ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 851
บทที่ 851 การอยู่ร่วมกัน
ปรมาจารย์หยุนคงได้ยินแล้วก็ยิ้มออกมา
ตอนนี้เขามีความรู้สึกที่ดีต่อเฉินเกอมากขึ้น อย่างไรก็ตามคนเขาก็เป็นศิษย์ของคณบดี ตัวตนของเขาจึงแตกต่าง
“ปรมาจารย์หยุนคง ผมนั่งอยู่ที่นี่คนเดียวออกจะน่าเบื่อ คุณช่วยหาใครสักหน่อยมานั่งเป็นเพื่อนได้ไหม? ผมยังมีเพื่อนอีกหลายคนที่อยู่ในสถาบัน! ”
หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง เฉินเกอก็เอ่ยถามปรมาจารย์หยุนคง
“เอ่อ…นี่”
ปรมาจารย์หยุนคงแสดงท่าทีลำบากใจ
เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสถาบัน นั่นเพราะตัวตนของเฉินเกอแตกต่างจากคนเหล่านั้น
เฉินเกอหยิบผลวิหายสะออกมาจากแหวนเก็บของตัวเองทันทีและส่งให้ปรมาจารย์หยุนคง
“ปรมาจารย์หยุนคง นี่เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากผม ได้โปรดช่วยผมหน่อยเถอะ! ” เฉินเกอร้องขอ
เมื่อเห็นเฉินเกอหยิบผลวิหายสะออกมา ปรมาจารย์หยุนคงก็ตื่นตะลึงอย่างมาก
เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินเกอจะมีผลวิหายสะ
“ผลวิหายสะ นาย นายไปเอามาจากไหน?” ปรมาจารย์หยุนคงมองเฉินเกอด้วยความประหลาดใจและถาม
ทั้งแผ่นดินหลิงคงที่เดียวที่มีผลวิหายสะก็คือที่แห่งนั้น หยุนคงเองก็ย่อมรู้เช่นกัน เพียงแต่การที่เฉินเกอมีผลวิหายสะครอบครองทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
“เหอะเหอะ มีคนให้ผมมา! ”
เฉินเกอหัวเราะอย่างไม่แยแสและอธิบายสั้น ๆ
แต่หยุนคงยังฟังออกว่าเฉินเกอนั้นมีบางอย่างซ่อนอยู่ แต่เขาเองก็ไม่คิดจะเอ่ยถามเช่นกัน
ในเมื่อเฉินเกอแสดงความจริงใจออกมา เขาเองก็ยินดีที่จะช่วยเหลือเช่นกัน เขารีบเข้าไปรับผลวิหายสะจากเฉินเกออย่างรวดเร็ว
ผลวิหายสะที่มีค่ามากขนาดนี้ไม่ใช่ใครก็สามารถได้มาอย่างง่ายดาย หยุนคงจึงย่อมรับมันเอาไว้
“เฉินเกอ นายพูดมาเถอะ นายอยากได้ใครมาอยู่เป็นเพื่อน ฉันจะไปจัดการ! ”
จากนั้น หยุนคงก็ตกปากรับคำ
เฉินเกอเข้าไปใกล้หูของหยุนคงและเอ่ยชื่อของหลินจื่อหลันออกมา
“ตกลง ไม่มีปัญหา ฉันจะจัดการทันที แต่ว่าเฉินเกอ นี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเรา อย่าได้ไปบอกให้ใครรู้ ไม่อย่างนั้นคณบดีและปรมาจารย์จะตำหนิฉัน! ”
หยุนคงยังไม่ลืมที่จะเตือนเฉินเกออีกประโยค
เฉินเกอย่อมเข้าใจได้โดยธรรมชาติ เขารู้ว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องน่าขายหน้า แต่เขาเองก็ไม่ต้องการอยู่คนเดียวในที่แห่งนี้
