ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 852
บทที่ 852 การประลองของสถานศึกษา
“เด็กน้อย ฉันว่านายคงจะเบื่อชีวิตเสียแล้ว!”
ชายหัวเกรียนพูดขึ้นอย่างโกรธจัด
หลังพูดจบ ชายหัวเกรียนก็ปล่อยหมัดเข้าใส่เฉินเกอ
“ตุบ! ”
ยังไม่ทันที่เขาจะแตะต้องเฉินเกอ เฉินเกอก็ยื่นฝ่ามือออกมา จากนั้นจึงโยนชายหัวเกรียนกระเด็นออกไปทันที
ชายหัวเกรียนกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง จนโต๊ะหักลงเป็นสอง
“ทุกคนหยุดมือเดี๋ยวนี้! ”
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงเคร่งเครียดดังขึ้น
เจ้าของเสียงไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นปรมาจารย์หยุนคง
ปรมาจารย์หยุนคงเดินเข้ามาจากประตูห้องอาหาร และรีบเดินมาด้านหน้าของเฉินเกอและคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นการมาถึงของปรมาจารย์หยุนคง ทุกคนต่างก็เงียบลง ไม่กล้าก่อเรื่องขึ้นอีก พวกนักเรียนระดับยอดเยี่ยมพวกนั้นกลับก้มหน้าลงทันที
“ปรมาจารย์หยุนคง! ”
ผู้คนในสถานที่ล้วนเอ่ยเรียกเขาอย่างเซ็งแซ่
หยุนคงเดินมาถึงหน้าเฉินเกอและคนอื่นๆ เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เกิดอะไรขึ้น? ใครใช้ให้พวกนายลงมือต่อสู้กันในโรงอาหาร?”
แม้ว่าสถานะของเฉินเกอจะพิเศษ แต่หยุนคงก็ยังคงต้องแสดงท่าทางเข้มงวดออกมาเมื่ออยู่ต่อหน้าคนนอก
“ปรมาจารย์หยุนคง พวกนักเรียนระดับยอดเยี่ยมพวกนี้เป็นคนหาเรื่องก่อน พวกเรากินข้าวกันอยู่ดีๆ พวกเขาเข้ามาถึงก็ไล่พวกเราออกไป บอกว่านี่เป็นเวลาทานข้าวสำหรับคนในห้องระดับยอดเยี่ยม!”
เฉินเกอยืนอยู่ที่เดิมอย่างสงบและเอ่ยเล่าให้ปรมาจารย์หยุนคงฟัง
หลังจากฟังจบ คิ้วของปรมาจารย์หยุนคงก็ขมวดแน่นขึ้น จากนั้นจึงหันกลับไปจ้องพวกนักเรียนระดับยอดเยี่ยมทันที
“ห้องอาหารเป็นพื้นที่สาธารณะ มันกลายเป็นสถานที่ทานอาหารสำหรับห้องระดับยอดเยี่ยมของพวกนายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ปรมาจารย์หยุนคงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
พวกนักเรียนระดับเยี่ยมหลายคนกลัวจนไม่กล้าส่งเสียง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักเรียนในห้องระดับยอดเยี่ยม แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะไปยั่วยุปรมาจารย์หยุนคงอย่างแน่นอน
“ขอโทษครับ ปรมาจารย์หยุนคง พวกเราผิดไปแล้ว! ”
ชายหัวเกรียนคนนั้นค่อยลุกขึ้นมาได้ จากนั้นจึงเอ่ยปากรับผิดกับปรมาจารย์หยุนคงอย่างระมัดระวัง
แต่ในใจของเขาตอนนี้กำลังโกรธจนแทบคลั่ง รู้สึกว่าตนเองนั้นกำลังขายหน้าอย่างยิ่ง ในใจเต็มไปด้วยความแค้นที่มีต่อเฉินเกอ และคิดว่าจะต้องหาโอกาสจัดการเขาให้ได้
“แยกย้ายกันไปซะ อย่างได้มีเรื่องแบบนี้อีก! ”
ปรมาจารย์หยุนคงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
พูดจบ ชายหัวเกรียนและพวกก็รีบออกไปจากโรงอาหารทันที
หลังจากคนเหล่านั้นออกไป ปรมาจารย์หยุนคงก็หันไปมองพวกเฉินเกอทั้งสี่
“เฉินเกอ คนพวกนี้นายจะต้องระวัง คนหัวเกรียนนั่นเป็นลูกศิษย์ระดับเยี่ยมของปรมาจารย์ตี้จ้าง ชื่อว่าจ้าวลี่ คนๆ นี้เป็นดั่งหนามแหลมในสถานศึกษาหลิงคง มักจะชอบรังแกผู้อื่น อีกทั้งยังชอบเล่นลับหลังด้วย! ” ปรมาจารย์หยุนคงเอ่ยเตือนเฉินเกอ
เฉินเกอพยักหน้าเล็กน้อยและตอบ “วางใจเถอะ ปรมาจารย์หยุนคง ผมเฉินเกอไม่กลัวคนพวกนี้ ไม่ว่าจะมาไม้ไหนผมก็จัดการได้! ”
“อ้อใช่ เฉินเกอ จากนี้ไปสถานศึกษาจะมีการประลอง พวกนายเองก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม!”
ก่อนจากไป ปรมาจารย์หยุนคงยังคงไม่ลืมที่จะเตือนเฉินเกออีกประโยค
“ครับ! ”
เฉินเกอพยักหน้าและเอ่ยรับ
ทั้งที่คนล้วนไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาที่เพิ่งจะเข้าสถานศึกษามาก็ต้องมาพบกับการประลองของสถานศึกษาเข้าให้แล้ว
อีกทั้งการประลองครั้งนี้ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
การประลองของสถานศึกษาหลินคงมักจะจัดขึ้นทุกปีหลังจากที่มีนักเรียนใหม่เข้ามา นอกจากนี้ยังเป็นการประลองเพื่อทดสอบระดับการบำเพ็ญจิตของนักเรียนแต่ละคน นักเรียนห้องระดับต้นไปจนถึงระดับเยี่ยมล้วนต้องประลอง
เวลาก็ผ่านไปสองวันอย่างรวดเร็ว
วันนี้เป็นวันแรกของการประลองของสถานศึกษาหลิงคง
ผู้คนทั้งหมดในสถานศึกษาหลิงคงล้วนมารวมตัวกันที่จัตุรัส ห้องนักเรียนระดับตนจะนั่งอยู่ฝั่งตะวันออก ส่วนห้องระดับกลางจะนั่งอยู่ฝั่งตะวันตก และห้องระดับเยี่ยมจะนั่งอยู่ทางทิศใต้
สำหรับเฉินเกอ เขานั่งอยู่ข้างๆ คณบดีสวีหมี
การได้เห็นเฉินเกอนั่งอยู่ข้างกายสวีหมี ทำเอาคนด้านล่างทุกคนล้วนตกตะลึงอย่างที่สุด และคิดไปว่าที่แท้แล้วเฉินเกอมีตัวตนสถานะอย่างไรกันแน่ถึงได้สามารถทำเช่นนั้นได้
“นักเรียนทั้งหลาย วันนี้เป็นวันประลองยุทธ์สำหรับนักศึกษาใหม่ของสถานศึกษาหลิงคงของเรา เฉกเช่นก่อนหน้านี้ นักเรียนห้องระดับต้นจนถึงระดับเยี่ยมจะเข้าร่วมประลองตามลำดับ! ”
จากนั้น ก็ได้ยินปรมาจารย์หยุนคงออกมาเอ่ยให้กับนักเรียนด้านล่างทุกคนฟัง
“จากนี้ไปจะแนะนำให้ทุกคนรู้จัก เขาเป็นลูกศิษย์ของคณบดีชื่อเฉินเกอ ครั้งนี้เขาเองก็จะเข้าร่วมประลองยุทธ์ด้วย พวกนายจะได้ต่อสู้กับเขา! ” จากนั้นปรมาจารย์หยุนคงก็แนะนำเฉินเกอ
สูด!
ทันใดนั้น คนทั้งหมดก็ตื่นเต้นขึ้นมา และมีหลายคนกำลังเอ่ยถกเถียงกัน
ใครจะคิดว่า เฉินเกอจะเป็นถึงลูกศิษย์ของคณบดี ต้องรู้ด้วยว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่มีใครเคยได้เป็นนักเรียนของคณบดีมาก่อน เฉินเกอเป็นคนแรก ที่แท้แล้วคนๆ นี้มีความแข็งแกร่งระดับใดกัน
“ปรมาจารย์หยุนคง ถ้าเราเอาชนะเขาได้ พวกเราจะสามารถเป็นลูกศิษย์ของคณบดีได้หรือไม่?”
ทันใดนั้น นักเรียนจากห้องระดับเยี่ยมก็ลุกขึ้นถามปรมาจารย์หยุนคง
หลังจากได้ยินดังนั้น ปรมาจารย์หยุนคงก็นิ่งงันไป และหันไปหาคณบดีสวีหมี
สวีหมีครุ่นคิดสักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและเอ่ยปาก “นักเรียนทุกท่าน หากใครสามารถเอาชนะเขาได้ คนนั้นก็จะสามารถเป็นลูกศิษย์ของฉันได้! ”
เมื่อพูดจบ นักเรียนด้านล่างทุกคนก็ตกใจขึ้นมาอีกครั้ง นี่ถือเป็นโอกาสที่หายากสำหรับพวกเขาทุกคน
แค่คิดว่าขอแค่เอาชนะเฉินเกอได้ก็จะสามารถเป็นลูกศิษย์ของคณบดีได้ ไม่ว่าใครล้วนเต็มใจที่จะทำ
เพียงแต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย นั่นเพราะเฉินเกอไม่ใช่คนที่พวกเขาจะสามารถเอาชนะได้
“ดี ต่อจากนี้ไปจะเป็นการประลองครั้งแรกระหว่างนักเรียนห้องระดับต้นกับห้องระดับกลาง ขอให้ทั้งสองฝ่ายโปรดส่งนักเรียนเข้าสู่ศูนย์กลางของจัตุรัส! ” จากนั้นปรมาจารย์หยุนคงก็กล่าวกับนักเรียนทุกคน
หลังจากพูดจบ ก็เห็นนักเรียนจากฝั่งห้องระดับต้นและระดับกลางถูกส่งเข้าไปในศูนย์กลางของจัตุรัสฝ่ายละคน
การประลองครั้งแรก ก็คือการท้าสู้ของห้องระดับต้นกับห้องระดับกลาง
ในความเป็นจริง อาจดูเหมือนว่าการประลองครั้งนี้จะดูไม่ยุติธรรม แต่แท้จริงกลับไม่ใช่ นั่นเพราะห้องทั้งสามระดับล้วนมีความแข็งแกร่งที่ไม่เหมือนกัน และห้องระดับต้นเองก็มีคนที่มีพลังค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่ด้วยเช่นกัน
ในไม่ช้า การประลองระหว่างทั้งสองก็เริ่มขึ้นที่ใจกลางจัตุรัส
ต้องบอกว่า ความแข็งแกร่งของนักเรียนห้องระดับกลางนั้นยังคงถือว่าไม่เลว ไม่ว่าจะเป็นในด้านการโจมตีหรือด้านความรวดเร็วล้วนเหนือกว่าระดับต้นไม่น้อย
แต่นักเรียนระดับต้นคนนี้ก็ไม่ใช่ตะเกียงน้ำมัน ดังนั้นจึงไม่ได้เอาชนะได้อย่างรวดเร็วนัก
หลังจากต่อสู้กันไปหลายรอบ ในที่สุดนักเรียนห้องระดับกลางก็เอาชนะนักเรียนห้องระดับต้นได้
อย่างไรก็ตามอันที่จริงนักเรียนระดับต้นก็ถือว่าทำผลงานได้ดีเช่นกัน แต่ด้านความแข็งแกร่งก็ยังคงมีช่องโหว่เล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง
“อืม การประลองครั้งแรก ชัยชนะเป็นของนักเรียนห้องระดับกลาง จากนี้ไปจะเป็นการประลองของนักเรียนระดับต้นและระดับเยี่ยม! ”
เมื่อจบฉากแรกปรมาจารย์หยุนคงก็ประกาศการประลองครั้งที่สองทันที
ฉากที่สองคือการประลองของนักเรียนระดับต้นและระดับเยี่ยมซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่จริงๆ
ทันใดนั้น ก็ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นยืน