ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 619
บทที่ 619 ช่วยเราถ่ายรูปหน่อย
โวง!
เสียงไดนามิกของมอเตอร์ดังขึ้น
รถลัมโบร์จอดลงอย่างอุกอาจท่ามกลางสายลมเเละใบไม้ที่ร่วงลงมา
และเป็นเพราะการปรากฏตัวของรถคันนี้
ทำให้บรรยากาศตรงนั้น ทุกอย่างได้หยุดชะงักลงทันที
“นี่นี่นี่……..ลัมโบร์กีนีเรนเบนตัน?”
ทุกคนแทบไม่สามารถซ่อนความตกใจบนใบหน้าได้
ราวกับว่าภาพที่อยู่ตรงหน้า เป็นเพียงแค่ความฝัน หากตื่นแล้ว อะไรก็จะไม่มีแล้ว
เรนเบนตัน สิบแปดล้านหยวน
เริ่มแรก รถของชายลึกลับคนนั้น ก็คือเรนเบนตันรุ่นลิมิเต็ด ราคาสิบแปดล้านหยวน
และตอนนี้ กลับมีรถที่เหมือนกันปรากฏอยู่ตรงนี้
นี่มันก็เหมือนกับตำนาน ที่ทุกคนต่างรอคอยอย่างเนิ่นนาน รู้สึกว่าไม่มีวันที่จะเป็นจริงได้
แต่แล้ววันหนึ่ง เรื่องราวในตำนานกลับกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา
อีกอย่างคนในตำนานยังอยู่ตรงหน้าของคุณ
คุณชายลู่ก็ตกตะลึงเช่นกัน
ชั่วขณะนั้นก็รู้สึกมือไม้อ่อนแรง
“นี่นี่นี่ หรูไปแล้วมั้ง!”
คุณชายลู่คิดในใจ
กำลังจะถอยรถออก
และเฉินเกอ ก็ได้เดินลงมาจากรถ
หญิงสาวทั้งหมดต่างกรีดร้องตีโพยตีพายอย่างบ้าคลั่ง
มีหญิงสาวจำนวนไม่น้อยได้เอามาล้วงเข้าไปในปาก ยังมีคนที่เกาหน้าตัวเองจนเป็นแผล
ช็อก ช็อกมากจริงๆ!
“ว้าว วีแชทของพี่คืออะไรคะ?”
“พี่มีแฟนหรือยังคะ?”
หญิงสาวต่างรายล้อมเข้ามาคุยด้วย
“คุณชาย พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้!”
ก็มีหนุ่มน้อยหลายคน รีบร้อนจะถอยรถออกไปจากที่ตรงนี้
“ช้าก่อน!”
เฉินเกอมองดูพวกเขา กล่าวอย่างเย็นชา
ทุกคนต่างถูกสะกดด้วยเสียงนี้ ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านในชั่วพริบตาเดียว หยุดอยู่ตรงจุดเดิม!
“ฉันขอถามพวกนาย แข่งขันกันแบบนี้มีความหมายอะไรเหรอ?”
เฉินเกอกล่าวอย่างเย็นชา
ขณะนั้น หนุ่มน้อยหลายคนต่างก้มหน้า พูดไม่ออก
“นายมีเงิน ก็ต้องมีคนที่มีมากว่านาย ตอนที่นายรู้สึกว่านายรวยกว่าคนอื่นนั้น ยังมีคนทีรวยมากว่านายหลายร้อยเท่า จะแข่งกันได้ตลอดมั้ย?”
“กำลังความสามารถบางอย่าง เก็บเอาไว้ไปดูแลคนในครอบครัวที่รักพวกนายดีกว่า มาอวดรวยแถวนี้กันทำไม?”
เฉินเกอกล่าวอย่างเรียบเฉย
หนุ่มน้อยหลายคนต่างหน้าแดงกันหมดแล้ว ต่างก็พยักหน้ารับ
“ใช่ๆ คุณชายคนนี้ดีที่สุด คุณชายหยางคุณชายลู่ ไม่สามารถเทียบกับคุณชายคนนี้ได้เลย?”
“คุณชาย ตอนนี้ฉันได้เห็นคุณ ถึงได้รู้ว่าอะไรคือความสุขุมเยือกเย็น ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน คุณพูดได้ถูกต้องที่สุด!”