ยิ่งไปกว่านั้นหลินจื่อหลันและโจวโน่ รวมถึงเกาจื่อเฉิงล้วนเป็นเพื่อนของเขา มีเรื่องดีๆ ย่อมต้องแบ่งปันให้ทุกคน เฉินเกอไม่อยากให้ทั้งสามต้องอยู่อย่างลำบาก
“อย่างนั้นก็ดี นายรออยู่ที่นี่สักครู่ ฉันจะไปจัดการให้พวกเขาสามคนมาอยู่กับนายดี! ”
หยุนคงกำชับเฉินเกอคำหนึ่งแล้วหันไปจากไป
เฉินเกอนั่งรออยู่คนเดียวนอกศาลา
หลังจากนั้นประมาณสิบนาที ก็เห็นหยุนคงพาพวกโจวโน่ทั้งสามคนมาที่ศาลาตงเยี่ยนด้วยกัน
“เฉินเกอ! ”
เมื่อเห็นเฉินเกอ โจวโน่ก็ตะโกนขึ้นอย่างอดไม่ได้ จากนั้นจึงกระโดดโลดเต้นไปข้างหน้าอย่างดีใจ
“เฉินเกอ งั้นฉันไม่รบกวนพวกนายทั้งสามแล้ว พวกนายสามคนเก็บกวาดกันเองเถอะ มีเรื่องอะไรขาดเหลือก็สามารถบอกฉันได้! ” หยุนคงไม่ต้องการรบกวนพวกเฉินเกอทั้งสี่ดังนั้นเขาจึงทิ้งคำพูดไว้และจากไป
เมื่อเห็นท่าทางเคารพเกรงใจของหยุนคงที่มีต่อเฉินเกอ พวกโจวโน่ทั้งสามคนก็ประหลาดใจ
“เฉินเกอ นายทำอะไรไปน่ะ ปรมาจารย์หยุนคงถึงได้เคารพนายมากขนาดนี้? อีกทั้งทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่? และเรียกพวกเรามาทำไม?”
โจวโน่ถามคำถามสามข้อกับเฉินเกอในคราวเดียว
มุมปากของเฉินเกอยกยิ้มขึ้น เขามองไปที่พวกโจวโน่และเอ่ย “ตั้งแต่จากนี้เป็นต้นไป ที่นี่คือที่พวกเราทั้ง 4 คนจะอาศัยอยู่ ตอนนี้ฉันเป็นลูกศิษย์ของคณบดี”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเกอ พวกโจวโน่ทั้งสามคนก็ยิ่งมีสีหน้าน่าทึ่งมากขึ้น
“พี่เฉิน คุณคงไม่ได้กำลังล้อพวกเราเล่นอยู่หรอกนะ? นักเรียนของคณบดี เรื่องจริงหรือ?” พวกเราอีกแล้วใช่ไหมที่ศิษย์ของคณบดีจริงหรือ?” เกาจื่อเฉิงมองเฉินเกอและถามด้วยความสงสัยอยู่บ้าง
“เฮ้อ ฉันรู้ว่าพวกนายต้องไม่เชื่อ อย่างนั้น ให้พวกนายดูว่านี่คืออะไร นี่คือป้ายคำสั่งพิเศษที่คณบดีมอบให้ฉันกับมือ หากพวกนายยังไม่เชื่อก็สามารถไปถามอาจารย์หยุนคงได้! ”
เฉินเกอรีบหยิบป้ายคำสั่งพิเศษที่สวีหมีมอบให้กับตนออกมาให้พวกโจวโน่สามคนดูและเอ่ย
จากนั้น โจวโน่จึงได้เชื่อขึ้นมาแล้ว ไม่น่าล่ะอาจารย์หยุนคงถึงได้เคารพยำเกรงเฉินเกอนัก ที่แท้ก็มีสาเหตุอย่างนี้นี่เอง
“เฉินเกอ นายเก่งเกินไปแล้ว ถึงกับเป็นลูกศิษย์ของคณบดีได้ แถมยังได้อาศัยอยู่ในสถานที่ที่ดีเช่นนี้คนเดียว! ” โจวโน่มองไปที่เฉินเกออย่างชื่นชม
“ฮ่าฮ่า! ”
เฉินเกอหัวเราะเบา ๆ
“แต่ตอนนี้พวกนายก็สามารถมาอยู่กับฉันได้นี่ แบบนี้ฉันจะได้ไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียว! ”
ได้ยินคำพูดของเฉินเกอ พวกโจวโน่สามคนก็เซอร์ไพรส์อย่างยิ่ง ไม่คาดคิดว่าเฉินเกอจะยอมให้พวกเขามาอยู่ด้วย
