ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 756
บทที่ 756 คุณจะคู่ควรได้ยังไง
“คุณชายหลี่ท่านนี้หล่อจริงๆ ถ้าเขาเป็นแฟนฉันได้สักวัน ต่อให้ตายก็คุ้มแล้ว! ”
มีหญิงสาวร่ำร้องอยู่ในใจ
“เสว่เสว่ ฉันรู้ว่าเธออาจจะเข้าใจผิดฉันที่ฉันจากไปในวันนั้น นั่นเพราะฉันไม่คาดคิดว่า เธอจะพบกับอันตรายเช่นนี้ เดิมที ฉันต้องการอาศัยตัวเองเพื่อนำปีศาจวัวออกไปจากที่เกิดเหตุ และช่วยชีวิตคนทั้งหมด! ”
หลี่เส้าจงกล่าวเบา ๆ
“ฉันรู้! ”
ว่านเสว่เองก็เอ่ยปากขึ้น
ใช่สิ ตนเองไปคิดกับเขาแบบนั้นได้ยังไงกัน? ควรรู้ว่าตอนที่หลี่เส้าจงจากไป ตนเองยังไม่ถูกคนผลักออกจากเวทีสักหน่อย
ดังนั้นคุณชายหลี่จึงไม่รู้ว่าตนตกอยู่ในอันตราย
หลังจากที่หลี่เส้าจงอธิบาย ว่านเสว่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้นแล้ว
แน่นอนว่า จากนั้น โฟกัสของทั้งสอง ก็ตกอยู่ที่ว่านเสว่และหลี่เส้าจง
สำหรับเฉินเกอและคนอื่นๆ พวกเขาย่อมต้องถูกเพิกเฉยไปโดยปริยาย
อาหารค่ำวันเกิดกำลังดำเนินไป
อีกด้านหนึ่ง ชายวัยกลางคนเดินมาที่งานอย่างช้าๆ
เขามองจากระยะไกล เมื่อมองไปที่ว่านเสว่และคุณชายหลี่ที่ยืนอยู่ด้วยกัน ใบหน้าของชายวัยกลางคนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงรอยยิ้มแห่งความโล่งใจออกมา
“นายท่าน!”
ลุงไป๋ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังชายวัยกลางคนและเอ่ยเสียงเบา
ในสายตาเขา เต็มไปด้วยความเคารพยำเกรงต่อคนผู้นี้อย่างยิ่ง
ชายวัยกลางคนคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าบ้านของตระกูลว่าน ว่านเย่าจง
“อืม เสว่เสว่และหลี่เส้าจงก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว? หลี่เส้าจงคนนี้ ใช่คนที่หมอดูบอกว่าเป็นคนในดวงใจของเสว่เสว่หรือไม่?”
ว่านเย่าจงหายใจเข้าลึกและเอ่ยขึ้น
สำหรับหมอดูคนนั้น เห็นชัดว่า ว่านเย่าจงเองก็เชื่อถืออย่างมากเช่นกัน
ดังนั้นในตอนนี้ เขาจึงเป็นกังวลมากเกี่ยวกับอนาคตของลูกสาวของตน
“นี่…”
ลุงไป๋ครุ่นคิดสักพัก
“พูดออกมาไม่เป็นไร! ”
ว่านเย่าจงไขว้มือไว้ด้านหลัง
“จากการตัดสินจากหลายๆ แง่มุม คุณชายหลี่ หลี่เส้าจง สอดคล้องกับเงื่อนไขที่หมอดูกล่าวไว้ในวันนั้นอย่างแน่นอน เขามีพลังวิเศษและมีพลังเวทย์ที่คนธรรมดาไม่สามารถครอบครองได้ อีกทั้งศิลปะการต่อสู้ของเขานั้นยังยอดเยี่ยม ทั้งตัวเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าทึ่ง ”
เมื่อว่านเย่าจงได้ยินดังนั้น เขาก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“แต่ว่า มีเพียงสิ่งเดียวที่ดูเหมือนจะไม่สอดคล้องกับสิ่งที่หมอดูพูด! นั่นคือเห็นครั้งเดียวต้องใจสั่น สิ่งนี้ดูเหมือนคุณหนูใหญ่จะไม่ได้ใจเต้นอะไรกับหลี่เส้าจงมากนัก แต่กลับเป็นเด็กหนุ่มนิรนามผู้หนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกใจสั่นขึ้นมา!”
ลุงไป๋บอกตามความจริง
“เด็กหนุ่มนิรนาม”
ว่านเย่าจงขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
“บ่ายวันนี้ ที่หมู่ตึกหู้หลง เสว่เสว่เชิญชายคนนี้ไปที่บ้านว่าน เขามีชื่อว่าเฉินเกอ? ”
เห็นได้ชัดว่าว่านเย่าจงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
ในทางตรงกันข้าม เขาคาดหวังว่าหลี่เส้าจงจะเป็นลูกเขยของเขา
“ใช่ เป็นเขา! ”
ลุงไป๋เอ่ย
“หึ เศษขยะ เด็กนิรนามคนหนึ่ง จะมาเป็นลูกเขยของตระกูลว่านได้ยังไง นี่ไร้สาระเกินไป!”
