถามด้วยเสียงที่เบา
“ถูกต้อง งานประมูลนั่น ถือว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมใหญ่ของงานฉลองฟ้าสมุทร ข้างบนต่างก็เป็นยาสมุนไพรมากมายที่เด็ดมาจากคนในทุ่งยาสมุนไพรและบนภูเขาที่รวบรวมยาแพทย์แผนจีนโบราณชื่อดังโดยตรง มีจำนวนอายุอยู่ที่ร้อยปีขึ้นทั้งนั้น ไม่ส่งเข้าตลาด ได้เชิญพวกเศรษฐีและคนที่ทำธุรกิจมากมายมางานประมูลโดยตรง แล้วจ่ายสดในตอนนั้นเลย” หยางเว่ยพูด
งานประมูลแบบนี้ ดูออกอย่างชัดเจนเลยว่าเป็นงานสำหรับกลุ่มคนส่วนตัว ไม่สามารถให้คนอื่นเห็นได้
ก่อนอื่น ที่มาของประเภทยาสมุนไพร ก็พูดไม่ชัดเจนแล้ว ยาสมุนไพรที่ตายในใต้ทะเลลึกทุกปี ถึงขั้นทุ่งยาสมุนไพรที่อยู่บนภูเขาก็นับไม่ถ้วน
“ฉะนั้น สิ่งของจึงมีค่า มีเศรษฐีมากมายมาร่วมงานงานฉลองฟ้าสมุทร ต่างก็เพราะว่ายาสมุนไพรโบราณพวกเรา ไม่แน่อาจจะมีสิ่งที่คุณผู้ชายตามหาก็เป็นได้” หยางเว่ยพูด
เฉินเกอแค่พยักหน้า
“จริงแล้ว เมื่อกี้ได้ยินนายพูดว่า แต่ว่าซินแสกุ่ยนั่นก็คำนวณได้แม่นจริง เขาเองก็คำนวณว่าฉันมาจะมา?”
เฉินเกอนึกถึงคำพูดของหยางเว่ย จึงถามว่า “ซินแสกุ่ยนี้คือใครอีก?”
เฉินเกอไม่ใช่ว่าจะได้ยินชื่อนี้ของเขาเป็นครั้งแรกแล้ว
จ้าวยีฟาน ก็คือคนที่หาเขามาแก้ปัญหา
บางครั้ง ยังแม่นกว่าภาพสุริยันด้วยซ้ำ เฉินเกอรู้สึกแบบนี้
“เขาคืออาจารย์มหัศจรรย์ท่านหนึ่งของไห่เฉิงพวกเรา คำนวณได้แม่นมาก! ประมาณวันที่11ของเดือนที่แล้ว ฉันไปเยี่ยมเยือนเขา ได้ถามถึงเรื่องราวที่ตระกูลหยางของเรารอเมื่อแปดร้อยปีที่แล้ว อยากจะฟังข่าวบางอย่างจากคำพูดของเขา เขาก็พูดว่า ให้นายรอนายก็รอ อีกอย่างไม่ต้องใช้เวลานานแล้ว ฉันจะเจอคนที่ตระกูลหยางให้รอ! นี่ก็ พึ่งผ่านมาไม่นาน คุณก็ปรากฏตัวแล้ว!”
เฉินเกอขมวดคิ้ว
ถ้าหากว่าเขาเก่งขนาดนี้ ตัวเองมาถึงที่นี่แล้ว จะต้องไปเยี่ยมเขาแล้วล่ะ
“ซินแสกุ่ย เขาพักอยู่ที่ไหน?”
เฉินเกอถาม
“คุณผู้ชายมีเรื่องต้องถาม เรื่องนี้ให้ฉันมาเป็นคนจัดการก็ได้แล้ว แต่ว่า วันนี้ไม่ได้!”
“เพราะอะไร?”
“เพราะว่าท่านซินแสกุ่ยท่านนี้มีนิสัยอย่างหนึ่ง นั่นก็คือจะต้องเป็นวันที่คี่ของทุกเดือนเขาถึงจะทำนายให้คนอื่น เวลาที่เหลือ ไม่เคยพบใครเลย! อยากจะไปเยี่ยมเยือน ต้องรอพรุ่งนี้วันที่21!”
หยางเว่ยพูด
“ฉันรู้แล้ว!”
เฉินเกอพยักหน้า “งั้นคืนนี้ ฉันจะไปงานประมูลยาสมุนไพรงานฉลองฟ้าสมุทรนั่นที่นายพูด ดูว่ามียาสมุนไพรที่ฉันอยากได้หรือเปล่า!”
เก็บรวบรวมยาสมุนไพรพวกนี้ มาฝึกฝนและผลิตยาเลือดลม งานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ก็จะมาถึงแล้ว สิ่งของพวกนี้เป็นของจำเป็น
อีกอย่าง ยังเป็นข้อแนะนำที่คนลึกลับให้ตัวเอง คิดแล้ว ก็มีความคิดของเขา!
เฉินเกอพูดด้วยความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ถูก
“ได้ คุณผู้ชาย ฉัน……ฉันไปเป็นเพื่อน…..แค่กแค่ก!”
