ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 648
บทที่ 648 ทำไมคุณถึงแซ่หลี่
“เสี่ยวหนาน? เธอมาได้ยังไง?”
คนที่เรียกตัวเองก็คือหม่าเสี่ยวหนาน
จะว่าไปก็ไม่ได้เจอหลายวันแล้ว
“วันนี้อาจารย์หนิงหย่วนมาบรรยาย ฉันมีหน้าที่รับผิดชอบในการนำนักศึกษาดีเด่นในระดับชั้นของเรามาเข้าร่วม”
หม่าเสี่ยวหนานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“บังเอิญจัง!”
เฉินเกอหัวเราะ
“นายล่ะเสี่ยวเกอ? นายสนใจกิจกรรมประเภทนี้ด้วยเหรอเนี่ย?”
หม่าเสี่ยวหนานมองเฉินเกอและถาม
ทุกครั้งที่เจอเฉินเกอ สำหรับหม่าเสี่ยวหนานแล้วมักจะประหลาดใจเสมอ
แม้ในคืนวันที่พลิกตัวไปมานอนไม่หลับครั้งนับไม่ถ้วน หม่าเสี่ยวหนานก็อยากโทรหาเฉินเกอ
ถามว่าเขาทำอะไรอยู่ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?
อย่างไรก็ตามหม่าเสี่ยวหนานเองก็ต้องหลีกเลี่ยงหักห้ามใจด้วย ไม่รู้ว่าตนเองตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เฉินเกอก็รู้ว่าตัวเองคิดอย่างไรกับเขา
แต่เธอก็เข้าใจดี ก่อนที่จะหาเจอซูมู่หาน ไม่ว่าความรู้สึกใดๆ สำหรับเฉินเกอที่ละเอียดอ่อนแล้ว ก็ล้วนไม่สำคัญสำหรับเฉินเกอ
จิตใจของเขา ไม่ได้อยู่เหนือสิ่งนี้อีกต่อไป
แต่หม่าเสี่ยวหนานไม่ยอมแพ้ และยังเตรียมการไว้แล้วหากเฉินเกอไปไหนเธอก็ตามจะไปถึงนั่น
“ฉันมา เพราะมีเรื่องจะคุยกับอาจารย์หนิงหย่วน!”
เฉินเกอไม่ได้ปิดบังอะไร
วันนี้ก็บังเอิญ ทั้งสองพูดคุยกันไป แล้วเข้าไปหาที่นั่ง
และในเวลานี้ มือถือของเฉินเกอก็ดังขึ้น
เมื่อดู ก็เห็นว่าหม่าจิ้นโทรมาหาตน
“มีอะไรเหรอคุณหม่าจิ้น?”
“คืออย่างงี้ คุณชายเฉิน รู้ว่าคุณจะมา ผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ประธานหวู หวูต้าหรง ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ยังจัดที่นั่งวีไอพีสำหรับคุณและอาจารย์หนิงหย่วนโดยเฉพาะ ผู้จัดทำต้องการให้ผมถามคุณ มาได้หรือไม่? เหอะๆ!”
หม่าจิ้นกล่าว
“ไม่ต้องแล้ว ตอนนี้ผมอยู่กับเพื่อนของผม รออาจารย์หนิงหย่วนบรรยายจบ คุณหม่าจิ้นคุณช่วยผมนัดพบกับอาจารย์เป็นการส่วนตัวก็พอ รบกวนด้วย!”
เฉินเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ได้เลยคุณชายเฉิน!”
หม่าจิ้นเรียกได้ว่านับถือเฉินเกอจนอยากจะก้มตัวลงกราบเลยทีเดียว
การได้ช่วยเหลือเฉินเกอ ถือเป็นเกียรติสำหรับเขาในตอนนี้
ขณะนี้ วางสายแล้ว หม่าจิ้นทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างเสียดายให้กับหวูต้าหรงซึ่งกำลังถูมือของเขาอย่างประหม่า
หวูต้าหรงเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก อดไม่ได้ที่จะผิดหวังเล็กน้อย
ครั้งนี้ถือได้ว่าฉันพลาดโอกาสสำคัญที่จะได้พบกับคุณชายเฉิน
เฮ้อ!
“นายยุ่งเหรอ? ถ้ามีธุระ นายไปทำก่อนก็ได้!”
หม่าเสี่ยวหนานและเฉินเกอนั่งลงข้างๆ นักเรียนของตนเอง
มองเฉินเกอและถาม
แม้จะพูดแบบนี้ แต่ในใจของหม่าเสี่ยวหนานก็กังวลเล็กน้อย กลัวว่าเฉินเกอจะไปทำอย่างอื่นจริงๆ
“ไม่ยุ่ง!”
