ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 634
บทที่ 634 ทุกอย่างมีฉัน
แต่ตอนนี้ล่ะ หลานสาวของเธอหายไป ส่วนทายาทเศรษฐีคนนั้น ก็ลืมพวกเขาตระกูลซูไปนานแล้ว
“ซินหัว ตอนนี้เธอกำลังเสียดายใช่ไหม ตอนแรกหลานชายของฉันเอาแต่ไล่ตามมู่หานหลานสาวของเธอ”
“เฮ้อ ฉันรู้ว่าเธอเองก็ไร้หนทาง ในเมื่อนี่เป็นเรื่องของพวกเด็กๆ ไหนเลยที่ในบ้านจะกำหนดได้ ไม่อย่างนั้นมู่หานคงจะไม่โกรธจนไปเรียนต่อที่เกาะฮ่องกง บางทีตอนนี้เธออาจแต่งงานกับหลานชายของฉันไปแล้วก็ได้ หากทั้งคู่เปิดบริษัทด้วยกัน จะดีขนาดไหน”
ทันทีที่ เว่ยกุ้ยฟางพูดจบ แขกหลายคนที่อยู่รอบตัวเขาก็ส่ายหัวด้วยความเสียใจ
ช่างน่าเสียดายจริงๆ!
มีคนหลายคนที่เห็นด้วย
ส่วนคนทั้งตระกูลซู ตอนนี้ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูโก๋เฉียงและหวังหุ้ยหมิ่น คนที่หายไปคือบุตรสาวของพวกตน ส่วนเว่ยกุ้ยฟางหญิงชรากลับหยิบยกเอาเรื่องของ มู่หานมาพูดซ้ำๆ กระตุ้นความรู้สึกเศร้าโศกของพวกเขา จนตอนนี้ขอบตาของพวกเขาเปียกปอนและแดงก่ำไปหมด
อีกทั้งซูมู่หานยังเป็นหลานสาวคนโปรดของ จางซินหัวเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต ดังนั้นในใจของเธอจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดซับซ้อน เสียใจ อิจฉา ดังนั้นเมื่ออารมณ์ทั้งหมดมารวมตัวกันจึงเกิดเป็นความรู้สึกไม่สบอารมณ์
ในอดีตมู่หานคบกับเสี่ยวเกอ คนพวกนี้หลังจากรู้ว่าแฟนของ มู่หานร่ำรวย พวกเขาก็ปลื้มประจบ แต่มาตอนนี้ หากต้องการคิดจะขอร้องกลับไป ยังอดใจรอที่จะได้เห็นเรื่องสนุกๆ จากพวกตนแทบไม่ไหว?
หญิงชราพูดไม่ออกและนั่งลงบนโต๊ะ
เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงที่ตระกูลซูนั่งอยู่ที่นี่ และมองดูท่าทางการแสดงออกของผู้คนรอบด้าน มีคนไม่น้อยที่รู้สึกราวกับกำลังนั่งบนเก้าอี้เข็ม
ในขณะที่ตระกูลซูกำลังรู้สึกอับอาย จู่ๆ คนรับใช้จากด้านนอกคฤหาสน์ก็เข้ามา
ด้านหลังของเขาตามมาด้วยชายและหญิง ซึ่งก็คือเฉินเกอและถังหรัน
เนื่องจากสุขภาพของคุณยายไม่ดีนัก ดังนั้นในช่วงนี้ถังหรันจึงมักอยู่เคียงข้างคุณยายอยู่ตลอด
วันนี้หากไม่ใช่เพราะตอนที่ทุกคนกำลังออกมาพร้อมกัน และได้ยินว่าคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนกำลังถูกคนรื้อถอน เธอเองก็คงอยู่ที่นี่ไปด้วยเช่นกัน
และตอนนี้เธอถึงค่อยมาแล้ว
“เฉินเกอ?”
เมื่อตระกูลซูเห็นคนที่อยู่ข้างๆ ถังหรัน ก็ล้วนอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
นั่นเพราะชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเฉินเกอ?
ทำให้คนรู้สึกเหมือนตกอยู่ในความฝัน?
เฉินเกอเขามาอยู่กับหรันหรันได้ยังไง?
แล้ววันนี้ เฉินเกอมาได้ยังไง?
ทุกคนมองไปด้วยความประหลาดใจ
“นี่ไม่ใช่ถังหรันหรอกหรือ? ทำไมถึงพึ่งมาเอาป่านนี้ คนที่มาด้วยกันกับเธอคือใครหรือ? เป็นแฟนของเธอรึเปล่า?”
เว่ยกุ้ยฟางคุ้นเคยกับ จางซินหัวอย่างยิ่ง ดังนั้นเธอจึงรู้จักญาติสนิทมิตรสหายของจางซินหัวเป็นอย่างดี
ถังหรันเป็นหลานสาวของเธอ นอกจาก ซูมู่หานแล้ว ถังหรันก็เสมือนหัวใจของเธออีกก้อนหนึ่ง
เมื่อเห็นเด็กสาวมาถึง เว่ยกุ้ยฟางก็ต้องทำการสอบถามสักหน่อย
ในไม่ช้า เสี้ยวจูนหลานชายของ เว่ยกุ้ยฟางและลูกสะใภ้หมาดๆ ของเธอก็เข้ามา เช่นเดียวกับหลานสาวของเธอเสี้ยวเชี่ยนเองก็เข้ามาพร้อมกับสามีเช่นกัน
“คุณยาย!”
“คุณยาย!”
พวกเธอร้องขึ้นพร้อมเพรียงกัน
ในเวลาเดียวกัน เสี้ยวจูนก็หันไปมองถังหรัน
“ที่แท้เป็นพี่หรันหรันนี่เอง ไม่เจอกันตั้งนาน พี่หรันหรันดูเหมือนจะสวยขึ้นกว่าเดิมอีก!”
เสี้ยวจูนฝืนยิ้ม
“พี่หรันหรันคือใครหรือ? สามี คุณสนิทกับเธอมากหรือคะ?”
ด้านข้างของเสี้ยวจูนมีหญิงสาวที่แต่งตัวงดงามเอ่ยถามขึ้น
“อ้อ นี่คือคนที่ผมเคยบอกกับคุณ ลูกพี่ลูกน้องของ ซูมู่หานแน่นอนว่า ตอนนั้นเองก็เกือบจะกลายเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมแล้ว ช่างน่าเสียดาย! ”
เสี้ยวจูนหัวเราะเยาะ
“ฉันรู้แล้ว! ”
หญิงสาวกล่าวอย่างเย็นชา
เห็นได้ชัดว่า เสี้ยวจูนบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องการสู่ขอเมื่อในอดีต
“เสี่ยวจูน ทำไมถึงทักทายแค่ถังหรัน หลานลองดูคนข้างๆ ท่านนี้ เป็นแฟนหนุ่มของหรันหรัน ทำไมหลานไม่ทักทายสักหน่อย?”
เว่ยกุ้ยฟางมองเฉินเกออย่างประเมิน เขาแต่งตัวธรรมดาอย่างยิ่ง
ดูห่างไกลจากลูกเศรษฐีเหล่านั้นไปไกลอย่างยิ่ง
เธอไม่รู้ว่าถังหรันที่หยิ่งผยองมาตลอด เหตุใดถึงได้หาคนแบบนี้มาได้
จากนั้น เธอจึงเพิ่งเสียงและบอกให้ทุกคนรู้
“โอ้ ที่แท้ก็เป็นแฟนของพี่สาว! ยินดีที่ได้พบ! ”
เสี้ยวจูนกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ
และไม่ได้ตั้งใจจะจับมือทักทายกับเฉินเกอแต่อย่างใด
เพียงแต่หญิงสาวในอ้อมแขนของเขาตอนนี้ก็กำลังจ้องมองเฉินเกอขึ้นและลง
และรู้สึกว่าเฉินเกอมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“หรันหรันยอดเยี่ยมมากจริงๆ แฟนของหรันหรันคนนี้เองก็ต้องยอดเยี่ยมแน่ แนะนำให้ผู้คนรู้จักสักหน่อย! ”
เว่ยกุ้ยฟางกล่าวอีกครั้ง
“ขอโทษค่ะคุณย่าเว่ย เขาไม่ใช่แฟนฉัน วันนี้ เขาไม่ได้มาในฐานะแฟนของฉัน! ”
ถังหรันกล่าว
เธอเหลือบมองตระกูลซู
ตระกูลซูกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ
แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังอ้าปากค้างไม่พูด ได้แต่มองดูอย่างตรงๆ
แม้แต่คุณนายท่านจางซินหัวเองก็ยังตกใจอย่างยิ่งเช่นกัน จนยังไม่ได้ตอบสนองกลับมา
“อ๋อ? ไม่ใช่แฟนของหนู? แล้วมาในฐานะอะไร?”
เว่ยกุ้ยฟางคิดในใจ เสแสร้งไปทำไมกัน!
“เขาชื่อเฉินเกอ วันนี้เขามาที่นี่ในฐานะคู่หมั้นของมู่หานและเป็นตัวแทนของมู่หาน! ”
ถังหรันยืนข้างเฉินเกอและเอ่ยอธิบาย
“อะไรนะ? คู่หมั้นของซูมู่หาน? เป็นไปได้ยังไง? ซูมู่หานไม่ได้หายตัวไปหรอกหรือ? แฟนของเธอเลิกกับเธอไปตั้งนานแล้วนี่!”
เว่ยกุ้ยฟางกล่าว
ท้ายที่สุดแล้วแฟนของ ซูมู่หานก็ยังคงเก่งกาจอย่างยิ่ง จนทำให้เกิดเป็นเงามืดอันทรงพลังในใจของทุกคน
ตอนนี้เมื่อถังหรันพูดแบบนี้ ก็ทำให้แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงหลายๆ คนเงียบลงและมองมาด้านนี้อย่างเงียบ ๆ
“แฟนของซูมู่หาน? คู่หมั้น? จริงหรือ? ”
“เกิดอะไรขึ้น? ”
ผู้คนกำลังพูดถึงเรื่องนี้
“แม้ว่า มู่หานจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เมื่อในวันนี้คุณย่าเว่ยได้เชิญทุกคนในตระกูลซูมา ผมกับ มู่หานรักกันมาหลายปีอีกทั้งยังได้หมั้นหมายกันไว้ ก็ถือได้ว่าเป็นคนตระกูลซูครึ่งหนึ่ง วันนี้ผมมา คุณย่าเว่ยคงไม่ถือโทษ?”
เฉินเกอกล่าว
การหมั้นที่พูดถึงเป็นข้ออ้างของเฉินเกอ แต่ในตอนแรก ทั้งสองก็ตัดสินใจที่จะหมั้นปากเปล่าไปแล้ว เดิมทีพวกเขาวางแผนไว้ว่าหลังจากที่มู่หานจบการเรียนที่เกาะฮ่องกง เฉินเกอและมู่หานก็จะหมั้นหมายกัน แต่สุดท้าย….
อย่างไรก็ตามคำพูดนี้ เว่ยกุ้ยฟางและแขกที่อยู่รอบตัวเขาเมื่อได้ฟังเข้า
ก็ล้วนนิ่งงั่งไปอย่างมึนงง
“แม่เจ้า นี่คือคนที่คบกับมู่หานมาโดยตลอดคนนั้น? แฟนหนุ่มสุดร่ำรวยคนนั้น? ก็คือเขา?”
“เขามาแล้ว! ”
เว่ยกุ้ยฟางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“ไม่ถือโทษ ไม่ถือโทษ คุณมาได้ ก็ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งของตระกูลเว่ย”
เว่ยกุ้ยฟางรีบถอนมือออกจากมือของชายและหญิงที่ปรนนิบัติอยู่
ต่อหน้าเขา ตนเองยังจะเสแสร้งอะไรอีก
เฉินเกอและถังหรันมาถึงที่โต๊ะของจางซินหัว
“คุณย่า คุณลุงซู ป้าหวัง ผมกลับมาแล้ว! ”
เฉินเกอมองไปที่พวกเขาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เฉิน…..คุณชายเฉิน! พวกเรา … ”
จางซินหัวเพิ่งได้สติกลับมา
ครอบครัวซูของพวกเขาล้วนคิดว่า สองมีมาแล้ว คุณชายเฉินคงลืมพวกเขาไปนานแล้ว
“ไม่ว่ามู่หานจะเป็นอย่างไร หลังจากนี้ ทุกอย่างล้วนมีผมอยู่!”
เฉินเกอเดินเข้ามาหาพวกเขาและกล่าวกับคนในตระกูลซู
สมาชิกในตระกูลซู อย่างซูหยิ่งพี่สาวของ ซูมู่หานล้วนรู้สึกตื้นตันขึ้นมาจนแทบอยากจะร้องไห้
สองปีที่ผ่านมา พวกเขาได้รับความทรมานมามากเกินไปแล้ว!