ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 632
บทที่ 632 คุณเข้าใจฉันผิด
ในไม่ช้า คนงานหลายพันคนก็เข้าประจำตำแหน่ง
เนื่องจากเราต้องการเปิดเจาะภูเขา แน่นอนว่าคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนย่อมต้องถูกทำลายทิ้ง
ข่าวนี้ ยังได้รับความสนใจจากผู้คน และถูกแพร่กระจายไปยังอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว
เพียงช่วงเวลาหนึ่ง ก็ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมากมายในเมืองจินหลิง
“คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนถูกรื้อถอน? ”
“ใช่ แม่เจ้า คฤหาสน์แปดพันล้านคิดจะรื้อถอนก็รื้อถอน ช่างร่ำรวยเกินเบอร์แล้วจริงๆ! ”
แฟนๆ กลุ่มหนึ่งกล่าว
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนกลับไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ มาก่อน
เนื่องจากหากหลี่เจิ้นกั๋วต้องการทำเรื่องใดๆ เขาไม่มีความคำเป็นที่จำต้องบอกกับผู้ใต้บังคับบัญชาก่อน
แต่ในสายตาของฝ่ายบริหาร คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัยธรรมดาทั่วไป
มันถูกออกแบบมาจากแรงใจของวิศวกรจำนวนมาก หากจะบอกว่ามันคืออาคารหลังหนึ่ง ให้เอ่ยว่ามันคือผลงานศิลปะยังคงจะดีเสียกว่า
“ใครให้พวกคุณมารื้อถอน? พวกคุณช่างกล้านัก! รู้ไหมว่าที่นี่เป็นที่ของใคร?”
หญิงสาวอายุประมาณยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปีคนหนึ่ง กำลังเอ่ยกับหัวหน้าคนงานก่อสร้างด้วยความโมโห
“ฮ่าฮ่า ใครให้พวกเรารื้อถอน? แน่นอนว่าต้องเป็นประธานหลี่ หากมีปัญหาอะไร เธอไปหาประธานหลี่โดยตรง!”
หัวหน้าคนงานยิ้มอย่างเย็นชา
ปล่อยให้หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความโกรธ
เธอเงยหน้าขึ้นมองทีมก่อสร้างบนยอดเขา จากนั้นจึงขมวดคิ้ว แล้วเดินขึ้นไป
ตูม เสียงดังขึ้น
เมื่อเธอขึ้นมา ก็เห็นเข้ากับกำแพงของคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนที่กำลังถูกทำลายลงพอดี
คิดจะห้ามก็สายเกินกว่าที่จะหยุดแล้ว
จากนั้น เธอก็ด่าคนกลุ่มนั้นอย่างหยาบคายด้วยความเจ็บปวดใจ
เฉินเกอเองก็กำลังอยู่ในสวนของคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน
“คุณชายเฉิน เวลาที่เร็วที่สุดที่ทำได้คือสองวันสองคืน! ”
หลี่เจิ้นกั๋ว มองไปที่เฉินเกอ
“ผมเข้าใจ ประธานหลี่ สองวันนี้ลำบากคุณแล้ว จับตาดูอยู่ที่นี่ หากมีข่าวคราวอะไร ให้บอกผมทันที!”
เฉินเกอเอ่ย
“ผมเข้าใจคุณชายเฉิน!”
ในเวลานั้นเอง มีผู้คุ้มกันคนหนึ่งรีบเข้ามา
“คุณชายเฉิน มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังสร้างปัญหาอยู่ข้างนอกและขัดขวางความคืบหน้าของโครงการ เธอเป็นคนในกลุ่มจินหลิง ผมขอสอบถาม ไม่ทราบว่าสามารถใช้กำลังบังคับขับไล่ออกไปได้ไหม? ”
ผู้คุ้มกันเอ่ยถาม
“บัดซบ สิ่งที่คุณชายเฉินต้องทำ ไม่ว่าใครเข้ามาขัดขวาง ก็จงไล่ไปซะ! ”
หลี่เจิ้นกั๋วเอ่ยอย่างเย็นชา
“เธอ….เธอบอกว่าเธอชื่อถังหรัน ขอแค่เอ่ยชื่อนี้ ประธานหลี่ก็จะทราบเอง! ”
บอดี้การ์ดกล่าว
“ถัง….ถังหรัน?”
หลี่เจิ้นกั๋วนิ่งงันไป จากนั้นจึงเหลือบมองที่เฉินเกอ
ถังหรันคือใคร?
เธอคือลูกพี่ลูกน้องคนที่สองของซูมู่หาน
เทียบเท่ากับพี่สาวของคุณชายเฉิน คราวนี้ แม้ว่าหลี่เจิ้นกั๋วจะมีความอหังการมากแค่ไหนก็ยังต้องสลายหายไปหมด
ถังหรัน ไม่ใช่คนที่เขาหลี่เจิ้นกั๋วจะสามารถไปยั่วยุได้
ส่วนเฉินเกอเมื่อได้ยินชื่อของเธอ ก็ตกใจไปเล็กน้อย
พี่สาวของมู่หาน?
กับถังหรัน ก็มีการไปมาหาสู่กันไม่น้อยในก่อนหน้านี้
อีกทั้งเธอเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับมู่หาน
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เฉินเกอไม่เพียงแต่คิดถึงแค่มู่หานและครอบครัวของเขาเท่านั้น แต่สถานการณ์ของตระกูลของมู่หาน เฉินเกอเองก็ยังไม่ลืมที่จะดูแล
หากเราสามารถชดเชยได้ เฉินเกอล้วนชดเชยให้
ให้ตระกูลซูได้มีชีวิตอยู่อย่างไร้กังวลไปอีกหลายชั่วอายุคน นี่คือสิ่งเดียวที่เฉินเกิอสามารถทำให้ได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเฉินเกอจะกลับไปที่จินหลิง และตอนนี้ก็มาที่จินหลิง
แต่สำหรับคนในตระกูลมู่หานเฉินเกอมักมีความรู้สึกผิดที่ไม่อาจบรรยายได้อยู่
ไม่ว่าจะอย่างไร มู่หานติดตามตน ตอนนี้เธอหายไป นั่นก็เพราะว่าตนเองดูแลเธอได้ไม่ดี
ดังนั้นเฉินเกอจึงไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับพวกเขาอย่างไรมาโดยตลอด
เฉินเกอหวาดกลัว การเผชิญหน้ากับพวกเธอ ทำให้เขากลัวจนเกาะกลุ่มเป็นก้อนขึ้นมา
ในตอนนั้นเองหน้าคฤหาสน์
“พวกแกปล่อยฉัน! ปล่อย!”
ถังหรันกำลังพยายามดิ้นรนเรื่องจากถูกผู้คุ้มกันหลายคนลากออกไป
“หยุดมือ! ”
ในเวลานี้เองก็มีเสียงดังขึ้น เป็นเฉินเกอที่เดินเข้ามา
“เฉินเกอ?”
ถังหรันเมื่อเห็นเฉินเกอ ก็ประหลาดใจอย่างยิ่ง
ตั้งแต่น้องสาวของเธอหายตัวไป เธอก็ไม่เคยเห็นเฉินเกออีก อีกทั้งยังไม่เคยได้รับข่าวสารใดใดของเฉินเกอต่อ
ในสายตาของถังหรัน เหอะเหอะ น้องสาวของตนเองหายตัวไป
ส่วนเฉินเกอคือใคร?
เฉินเกอเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเฉิน มีความมั่งคั่งร่ำรวยมากมาย
แล้วเขาจะมาจดจำน้องสาวของตนอยู่ตลอดเวลาได้ยังไง?
บางที การตายของน้องสาว เขาเองก็วางตัวเอาไว้ข้างนอกมาตั้งนานแล้วเสียด้วยซ้ำ
ก็แค่ส่งหลี่เจิ้นกั๋วมาออกหน้าเพื่อเอาใจทั้งตระกูลซูของพวกเขา
หลี่เจิ้นกั๋วเอ่ย ไม่ว่าตระกูลซูจะมีเรื่องอะไร ล้วนแล้วแต่สามารถขอความช่วยเหลือจากพวกเขาได้ พวกเขารับรองว่าจะออกไปช่วยเหลือตระกูลซู
แต่สมาชิกในครอบครัวและเพื่อนๆ ของตระกูลซูทุกคนล้วนเข้าใจดีว่านี่เป็นเพียงคำพูดที่สุภาพของคุณชายเฉินเพื่อแสดงออกถึงความเสียใจเท่านั้น
หลังจากที่มู่หานหายตัวไป ตระกูลซูยังจะเหลือความสัมพันธ์อะไรกับเฉินเกออีก?
ไม่มี ไม่เหลืออีกต่อไป
แน่นอนว่า มู่หานหายไป พวกเขาตระกูลซูก็ไม่กล้าอาจเอื้อมไปหาญาติผู้นี้ สำหรับความช่วยเหลือของหลี่เจิ้นกั๋วก็ล้วนเอาแต่ปฏิเสธมาโดยตลอด
หากไม่ใช่เพราะพวกเขาต้องการรื้อถอนคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน ถังหรันคงไม่โกรธขนาดนี้ อีกทั้งยังไม่มีทางเอ่ยถึงหลี่เจิ้นกั๋วแน่
อีกทั้งยังมีอีกสาเหตุหนึ่ง
คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนเดิมเป็นห้องแต่งงานของเฉินเกอและซูมู่หาน
แต่ตอนนี้? หึหึ!
