ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 616
บทที่ 616 หยางเยี่ยนที่ร้ายกาจ
เฉินเกอโยนแท่งเหล็กทิ้งไป คนเหล่านั้นได้ล้มอยู่บนพื้นหมดแล้ว
และหม่าเสี่ยวหนานรีบวิ่งไปข้างรถ ไปพยุงเมิ่งซีออกมา
เดิมทีเมิ่งซีก็เป็นผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง ภาพเมื่อกี้ ทำเธอตกใจจนเกือบตาย
เธอไม่รู้ว่า หากถูกคนเหล่านี้รังแกจริงๆ ตัวเองจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไง
ถึงขั้นคิดว่า ตัวเองคงจะฆ่าตัวตาย
ช่วงเวลานี้ เมิ่งซีได้ทรยศจิตใต้สำนึกของตัวเองที่ทำเรื่องที่ผิดมากมาย
เรื่องนี้มันมีผลต่อสภาพจิตใจของอยู่แล้ว กระทบกระเทือนใจเธออย่างรุนแรง
“คุณครูหม่า!”
เห็นหม่าเสี่ยวหนาน เมิ่งซีอดไม่ไหวจนน้ำตาไหลนองหน้า พุ่งเข้าไปกอดหม่าเสี่ยวหน้าร้องไห้อย่างเจ็บปวด
“คุณครูหม่า ครูดีกับหนูมากอย่างนี้ หนูมันไม่ใช่คน หนูมันไม่ดี!”
เธอร้องไห้พูด
“เอาล่ะ เอาล่ะ ครูรู้แล้ว ครูไม่โทษหนู จะโทษก็ต้องโทษที่แม่หนูไม่สบาย ที่บ้านลำบากขนาดนี้ ทำไมถึงไม่บอกคุณครูล่ะ?”
ขณะที่ปลอบเมิ่งซี ในใจของหม่าเสี่ยวหนานก็เจ็บปวดเหมือนกัน
เธอคิดไม่ออก
หากไม่ใช่เฉินเกอกลับมา หากวันนี้เฉินเกอไม่มาหาตัวเอง
งั้นคืนนี้ เมิ่งซีที่เป็นเด็กดีที่น่าสงสารคนนี้ จะต้องประสบกับอะไรบ้าง
เด็กหญิงที่มีอนาคตคนนี้ อนาคตของเธอ ก็คงจะถูกทำลายไป
หม่าเสี่ยวหนานเองยังไม่กล้าที่จะคิดต่อไป
โชคดี ทุกอย่งคือความโชคดี
“คุณครูคะ เงินก้อนนั้นหนูเป็นคนขโมยเองค่ะ!”
เมิ่งซีร้องไห้กล่าว เธอเล่าเรื่องราวทั้งหมด
ตอนนี้เวลานี้ ในใจของเด็กหญิงคนนี้ ไม่สามารถที่จะเก็บซ่อนเรื่องใดๆไว้ได้อีก
เธอพูดมันออกมาทั้งหมด
“เงินเหล่านี้ หนูยังไม่กล้าแตะ ถึงแม้หนูจะต้องการเงินแค่ไหน หนูจะไปเป็นครูสอนพิเศษ หนูจะไปทำงาน หนูจะไม่แตะเงินนี้เด็ดขาด เงินนี้เป็นเงินที่หนูขโมยมา มันเป็นเงินสกปรก!”
เมิ่งซีร้องไห้พูด
“ไม่แตะก็ดี คุณครูเข้าใจหนู!”
หม่าเสี่ยวหนานคอยปลอบเมิ่งซี
และเฉินเกอ ทำตามที่เมิ่งซีบอก เดินไปที่ข้างประตู ตรงกระเบื้องด้านล่าง
ได้ขุดเอาเงินที่เมิ่งซีฝังไว้ด้านในออกมา
สองแสนหยวนเต็มๆ ไม่ขาดแม้แต่หยวนเดียว
อดคิดไม่ได้ ความเป็นคนของเมิ่งซีทำให้เฉินเกอซาบซึ้งเล็กน้อย
“เอาล่ะไม่ร้องแล้วนะ แม่หนูยังไม่ได้กินข้าวเลย เราไปทำกับข้าวกันเถอะ จากนั้นก็ส่งไปที่โรงพยาบาล ครูก็จะไปเยี่ยมแม่ของหนู!”
