ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 957
บทที่ 957 ตรวจสอบสถานการณ์
“เล๋ยเล่ตอนนี้จิตวิญญาณฉันจะออกจากร่างกาย นายดูแลร่างกายของฉัน ฉันจะลงไปดู!”
เวลานี้เฉินเกอพูดเตือนเล๋ยเล่
“เอาล่ะ พี่เฉิน ถ้าอย่างนั้นคุณระวังตัวด้วย!”
เล๋ยเล่ก็ตอบตกลงอย่างเชื่อฟัง
หลังจากพูดจบ เฉินเกอก็ถอดวิญญาณออกจากร่างทันที เปลี่ยนเป็นผีและล่องลอยไปข้างล่าง
หลังจากล่องลอยไปได้สักพัก เฉินเกอก็สามารถมองเห็นบริเวณรอบๆ ที่อยู่ข้างล่าง ที่แท้ข้างล่างมีกลไกขนาดใหญ่ เมื่อพบ
ตำแหน่งที่เหมาะสม ต้องกระโดดลงไปตำแหน่งนั้นถึงจะออกไปได้ มิเช่นนั้นเขาจะวนเวียนอยู่กับวงจรนี้ตลอด
เมื่อรู้เรื่องทั้งหมดนี้ เฉินเกอก็กลับเข้าไปร่างเดิมของตัวเอง
“โอเค!”
หลังจากกลับเข้าร่าง เฉินเกอก็ตั้งสติขึ้นมาและพูดกับเล๋ยเล่
เฉินเกอพูดออกมากะทันหันทำให้เล๋ยเล่ตกตะลึง
“จะบ้าตาย พี่เฉิน..คุณ คุณกลับมาแล้วก็ไม่บอกก่อน ฉันตกใจเกือบเป็นลม!”
เล๋ยเล่มองไปที่เฉินเกอและพูดอย่างจนปัญญา
ตอนแรกบริเวณโดยรอบมืดสนิท ทำให้รู้สึกหวาดกลัว
เฉินเกอนิ่งไป ชั่วขณะจากนั้นก็พูดกับเล๋ยเล่
“ฉันพบวิธีไขปริศนาแล้ว!”
“จริงเหรอ พี่เฉิน ถ้าอย่างนั้นพวกเรารีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!”
ทันทีที่เล๋ยเล่ได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ดีใจขึ้นมาทันที โดยลืมเรื่องที่เฉินเกอทำให้เขาตกใจ ตอนนี้เขาแค่อยากออกไปจากที่นี่โยเร็ว
กลัวว่าจะเป็นบ้าถ้ายังคงอยู่ต่อไป และความรู้สึกกดดันในใจของเขาจะรับไม่ไหว
หลังจากพูดจบ เฉินเกอก็พาเล๋ยเดินต่อไป
ในที่สุดเฉินเกอก็หาเครื่องหมายจุดตำแหน่งที่อยู่จนเจอและหยุดเดิน
“พี่เฉิน ไหนคุณบอกว่าจะออกจากที่นี่? ทำไมพวกเราถึงได้เดินนานขนาดนี้!”
เล๋ยเล่มองและถามเฉินเกออย่างไม่เข้าใจ
เฉินเกอเหลือบมองเล๋ยเล่ แล้วตอบว่า “ตรงนี้แหละ แค่กระโดดลงจากที่นี่ก็ได้แล้ว!”
“ห๊ะ? ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเกอ เล๋ยเล่ก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เขาทำปากจู๋ มันยากที่จะเชื่อคำพูดของเฉินเกอ
เฉินเกอมองเล๋ยเล่ด้วยสีหน้าหนักแน่นและพยักหน้า
“พี่เฉิน.. คุณ คุณอย่าล้อเล่นสิ? ข้างล่างนี้เป็นเหวนะ ถ้าพวกเรากระโดดลงไปก็ตายแน่ๆ!”
