ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 766
บทที่ 766 ฆ่าไปถึงจะสะใจ
การคุกเข่าครั้งนี้
ทำให้ทั้งสถานที่แห่งนี้แทบจะระเบิดทันที
เชรด นักพรตชั่วร้ายเสี้ยวชางเซิง ยังไม่ลงมือ ก็คุกเข่าให้กับชายหนุ่มคนนี้เสียแล้วเหรอ?
เป็นไปได้ยังไง?
เสี้ยวชางเซิงเป็นผู้ฝึกตนชั้นสาม ที่มีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา ชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร?
ทุกคนต่างพูดถึงเรื่องนี้
และว่านเสว่ก็คาดไม่ถึงอย่างเห็นได้ชัด
ขณะนี้ มองไปที่เฉินเกอที่เดินอยู่ข้างหน้าอีกครั้ง มือทั้งสองล้วงกระเป๋า เฉินเกอที่ดูนิ่งมาก
รัศมีเปล่งปลั่งมหาศาล โอบล้อมตัวเองทันที ไม่สิ จะพูดให้ถูกต้อง ก็คือกำลังครอบคลุมทุกคนที่อยู่ใต้ดิน
รัศมีเปล่งปลั่งนี้ ดูเหมือนจะสามารถทำให้ทุกคนใจสั่น
รวมถึงว่านเสว่
กุ่ยสือเล่วเคยเห็นเสี้ยวชางเซิงคุกเข่าอย่างเหนือความคาดหมายที่ไหน ตอนนี้เปลือกตาของกระตุกอย่างรุนแรง แล้วจับจ้องมองไปที่เฉินเกอ
“หลายวันก่อนหน้า ฉันบอกว่าจะฆ่าแก แกไม่อยู่เฉยให้ฉันฆ่า ทำไมฉวยเวลาที่ฉันช่วยชีวิตคน วิ่งหนีล่ะ?”
เฉินเกอเอามือออกมาจากกระเป๋าข้างหนึ่ง ราวกับกำลังลงโทษเด็กที่ทำผิด ลูบหัวของเสี้ยวชางเซิง
“ท่านมหาเทพ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรหนี!”
เสี้ยวชางเซิงร้องอุแว้ ร้องไห้ออกมาทันที
“แกน่ะ แก่แล้วไม่เจียมจริงๆ ถามหน่อยตอนที่ฉันต้องการฆ่าใครสักคน เขาจะหนีไปได้งั้นเหรอ?”
เฉินเกอหัวเราะกล่าว
“ท่านมหาเทพพูดถูก!”
เสี้ยวชางเซิงสั่นไปทั้งตัว
เฉินเกอไม่ได้สนใจเขา แต่หันศีรษะและมองไปรอบๆ
กล่าวอย่างไม่แยแส: “ทุกคน วันนี้ผมตัวแทนของตระกูลฉิน แย่งชิงอำนาจการควบคุม หากมีใครไม่พอใจ สามารถมาประลองกับผมได้!”
เฉินเกอกล่าว พูดจบก็ไม่ลืมที่จะตบหัวแล้วพูดต่อ:
“ใช่แล้ว ไม่ต้องมาทีละคน คนที่ไม่พอใจ สามารถเข้ามาท้าประลองพร้อมกันได้!”
พูดจบ เฉินเกอก็ยิ้มอย่างไม่มีพิษมีภัย
“เชรด!”
“โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!”
ผู้ชมทุกคนต่างตกใจ
คนนี้เป็นใครกัน?
แต่ ไม่มีใครกล้าปริปากพูดอะไร ทุกคนเงียบอย่างเชื่อง
“หึ หมอนี่ แกเย่อหยิ่งเกินไปแล้ว แกเอาฉันกุ่ยสือเล่วแห่งสำนักกุยไห่ไปไว้ที่ไหน?”
และกุ่ยสือเล่ว ก็โกรธทันที
คนนี้ไม่มองว่าตัวเองเป็นคู่ต่อสู้สักนิด
“แกก็อยู่ที่นี่ตลอดไม่ใช่เหรอ?”
เฉินเกอกล่าว
“แก! ไอ้ระยำ!”
กุ่ยสือเล่วโกรธมาก
“หึ เด็กหน้าด้าน ท่านอาจารย์กุ่ย อย่ายั้งมือ ฆ่าเด็กหยิ่งผยองคนนี้ได้ก็ดี!”
และหลี่เฟยหลงกล่าวด้วยความโกรธในขณะนี้เช่นกัน
บุคคลนี้ท้าทายต่อสาธารณะ ต้องการอำนาจควบคุม รนหาที่ตาย!
“หมอนี่ วันนี้จะสั่งสอนแกให้รู้ซึ้งความเก่งกาจของสำนักกุยไห่!”
