ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 612
บทที่ 612 ไปหาหม่าเสี่ยวหนาน
จางต้าชานรีบสวมใส่เสื้อผ้าทันที
เพราะว่ามีคนคนหนึ่งได้ยืนอยู่หน้าประตู และด้านหลังของเขา มีบอดี้การ์ดชุดดำสองคนยืนอยู่ บอดี้การ์ดชุดดำทั้งสองได้แบกกล้องไว้ แม่งชำนาญกว่าตากล้องในกลองเสียอีก
พวกเขาทำไมถึงไม่มีเสียงฝีเท้า? ไม่มีเสียงเปิดประตู
จบแน่จบแน่ การกระทำของตัวเองเมื่อกี้ ไม่ต้องสงสัย ได้ถูกพวกเขาบันทึกไว้หมดแล้ว
หากถูกเผยแพร่ออกไป เถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังของหานเฟยเอ๋อ ต้องใช้วิธีห้าม้าแยกศพกับตนแน่!
เดิมที หากตัวเองนั้นสามารถควบคุมคลิปสั้นของหานเฟยเอ๋อ เขาก็จะไม่กลัว ยังสามารถที่จะข่มขู่หานเฟยเอ๋อได้ด้วย
ไอ้สารเลว หยุดถ่ายได้แล้ว อยากตายเหรอพวกแก มาจากนักข่าวสำนักข่าวอะไร?
จางต้าชานด่าอย่างบ้าคลั่ง
อยากจะพุ่งเข้าไปแย่งกล้อง
ปรากฏว่าบอดี้การ์ดได้ยกขาขึ้นถีบ
จางต้าชานที่น้ำหนักตัวร้อยกว่ากิโลกรัม ได้กระเด็นไปทับโต๊ะกับเครื่องแป้ง กระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แตกอย่างละเอียด
“ถ่ายเสร็จหรือยัง?”
เฉินเกอถาม
“ถ่ายเสร็จแล้วครับคุณชายเฉิน!”
บอดี้การ์ดทั้งสองตอบพร้อมกัน
“ลงไปเตรียมตัวได้แล้ว!”
บอดี้การ์ดทั้งสองพยักหน้าอีกครั้ง หลังจากโค้งคำนับเล็กน้อย ก็ได้ถอยออกไปจากห้อง
หานเฟยเอ๋อเห็นคนที่เข้ามา คือเฉินเกอ ถึงแม้เธอจะไม่สามารถขยับตัวได้ แต่หินก้อนใหญ่ที่แขวนอยู่ในใจของเธอ ในที่สุดก็ถูกว่าลง
ได้เห็นเฉินเกออีกครั้ง เธอดีใจจนอยากจะร้องไห้
“เจ้าหนุ่มน้อย อยากจะแบล็คเมล์ฉันเหรอ? พูดมาเถอะ ว่าต้องการเงินเท่าไหร่?”
“อีกอย่างฉันจะบอกแกให้นะ ฉันมีสายสัมพันธ์ที่ดีมากกับจินหลิง ฉันจะให้แกหนึ่งแสนหยวน ลบคลิปนั่นซะ เรื่องของวันนี้ กูก็จะถือว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น! ไม่อย่างนั้น ฮึ่มๆ!”
จางต้าชานตักเตือนอย่างเยือกเย็น
เขาอยู่ในสังคมมานาน เรื่องใหญ่แค่ไหนก็เคยเจอมาแล้ว
นักข่าวกระจอกที่อยู่ตรงหน้า ตัวเองต้องใช้เงินในการปิดปากพวกเขาเสียก่อน
จากนั้น ค่อยจัดคนไปจัดการพวกเขาทีหลัง ผีสางเทวดาก็จะไม่รู้ไม่เห็น อย่างนี้ก็จะสิ้นเรื่องสิ้นราว
หลังจากที่จางต้าชานพูดจบ ก็จุดบุหรี่อย่างใจเย็น
“คุณชายเฉิน พวกเรามาถึงข้างล่างแล้วครับ ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมแล้วครับ!”
เวลานี้ เฉินเกอที่ถือวิทยุสื่อสารไว้ในมือ เสียงของบอดี้การ์ดได้ดังขึ้น
“ดี เร่งมือหน่อย อย่าให้มันเป็นที่สนใจมากนัก!”
เฉินเกอพูดจบ ก็โยนวิทยุสื่อสารไปด้านข้าง
“อะไรคือเร่งมือหน่อย? เจ้าหนุ่มน้อย แกได้ตั้งใจฟังที่ฉันพูดไหม ฟังจากความหมายของแก แกรู้สึกว่าเงินมันน้อยไปใช่มั้ย? แกเป็นพวกของใคร? บอกชื่อมาซะ!”
จางต้าชานไม่รู้เป็นเพราะอะไร
แต่ดูท่าทางแล้ว จางต้าชานยิ่งพูด ในใจก็รู้สึกไม่มั่นใจ เขามีความรู้สึกไม่ดีบางอย่าง
“ด้านนอกหน้าต่าง ก็คือหน้าผาสูงชัน!”
เฉินเกอกล่าวอย่างเย็นเยือก
“ใช่ไง! แกแกแก……….แกจะทำอะไร?”
จางต้าชานสั่นไปทั้งตัว จ้องมองเฉินเกออย่างเยือกเย็น
“เธอเป็นเพื่อนนักเรียนของฉัน และก็เป็นเพื่อนของฉันด้วย ฉันเคยสาบานไว้ ใครที่กล้าแตะต้องคนข้างกายของฉัน ฉันจะทำให้เขาเสียใจที่เคยมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ช้าหรือเร็ว ฉันก็ต้องให้พวกเขาชดใช้!”
เฉินเกอมองไปที่จางต้าชาน สายตาเต็มไปด้วยความอาฆาตที่น่ากลัว
แรงอาฆาตนี้ ทำให้จางต้าชานเหมือนถูกห้อยอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ทำให้ทั้งร่างกายสั่นอย่างรุนแรง หลังก็เย็นวาบ
“แกกล้าเหรอ แกไปสืบชื่อของฉันก่อน ฉันอยู่จินหลิง มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น จะทำอะไรก็ได้!”
จางต้าชานเพิ่งจะรู้ว่า คนคนนี้ไม่ได้ต้องการเงิน เมื่อกี้ ก็เพื่อมาเก็บหลักฐานบางส่วน
ขณะนั้นตกใจจนจะฉี่ราดกางเกง
เพียงแต่ตอนนี้เพิ่งรู้มันก็ได้สายไปแล้ว
เฉินเกอบีบคอของเขา ทันใดนั้นตัวเขาก็ลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นถูกเฉินเกอโยนออกไป
เรื่องราวต่อจากนี้ ก็มีบอดี้การ์ดของตัวเองเป็นคนจัดการให้เรียบร้อย
เมื่อกี้เฉินเกอมาถึงหน้าประตู เตรียมตัวจะเคาะประตูนั้น
พอดีได้ยินเสียงผิดปกติของในห้อง
ขณะนั้นเฉินเกอก็มีแรงอาฆาตขึ้นมาทันที
เพียงแต่ว่า ตอนนี้กลับมาจินหลิงแล้ว เฉินเกอจะทำตามอำเภอใจไม่ได้
ดังนั้น เฉินเกอเดินตามขึ้นตอนหนึ่ง
ขณะนั้นก็เดินเข้าไป เฉินเกอได้ล้วงธูปหมอที่แปลกประหลาดออกมาหนึ่งดอก
จุดธูปนั้นแล้วก็เอาไปให้หานเฟยเอ๋อดม
ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรง ก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เฉินเกอ โชคดีที่มีนาย เมื่อกี้ฉันตกใจแทบแย่!”
และหลังจากที่หานเฟยเอ๋อขยับตัวได้แล้ว เขาก็กอดเฉินเกออย่างตื่นเต้น
เหมือนกลัวว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความฝัน หากตื่นจากฟัน คนที่เขารอคอยมานาน ก็จากหายสาบสูญไป!
“ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว!”
เฉินเกอกล่าว
เธอน่ะ ตอนนี้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์แล้วนะ ทำไมถึงได้ไม่ระวังแบบนี้ ทำไมไม่รู้จักหาบอดี้การ์ดมาคุ้มครองล่ะ?