ยังดีที่เฉินเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองพูดคุยกัน รอการเปิดกิจกรรม
และหม่าเสี่ยวหนานก็ให้ความสนใจทั้งหมดไว้ที่ตัวของเฉินเกอ ไม่ได้สนใจนักเรียนชายหลายคนที่วิ่งไปมาข้างหลัง
และในเวลานี้ เกิดเสียงดังโครมคราม
ชายคนหนึ่งวิ่งไปแย่งโทรศัพท์มือถือกับชายอีกคน และแล้วไม่ได้ระวังไปชนเข้ากับถาดไวน์ที่พนักงานเสิร์ฟถือ
เพียงแค่นี้ไม่เท่าไหร่ มีหญิงสาวสวยคนหนึ่งเดินผ่านพนักงานเสิร์ฟชายวัยกลางคนพอดี
ไวน์แดงหกใส่บนตัวเธอโดยตรง
“อ๊า!”
หญิงสาวร้อง
ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
ใครก็ตามที่มาร่วมงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ทุกคนก็แต่งตัวดี และสวยงาม เพราะมันเป็นโอกาสที่จะเปล่งประกาย
แต่ตอนนี้ บนเสื้อผ้าของตนเปรอะเปื้อนแล้ว น่าขายหน้าจริงๆ
“ขอโทษ!”
และนักเรียนชายไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ขอโทษทันทีด้วยความกังวลเล็กน้อย
“เพี๊ยะ!”
แต่เขายังพูดไม่จบ ใบหน้าก็ถูกผู้หญิงคนนั้นตบเข้าจังๆ อย่างแรงเสียงดังลั่น หูหนวกยังได้ยิน
นักเรียนชายถูกตบจนงง
“ขอโทษคิดว่าจะจบรึไง? ตาบอดจริงๆ!”
หญิงสาวกล่าวด้วยความโกรธ
“ผม……ผมไม่ได้ตั้งใจ!”
นักเรียนชายถูกตบต่อหน้าสาธารณะ ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมากในทันที
ถูกคนเยอะแยะขนาดนี้จับจ้อง ห้องโถงมีฝูงชนจำนวนมาก
เกิดความรู้สึกอับอายในทันที
และดูเหมือนสามีภรรยาคู่นี้เป็นคนร่ำรวย ยั่วยุไม่ได้ นักเรียนชายก็หายใจไม่ออกด้วยความอับอาย
“แม่งเอ๊ย ไม่ได้ตั้งใจ ก็หมายความว่าจงใจสินะ?”
และสามีของหญิงสาว เมื่อมองก็รู้ว่าไม่ง่ายที่จะยั่วยุ ยกขาขึ้นและเตะท้องของผู้ชายอีกครั้ง
ผู้ชายถูกเตะล้มลงกับพื้น
ทุกคนถอนหายใจมองมาที่เขา
น้ำตาไหลอย่างช่วยไม่ได้
“หึ ชุดของฉัน ราคาแสนกว่า ตอนนี้ใส่ไม่ได้แล้วแน่ๆ เงินนี้ แกต้องชดใช้ฉัน!”
หญิงสาวกล่าวอย่างเย็นชา
“ผม……บ้านผมไม่มีเงินมากขนาดนั้น!”
ผู้ชายกล่าวด้วยความกลัว
“หึ จนตรอก แกยังมางานแบบนี้อีก? เห็นคนจนตรอกอย่างแกฉันก็รู้สึกสะอิดสะเอียน!”
ในขณะที่หญิงสาวพูด ก็ตบหน้าของเด็กชายตบแล้วตบอีก
มีน้ำตาในดวงตาของเด็กชาย ยอมให้เธอตบตี ไม่กล้าที่จะต่อต้าน
“คุณครูหม่า หลิวห้าวถูกตบตี!”
และในเวลานี้ นักเรียนในห้องจำนวนไม่น้อยเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ผู้หญิงหลายคนรีบเดินมาบอก
“อะไรนะ?”
หม่าเสี่ยวหนานหันไปดู ที่ทางเข้าหอประชุม ผู้คนล้อมรอบมากมาย และหลิวห้าวนักเรียนในชั้นเรียนของตนเองกำลังยืนร้องไห้อยู่ ถูกหญิงสาวคนหนึ่งตบหน้า
เขาก้มหน้ากำหมัดแน่น น้ำตาร่วงหล่นทีละหยด
“หยุดตีได้แล้ว หยุดตีได้แล้ว มีอะไรคุยกันดีๆ ไม่ได้รึไง?”