ไร้สำนึกบุญคุณ!
ทั้งร่างของถังหรันถูกจุดประกายด้วยความโกรธ
แต่ตอนนี้ เมื่อได้เห็นผู้ชายคนนี้อีกครั้ง
ดูเหมือนเขาจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน อีกทั้งยังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ทั้งร่างกำลังเปล่งรัศมีของผู้นำออกมา
“พี่ถังหรัน! เป็นอย่างไรบ้าง! คุณสบายดีไหม?”
เฉินเกอพยักหน้าเล็กน้อยและเอ่ย
“เหอะเหอะ ไม่กล้ารบกวนคุณชายเฉิน อีกทั้งถังหรัน ไปเป็นพี่สาวของคุณชายเฉินตอนไหนมิทราบ พวกเราตระกูลซู ไม่กล้าอาจเอื้อมนับญาติกับคุณชายเฉิน! ”
ถังหรันพูดอย่างเย็นชา
“บัดซบ พูดกับคุณชายเฉินแบบนี้ได้ยังไง? ”
เมื่อกลุ่มบอดี้การ์ดได้ยินคำถากถางของถังหรัน เขาก็ส่งเสียงขึ้นทันที
“ไม่ใช่ธุระของพวกนาย ออกไปจากที่นี่! ”
เฉินเกอกล่าวอย่างเย็นชา
บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นจึงจากไปด้วยความเคารพ
ราวกับว่าคำพูดของเฉินเกอ แฝงไปด้วยประกายเย็นชาอำมหิต จนทำให้คนต้องหวั่นเกรง
แม้แต่ถังหรันเองก็ยังรู้สึกได้เช่นกัน
เธอมองเฉินเกออย่างแปลกใจที่ ผู้ชายคนนี้ เพียงแค่สองปีสั้นๆ จะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ได้อย่างไร?
ตอนนั้นเขายังเป็นคนขี้อายอยู่บ้าง มาตอนนี้ กลับมีท่าทางเป็นเช่นนี้ไปแล้ว
“ผมรู้ว่าพี่ถังหรันเข้าใจผิดกับผมอยู่บ้าง เรื่องการหายตัวไปของมู่หานเป็นผมที่ดูแลเธอได้ไม่ดู ผมมีส่วนต้องรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง พี่คิดว่าผมลืมมู่หานไปตั้งนานแล้วใช่ไหม?”
เฉินเกอมองไปที่ถังหรัน
ถังหรันเอ่ยเสียงเรียบ “ทำไม? ยังไม่ลืมหรือไง?”
เฉินเกอดึงถุงหอมเล็กๆ ออกจากกระเป๋าอย่างระมัดระวัง
เมื่อมองเห็นถุงหอมใบนั้น ถังหรันก็นิ่งงันไป
นี่คือสิ่งที่ซูมู่หาน ให้ เฉินเกอเมื่อก่อนหน้านี้ เป็นสิ่งที่เธอทำด้วยตนเอง ตอนนั้นเธอมาเรียนกับแม่ของตน เพียงแต่น่าเสียดายที่ เธอปักออกมาเสียดูไม่ได้ หลังจากพยายามปักไปทั้งคืน สุดท้ายก็ยังคงทำออกมาเป็นเป็ดแมนดารินตัวน้อยคู่หนึ่ง
ตอนนั้น เพราะเรื่องนี้ ถังหรันหัวเราะแทบตาย
เธอบอกว่า เธอจะมอบสิ่งนี้ให้กับชายหนุ่มที่เธอรักที่สุด อีกทั้งยังเป็นคนที่เธอรักที่สุดอีกด้วย จะต้องไม่รังเกียจฝีมือย่ำแย่ของเธออย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ ถุงหอมนี้ก็ยังคงอยู่บนตัวของเฉินเกอ
“ผมไม่มีทางลืมทุกรายละเอียดในชีวิตของพวกเรา อีกทั้งยังไม่มีทางลืมมู่หานได้ ผมพยายามตามหาเธอมาโดยตลอด ขอแค่ผมสามารถหาเธอได้พบ ผมยินดีที่จะเดินทางไปทั่วทุกมุมโลก ต่อให้เป็นก้นมหาสมุทรก็ตาม! ดังนั้นพี่ถังหรัน คุณเข้าใจผมผิด!”