เฉินเกอยิ้มเจื่อนๆแล้วกล่าว
“ฉันไม่มี ตลอดที่ผ่านมาฉันมีแต่พวกประธานหลี่ที่คอยดูแล นึกว่าจะไม่มีใครกล้ามาคิดร้ายฉัน เป็นเพราะฉันชะล่าใจเกินไป! ใช่แล้วเฉินเกอ นาย…..นายกลับมาเมื่อไร่ ตอนแรกได้ยินว่านายเกิดเรื่อง ฉันกับหม่าเสี่ยวหนานเคยไปตามหานาย! จากนั้น………”
หานเฟยเอ๋อเหมือนกับว่าคิดถึงเรื่องราวที่น่ากลัวขึ้นมา
เอาล่ะ เรื่องเหล่านั้นก็อย่าไปเอ่ยถึงมันอีกเลย มันได้ผ่านไปแล้ว ฉันก็รู้แล้ว ตอนนี้พวกเราทุกคนปลอดภัย มันก็ดีมากแล้ว
เฉินเกอมองเธอด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“วันนี้ที่นายกลับมา คือ………มาเยี่ยมฉันเป็นพิเศษเหรอ?”
หานเฟยเอ๋อถามด้วยเสียงที่บางเบา
ในใจเธอซาบซึ้ง รอคอย ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เธอก็ยังอยากจะถาม
“น่าจะใช่มั้ง!”
และเฉินเกอนั้นก็ไม่ได้แสดงคำพูดที่ปลอบโยนเธออย่างคนรัก แค่พูดตามความจริง
ตัวเองนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเยี่ยมเธอ แต่เพื่อมาตามหาคนที่ร่างกายมีพลังจุดจื้อหยิน
แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เคยที่เคยรู้จักกัน เฉินเกอก็คิดถึง ก็อยากจะเจอพวกเขาด้วย
“อ้อ เห็นนายปลอดภัยสบายดี ฉันก็สบายใจแล้ว!”
หานเฟยเอ๋ออดไม่ได้ที่จะผิดหวัง
“เอ่อ ช่วงนี้เสี่ยวหนานเป็นยังไงมั่ง? เธอถ่ายละครอยู่ที่จินหลิงตลอด ช่วงนี้ได้ติดต่อกันมั้ย?”
เฉินเกอถาม
เสี่ยวหนาน? ช่วงนี้เรายังคงติดต่อกันโดยตลอด ก่อนหน้านั้นมีบทหลายตอน ยังได้ไปใช้สถานที่ในโรงเรียนของเธอ นักเรียนในห้องเธอหลายคน ฉันยังให้พวกเธอมาแสดงด้วยเลย ฉันเคยอยากให้เสี่ยวหนานมาอยู่ข้างกายฉัน แต่ตอนนี้เธอบอกว่าเธอเป็นคุณครูก็ดีอยู่แล้ว ตอนนี้เธอเป็นคุณครูแล้วนะ และได้ซื้อบ้านอยู่ข้างๆโรงเรียน!”
หานเฟยเอ๋อพูด
“อันนี้ผมรู้!”
“เฮ้ย แต่ว่าสองวันก่อน เสี่ยวหนานเหมือนจะเจออุปสรรคอะไรบางอย่าง ฉันโทรหาเธอ ให้เธอออกมากินข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อย เธอก็ไม่มีเวลา หากเป็นเมื่อก่อน เธอต้องมาแน่นอน แต่ตอนนี้เธอเหมือนคนอมทุกข์ไม่ค่อยมีความสุข ฉันถามอะไรเธอ เธอก็ไม่ยอมพูด!”
หานเฟยเอ๋อจัดผมเผ้าตัวเอง แล้วเดินไปรินน้ำให้เฉินเกอ
“โอเค งั้นวันนี้เธอพักผ่อนก่อน ฉันไปดูเขาหน่อย พรุ่งนี้ฉันกะว่าจะไปที่มหาวิทยาลัยจินหลิง หากเธอสนใจ เราสามารถกลับไปเยี่ยมเยียนพร้อมกัน!”
“ดีมากเลย!”
หานเฟยเอ๋อไม่รู้ว่าตัวเองนั้นดีใจมากแคไหน
และได้ยินว่าหม่าเสี่ยวหนานอมทุกข์ไม่มีความสุข ข้อหนึ่งเฉินเกอก็อยากจะไปเยี่ยมเธอ ข้อสองเธออยู่แถวๆบริเวณโรงเรียน ขอเพียงเป็นโรงเรียน เฉินเกอก็ต้องไปวนดู อย่างไรเสียตัวเองก็ต้องไปในสถานที่ที่ผู้หญิงเยอะเพื่อตามหาผู้หญิงที่ร่างกายมีพลังจุดจื้อหยิน
จะได้จัดการทีเดียว
ขณะที่คิด เฉินเกอก็ออกจากวิลล่าสปา ขับรถลัมโบร์กีนีของตัวเองไปตามหาหม่าเสี่ยวหนาน….