หม่าเสี่ยวหนานช่วยเมิ่งซีเช็ดน้ำตาจนแห้ง
ไม่นานนัก กับข้าวก็ทำเสร็จแล้ว ได้จัดใส่ปิ่นโตเหมือนเดิม
เฉินเกอขับรถอพาหม่าเสี่ยวหนานและเมิ่งซี มุ่งหน้าไปโรงพยาบาล
สำหรับบอดี้การ์ดเหล่านั้น ตัวเองได้โทรศัพท์ไปสั่งการ ก็ได้มีคนมาจัดการเคลียร์สถานที่
เฉินเกอก็ไปโรงพยาบาล ไปดูสถานการณ์ของแม่เมิ่งซีถึงแม้จะป่วยหนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางรักษา
ในสายตาของเฉินเกอ ไม่ถือว่าเป็นโรคร้ายแรงอะไร
เพียงแต่ว่าหากจะรักษาให้หาย ต้องใช้เงินจำนวนมาก
เพียงจุดนี้ มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเมิ่งซี
เฉินเกอได้สำรองจ่ายค่ารักษาไปทั้งหมด
และยังได้สัญญากับเมิ่งซี ค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัยของเธอ มีบริษัทจินหลิงเป็นผู้อุปการะ
สำหรับแม่ของเมิ่งซีนั้น รอให้เธอหายป่วยเสียก่อน เฉินเกอจะให้หลี่เจิ้นกั๋วหางานที่เหมาะสมให้เธอทำ
ทุกอย่างต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน
เฉินเกอปลอบเมิ่งซี
หลังจากที่จัดการเรื่องทั้งหมดเสร็จ ก็เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว
เพราะวันนี้เมิ่งซีนั้นได้รับความกระทบกระเทือนใจอย่างหนัก ดังนั้นหม่าเสี่ยวหนานจึงอยู่ข้างกายเธอ ชวนเธอคุยตลอดเวลา
และเฉินเกอนั้น ผู้ชายคนเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะพูดปลอบเด็กหญิงยังไง
จึงได้หยิบกระติกน้ำ ออกมาเติมน้ำ
และในเวลานี้
ยันต์หยกที่อยู่ในอกของเฉินเกอ จู่ๆมีปฏิกิริยาสนองขึ้นมา
ทำให้ร่างของเฉินเกอสั่นไปเล็กน้อย
ยันต์หยกตอบสนอง นั่นหมายความว่า คนที่ร่างกายมีพลังจุดจื้อหยินก็ต้องอยู่แถวๆนี้
เฉินเกอดีใจ
รีบมองไปโดยรอบ
แต่สิ่งที่ทำให้เฉินเกอผิดหวังนั้น ก็คือปฏิกิริยาที่ตอบสนองนี้ ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยในเวลาไม่นานนัก
ดูเหมือนเป็นเพียงความรู้สึกที่นึกคิดไปเอง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมถึงหายไปแล้ว?”
เฉินเกอสงสัย
ผิดหวังอย่างหนัก
เมื่อกี้ ยันต์หยกเกิดปฏิกิริยาแรงมาก ดังนั้นก็หมายความว่า คนที่ร่างกายมีพลังจุดจื้อหยิน ก็อยู่ข้างกายตัวเอง ใกล้มาก
แต่ทำไมจู่ๆจึงได้หายไป นั่นก็หมายความว่าเธอได้จากไปแล้ว
เฉินเกอก็ได้วิ่งลงไปชั้นล่างของโรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อค้นหาดูรอบๆอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่เจอ
จนกระทั่งเฉินเกอจะเดินกลับไป
หม่าเสี่ยวหนานก็ได้เดินออกมาพอดี
“เมิ่งซีได้หลับอยู่บนเตียงของคนเฝ้าไข้แล้ว ช่วงเวลานี้แรงกดดันของเธอเยอะมาก เหนื่อยมากด้วย เสี่ยวเกอ เรากลับกันเถอะ!”
หม่าเสี่ยวหนานกล่าว
“แต่ว่า ฉันยังกังวลความปลอดภัยของพวกเขาสองแม่ลูก!”
“วางใจเถอะ ฉันได้ให้บอดี้การ์ดแอบปกป้องอยู่ห่างๆแล้ว เธอวางใจได้เลย!”
“อืมๆ เมิ่งซีบอกว่าพรุ่งนี้เธอจะไปให้การกับตำรวจเกี่ยวกับความเป็นจริง เสี่ยวเกอ ฉันหวังว่านายจะสามารถปกป้องเธอ เธอน่าสงสัยมากจริงๆ อย่าให้เธอถูกทำร้ายเป็นครั้งที่สองอีกเลย!”