และกุ่ยสือเล่วได้ชักดาบของเขาในขณะนี้
แสงดาบผ่านไปโดยตรง
ครั้งนี้แสงรุนแรงยิ่งกว่า
ทักษะที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่งของสำนักกุยไห่: การตัดน้ำประเภทสิบสาม
ดาบหนึ่งสามารถตัดน้ำ ดาบสองสามารถฟันวิญญาณ ดาบสามสามารถทำลายล้างวิญญาณ!
และกุ่ยสือเล่ว ตอนนี้กลายเป็นที่สุดแห่งการโจมตีหนึ่งครั้งสามดาบ
แสงดาบตัดผ่าน วิญญาณกระจัดกระจาย!
และว่านเสว่ มองไปที่เฉินเกออย่างกังวล กลัวว่าเฉินเกอจะตกอยู่ในอันตราย
อย่างไรก็ตาม ผู้ชายที่ทำให้ตัวเองใจสั่นได้ ก็คือเขามาโดยตลอด
และตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะผู้มีฝีมือชั้นสูงตัวจริง
ฉะนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินเกอในขณะนี้ ว่านเสว่รู้สึกสับสนมาก
ชิ้ง!
และแล้ว การโจมตีที่ร้ายแรงถึงชีวิตของกุ่ยสือเล่วฟันลงมา
เกิดฉากที่ทำให้ทุกคนเบิกตากว้าง
ก็เห็นเฉินเกอมือล้วงกระเป๋าข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งยกขึ้นแล้วค่อยๆ หนีบ
สามารถหนีบดาบของกุ่ยสือเล่วไว้ ได้อย่างง่ายดาย
“อะไรกัน?”
กุ่ยสือเล่วเต็มไปด้วยตกใจ
ต้องการขยับเขยื้อน แต่ขยับไม่ได้เลย
“นี่ทักษะที่ยอดเยี่ยมอะไรของแก? แล้วสำนักกุยไห่เป็นสำนักอะไรอีก?”
เฉินเกอถามเบาๆ
“แก!”
กุ่ยสือเล่วพยายามอย่างเต็มที่ ก็ไม่สามารถขยับได้เลย
“ดีมาก ดูเหมือนว่าแกจะแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้!”
และกุ่ยสือเล่วหัวเราะกับตัวเอง
“อ๋อ? ยังไง แกยังมีทักษะที่ขั้นสูงอีกเหรอ?”
เฉินเกอกล่าวอย่างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นการแสดงออกของเขา
“ดาบอัคคี!”
เห็นกุ่ยสือเล่วหลับตาลงอย่างกะทันหัน เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง เปลวไฟก็ปรากฏขึ้นในคู่ดวงตาของเขา
จากนั้น ทั่วใบมีดของเขา ปกคลุมด้วยเปลวไฟ
น่าเสียดาย ที่เมื่อเปลวไฟกำลังจะเผาเฉินเกอทันใดนั้นก็เกิดเสียงฟู่ ดับลงทันที
“นี่เป็นไปได้ยังไง?”
คู่ดวงตาของกุ่ยสือเล่วเบิกกว้าง
หนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อ
เฉินเกอก็ดูออก ถ้าตัวเองยังหนีบใบมีดดาบของเขาอยู่ตลอดเวลา เกรงว่าสักพัก เขาจะไม่บอกข้อมูลที่ตัวเองต้องการรู้
ในขณะนี้ เฉินเกอคลายใบมีดดาบ
กุ่ยสือเล่วถอยอย่างต่อเนื่อง
สวั๊บๆๆๆ!
และเวลานี้ จากตำแหน่งของตระกูลหลี่ มีเจ็ดเสียงการเคลื่อนไหวดังออกมา
เห็นเพียงร่างเจ็ดร่างแวบปรากฏออกมา จากที่มืด
ล้อมรอบเฉินเกอโดยตรง
“ท่านอาจารย์!”
ทั้งเจ็ดคนตะโกน
เจ็ดคนนี้ แต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายนินจา ปิดหน้าปิดตาทั้งหมด
ถือมีดเหล็ก แรงอาฆาตกระเหี้ยนกระหือรือ
“ท่านผู้ยิ่งใหญ่ จะเป็นศัตรูกับสำนักกุยไห่จริงๆ เหรอ? ต้องรู้ด้วยว่า ซากเทพภูเขาไท่อูครั้งนี้ สำคัญสำหรับสำนักกุยไห่ของเรามาก ท่านยืนยันที่จะต่อสู้เพื่ออำนาจควบคุม ก็ต้องเกิดความขุ่นเคืองกับทั้งสำนักกุยไห่?”
กุ่ยสือเล่วยืนขึ้น กล่าวเตือน
“เป็นแบบนี้นี่เอง…..”
เฉินเกอพยักหน้าอย่างครุ่นคิด
“หึหึ ทำไม กลัวแล้วเหรอ? ไม่งั้นนั่งลงกัน ทุกคนเป็นเพื่อนกันดีกว่าไหม?”