หม่าเสี่ยวหนานรีบวิ่งไป
ดึงเด็กชายไว้ข้างหลังตัวเอง
และนักเรียนชายที่เอามือถือของหลิวห้าวก็นิ่งเช่นกัน ตอนแรกก็แค่อยากจะแกล้งหลิวห้าวไม่คาดคิดว่าจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขนาดนี้
หลิวห้าวอ่ะเหรอ ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน แต่เป็นคนซื่อสัตย์ ตั้งใจเรียนและทำงานหนัก ไม่ต้องบอกหม่าเสี่ยวหนานก็รู้ ต้องเป็นเพราะคนพวกนี้แย่งมือถือของเขา แกล้งหลิวห้าวอีกแล้วแน่ๆ
หม่าเสี่ยวหนานมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นและพูดทันที
แต่เมื่อทั้งสองคนมองหน้ากัน ก็ต้องตกตะลึง
“หม่าเสี่ยวหนาน”
“หวังเสี่ยวเหม่ย?”
ชัดเจน ว่าทั้งสองรู้จักกัน
“โย้ จำได้ว่าหลังจากพวกเราจบมัธยมปลาย เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยจินหลิงไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ กลายเป็นครูได้ล่ะ?”
หวังเสี่ยวเหม่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ มีแม้กระทั่งคำดูถูกเหยียดหยาม
บางคนก็เป็นแบบนี้แหละ รู้สึกว่าชีวิตของตัวเองเหนือกว่า จะมีความรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นอย่างอธิบายไม่ได้
“อืม หลิวห้าวเขาทำอะไรให้เธอไม่พอใจ? เธอถึงต้องตบหน้าเขาต่อหน้าสาธารณะแบบนี้?”
และเห็นได้ชัดว่าหม่าเสี่ยวหนานรู้ว่าหวังเสี่ยวเหม่ยเป็นใคร และไม่ได้พูดทักทายอะไรกับเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอดูถูกคนอื่นแบบนี้ ทำให้หม่าเสี่ยวหนานโกรธมาก
“หึ ใครให้เขาทำไวน์แดงหกใส่ตัวฉัน เสื้อของฉันแพงแค่ไหน? เขามีปัญญาชดใช้เหรอ?”
หวังเสี่ยวเหม่ยกล่าวอย่างเย็นชา
“มีปัญญาชดใช้หรือไม่มี นั่นมันเรื่องของเงิน สมมติว่าเป็นอย่างอื่น ฉันถามเธอ ทำไมต้องตีเขาแบบนี้?”
หม่าเสี่ยวหนานจ้องมองเธอที่ตะโกน
หวังเสี่ยวเหม่ยก็รู้สึกตกใจกับคำพูดที่ยุติธรรมของหม่าเสี่ยวหนาน
แน่นอน ไม่ว่าเงินมากขนาดไหน ก็เป็นเรื่องของเงิน
ตนตบตีเขา ไม่มีอะไรมากไปกว่าการแสดงความเหนือกว่าของตัวเอง
ถูกหม่าเสี่ยวหนานถามให้มีความรู้สึกผิด
และทุกคนก็มองไปที่หวังเสี่ยวเหม่ย
ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด นิสัยอารมณ์ของคนรวยก็แสดงขึ้นมาทันที เธอยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ยังง้างมือ: “ฉันอยากตบเลยตบเขา แล้วเธอจะทำไม?”
สามีของหวังเสี่ยวเหม่ยก็หันกลับมาดูนาฬิกา Rolex ของตัวเอง จัดเชื้อสูตร เดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าว
“ฉันชื่อหลี่เจินเซียง! เป็น……”
“ตูม!”
และเขายังพูดไม่จบ ทันใดนั้นก็ถูกต่อยเข้าที่ปากหนักหน่วง จนปากเบี้ยว ร่างนั้นบินกระจุยออกไป กระแทกกับโต๊ะล้มสิบกว่าตัว
คนรอบข้างกลัวจนกรีดร้อง
แน่นอนว่าเฉินเกอทนดูต่อไปไม่ได้เดินมา จึงลงมือ
ส่วนหวังเสี่ยวเหม่ยมองไปที่สามีของเธอที่ฟันหลุดออกไปอย่างสับสน
กล่าวด้วยความหงุดหงิด: “นาย……นายอยากตายรึไง นาย……นายทำร้ายสามีฉันทำไม?”
เฉินเกอค่อยๆ มองไปที่เธอ: “ใครให้เขาใช้นามสกุลหลี่ไม่ใช้นามสกุลจาง ฉะนั้นผมเลยทำร้ายเขา!”