ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 818
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 818 เปลี่ยนบรรยากาศ
หลังจากที่เคลียร์ปัญหาของเหยียนวซุ่น เฉินเกอก็ครุ่นคิดอย่างหนัก
เขารู้ว่าเขาควรจะไปที่เมืองส้งสักหน่อยหลังจากนี้ เพราะตระกูลฉินแห่งเมืองส้ง ต้องตาย
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งเฉินเกอก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมากดหมายเลขโทรศัพท์ของหยุนเห้าเทียนแห่งแกงค์ดากอน บอกให้เขาส่งคนมากำจัดศพของเหยียนวซุ่นและพวกของเขา
แน่นอนหยุนเห้าเทียนไม่ได้คัดค้านคำพูดของเฉินเกอและตอบตกลงกลับมา
ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหยุนเห้าเทียนก็ส่งคนมาเอาศพของเหยียนวซุ่นและพวกของเขาย้ายออกไป
เวลาอันสงบสุขในตอนเช้าพอถูกพวกเหยียนวซุ่นเข้ามาทำลายไปแบบนี้ ทำให้เฉินเกอไม่พอใจเล็กน้อย
แต่ยังดีที่ครอบครัวของเขาไม่ได้รับอันตราย และไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้น จึงทำให้เฉินเกอรู้สึกโล่งอก
พอกลับมาถึงคฤหาสน์ ทุกคนในบ้านของเฉินเกอก็ต่างตื่นกันหมดแล้ว อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เพราะมีคนรับใช้พิเศษที่คอยดูแลพวกเขาอยู่
เฉินเกอเดินเข้าไปในห้องพ่อแม่ของเขา เพราะเขาต้องการที่จะพูดคุยบางอย่างกับพวกเขา
“พ่อ แม่ พี่ หยงหาว ตอนนี้ผมมีเรื่องอยากปรึกษากับทุกคนหน่อย เพื่อถามความเห็นของทุกคน!”
เฉินเกอมองไปที่ครอบครัวของเขาพร้อมกับเอ่ยปากพูด
เฉินจิ้นตงตอบเฉินเกอด้วยรอยยิ้ม
“เสี่ยวเกอ พวกเราก็เป็นคนบ้านเดียวกัน พูดมาเถอะ!”
“อืม คือว่าอย่างนี้นะครับ ผมอยากให้ทุกคนไปอาศัยอยู่ที่ตำหนักสวนหยาง มู่หานก็อยู่ที่นั่นด้วย อยู่ที่นั่นมีคนสามารถดูแลทุกคนอย่างดี ที่นี่ผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยปลอดภัย!”
หลังจากนั้นเฉินเกอก็พูดสิ่งที่อยู่ในใจของเขาออกมา
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะค่อนข้างเงียบสงบ แต่การมาถึงของพวกเหยียนวซุ่น และชายชุดคลุมสีดำเมื่อคืนนี้ ทำให้เฉินเกอต้องกังวลอย่างหนัก และเขาจำเป็นต้องย้ายครอบครัวไปอยู่ซ่อนตัว
อย่างการที่ให้พวกเขาไปอยู่ที่ตำหนักสวนหยางก็ถือว่าปลอดภัย แถมซูมู่หานภรรยาของเขาก็อยู่ที่ตำหนักสวนหยางด้วย จึงทำให้สามารถดูแลพวกเขาทั้งสามได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อได้ยินความคิดของเฉินเกอ เฉินจิ้นตงพวกเขาก็ไม่มีใครออกความเห็นใดๆ
“เสี่ยวเกอ พวกเราว่าตามที่ลูกต้องการนั่นแหละ!”
เฉินจิ้นตงพูดกับเฉินเกอ
ตอนนี้พวกเขาเดินไม่ได้ มันเท่ากับเป็นคนไร้ประโยชน์ ดังนั้นทุกอย่างจึงฟังตามที่เฉินเกอเตรียมการไว้ เฉินเกอว่ายังไง พวกเขาก็ทำอย่างนั้น ขอเพียงแค่ให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันก็พอ
“ครับ ถ้างั้นอีกสักครู่ผมจะส่งทุกคนไปที่ตำหนักสวนหยาง!”
เฉินเกอพยักหน้าพลางตอบกลับ
พอตอนบ่าย เฉินเกอก็ขับรถส่งคนในบ้านไปยังตำหนักสวนหยาง
ในตำหนักสวนหยางมีท่านซินแสกุ่ยและกลุ่มคนของแกงค์ดากอนอยู่ เขาจึงไม่ต้องกังวลอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเขา ขอเพียงแค่อย่ามีนักสู้ผู้แข็งแกร่งจากขอบเขตเจินเหรินมาที่นี่ ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้นเฉินเกอไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้าบุกเข้าไปในฐานของเขาจริงๆ
ซูมู่หานที่เห็นเฉินเกอกลับมาก็รู้สึกดีใจอย่างมา แล้วตรงเข้าไปซบอกของเฉินเกอทันที
ทุกครั้งที่เฉินเกอออกไป ซูมู่หานก็เฝ้าภาวนาในใจตลอดว่าขอให้เฉินเกอกลับมาอย่างปลอดภัยทุกครั้ง
“มู่หาน พ่อกับแม่แล้วก็หยงหาวขอฝากให้คุณช่วยดูแลแล้ว ผมยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการ คงต้องใช้เวลาสักระยะแล้วค่อยกลับมา ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรคุณก็ส่งเสียงผ่านเครื่องส่งเสียงมาหาผมแล้วกัน!”
ก่อนจากไปเฉินเกอได้มอบเครื่องส่งเสียงสองสามอันให้กับซูมู่หานพร้อมกับกำชับ
ซูมู่หานพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เธอรู้ว่าเฉินเกอมีความรับผิดชอบที่หนักหนาดังนั้นเธอจึงทำสิ่งที่เธอจึงทำงานช่วยเหลือเขาอยู่ข้างหลังอย่างดีที่สุด เป็นผู้หญิงผู้อยู่เบื้องหลังที่แข็งแกร่งขอเฉินเกอถึงจะถูก และก็จะไม่มีทางสร้างภาระเพิ่มให้กับเขา
หลังจากอธิบายทุกอย่างแล้วเฉินเกอก็จากไปอีกครั้งและตรงไปยังโลกยู่
การไปที่โลกยู่ครั้งนี้ เฉินเกอมีเรื่องสองอย่างที่ต้องไปทำ
เรื่องที่หนึ่งก็คือไปสืบให้ชัดเจนว่าท่านราชเทพที่ชายชุดคลุมสีดำได้พูดถึงนั้นแท้จริงแล้วเป็นเทพหรือเปล่า
เรื่องที่สองก็คือเฉินเกออยากจะไปซื้อฮู้เวทย์สักสองสามอัน
ในโลกยู่ ฮู้เวทย์เป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นบ่อยครั้ง แต่ฮู้เวทย์แต่ละอันก็มีราคาที่แตกต่างกันไป ซึ่งฮู้เวทย์ที่เฉินเกอต้องการนั้นก็คือสิ่งที่ดีที่สุดของที่สุด และถ้าเกิดเป็นไปได้เฉินเกอก็อยากที่จะเรียนรู้วิธีการทำฮู้เวทย์สักหน่อย เพราะหากเป็นแบบนี้เขาก็จะสามารถทำฮู้เวทย์ขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องเสียเงินไปซื้อ แต่การจะทำฮู้เวทย์ขึ้นมานั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นต่อการเรียนรู้ มันต้องใช้เวลาสักระยะซึ่ง
เฉินเกอก็รู้ว่าตัวเขาเองไม่ได้มีเวลาและแรงผลักดันที่จะทำมัน
หลังจากใช้เวลาบินนานกว่าหนึ่งชั่วโมงเฉินเกอก็มาถึงโลกยู่
การกลับมายังโลกยู่ครั้งนี้ เฉินเกอไม่ได้มีความรู้สึกแปลกตาเหมือนครั้งที่แล้ว เขาสามารถจำเส้นทางได้อย่างคุ้นชิน
โลกยู่ ณ ตี้ตู
เฉินเกอมายังคฤหาสน์ตระกูลโจว
คนที่เขาต้องการมาหานั้นแน่นอนว่าคือโจวโน่
เบื้องหลังของโจวโน่เป็นคนตระกูลโจวแห่งตี้ตูในโลกยู่ ตระกูลโจวในตี้ตูนั้นถือว่าเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลตระกูลหนึ่งเลยทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้นในตี้ตูของโลกยู่เฉินเกอก็รู้จักแต่โจวโน่คนเดียว ถ้ามาหาเธอแล้วเขาจะไปหาใครได้เล่า
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่ามาหาใครกัน?”