กุ่ยสือเล่วค่อยๆ ไปข้างหน้า
“เอ๊ะ แกไม่ควรพูดอะไรแบบนี้!”
เฉินเกอส่ายหัว
“หืม? ท่านผู้ยิ่งใหญ่หมายความว่ายังไง?”
กุ่ยสือเล่วชะงักทันที
“ที่จริง ฉันแค่ต้องต่อสู้ให้แกถอย จากนั้นถามแกเกี่ยวกับเส้นทางผู้ฝึกตนของสำนักพวกแก ก็เท่านั้นเอง แต่เมื่อกี้แกขู่ฆ่าฉัน! และยังข่มขู่ให้ฉันกลัว!”
เฉินเกอกล่าว
“แล้วท่านต้องการอะไร? หรือว่าท่านไม่รู้จริงๆ ว่าสำนักกุยไห่ทรงพลังขนาดไหน?”
กุ่ยสือเล่วมีความรู้สึกวิตกกังวลอย่างหนึ่งอย่างมากในใจ
“เพราะว่าแกขู่ฆ่าฉัน ฉะนั้น นายจะต้องชดใช้สิ่งที่ทำด้วยชีวิต เดิมที แกไม่ต้องตายก็ได้!”
เฉินเกอกล่าวด้วยมือล้วงกระเป๋าข้างหนึ่ง
“แก!”
ดวงตาของกุ่ยสือเล่วประกายด้วยความโกรธ
เขาจับดาบยาวของตัวเองไว้แน่น
และเฉินเกอก็ดีดนิ้ว
พรึ๊บๆ!
กระดูกสะบ้าหัวเข่าทั้งสองของกุ่ยสือเล่ว ถูกเจาะทะลุทันที
อ๊า!
เขากรีดร้อง คุกเข่าตรงหน้าเฉินเกอทันที
ผู้คนที่ล้อมรอบเฉินเกอนั้นต่างยกมีดขึ้นลงมือ
ถูกเฉินเกอยกมือขึ้นและโบกมือ
วงแหวนแสง ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เฉินเกอ แผ่กระจายไปรอบๆ
ทั้งเจ็ดเป็นเหมือนแกะน้อยเจ็ดตัว ปลิวว่อนออกไปทันที
“ไว้ชีวิตด้วย!”
กุ่ยสือเล่วกล่าวร้องขอชีวิต
กระทั่งตอนนี้เขาถึงพบว่า ทำไมเมื่อกี้เสี้ยวชางเซิงเห็นเขา ถึงเป็นแบบนี้
ไร้พลัง!
เผชิญหน้ากับเขา ความรู้สึกไร้พลังก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
“สำนักกุยไห่ของพวกเรา เป็นสำนักใหญ่ที่ลึกลับของโวกั๋ว มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันหมื่นปี ผู้มีฝีมือชั้นสูงมากมาย ท่านมหาเทพ ท่านไม่จำเป็นต้องทำให้เกิดความขุ่นเคืองกับพวกเราสำนักกุยไห่!”
กุ่ยสือเล่วกล่าวอย่างรีบเร่ง
“จะพูดเช่นนั้นไม่ได้หรอก ในเมื่อฉันต้องการอำนาจควบคุมนี้ ยังไม่ได้ทำโกรธเคืองหรือไง? ฉันคิดว่า สำนักกุยไห่ของพวกแกก็ต้องมาหาเรื่องฉันแน่นอนอยู่แล้ว ใช่ไหมล่ะ?”
เฉินเกอกล่าว
“ใช่แล้ว ดังนั้น แค่ท่านสามารถมอบอำนาจควบคุมออกมา ผมก็จะขอร้องสำนักกุยไห่ ไว้ชีวิตท่าน!”
กุ่ยสือเล่วรีบพูด
“แกน่ะ เหมือนยังไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูด นี่เป็นวิธีการของฉัน ก็คือในเมื่อทำให้โกรธเคืองแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไปให้สุดจะดีกว่า แกต้องตายที่นี่ หากสำนักกุยไห่มาหาเรื่องฉัน ฉันจะฆ่าไปแล้วถึงจะสะใจ!”
ดวงตาของเฉินเกอหรี่ลง
มือเดี่ยวยื่นออก
รัศมีแรงลมถูกปลดปล่อยออก และรวมตัวเป็นมือใหญ่คู่หนึ่ง
จับคว้ากุ่ยสือเล่วทั้งคนเอาไว้ทันที
เฉินเกอกำหมัด
ผลัวะ!
ฉากนองเลือดปรากฏขึ้น กุ่ยสือเล่ว กลายเป็นเนื้อละเอียดทันที…..
“อ๊า!”
ฉากที่โหดร้าย ทำให้ผู้ชมทั้งงานโอดครวญขึ้น……