หยางเว่ยไออย่างรุนแรงขึ้นมา
“ฉันให้รายการยาสมุนไพรหนึ่งกับนาย นายนำยาสมุนไพรพวกนี้ให้คนอื่นบดให้เรียบร้อย ฉันจะรักษาแผลของนายก่อน!”
หลังจากนั้น เฉินเกอและคนอื่นๆ ก็ต่อรถมาถึงงานงานฉลองฟ้าสมุทร ขณะนั้นดึกมากแล้ว งานฉลองฟ้าสมุทรกลับมีแสงไฟส่องไสว ผู้คนมากมาย
“ขอโทษครับ ที่นี่คือสถานที่ส่วน หากท่าไม่มีการ์ดเชิญ ก็เชิญกลับเถอะครับ” รปภ.คนหนึ่งเดินขึ้นมา แล้วพูดอย่างไม่เกรงใจ
“การ์ดเชิญ เฮอะเฮอะ ทำไมฉันหยางเว่ยมา ก็จำเป็นต้องใช้การ์ดเชิญหรอ?” หยางเว่ยพูด
ส่วน รปภ. ได้ยินแล้ว ก็เบิกตากว้างทันที “ประธานหยาง? ประธานหยางบ้าบออะไร ฉันไม่เคยได้ยิน ไม่มีการ์ดเชิญ ก็ไปซะ! แล้วก็นาย มองอะไรงานฉลองฟ้าสมุทร ก็คือสถานที่ที่คนอะไรก็มาได้หรอ”
รปภ. พูดด้วยความเย็นชา
“เฮ้ยลี่ลี่ เธอรีบดู นี่คือรุ่นน้องเธอสมัยมหาวิทยาลัยไม่ใช่หรอ? เขาก็อยู่นะ!”
ขณะนี้ ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น เฉินเกอหันไปดู ปรากฏว่าเห็น กลุ่มพวกหลีหย่าลี่ ปรากฏตัวอยู่ที่นี่พอดี
“ดูแล้ว เขาอยากจะเข้ามาในงานงานฉลองฟ้าสมุทร แต่ว่าถูกปฏิเสธไปแล้ว!” ผู้หญิงไม่กี่คนกำลังหัวเราะกันอยู่
“คนคนนี้ทำไมถึงซื่อบื้อขนาดนี้เนี่ย ยากจนจนโง่ไปแล้วหรือเปล่า งานฉลองฟ้าสมุทรก็คือสถานที่ที่คนอะไรก็สามารถเข้ามาได้หรอ?”
“เฉินเกอ นายมาทำอะไร?”
หลีหย่าลี่ถามด้วยความตกใจ อ้าปากกว้างจนไข่สามารถยัดเข้าไปได้แล้ว
“จะทำอะไรได้อีก คนที่ยิ่งจน ก็ยิ่งชอบอวดรวย ที่เขามา ก็อยากจะลองมาดู แล้วโพสต์ลงในโซเชี่ยล แสดงให้เห็นว่าตัวเองเคยมา!”
ผู้หญิงไม่กี่คนพูดด้วยเสียงที่เบา
ดูออกอย่างชัดเจนเลยว่า ผู้หญิงพวกนี้ไม่ชอบเฉินเกอ
เฉินเกอก็ไม่ได้พูดอะไร
แต่ว่า ดูออกเลยว่าพวกหลีหย่าลี่พวกนั้นไม่อยากอยู่ที่นี่กับเฉินเกออีกต่อไปแล้ว เพราะว่ามีคนไม่น้อยเลยที่มองมาทางนี้
ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ หลีหย่าลี่พูดขึ้น “พอแล้ว พวกเราเข้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวงานก็จะเริ่มแล้ว!”
ขณะนี้ใบหน้าของหยางเว่ยเต็มไปด้วยความอาย
แล้วมองไปทาง รปภ. ด้วยความโกรธ “นายแน่ใจ ไม่ให้เข้าใช่ไหม? งานประมูลยาสมุนไพรแค่ยืมชื่อของงานฉลองฟ้าสมุทรมาเปิดงานเท่านั้น ไม่ได้เป็นของของ ตระกูลหมิง ไม่ต้องเกินไป!”
“บอกแล้วไม่ให้เข้าก็คือไม่ให้เข้า! ไม่มีการ์ดเชิญ พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์!” รปภ.พูดด้วยความเย็นชา
“เกิดอะไรขึ้น?”
และในขณะนี้ ก็มีเสียงเปล่งประกายของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
ก็ทำให้ผู้คนต่างก็มองไปทางนั้น
สีหน้าของหยางเว่ยหนักขึ้นมาทันที หลังจากที่ได้ยินแล้ว ก็มองเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมา คนที่พูดคือผู้หญิงคนหนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้รูปร่างสูงผอม ใบหน้าสวยงามเหมือนก้อนหินที่ถูกสลักมา ดูแล้วเหมือนจะเป็นลูกครึ่ง คางแหลมเชิดขึ้น ในแววตามีความดูถูกอยู่
“ขอคารวะคุณผู้หญิงครับ!” รปภ.พูดขึ้น