ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 635
บทที่ 635 ฉันไม่ผิด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนในตระกูลซูรวมทั้งคุณนายท่านก็รู้สึกสะเทือนใจ
ตอนนี้ถึงค่อยรู้ว่าเดิมทีทุกคนเข้าใจเฉินเกอผิดไป และ มู่หานก็ดูคนไม่ผิด
เป็นเพราะการมาถึงของเฉินเกอ ทำให้บรรยากาศของงานทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างมาก
ผู้คนจำนวนมากขึ้นเริ่มมาที่ตระกูลซูเพื่อยกน้ำชาและพูดคุย รวมถึงมีบางคนเริ่มเอ่ยคำพูดเยินยอ
“คุณนายท่านเมื่อวานเป็นวันเกิดของคุณ ทำไมคุณถึงไม่ส่งคำเชิญเล่าทุกคนจะได้ไปอวยพรให้กับคุณ เฮ้อ น่าเสียดาย ไว้วันหลัง ผมต้องชดเชยให้แน่! ”
มีเถ้าแก่บางคนเอ่ยกล่าวว่า
ละครเรื่องนี้พลิกพลันไป เห็นได้ว่ามีผู้คนจำนวนมากเริ่มเข้าหา จางซินหัวโดยอาศัยงานวันเกิดของตน
ดังนั้นคนที่รู้สึกย่ำแย่ที่สุดก็คือ เว่ยกุ้ยฟางแล้ว
เดิมที เธอยังคิดจะอวดหลานสะใภ้และลูกเขย
แต่ตอนนี้ แฟนหนุ่มทรงพลังของ ซูมู่หานกลับมาแล้ว
แม้แต่เธอ ก็ยังให้ความเคารพ
และความน่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นยังมีอยู่ภายหลัง!
“คุณชายเฉิน? อะไรนะ? คุณนายท่านคุณเรียกเขาว่าคุณชายเฉินหรือ? คุณชายเฉินคนไหน?”
ผู้คนที่เข้าไปยกน้ำชาให้กับจางซินหัวเมื่อได้ยินเข้าก็ตกใจขึ้นมา
จนทำให้คนทั้งงานก็เงียบลงไปด้วย
คุณชายเฉินแห่งจินหลิงมีตัวตนแบบไหน ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอีกแล้ว
สามารถจินตนาการได้เลยว่าคำสองคำนี้ส่งผลกระทบอะไรกับพวกเราได้บ้าง
“ยังจะมีคุณชายเฉินที่ไหนอีก ก็ต้องเป็นคุณชายเฉินแห่งจินหลิงสิ! ฉันเพิ่งกลับมาจากคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน ถึงได้พบกับเฉินเกอเข้าที่นั่น!”
ถังหรันมองไปที่คนเหล่านี้แล้วตอบคำถามของคุณยาย
คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน? คุณชายเฉินแห่งจินหลิง?
คนทั้งหมดเริ่มสงบไม่อยู่ โครมตึง มีเสียงของตกกระทบพื้นดังขึ้นจากทั่วทิศทาง
นั่นเพราะในตอนนั้น ราวกับว่าคนทั้งหมดแทบลุกขึ้นยืน
ทั้งหมดล้วนมีท่าทางตกใจจนบื้อไป
แม้แต่เว่ยกุ้ยฟางเองก็ยังแทบจะหายใจไม่ออก
“จริงเหรอ? แฟนหนุ่มที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากของซูมู่หานก็คือคุณชายเฉินแห่งจินหลิง?”
“เกรงว่าคงโกหกไม่ได้ พวกเธออย่าได้ลืม ตอนนั้น ซูมู่หานมาจากมหาวิทยาลัย จินหลิง อีกทั้งคุณชายเฉินเองก็มาจากมหาวิทยาลัยจินหลิงเช่นกัน แฟนของ ซูมู่หานนั้นร่ำรวยอย่างยิ่ง คุณชายเฉินก็ร่ำรวยมหาศาล ทั้งสองคน สมควรจะเป็นคนๆ เดียวกัน ก็คือคุณชายเฉิน!”
“คุณคนน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วว่า แฟนของซูมู่หานก็คือคุณชายเฉิน! ”
ทุกคนต่างประหลาดใจ
จากนั้นจึงค่อยๆ เสียดาย เหตุใดจึงไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลซูเอาไว้ ไม่อย่างนั้น พวกเขาคงเป็นเหมือนหงส์ติดปีกไปแล้วแน่
เว่ยกุ้ยฟางแทบจะหมดลมหายใจ เธอตัวสั่นและถูกชายหนุ่มหญิงสาวประคองเอาไว้ กำลังคิดจะเข้าไปทักทาย
พระเจ้า นี่คือคุณชายเฉิน!
อีกทั้งเขาเองยังอ้างว่าเป็นลูกเขยของตระกูลซู
เทียบไม่ติด เทียบไม่ติดเลยสักนิด!
ท้องฟ้าที่แต่เดิมเป็นสีฟ้าของเว่ยกุ้ยฟางมาตอนนี้ราวกับว่ากำลังมีเมฆเข้าปกคลุมและเกิดเป็นฟ้าร้องมืดครึ้ม
ในใจของเธออ้างว้าง
“ไม่ถูกต้อง ทำไมยิ่งมองเขาฉันก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคยมากขึ้น?”
เสี้ยวจูนเองก็เตรียมเข้าไปเช่นกัน เขาเข้าไปโค้งคำนับแสดงความเคารพ
ในเวลานี้ เฉินเยี่ยนลี่ภรรยาของเขากลับกำลังเอ่ยอย่างสับสน
“เป็นอะไรไปเยี่ยนลี่? หน้าคุ้นเคยอะไรกัน รีบดข้าไป เมื่อครู่พวกเราเพิ่งจะละเลยเขาไปต้องเข้าไปขอโทษ นั่นคือคุณชายเฉินเชียวนะ!”
“ไม่! ไม่ใช่ คุณยาย คุณอย่าเพิ่งรีบร้อน! ฉันกำลังสงสัย เขาไม่ใช่เฉินเกอ!”
เฉินเยี่ยนลี่ดึงมือของคุณยายของเธอเอาไว้
“หา? ทำไม?”
“เป็นเพราะฉันรู้สึกว่า เขาคล้ายกับเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่ง ยิ่งมองเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งเหมือนเขามากขึ้นเท่านั้น!”
เฉินเยี่ยนลี่เอ่ยอย่างแน่วแน่
“เพื่อน…เพื่อนร่วมชั้นเหรอ”
เสี้ยวจูนและคุณนายท่านประหลาดใจขึ้นพร้อมกัน
เธอคิดว่านี่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ข้อแรกมันไม่น่าจะบังเอิญขนาดนี้ ข้อสองภูมิหลังของครอบครัวเฉินเยี่ยนลี่นั้นแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่จะเป็นคุณชายเฉินไปได้อย่างไร?
“เพื่อนร่วมชั้นอะไร? เยี่ยนลี่เรื่องแบบนี้ล้อเล่นไม่ได้นะ! แฟนของซูมู่หานยายรู้เรื่องมาก่อนแล้ว เขาแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ถึงขนาดหลายคนสงสัยว่าแฟนของ ซูมู่หานคือคุณชายเฉิน ตอนนี้เขาได้เปิดเผยตัวของเขาแล้ว ดังนั้นอย่าได้เข้าไปยั่วยุเขาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเราจะอยู่ต่อในจินหลิงไม่ได้!”
เว่ยกุ้ยฟางปรบมือที่ต้นขาของเธอ
“ใช่เยี่ยนลี่ เธอต้องคิดให้ดีๆ เพื่อนนักเรียนอะไร? อย่าได้จำผิดเด็ดขาด!” เสี้ยวจูนเองก็เอ่ยขึ้น
“ฉันจำไม่ผิดแน่ เขาน่าจะเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นประถมของฉัน ในตอนนั้น พ่อของฉันกำลังเติบโต และเริ่มได้ต้นจากกองกำลังใต้ดินและพัฒนาขึ้นในอำเภอผิงอัน ตอนนั้นฉันอยู่ชั้นประถมศึกษาในอำเภอผิงอัน ฉันจำได้ว่า ในชั้นของพวกเรามีผู้ชายคนหนึ่งชื่อเฉินเกอ เมื่อครู่พอพูดถึงชื่อเฉินเกอขึ้นฉันก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างยิ่ง เมื่อมองดูเขา ก็ยิ่งรู้สึกคุ้นตา เพียงแต่หลายปีมานี้ฉันเองก็จำได้ไม่ชัดว่าหน้าตาเขาเป็นยังไง ก็เลยไม่กล้ายืนยัน! ”
“แต่ตอนนี้ ฉันค่อนข้างมั่นใจ น่าจะเป็นเขาแน่!”
เฉินเยี่ยนลี่หรี่ตาลงเพื่อให้แน่ใจ
“ฉันจำได้ว่าเฉินเกอในชั้นเรียนของเราคนนั้น ครอบครัวลำบากอย่างยิ่ง เขาจนมากๆ ฉันยังจำได้อีกว่า ตอนนั้นพวกเรายังมีการพูดคุยกันด้วยเล็กน้อย! ”
“คุณยาย คุณว่าเป็นคนในตระกูลซูที่จงใจหาคนมาแกล้งหรือเปล่า?”
เฉินเยี่ยนลี่nli ถามเบา ๆ
หัวใจของหญิงชราเต้นแรง
ไม่ต้องพูด นี่อาจเป็นไปได้จริงๆ!
“อันที่จริงงานวันเกิดครั้งนี้ ฉันคิดว่าเมื่อเชิญจางซินหัวตระกูลซูไป พวกเธอจะต้องไม่มีทางมาแน่ นั่นเพราะเธอต้องรู้ว่าฉันจะต้องโอ้อวดเธอ แต่เธอกลับมาจริงๆ อีกทั้งพวกเธอก็เห็น ตั้งแต่มาถึงที่นี่ ท่าทีของเธอก็แสดงความมั่นใจแบบนั้นออกมา! ส่วนถังหรัน ปากบอกว่าไม่มา แต่ตอนนี้กลับมา อีกทั้งจู่ๆ ก็พาแฟนของ ซูมู่หานมาด้วย!”
เว่ยกุ้ยฟางเอ่ยวิเคราะห์
“เยี่ยนลี่พูดอย่างนี้ ฉันก็ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจบ้างแล้ว ที่แท้จางซินหัวก็เตรียมตัวเอาไว้นานแล้ว รอจนกระทั่งตอนนี้ ถึงได้ตงใจหักหน้าฉัน!”
เว่ยกุ้ยฟางราวกับจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้และพูดอยู่ในใจ
ยัยแก่แม่มดคนนี้ โหดเหี้ยมเสียจริง!
เสี้ยวจูนและเฉินเยี่ยนลี่ก็คิดว่าการวิเคราะห์ของคุณยายนั้นสมเหตุสมผล
“แต่ว่าเยี่ยนลี่เรื่องนี้พวกเราจะบุ่มบ่ามไม่ได้ เราต้องแน่ใจว่านี่คือเพื่อนร่วมชั้นของเธอจริงหรือไม่? ”
เว่ยกุ้ยฟางยังคงหวาดกลัวเล็กน้อย ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้น หลุมนี้คงจะใหญ่เกินไป
“ฮ่าฮ่า คุณยายไม่ต้องกังวล ตอนนี้ฉันมั่นใจอย่างยิ่ง ถ้าหากคุณยังไม่วางใจ ฉันจะยืนยันให้คุณอีกที หนุ่มเล็ก เมื่อก่อนจนขนาดนั้น มาตอนนี้กลับกล้าแสร้งทำตัวเป็นคุณชายเฉิน!”
เฉินเยี่ยนลี่มีสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม
เธอมั่นใจว่าเฉินเกอก็คือเพื่อนร่วมชั้นประถมของเธอเฉินเกอคนนั้น ก็แค่พิสูจน์ให้เห็นกับคุณนายท่านได้เห็นเท่านั้น ดังนั้นเฉินเยี่ยนลี่จึงไร้ความเกรงกลัวใดๆ
เธอเดินเข้าไปอย่างหยิ่งผยอง
ตอนนี้เนื่องจากโต๊ะของตระกูลซูมีผู้คนมากมายเข้าแถวเพื่อยกน้ำชาและแสดงท่าทีของพวกเขาอยู่
“หลีกทาง!”
เฉินเยี่ยนลี่ตะโกนเบา ๆ
“คุณหนูเฉิน!”
แขกพยักหน้าและหัวเราะ
พื้นหลังของเฉินเยี่ยนลี่ไม่ธรรมดา คุณลุงของเธอเป็นถึงผู้นำของจินหลิง เป็นผู้นำใต้ดินที่มีชื่อเสียง ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าที่จะยั่วยุเฉินเยี่ยนลี่
โดยเฉพาะนักธุรกิจอย่างพวกเขายิ่งไม่กล้า
แต่เฉินเกอกลับไม่ได้สนใจคนภายนอกเหล่านี้
ในขณะนี้ เขามีพูดคุยกับพ่อแม่และยายของซูมู่หานอย่างเต็มที่ในการ
บอกว่าตนนั้นไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาเธอเลยในตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา
ปัง!
ในขณะที่เขากำลังพูด ทันใดนั้นหัวของเฉินเกอจู่ๆ ก็ถูกกระแทกเข้าให้
จนทำให้เฉินเกอมึนไปเล็กน้อย
ที่นี่ไม่มีนักรบที่ไหน ดังนั้นเขาจึงปล่อยการเฝ้าระวังมาตั้งนานแล้ว อีกทั้งยังสัมผัสไม่ได้ถึงรังสีการฆ่าฟัน ดังนั้นจึงคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ตนเองจะถูกเล่นงานลับๆ แบบนี้
เมื่อหันกลับไปมอง เขาก็เห็นภรรยาหมาดๆ ของเสี้ยวจูนคนนั้น กำลังกอดอก และมองตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