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ ว่านเย่าจงก็เดือดขึ้นมา
เนื่องจาก เรื่องของตระกูลคนรวยที่ตกหลุมรักกับเด็กไร้หัวนอนปลายเท้าท้ายที่สุดแล้วก็เกิดขึ้นมากมายในประวัติศาสตร์
เขาจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับตระกูลว่านของพวกเขาเป็นอันขาด
“นายท่านอย่าเพิ่งโมโห ได้โปรดฟังผมพูดให้จบ จากที่ผมสังเกต เฉินเกอผู้นี้ไม่ธรรมดาอยู่บ้าง! และทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความไม่ง่ายดายอย่างยิ่ง อีกทั้ง ในฐานะคนในดวงใจของคุณหนู ยังไงเสียนายท่านได้โปรดลองดูๆ ไปสักหน่อย แล้วค่อยตัดสินใจ?”
ลุงไป๋พยายามห้ามปรามเขา
ว่านเย่าจงสูดลมหายใจเข้าลึก ถึงค่อยทำให้อารมณ์ของเขาสงบลง
“เอาเถอะ อีกเดี๋ยว นายไปเรียกเขามา ฉันอยากจะดูสักหน่อย ว่าเขาไม่ธรรมดาอย่างที่นายบอกตรงไหน!”
แม้ว่าว่านเย่าจงจะกล่าวแบบนี้
แต่ในใจได้ทำการต่อต้านไปนานแล้ว
“นายท่านมาแล้ว!”
อาหารค่ำวันเกิดกำลังครึกครื้นอย่างยิ่ง
บริกรโค้งคำนับเอ่ยเสียงดัง
ว่านเสว่เงยหน้าขึ้น และเห็นว่าพ่อของตนมาถึงแล้ว
“พ่อ!”
“สวัสดีครับลุงว่าน!”
ทุกคนยืนขึ้นเพื่อเคารพ
เขาคือว่านเย่าจง เจ้าบ้านของตระกูลว่าน
เฉินเกอเองก็ยืนขึ้นและมองไปที่เขา
“ลุงว่าน พ่อขอผมฝากฝังให้มาสวัสดีทักทายคุณแทนท่านด้วย!”
หลี่เส้าจง ก็ลุกขึ้นอย่างหายากยิ่ง
โดยไม่สนใจคนอื่นๆ ว่านเย่าจงเดินไปหาหลี่เส้าจงด้วยใบหน้าที่มีความสุข
“เส้าจง นับวันนายยิ่งพิเศษมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันหวังว่าในเทศกาลใต้ดินครั้งนี้ นายจะเปล่งประกายเจิดจรัส! ”
ว่านเย่าจงตบไหล่หลี่เส้าจง
หลังจากทักทายกันเสร็จ
ผู้ชายคนอื่นๆ ก็เริ่มแนะนำตัวเอง
เพียงแต่ความกระตือรือร้นของว่านเย่าจงที่มีต่อพวกเขา กลับไม่ให้ความสำคัญเท่าหลี่เส้าจง
“พ่อ หนูแนะนำสักหน่อย ท่านนี้คือเฉินเกอนี่ ส่วนท่านนี้เป็นคนที่ช่วยชีวินหนูไว้เมื่อบ่ายวันนี้ เฉินเปียวเปียวเพื่อนของเฉินเกอ!”
ว่านเสว่เห็นเฉินเกอไม่ได้แนะนำตัวเองอย่างเช่นคนอื่นๆ
และก็รู้สึกได้ว่าเมื่อเทียบกับผู้ชายคนอื่นๆแล้ว พวกโดดเด่นมากกว่ามาก
ดังนั้นในเวลานี้ ว่านเสว่รู้สึกว่าเฉินเกอน่าสงสารเล็กน้อย
ใช่สิ เขาไม่ใช่คนที่อยู่ร่วมโลกเดียวกับพวกเรา เขามีวิถีชีวิตของตัวเองในโลกใบนั้น
การที่ตนเชิญเขามางานเลี้ยงวันเกิดในครั้งนี้ แท้จริงแล้วเป็นเรื่องที่ดีจริงหรือไม่?
เฮ้อ ว่านเสว่มีความเห็นอกเห็นใจ
ดังนั้นเธอจึงเป็นฝ่ายแนะนำเฉินเกอก่อน
อีกทั้งในใจของว่านเสว่ก็มีแต่ความคิดเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้
แต่ในสายตาของว่านเย่าจง นี่กลับเป็นการแสดงออกถึงท่าทีของว่านเสว่ต่อเฉินเกอ
ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะโมโหขึ้นมา
“ที่แท้คุณก็คือเฉินเกอ!”