หญิงสาวหลายคนได้รายล้อมเข้ามาที่เฉินเกอ ยิ่งมีหญิงสาวบางคนที่มองเฉินเกอ น้ำในตาจะไหลออกมาแล้ว
กล่าวด้วยความเสน่หา
“ยังมีพวกเธอด้วย!”
เฉินเกอผลักหญิงสาวคนหนึ่งที่เกาะอยู่ร่างของตัวเองออก
ชี้ไปที่พวกเธอแล้วกล่าวอย่างเย็นชา:
“ดูสิแต่ละคนใส่เสื้อผ้าอะไรกัน? พูดถึงเธอนั่นแหละ ใส่แค่ทีเชิ๊ตตัวเดียว ข้างล่างไม่ใส่กางเกงเลย? เป็นผู้หญิง ไม่รู้จักอายเหรอ!”
“นี่เธอนี่เธอ เกินไปหน่อยนะ เสื้อตัวบนเป็นเชือกถักใช่ไหม? ทำไมถึงต้องโชว์ให้คนอื่นดูด้วย ทำไมถึงไม่ใส่ให้มันมิดชิดบ้าง?”
เฉินเกออยากจะบ้าตาย
โดยเฉพาะที่เห็นกลุ่มหนุ่มสาวที่บูชาเงินทองเหล่านี้
เฉินเกอเพียงอยากจะบอกพวกเธอ ทะนุถนอมคนข้างกายให้ดี ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า หากถึงเวลาไม่มีทุกอย่างแล้ว จะได้ไม่เสียภายหลัง
ขณะนั้น เฉินเกอก็ด่าอย่างหัวเสียง
หญิงสาวหลายคนถูกเฉินเกอด่าจนร้องไห้
“แยกย้ายกันให้หมด!”
เฉินเกอโบกมือไล่ ไล่คนเหล่านี้ไปทั้งหมด
จอดรถของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ในใจก็คิดว่าสังคมสมัยนี้มันเป็นอะไรไปแล้ว?
มันเงินแล้วมันวิเศษมากเหรอ!
หากมีเงินแล้วสามารถจัดการได้ทุกอย่าง ตัวเองก็ไม่ต้องตามหาอะไรแบบนี้
มองดูรอบๆมหาวิทยาลัย เฉินเกอยังคงต่อไปหาคนที่ร่างกายมีพลังจุดจื้อหยินต่อไป ก้าวฝีเท้าเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย
เรื่องเมื่อกี้เป็นเพียงเรื่องที่แทรกมาเล็กๆน้อยๆ
ห่างไปสองปี ได้กลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง เฉินเกอมีความคิดมากมาย
มีคำพูดหนึ่งพูดว่ายังไงนะ ชีวิตก็เหมือนวงกลมวงหนึ่ง หมุนไปหมุนมา ไม่ว่าจะจนหรือรวย สุดท้ายแล้ว ก็จะกลับไปสู่จุดที่เริ่มต้น
ตอนนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง
ก็ได้เริ่มต้นจากตรงนี้
ตัวเองอยู่ตรงนี้ ได้รับข่าวสารว่าเป็นผู้สืบทอดหมายเลขหนึ่งของตระกูลเฉิน
และก็อยู่ตรงนี้ ได้พบเจอกับผู้หญิงที่ตัวเองรักมากที่สุด
ร้านชานมไข่มุกที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยยังคงอยู่เหมือนเดิม เถ้าแก่ก็ยังเป็นคนเดิม
จำได้ตอนแรก ซูมู่หานที่ซื้อชานมอยู่ลืมเอากระเป๋าสตางค์มา ตัวเองได้ช่วยเขาจ่ายเงิน นั่นคือการเจอกันครั้งแรกของเขาและเธอ
ความรักของเขากับซูมู่หานในตอนนั้น บริสุทธิ์มาก
ไม่ได้หวือหวาอะไร และก็ไม่ได้มีอุปสรรคอะไร
ก็แค่เพียง ฉันชอบเธอ เธอชอบฉัน ฉันอยากจะเป็นแฟนเธอ เป็นอะไรที่บริสุทธิ์จริงๆ
แต่สิ่งที่สวยงามเหล่านี้ ไม่มีแล้ว
เฉินเกอถึงขั้นมีความคิดอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือตัวเองไม่อยากเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเฉิน
ตัวเองอยากจะกลับไปเป็นนักศึกษาจนๆคนหนึ่ง ซูมู่หานนั้นก็ไม่ได้รังเกียจที่ตัวเองไม่มีเงิน
ทั้งสองอยู่ด้วยกัน หลังจากจบแล้วก็หางานทำ หรือว่าหากมีเงินมากพอแล้ว ก็เปิดร้านชานมไข่มุก แต่งงานมีลูก มีครอบครัวที่น่ารัก มันจะดีแค่ไหน
เฮ้ย คิดไปคิดมา เฉินเกอก็ยิ้มอย่างเศร้าใจ
ตอนนั้นไม่มีใครจะรู้ว่าตอนนี้มันจะเจ็บปวด!
“เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย! หนุ่มหล่อ นายเหม่อไปตั้งห้านาทีแล้วนะ นายเป็นอะไรหรือเปล่า?”
และในขณะที่เฉินเกอคิดไปเรื่อยเปื่อยนั้น หญิงสาวที่มัดผมหางม้า ไม่รู้ว่ามาถึงด้านหน้าของเฉินเกอเมื่อไหร่
ใช้มือโบกไปมาที่หน้าของเฉินเกอ กล่าวอย่างยิ้มแย้ม
“หือ? เป็นอะไร?”
เฉินเกอตั้งสติแล้วมองเธอ
“ปัดโธ่!”
หญิงสาวที่มัดผมหางม้าอดไม่ได้ที่จะขำ
คนคนนี้ซื่อบื่อจัง เห็นเขาเหม่อลอยแต่ไกลๆแล้ว กลางวันแสกๆ คิดอะไรของเขานะ?
หญิงสาวกล่าว: เพื่อนในหอพักจะถ่ายรูปหมู่ที่ลำธาร อยากหาคนช่วยพวกเราถ่าย สุดหล่อพอจะมีเวลา ไปช่วยพวกเราถ่ายรูปหน่อยได้ไหม?
หญิงสาวมองเฉินเกอที่หน้าตาสะอาดสะอ้าน มองเฉินเกออย่างถูกชะตา
“อ้อๆ ได้สิ!”
เห็นหญิงสาวพูดไป พลางยื่นกล้องมาที่ด้านหน้าของตัวเองแล้ว
เฉินเกอก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอะไร
“อืมนั่น นายระวังหน่อยนะ กล้องนี้แพงมากเลย ใช่แล้ว นายใช้เป็นป่ะ?”
หญิงสาวเห็นเฉินเกอ แต่งตัวธรรมดา กังวลว่าเขาจะใช้ไม่เป็น แล้วกดมั่วจนกล้องพัง
“ใช้เป็น!”
เฉินเกอพยักหน้า
เวลานี้ที่ลำธาร
มีหญิงสาวห้าหกคน กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน
วันนี้อากาศดีมาก เพื่อนๆได้ชวนกันออกมาถ่ายรูป นี่ก็ใกล้จะขึ้นปีสองกันแล้ว ก็อยากจะเก็บรูปไว้เป็นที่ระลึก
และรอบๆนั้น ถึงแม้จะมีคน เพียงแต่ว่า ส่วนใหญ่จะเป็นคู่รักที่มาเดินเล่นที่แถวลำธาร บางคู่กอดกันเธอกัดฉันฉันกัดเธอ
ก็ไม่กล้าที่จะไปรบกวนพวกคู่รัก
“หยวนหยวนเป็นไรหรือเปล่า ฉันเห็นเธอหาได้แล้วนะ ทำไมยังไม่พาเขามาอีกล่ะ?”
“มาแล้วมาแล้ว แฮ่ๆ เห็นคนที่เธอหามาได้ยังเป็นหนุ่มหล่อเสียด้วย!”
เวลานี้มีหญิงสาวพูดอย่างยิ้มๆ
“เช้อ ฉันมองไม่ออกว่าหล่อ ก็ธรรมดาป่ะ!”
มีหญิงสาวบางคนส่ายหัว
“เอาละ พวกเธอคิดอะไรกัน คนเขามาช่วยพวกเราถ่ายรูป เกรงใจเขาหน่อย!”
คนที่ยืนอยู่ตรงกลาง หญิงสาวผมยาวที่เป็นหัวหน้า อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา