ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 615
บทที่ 615 ความทุกข์ในใจ
เฉินเกอเชี่ยวชาญในการอ่านใจคน
ขอเพียงคนที่มีศิลต่ำกว่าตัวเองมากๆ เพียงแค่พริบตาเดียวเฉินเกอก็จะรู้ได้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่
และเมื่อกี้ที่เจอกับเมิ่งซีอันที่จริงเฉินเกอก็รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว
และคนที่จิตใจอำมหิตอย่างหยางเยี่ยน บ้ามากจริงๆ ความอิจฉาริษยาในใจของผู้หญิงหากเกิดขึ้นแล้ว มันถึงกับเอาชีวิตคนเลยทีเดียว
เฉินเกอกลัวว่าเด็กสาวที่ชื่อเมิ่งซีอาจจะเกิดเรื่อง ดังนั้นจึงได้พาหม่าเสียวหนานไปตามหา
เนื่องจากเรื่องราวกระบวนการของเหตุการณ์นี้ง่ายมาก
ประมาณเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็เป็นช่วงนี้หยางเยี่ยนออกไปเรียนรู้นอกสถานที
หยางเยี่ยนได้ไปหาเมิ่งซีที่บ้านเธอโดยตรง เรียกเธอออกมา
เพื่อจะให้เขาทำเรื่องให้หยางเยี่ยนเรื่องหนึ่ง
ก็คือให้เขาสะกดรอยตามหม่าเสี่ยวหนาน และคิดหาวิธีขโมยทุนการศึกษาของเธอ
จากนั้นก็สร้างเรื่องใส่ร้ายเธอ
ระหว่างนี้ เธอก็จะให้สามีของเธอช่วยเหลือเธออย่างลับๆ
หากเมิ่งซีตกลง ขโมยเงินสองแสน เงินทั้งหมดก็จะเป็นของเมิ่งซี มีเงินก้อนนี้แล้ว เมิ่งซีก็จะสามารถนำเงินไปเป็นค่ารักษาพยาบาลของแม่
เพราะครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ แม้ของเมิ่งซีป่วยเป็นโรคร้ายแรง
ฐานนะทางบ้านเธอยากจน และเธอก็ไม่มีพ่อ
แต่เรื่องขโมยเงินแบบนี้ ไม่ว่ายังไงเมิ่งซีก็ไม่กล้าที่จะทำ
จนกระทั่งหยางเยี่ยนมาขู่เธออีกครั้ง หากไม่ทำ เธอจะทำทุกทาง เพื่อตัดทุนการศึกษาของเมิ่งซีถึงขั้นทำให้เมิ่งซีไม่สามารถไปสอบเอ็นทรานซ์
ประกาศนียบัตรของมัธยมปลายก็จะไม่ได้เช่นกัน
ความหวังสูงสุดของแม่ ก็คืออยากเห็นเมิ่งซีสอบเข้ามหาวิทยาลัย
เมิ่งซีกลัวมาก กลางคืนก็นอนไม่หลับ ทุกเวลาทุกนาที ได้ถามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีท่ามกลางความสับสนในใจ
จนกระทั่งหยางเยี่ยนได้เริ่มดำเนินการสร้างสายสัมพันธ์ เตรียมการเพื่อจะทำให้เมิ่งซีออกจากโรงเรียนนั้น
เมิ่งซีจึงได้ยอมตกลงอย่างจำใจ
ช่วงเวลานั้น เมิ่งซีจึงได้เริ่มสะกดรอยตามหม่าเสี่ยวหนาน จนกระทั่งเธอกดเงินแล้ว จากนั้นในคืนคืนหนึ่ง เมิ่งซีก็ได้นำกุญแจสำรอง แอบเข้าไปในห้องบัญชี
และกล้องวงจรปิดนั้น ก็ได้ถูกครูหยางเยี่ยนจัดคนตัดสายไปนานแล้ว
จึงได้มีเรื่องที่หม่าเสี่ยวหนานขโมยเงินเกิดขึ้น
ตอนแรกที่เฉินเกอเห็นเมิ่งซีนั้น ภายในใจของเธอนั้นไม่ซับซ้อน
จะอ่านความคิดในใจเธอทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ก็เป็นเพราะเห็นว่าเธอก็เป็นผู้เสียหายคนหนึ่ง และมันก็บังเอิญด้วย หนึ่งคือเฉินเกอนั้นก็จะมาช่วยตรวจสอบความจริงให้หม่าเสี่ยวหนาน
สองก็คือมาช่วยเธอ
หากเธอนำเงินสองแสนนี้ไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล เธอก็จะไม่สามารถที่จะสอบเอ็น อาจจะต้องไปติดคุกติดตะราง ชีวิตของเธอก็จะถูกทำลายไปแบบนี้ แม่ของเธอก็ต้องตายทั้งเป็น บ้านแตกสาแหลกขาด
ดังนั้นเฉินเกอรู้สึกว่าหยางเยี่ยนนั้นช่างโหดร้ายเกินไป
ขณะนั้นที่อยู่ในห้องครูใหญ่ เฉินกอมีความคิดที่อยากจะตีเธอให้ตาย
หลังจากที่ฟังเฉินเกอพูด
หม่าเสี่ยวหนานกลัวจนเอามือกุมปากตัวเอง
เธอเชื่อสิ่งที่เฉินเกอเล่าทั้งหมด เพียงแต่ไม่กล้าเชื่อ ถึงแม้หยางเยี่ยน ต้องการเล่นงานตัวเอง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้มั้ง?
ใจคนน่ากลัวมาก ทำให้หม่าเสี่ยวหนานสั่นไปทั้งตัว
“แล้วเมิ่งซีล่ะ? หากเป็นเรื่องจริง อนาคตของเมิ่งซีก็จะถูกทำลาย เธอขยันเพียงนี้!”
หม่าเสี่ยวหนานถามด้วยความเป็นห่วง
“ตอนนี้ยังไม่สาย แต่ผมเดาว่า หยางเยี่ยนก็น่าจะจัดคนมาคอยจับตามองเมิ่งซีดังนั้นเราต้องไปให้เร็วกว่าพวกเขา!”
เฉินเกอขับรถเร็วมาก
ไม่นานนัก ก็ได้มาชุมชนเล็กๆชุมชนหนึ่งในชานเมืองจินหลิง
มองไกลๆ เห็นหน้าประตูบ้านของเมิ่งซี
เมิ่งซีกำลังถือปิ่นโต ดูก็รู้ว่าเพิ่งจะทำกับข้าวเสร็จ เตรียมตัวจะส่งไปให้แม่ เธอกำลังจะล็อกประตู
เพียงแต่วเวลานี้ รถเก๋งสีดำสองคันได้จอดลงเสียก่อน
ชายร่างใหญ่ห้าหกคนลงจากรถ พวกเขาห้าหกคน ไว้ผมสกินเฮด ในคอได้ใส่สร้อยคอทองคำไว้ แถมยังหนีบกระเป๋าไว้ใต้รักแร้ ทุกคนต่างคีบบุหรี่ไว้ในมือ ขวางเมิ่งซีเอาไว้
“สาวน้อย รีบร้อนไปส่งข้าวขนาดนี้เลยเหรอ?”
หัวหน้าชายร่างใหญ่หัวเราะเยาะ
“ทำไม…….ถึงเป็นพวกคุณอีก ฉันก็ได้ทำตามที่พวกคุณสั่งแล้ว ทำไมยังมาตอแยฉันอีก?”
เมิ่งซีกลัวจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว ถือปิ่นโตอย่างแน่นๆ
แฮ่ๆ ไม่ต้องกลัว ที่จริงพวกเรามา ไม่มีอะไรหรอก สิ่งสำคัญคือ จะมาเตือนเธอห้ามแพร่งพรายเรื่องนั้นออกไปเด็ดขาด คิดไปคิดมา พวกเราจึงคิดได้วิธีหนึ่ง นั่นก็คือ จะถ่ายคลิปของเธอไว้ ขอเพียงเธอไม่พูด คลิปนี้ก็จะถูกเก็บไว้ในแฟลชไดร์อย่างดี ถ้าเกิดวันหนึ่งเธอเกิดพูดมันออกมา คลิปนี้ ก็จะถูกปล่อยลงบนโซเชียล เธอก็จะดังไปทั้งประเทศ
ชายร่างใหญ่หัวเราะเสียงดัง
ได้นำDVออกมาแล้ว
“วางใจเถอะน้องสาว พวกเราเร็วกันอยู่แล้ว อย่าดื้อนะ ดีไม่ดีฉันถูกใจ ยังจะให้เงินเธอก้อนหนึ่ง เธอก็เอาเงินก้อนนี้ไปช่วยชีวิตแม่เธอ!”
ขณะที่หัวหน้าร่างใหญ่นั้นพูดอยู่ ก็ได้ดึงเมิ่งซีเข้ามา
ปิ่นโตใส่อาหารซุปได้ตกลงไปบนพื้น
ด้านในมีกับข้าวที่เมิ่งซีทำให้แม่ ได้หกออกมาหมดเลย กระจายไปทั่วพื้น
และปากของเมิ่งซีได้ถูกชายร่างใหญ่ปิดไว้ และดึงตัวเธอเข้าไปในรถ
ชายร่างใหญ่ที่เหลือ ยืนอยู่ด้านข้างมองอย่างอารมณ์ดี
และในเวลานี้
หนึ่งในชายร่างใหญ่เหล่านั้น ถูกมือข้างหนึ่งกระชากหูอย่างรุนแรง
“อ้า!”
เขาร้องด้วยความเจ็บปวด
เสียงหูขาดตามมาอย่างกระชั้นชิด
หูทั้งหู ถูกกระชากหลุดลงมา ชั่วขณะนั้น หน้าครึ่งหน้าเลอะไปด้วยเลือด
เฉินเกอได้เอาหูของเธอโยนไปด้านข้างโดยไม่แยแส
ในมือยังได้ถือแท่งเหล็กที่เก็บมาจากด้านข้าง
ได้ฟาดลงที่หัวของเขาอีกหนึ่งที ชายคนนี้หัวแตก
อ้วกเป็นฟองสีขาวจากนั้นก็ล้มลงบนพื้น
และเป็นเพราะภาพนี้ ทำให้ชายที่เหลือห้าคนสะดุ้งตกใจ
หัวหน้าใหญ่ได้คลานลงมาจากบนรถ
ทันใดนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย
“แม่งเอ้ย เจ้าหนุ่มน้อย กล้ามายุ่งเรื่องของฉัน แกอยากตายใช่มั้ย!”
หัวหน้าใหญ่หน้าตาโหดเหี้ยม
ได้ดึงมีดสั้นออกจากเอวมาหนึ่งเล่ม
และมีคนคนหนึ่ง ได้ถือมีดสั้นไว้นานแล้ว พุ่งเข้ามาแทงเฉินเกอ
เพียงแต่ท่าทางของเฉินเกอนั้นว่องไวมาก
ได้ยื่นมือออกไป จับใบหูของอีกคนไว้ได้อีกแล้ว ใช้แรงกระชาก
“อ้า!”
เขาร้องอย่างเจ็บปวด
เสียงหูขาด!
หูก็ถูกเฉินเกอกระชากหลุดลงมา โยนไปด้านข้าง
ฟาดตามด้วยแท่งเหล็ก หัวของชายคนนี้ถูกแท่งเหล็กตีจนแบน กระเด็นออกไปโดยตรง
“ไอ้สารเลว ลุยพร้อมกัน!”
หัวหน้าใหญ่หนังตากระตุกอย่างแรง
ท่าทางของเขาว่องไวที่สุด ถึงแม้จะหนักร้อยจะกว่ากิโลกรัม แต่ท่าทางคล่องแคล่วทีเดียว
เขาฉลาดมาก
เขาวิ่งเข้ามากระโดดเตะที่หัวของเฉินเกอโดยตรง
เฉินเกอใจเย็นมาก
ถือท่อนเหล็กไว้ในมือ ฟาดลงไปที่ขาของเขาอย่างเต็มกำลัง
“อ้า!”
หน้าแข้งของเขา งอพับไปที่ขาหน้าโดยตรง ปลายเท้าโดนเข้าขาหน้าด้านบนของตัวเอง
น่าสหยดสยอง
เขาร้องเหมือนหมูถูกเชือด
คลานอยู่ด้านหน้าของเฉินเกอ ร่างกายชักกระตุก
“ฉันขี้เกียจใช้หมัดกับพวกแก แต่ละคนสารเลวทั้งนั้น!”
เฉินเกอกล่าวอย่างเยือกเย็น
จับหูของชายร่างใหญ่ไว้ กระชากหูจนหลุดแล้วโยนไปด้านข้างโดยตรง
ชายร่างใหญ่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด เจ็บจนจะสลบแล้ว
ชายร่างใหญ่ที่เหลือ เพิ่งรู้ว่า ชายคนนี้เก่งกาจมาก พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ขนาดหัวหน้าใหญ่ยังโดนยำจนเละอย่างนี้
และการกระชากหูแบบนี้ ช่างโหดร้ายเกินไป!
ขณะนั้นได้ทิ้งมีดสั้นแล้วจะหนี
แต่จะหนีไปได้อย่างไรล่ะ
เฉินเกอวิ่งตามไป ฟาดด้วยแท่งเหล็ก ไม่นานนั้นก็ฟาดจนพวกเขาล้มลงบนพื้น แล้วสุ่มดึงหูของพวกเขาหนึ่งคน กระชากหูแล้วโยนให้หมาเร่ร่อนกิน…….