ในไม่ช้า ทั้งสี่ก็ทำความสะอาดจนเสร็จจากนั้นจึงไปที่ห้องอาหารเพื่อทานอาหารเย็น
สถานศึกษาหลินคงมีที่รับประทานอาหารโดยเฉพาะ เหมือนกับมหาวิทยาลัยบนโลก เพียงแต่ที่นี่เป็นอีกดินแดนหนึ่ง
ทั้งสี่คนมาที่ห้องอาหาร จากนั้นจึงตักอาหารของตนเองนั่งลงทานและพูดคุยกัน
“ออกไป ออกไป จากนี้ไปห้องระดับยอดเยี่ยมจะมาทานอาหาร พวกนายไสหัวไปให้หมด! ”
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงเกรี้ยวกราดเย็นชาดังขึ้น
คนเหล่านี้ล้วนเป็นพวกห้องระดับยอดเยี่ยม มองดูแล้วให้ความรู้สึกที่เย่อหยิ่งและวางอำนาจอย่างยิ่ง
นักเรียนรอบๆ เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้เข้าก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครกล้าที่จะยั่วยุคนในห้องระดับยอดเยี่ยมเหล่านี้
“เฉินเกอ คนพวกนั้นไม่เป็นมิตรอยู่บ้าง พวกเราทำยังไงดี?” โจวโน่มองดูแล้วเอ่ยถามเฉินเกอ
ต่อให้คนเหล่านี้อยู่ห้องระดับยอดเยี่ยม เฉินเกอก็ไม่กลัว เนื่องจากเขาเป็นถึงศิษย์ของคณบดี สถานะยังสูงส่งกว่าคนในห้องระดับยอดเยี่ยมเหล่านี้เสียอีก นอกจากนี้เฉินเกอยังมีพลังแข็งแกร่ง ทำไมเขาจึงต้องกลัวคนเหล่านี้ด้วย?
“ไม่ต้องไปสนใจ พวกเรากินต่อ! ”
เฉินเกอพูดออกมาเรียบๆ ประโยคหนึ่ง จากนั้นจึงทานข้าวกับพวกโจวโน่ทั้งสามต่อไป
เมื่อเห็นว่าพวกเฉินเกอทั้งสี่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม คนในห้องระดับยอดเยี่ยมก็รีบพุ่งเข้ามาทันทีและล้อมรอบพวกเฉินเกอเอาไว้
“เอ้ พวกนายทั้งสี่ คำพูดของพวกเราพวกนายฟังไม่เข้าใจหรือยังไง? ตอนนี้พวกเราห้องระดับยอดเยี่ยมจะทานอาหาร หากพวกนายเข้าใจแล้วก็รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจ! ”
ชายหัวเกรียนคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมและถลึงตามองพวกเฉินเกอด้วยความโกรธ
ความแข็งแกร่งของห้องระดับยอดเยี่ยมพวกนี้ทั้งหมดเกือบอยู่ในระดับการบำเพ็ญจิตชั้นสามของขอบเขตเจินเหริน ยังถือว่ามีความแข็งแกร่งอยู่บ้าง
“บูม! ”
ทันทีที่ชายคนนั้นพูดจบ ทั้งร่างของเขาก็ถูกพลังสายหนึ่งทำให้กระเด็นออกไปไกล
และคนที่ลงมือก็คือเฉินเกอ
“หมาบ้าที่ไหนหลุดออกมา ที่นี่เป็นพื้นที่รับประทานอาหารสาธารณะ ไม่ใช่ดินแดนของพวกนายห้องระดับยอดเยี่ยม”
เฉินเกอพูดออกจากอย่างเย็นชาทีละประโยคๆ
ในไม่ช้า พวกนักเรียนห้องระดับยอดเยี่ยมคนอื่นๆ ก็ค่อยๆ เตรียมตัวจู่โจมขึ้นมา
เพียงชั่วครู่ ทั้งสองฝ่ายต่างเตรียมตัวต่อสู้ขึ้นมา บรรยากาศเต็มไปด้วยความมาคุ ราวกับสงครามครั้งใหญ่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