ทันทีที่เขาไปถึงประตูคฤหาสน์ของตระกูลโจว เฉินเกอก็ถูกผู้คุ้มกันสองคนของตระกูลโจวขวางเอาไว้ที่ประตูพร้อมกับกล่าวถาม
“อ๋อ ผมเป็นเพื่อนกับคุณหนูของพวกคุณ ผมมาที่นี่เพื่อหาเธอ ไม่ทราบว่าคุณหนูเธออยู่บ้านหรือเปล่า?ถ้าเป็นเป็นไปได้โปรดขอให้พวกคุณช่วยเข้าไปรายงานให้กับเธอว่ามีคนชื่อเฉินเกอมาขอพบ!”
เฉินเกอรายงานถึงตัวเขา และยิ้มให้กับผู้คุ้มกันทั้งสอง
“ต้องขออภัยด้วยครับ คุณหนูของเราออกไปข้างนอกแล้ว ตอนนี้ไม่ได้อยู่บ้าน!”
หนึ่งในผู้คุ้มกันพอได้ยินอย่างนั้นก็รีบตอบกลับเฉินเกอทันที
“ออกไปแล้ว?รู้หรือเปล่าครับว่าเธอออกไปไหน?”
เฉินเกอสงสัย
“เรื่องนี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจ พวกเราเป็นเพียงผู้คุ้มกัน ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคุณหนู!”
หลังจากที่เฉินเกอได้ยินอย่างนั้นก็เข้าใจ เขารู้ว่าพวกเขาเป็นเพียงผู้คุ้มกันเท่านั้นไม่มีทางที่จะหลอกเขา เพราะพวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้น
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เฉินเกอก็หมดปัญญา คงทำได้เพียงเดินออกไปเสี่ยงดวงในตัวเมืองของตี้ตูดูว่าจะได้เจอกับโจวโน่หรือไม่
ยายอัปลักษณ์นี่ จริงๆซะเลย ไม่ง่ายเลยที่เขาจะมาหาเธอ ดันไม่อยู่บ้านซะอย่างนั้น หลังจากนั้นเฉินเกอก็เดินไปตามถนนในเมืองที่พลุกพล่านเพียงลำพัง เมื่อเปรียบเทียบกับโลกแล้ว โลกยู่นั้นดูงดงามกว่าโลกมาก นี่คงจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โลกยู่ล้ำค่ากว่าโลกมาก
“โน่เอ๋อ คุณตอบตกลงกับผมเถอะ ทุกสิ่งที่ผมให้คุณคือความจริงใจนะ!”
แล้วในเวลานั้นเอง ก็ได้เห็นชายหนุ่มสวมชุดสูทสีขาวเดินออกมาจากร้านอาหารหรู เดินไปด้วยพร้อมกับกล่าวอ้อนวอนหญิงสาวที่เดินอยู่ข้างๆ หญิงสาวไม่ได้สนใจคำพูดของชายหนุ่ม ใบหน้านิ่งเฉย แสดงออกถึงความไม่ได้ไยดีในตัวชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
เฉินเกอที่หันไปมองก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นโจวโน่ที่เฉินเกอกำลังตามหาอยู่ คิดไม่ถึงว่าจะได้มาบังเอิญเจอกันที่นี่ และดูเหมือนว่าโจวโน่จะมีปัญหากวนใจอยู่
“โจวโน่!”
หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง เฉินเกอก็ตัดสินใจตะโกนเรียกโจวโน่
โจวโน่ที่ได้ยินก็หันหน้ามา ทันใดนั้นแววตาก็ประกายออกมา ด้วยสีหน้าชื่นบาน
“เฉินเกอ!”
โจวนี่อุทานออกมาด้วยความรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ก่อนที่จะรีบเดินตรงไปซบอกของเฉินเกอ แล้วกอดเขาเอาไว้แน่น
เรื่องนี้ทำให้เฉินเกอประหลาดใจเล็กน้อย เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าจู่ๆโจวโน่จะทำแบบนี้กับเขา แล้วต้องรู้ไว้เลยว่าเขาเป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว