ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 859
บทที่ 859 สัตว์ร้าย
“โฮก! ”
สิงโตพุ่งเข้ามาใส่เฉินเกอ ปากของมันร้องคำรามอย่างดุร้าย
สิ้นเสียง สิงโตก็กระโดดขึ้น ร่างกายขนาดมหึมาของทันกระโจนเข้าใส่เฉินเกอ
แน่นอนว่าเฉินเกอไม่ปิดโอกาสให้มัน ทันใดนั้นเขาก็สไลด์ตัวและลอดใต้ท้องสิงโตไปทันที
“ตูม!”
อาศัยจังหวะนี้ เฉินเกอพุ่งโจมตีเข้าใส่หลังสิงโตทันที
แค่เพียงฝ่ามือเดียว เฉินเกอก็ทำให้เจ้าสิงโตกระเด็นออกไปไกลหลายเมตร
แม้ว่าสิงโตจะมีขนาดตัวใหญ่ แต่การเคลื่อนไหวของมันทั้งหนักและเชื่องช้าอย่างยิ่ง อีกทั้งความเร็วของเฉินเกอนั้นยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง ดังนั้นมันจึงถูกเฉินเกอสั่งสอนไปหนึ่งยก
อย่างไรก็ตามเฉินเกอเองก็ไม่คิดจะฆ่าสิงโตแต่อย่างใด เขาแค่ต้องการปราบมันเท่านั้น
สิงโตตัวใหญ่เช่นนี้ หากตนสามารถสยบมันลงได้ สำหรับเฉินเกอแล้วนี่เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง
หลังจากกระเด็นไปไกล และกลิ้งกับพื้นไปหลายตลบ มันก็ค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก จากนั้นมันก็หันศีรษะและมองไปที่เฉินเกอ ปากยังคงส่งเสียงคำรามต่ำ
มันไม่ได้โง่ และรู้ว่าตัวมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินเกอ ดังนั้นมันจึงไม่กล้าโจมตีเฉินเกออีกต่อไป
เฉินเกอก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ สองก้าว จากนั้นจึงชี้ไปที่สิงโตและตะโกน “ฉันให้ทางเลือกแกสองทาง อย่างแรก แกจงติดตามฉันไปอย่างเชื่อฟัง ฉันเป็นนายของแก อย่างที่สอง ฉันจะฆ่าแกและทำเป็นอาหารกินซะเดี๋ยวนี้ ฉันเองก็ยังไม่เคยได้ชิมเนื้อราชสีห์มาก่อนเสียด้วย แกเลือกเอาเอง! ”
ในตอนนั้นเอง เมื่อสิงโตได้ยินคำพูดของเฉินเกอ มันก็สงบลงทันที และราวกับกำลังจมอยู่ในสมาธิ
คล้ายว่าสัตว์อสูรพวกนี้ล้วนมีพลังจิต และสามารถเข้าใจสิ่งที่คนพูดได้
หลังจากนั้นไม่นาน สิงโตก็เอ่ยคำรามเสียงต่ำอีกครั้ง
“เอ๋ ยังไม่ยอมสยบ? แกคิดว่าแกเป็นคู่ต่อสู้ของฉันหรือ?”
หลังจากได้ยินเสียงนั้น เฉินเกอก็เอ่ยเยาะเย้ยต่อสิงโตอย่างไม่พอใจ
พูดตามตรง หากเขาต้องการฆ่าสิงโตก็สามารถทำได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตอนนี้เขาให้โอกาสสิงโตอีกครั้ง
หากสิงโตยังคงดื้อรั้น เฉินเกอก็จะไม่เมตตามันอีก หากมันไม่เต็มใจที่จะติดตามเขาไป อย่างนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บไว้ ฆ่ามันเสียโดยตรงยังจะดีกว่า
“หึ! ”
เมื่อเฉินเกอพูดเช่นนี้ สิงโตก็ส่งเสียหึออกมา จากนั้นมันจึงน้อมตัวลง และหันศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่งไม่มองเฉินเกอ ท่าทีของมันดูหยิ่งยโสอย่างยิ่ง
“โอ้ แกยังจะมาเล่นตุกติกกับฉันอยู่ใช่ไหม! ” เฉินเกออดไม่ได้ที่จะล้อเล่น เขารู้สึกว่าสิงโตตัวนี้นั้นราวกับเด็กน้อยคนหนึ่งเสียจริง
สวบ!
ในตอนนั้นเอง เงาดำร่างหนึ่งก็บินออกจากตัวของเฉินเกอ และหยุดลงตรงหน้าสิงโต
พริบตา สิงโตก็คล้ายกับกำลังตกใจกลัวจนแทบจะกลายเป็นลูกบอลไปในทันที ท่าทางของมันแสดงถึงความว่าง่ายเชื่อฟังขึ้นมา มันก้มหัวลง ดวงตาทั้งสองกำลังดูมองไปที่เงาที่กำลังกระโดดโลดเต้นที่อยู่ตรงหน้าเขา
ไม่ผิด เงานี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นมังกรเขียวน้อยในร่างของเฉินเกอ
การปรากฏตัวของมังกรเขียวน้อย ทำให้สิงโตเชื่อฟังและสงบลงทันที ไม่มีท่าทางดุดันอย่างเช่นก่อนหน้าอีกต่อไป
นี่ทำให้หลังจากพวกเฉินเกอทั้งห้าคนได้เห็นเข้าก็ล้วนประหลาดใจ พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่ามังกรเขียวน้อยจะยังมีความสามารถถึงขนาดนี้ แม้แต่สิงโตตัวใหญ่ก็ยังต้องเกรงกลัว
“ตัวตนของมังกรเขียวน้อยจะต้องไม่ธรรมดาแน่ มันจะต้องสูงส่งกว่าสิงโตอย่างมากแน่นอน ถึงทำให้สิงโตตกใจได้! ”
เล๋ยเล่เดินไปหาเฉินเกอและบอกเฉินเกอ
เขาเห็นมังกรเขียวน้อยส่งเสียงจากปากอีกครั้ง จากนั้นจึงบินกลับไปหาเฉินเกอ มันจ้องมองเฉินเกอและบิดตัวไปมาราวกับว่ากำลังร้องขออะไรบางอย่างจากเฉินเกอ
แน่นอนเฉินเกอเข้าใจความหมายของมังกรเขียนน้อย เขาเอ่ยประนีประนอมอย่างอ่อนใจ “ได้ได้ได้ ฉันรู้ความหมายของนาย อยากได้ผลวิหายสะไม่ใช่หรือ ฉันให้นาย! ”
พูดจบ เฉินเกอก็หยิบผลวิหายสะออกมาจากแหวนเก็บของของตนและมอบมันให้มังกรเขียวน้อย
แต่มังกรเขียวน้อยกลับยังไม่ยอมแพ้ มันส่ายตัวไปมาอย่างรุนแรง อีกทั้งยังหันกลับไปมองสิงโตที่นอนอยู่อีกด้านหนึ่ง
เฉินเกอเข้าใจทันที เห็นทีมังกรเขียวน้อยต้องการให้ตนมอบผลวิหายสะให้สิงโตด้วยเช่นกัน
ใครใช้ให้มังกรเขียวน้อยตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงสุดโอ๋ของตนกัน ดังนั้นจึงได้แต่โอ๋มันต่อไป
หลังจากจนปัญญา เฉินเกอก็หยิบผลวิหายสะออกมาและมอบให้มังกรเขียวน้อย
จากนั้นมังกรเขียวน้อยจึงค่อยมองผลวิหายสะทั้งสองลูกด้วยความพึงพอใจ มันรีบบินไปหาสิงโตและวางผลวิหายสะหนึ่งในนั้นไว้ใต้ปากสิงโต จากนั้นค่อยกลืนผลไม้ที่อยู่กับตนอีกลูกเข้าปาก
เมื่อเห็นเช่นนี้ สิงโตก็เงยหน้าขึ้นมองเฉินเกออย่างอยากรู้อยากเห็น จากนั้นมันก็มองไปยังผลวิหายสะที่อยู่ตรงหน้า หลังจากที่แน่ใจว่ามันไม่มีอาการผิดปกติ จึงค่อยกลืนผลวิหายสะลงไปทั้งลูก ราวกับกำลังกลัวว่าจะถูกใครแย่งไป หลังจากกลืนผลวิหายสะ สิงโตก็แปรเปลี่ยนเป็นมีร่าเริงขึ้นมาทันที อีกทั้งร่างกายของมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นมีขนาดเท่ากับเฉินเกอและคนอื่นๆ รวมถึงนิสัยก็อ่อนโยนมาก
จากนั้น สิงโตก็เดินไปที่เท้าของเฉินเกอ และโน้มตัวลงไปคลอเคลียที่ขาของเฉินเกอ แสดงความเชื่อฟังต่อเขา
“เฮ้ คุณผู้ชาย ผลวิหายสะผลเดียวนายก็ยอมขายตนแล้ว รู้งี้ว่าคงไม่ต้องเสียพลังงานไปสู้กับแกหรอก! ”
เมื่อมองไปที่การกระทำของสิงโตตรงหน้า ก็ทำเอาเฉินเกอหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกขึ้นมา
แต่อย่างนี้ก็ดี สิงโตตัวนี้เชื่อฟังตนแล้ว นั่นก็หมายถึงว่าเขาเองก็จะมีสัตว์เลี้ยงอีกตัวเพิ่มขึ้นมา
เขาใช้ผลวิหายสะไปอีกแล้วสองผล นี่ทำให้เขาปวดใจอยู่นิดหน่อย นั่นเพราะผลวิหายสะมีค่าอย่างยิ่ง เฉินเกอหวังเพียงว่า สิงโตจะไม่เลียนแบบมังกรเขียวน้อยและต้องการผลวิหายสะอีก ไม่เช่นนั้นต่อให้มีอีกนับร้อยก็คงจะไม่เพียงพอ
“พี่เฉิน เมื่อครู่นั่นคือผลวิหายสะในตำนานใช่หรือไม่?”
เล๋ยเล่ถามเฉินเกอด้วยความประหลาดใจ
เล๋ยเล่เคยได้ยินเรื่องผลวิหายสะมานานแล้ว แต่เขาไม่คาดคิดว่าเฉินเกอจะมีผลวิหายสะครอบครองอยู่ นั่นทำให้เขารู้สึกอิจฉาจริงๆ
“ไม่ผิด! ”
เฉินเกอตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ
แต่ตอนนี้เมื่อทุกคนรู้แล้ว เฉินเกอเองก็ไม่คิดจะเก็บครอบครองไว้แค่คนเดียว เขารีบหยิบผลวิหายสะออกมาสี่ลูกจากนั้นจึงส่งมอบให้พวกโจวโน่ทั้งสี่ทันที
“เอ้า ให้พวกคุณคนละลูก ไม่แน่มันอาจจะมีประโยชน์สำหรับการเลื่อนขั้นของพวกนาย! ” เฉินเกอเอ่ยอย่างใจกว้าง ในเมื่อพวกโจวโน่ทั้งสี่เป็นเพื่อนที่ดีของตน และยอมติดตามตนเองมาตามหาผนึกสวนหลิง แน่นอนว่าเฉินเกอเองก็ต้องขอบคุณพวกเขากลับด้วยเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าเฉินเกอมอบผลวิหายสะให้ พวกโจวโน่ทั้งสี่ก็ตื่นตะลึงยินดีขึ้นมา จากนั้นจึงหยิบผลวิหายสะขึ้นมากินทันที
หลังจากรับผลวิหายสะลงไป ความแข็งแกร่งของคนทั้งสี่ก็ได้ทะลวงเลื่อนขั้นไปทันที โจวโน่ได้เข้าสู่การบำเพ็ญจิตชั้นสองของขอบเขตเจินเหริน หลินจื่อหลันได้ทะลุเข้าสู่การบำเพ็ญจิตของขอบเขตเจินเหริน เกาจื่อเฉิงเข้าสู่การบำเพ็ญจิตชั้นสี่ของขอบเขตเจินเหริน ส่วนเล๋ยเล่นั้นเข้าสู่การบำเพ็ญจิตชั้นเก้าของขอบเขตเจินเหริน