“ให้เป็นหน้าที่ฉันเลย!”
ได้ยินคำพูดของเฉินเกอแล้ว
หม่าเสี่ยวหนานจึงได้พยักหน้า
สายตาเธอกะพริบผ่านพลังบางอย่าง
ขอเพียงมีเฉินเกออยู่ เธอก็รู้สึกปลอดภัยอย่างหาอะไรมาเปรียบไม่ได้ ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา หม่าเสี่ยวหนานก็ไม่กลัว เพราะว่ามีเฉินเกออยู่
เธอถึงขั้นคิด หากสามารถแต่งงานกับเฉินเกอ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มันจะมีความสุขขนาดไหน
เธอไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ยิ่งไม่ต้องการเงินทองของเฉินเกอ แค่ต้องการใช้ชีวิตด้วยกันสองคนเท่านั้น
แต่ว่าหม่าเสี่ยวหนานนั้นรู้ดี ในใจของเฉินเกอยังคงรักและคิดถึงซูมู่หานที่หายตัวไป
ตัวเอง……….ไม่ควรที่จะเห็นแก่ตัวแบบนี้
ในใจมีความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้ เฉินเกอยิ่งห่วงใยดูแล ความเจ็บปวดในใจนี้ก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น
เสร็จธุระ เฉินเกอจึงได้ส่งหม่าเสี่ยวหนานกลับบ้าน แม่ของหม่าเสี่ยวหนานได้ทำกับข้าวใหม่ กินข้าวตรงนี้เสร็จ เฉินเกอจึงได้กลับไปที่วิลล่า
“สามีคะ เป็นยังไงบ้าง?”
และอีกฝั่งหนึ่ง หยางเยี่ยนกำลังออดอ้อนถามสามีของตัวเอง
“แม่งเอ้ย มันน่าสงสัยจริงๆ พวกไอ้หัวใหญ่ติดต่อไม่ได้แล้ว ผมไปเช็ดที่โรงพยาบาลแล้ว เมิ่งซีและแม่เหมือนจะทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลแล้ว สรุปก็คือไม่ได้อยู่ห้องนั้นแล้ว นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
สามีของหยางเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วกล่าว
“ไม่แน่พวกไอ้หัวใหญ่น่าจะกำลังเสพสุขอยู่ ก็เลยลืม แม่ของเมิ่งซีไม่มีเงินมากพอในการชำระค่ารักษาพยาบาล อาจจะถูกโรงพยาบาลไล่ออกไปก็ได้ เดี๋ยวฉันโทรหาไอ้หัวใหญ่อีกที นานขนาดนี้แล้ว ถึงแม้จะเสพสุข ก็น่าจะเรียบร้อยแล้วนะ!”
หยางเยี่ยนกล่าว
“ดี ผมได้อาศัยสายสัมพันธ์ ตรวจสอบประวัติของเจ้าหนุ่มน้อยคนนั้นแล้ว รอพรุ่งนี้หาโอกาสเหมาะ จะให้มันเห็นความเก่งกาจของผมบ้าง! แต่ว่าน่าแปลกทีเดียว พวกเขาเหล่านั้น จนป่านนี้แล้วยังไม่ติดต่อกลับมา”
สามีของหยางเยี่ยนยิ้มอย่างเย็นเยือก
เวลานี้ โทรศัพท์ของเขามีข้อความเข้ามาเยอะพอสมควร
ราวกับว่าคุณเหล่านี้หารือกันแล้วส่งมาหาเขาพร้อมกันยังไงอย่างนั้น
สามีของหยางเยี่ยนรีบร้อนเปิดอ่าน
“แม่งเอ้ย หมายความว่ายังไงเนี่ย?”
สามีของหยางเยี่ยนอ่านข้อความเสร็จ คิ้วขมวดเข้าหากันทันที
“เป็นอะไรคะสามี?”
หยางเยี่ยนพูดอย่างออดอ้อน ขอเพียงสามีช่วยเธอกำจัดหม่าเสี่ยวหนาน อย่างนี้แล้วหยางเยี่ยนรู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
“คนเหล่านี้ ส่งข้อความที่เหมือนกันมาผม เนื้อหาในข้อความมีเพียงสี่ตัวอักษรเท่านั้น”
สามีของหยางเยี่ยนส่ายหัว
“สี่ตัวอักษรอะไร?”
“ขอให้โชคดี!”