เล๋ยเล่มองเฉินเกอและพูดด้วยความหวาดกลัว
ในขณะที่พูดเฉินเกอก็ก้มหัวและมองลงไป ซึ่งทำให้เขาสนใจมากขึ้น
“เล๋ยเล่ นายคิดว่าฉันล้อเล่นกับนายหรือ? ”
เฉินเกอทำหน้าขรึมจ้องมองเล๋ยเล่เและถาม
หลังจากเล๋ยเล่ได้ยิน ก็รู้สึกมีเหตุผล เขารู้ว่าเฉินเกอจะไม่มีวันล้อเล่นกับเขา
แต่..สิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้มันอัศจรรย์เกินไปสำหรับเขา
“อย่างนี้ดีกว่า ฉันจะกระโดดก่อน ถ้าฉันตายแล้ว นายก็ค่อยคิดหนทางออกไปเอง!”
หลังจากนั้น เฉินเกอก็มองเล๋ยเล่และให้คำแนะนำ
“พี่เฉิน..ฉัน”
เมื่อเล๋ยเล่ได้ยิน ก็แสดงท่าทางมึนๆ เขาไม่คาดคิดว่าเฉินเกอจะแนะนำเรื่องแบบนี้กับตัวเอง
ก่อนที่เล๋ยเล่จะตอบ เฉินเกอก็กระโดดลงไป
เมื่อเห็นฉากนี้ เล๋ยเล่ก็ตกใจ เบิกตากว้าง ยังดีลูกตาไม่ทะลุออกมา เขาไม่ได้คาดคิดว่ายังไม่ทันพูดอะไรเฉินเกอก็กระโดดลงไปแล้ว
หลังจากที่เฉินเกอกระโดดลงไปแล้ว เขาไม่ได้กระแทกพื้นจนตาย แต่กลับยืนอยู่ตรงบันไดได้อย่างมั่นคง
ถูกต้อง ตามที่เขาเห็นด้วยตาตัวเอง สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ไขปริศนา
“พี่เฉิน!”
ในขณะนี้ เฉินเกอได้ยินเสียงตะโกนของเล๋ยเล่ดังมาจากด้านบน
ดูเหมือนว่าเสียงของเล๋ยเล่จะกังวลและเป็นห่วงมาก เพราะกลัวว่าเฉินเกอจะประสบอุบัติเหตุจริงๆ
“เล๋ยเล่ คุณสามารถกระโดดลงมาได้เลย!”
เฉินเกอเงยหน้าและตะโกนเสียงดังบอกเล๋ยเล่ที่อยู่ด้านบน
เมื่อเล๋ยเล่ที่อยู่ข้างบนได้ยินคำตอบของเฉินเกอ และเขาก็ดีใจมาก ในที่สุดเฉินเกอก็ทำสำเร็จ ดูเหมือนว่าสิ่งที่เฉินเกอพูดจะเป็นความจริง
จากนั้น เล๋ยเล่ก็แสดงความกล้าหาญของเขา และกระโดดลงไป
“อ๊ะ!”
เมื่อกระโดดลงไป เล๋ยเล่ก็กรีดร้องเสียงดัง
ก่อนที่เสียงจะหาย เล๋ยเล่ก็ยืนอยู่บนบันไดอย่างมั่นคง โดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที
“นายร้องหาอะไรวะ!”
เมื่อเฉินเกอมองไปที่เล๋ยเล่ เขาก็บ่นด้วยความโกรธ แก้วหูของเขาแทบแตก
“เอ่อ..”
เล๋ยเล่ก็ตะลึงเช่นกัน
“เฮ้ย พี่เฉิน ทำไมมันระยะต่ำแค่นี้ ในที่สุดเราก็ไขปริศนาได้แล้ว!”
หลังจากตั้งสติได้ เล๋ยเล่ก็พูดกับเฉินเกอด้วยความดีใจ
เฉินเกอส่ายหัวอย่างจนปัญญา จากนั้นเดินตรงไปที่ทางออกด้านหน้า
ไม่ไกลต่อหน้าพวกเขามีแสงส่องมาเป็นทางออก
“เฮ้ พี่เฉินรอฉันด้วย!”
เมื่อเล๋ยเล่เห็น ก็รีบตะโกนเรียกเฉินเกอและเดินตามออกไป
ทั้งสองออกจากบันไดทันที และเดินออกไปข้างนอก
ทันทีที่พวกเขาออกไป สิ่งที่ทั้งสองคนเห็นคือตำหนักที่ทรุดโทรม ยังคงมีเสาขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนในตำหนัก เสาตรง
ขึ้นไป
“ว้าว พี่เฉิน ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีตำหนักขนาดใหญ่อยู่ด้านล่างนี้ นี่คงเป็นสิ่งที่คนสมัยโบราณทิ้งไว้!”
เล๋ยเล่อุทานเสียงดัง ตกใจกับฉากที่อยู่ตรงหน้าเขา
ทั้งสองคนบังเอิญไปพบร่องรอยสิ่งของที่หายไปในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์และน่าตกใจจริงๆ
“ไปกันเถอะ เข้าไปดู!”
จากนั้นเฉินเกอก็พูดกับเล๋ยเล่ และทั้งสองก็เดินเข้าไปในตำหนักทันที
ขณะนั้น พวกเขาเพิ่งเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็ต้องหยุดพร้อมกัน
เฉินเกอได้ยินรอบๆ มีเสียงการเคลื่อนไหวแปลกๆ และเสียงนั้นก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เฉินเกอรู้ว่ามีบางอย่าง
ผิดปกติแน่นอน และคงมีอันตรายใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
“พี่เฉิน นี่..นี่มันเสียงอะไร? ”
เล๋ยเล่หดคอโดยไม่รู้ตัว มองไปที่เฉินเกอและถาม
เฉินเกอไม่ตอบกลับ แต่มองไปรอบๆ พยายามดูว่ามีอะไรเข้ามาใกล้พวกเขา
ในวินาทีถัดมา รูม่านตาของเล๋ยเล่ก็ขยายออกทันที
เห็นแมงป่องยักษ์จำนวนมากปรากฏตัวจากรอบๆ ตำหนัก
“พี่เฉิน..คือ.มันคือแมงป่อง..แมงป่องขนาดใหญ่!”
เล๋ยเล่พูดกับเฉินเกอด้วยเสียงที่สั่น
“อย่าขยับ อย่าส่งเสียง!”
เฉินเกอตักเตือนเล๋ยเล่ทันที
เฉินเกอนิ่งสงบมาก โดยไม่ตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวเลย
แม้ว่าเขาจะไม่เคยพบแมงป่องตัวใหญ่เช่นนี้ แต่เฉินเกอก็ไม่รู้สึกกลัวเลย
เพราะเฉินเกอก็เคยเห็นผี เขาจะกลัวแมงป่องได้อย่างไร
แต่เล๋ยเล่นั้นแตกต่างออกไปจริงๆ มันทำให้เล๋ยเล่ตกใจจริงๆ ตกตะลึงจนนิ่งอึ้งไปทั้งตัว
แมงป่องยักษ์เหล่านี้ล้อมรอบเฉินเกอสองคนไว้ กระดิกหางที่อยู่ข้างหลังเป็นครั้งคราว ราวกับว่าพวกมันพร้อมจะโจมตีเฉิน
เกอทั้งสองได้ทุกเมื่อ
แมงป่องมีพิษร้ายแรง แม้แต่แมงป่องตัวเล็กๆ ก็เหมือนกัน หากถูกแมงป่องตัวใหญ่ต่อย ก็คงไม่ใช่แค่โดนพิษเท่านั้น อาจจะ
ตายได้ทันที และมันจะแทรกซึมเข้าไปในร่างกาย