ว่านเย่าจงพูดเสียงเรียบ ในขณะเดียวกันแววตาดูถูกก็ฉายขึ้นในดวงตาของเขา
“ตอนนี้คุณพักอยู่ที่ไหน? ครอบครัวมีคนใครบ้าง? อีกทั้งมีความสามารถอะไรบ้าง? ”
ว่านเย่าจงถามออกมาทีละคำถาม
“พ่อ ทำอะไรคะ?”
ว่านเสว่เองก็ตกใจเช่นกัน
คุณพ่อเธอเป็นอะไรไป?
จากนั้น สายตาของทุกคนก็มองไปที่ เฉินเกอคนนี้
ส่วนเฉินเปียวเปียว เมื่อมองดูว่านเย่าจง ก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังต่อต้านอาจารย์ของตนเองอยู่บ้าง
ยิ่งไปกว่านั้น เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็นอาจารย์ของตนที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือว่านเสว่
แต่ว่านเสว่กลับมองหลี่เส้าจงที่ถูกปีศาจวัวไล่ตีจนต้องหนีไปเสียยิ่งกว่าอะไร
แต่เดิมเธอจึงรู้สึกไม่ดีอย่างยิ่งอยู่แล้ว
จากนั้นเธอจึงเอ่ยปาก “อาจารย์ของฉันตอนนี้มาเป็นแขกที่ตระกูลของเรา ความสามารถหรือ ก็มีเยอะแยะมากมาย คุณอยากรู้อะไรล่ะ?”
เฉินเปียวเปียวกล่าวอย่างเย็นชา
สูด!
การเผชิญหน้านี้ ทำให้ผู้ชมทั้งหมดเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
“หึหึ ตระกูลของพวกคุณ? ตระกูลไหนกัน?”
ว่านเย่าจงโกรธจนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ตระกูลเฉินในจี้โจว!”
เฉินเปียวเปียวเองก็เป็นหญิงแกร่งคนหนึ่ง
ทันทีที่เธอเอ่ยขึ้น คนระดับสูงหลายคนที่อยู่เบื้องหลัง ว่านเย่าจงก็เข้ามาและกระซิบคำสองสามคำที่ข้างหูของเขา
ว่านเย่าจงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเบี้ยว “ฉันรู้แล้ว ที่แท้เธอก็เป็นหลานสาวของเฉินเทียนกาง อีกทั้งบ่ายวันนี้ ตระกูลเฉินของพวกเธอยังคิดจะเข้าร่วมเทศกาลใต้ดิน แต่ถูกปฏิเสธ ใช่หรือไม่?”
เฉินเปียวเปียวไม่คาดคิดว่า ว่านเย่าจงคนนี้จะพูดจาแบบนี้
ตอนนี้เธอจึงโมโหจนแทบหายใจไม่ออก
“หรือว่า วันนี้ที่คุณช่วยลูกสาวของฉัน อีกทั้งยังมาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ก็เพื่อรับตั๋วเข้างาน? ”
ว่านเย่าจงกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ
“คุณกำลังพูดถึงอะไร?! ”
เฉินเปียวเปียวถูกเขาทำให้โกรธแทบแย่แล้ว
บอกว่าตนเองเป็นตระกูลใหญ่ที่เป็นที่รู้จักอย่ายิ่ง แต่กลับเปิดฉากมาก็ตั้งตนเป็นศัตรูแบบนี้?
อีกทั้งว่านเสว่เองก็ยังคิดไม่ถึง ว่าทำไมวันนี้พ่อของตนที่เคยเป็นคนหนักแน่น ถึงได้เอ่ยพูดจาแบบนี้?
ท่ามกลางความขัดแย้งนี้
เสียงหัวเราะเยือกเย็นของว่านเย่าจงทำลายความเงียบลง
“ฮ่าฮ่า หลานเฉินเองก็อย่าได้โมโห เมื่อครู่นี้ฉันก็แค่ล้อเล่น เอาแบบนี้แล้วกัน ในเมื่อหลานเฉินบอกว่าเฉินเกอมีความสามารถอยู่บ้าง ฉันว่านเย่าจงชอบคนที่มีความสามารถเป็นที่สุด”
พูดจบ เขาก็หันไปหาลุงไป๋และเอ่ย “ใครก็ได้ เชิญเขาไปที่สวนหลังบ้าน ฉันมีบางอย่างจะขอคำแนะนำสักหน่อย! ”
ในตอนท้ายของคำพูด เขามองเฉินเกออย่างเย็นชา จากนั้นจึงเดินมือไขว้หลังออกมา