ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 958
บทที่ 958 แมงป่องพิษ
“พี่เฉิน..ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี? ”
ในตอนนี้เล๋ยเล่ถามเฉินเกอเสียงเบา
เมื่อต้องเผชิญกับแมงป่องยักษ์จำนวนมาก พวกเขาทั้งสองไม่มีที่ให้หลบหนี
“อย่าตื่นตระหนก ฉันกำลังคิดหาวิธีอยู่!”
เฉินเกอปลอบโยนเล๋ยเล่ แล้วใช้สมองครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว คิดหาหนทางรอด
ในไม่ช้า เฉินเกอก็เห็นประตูด้านในสุดของตำหนัก ตรงนั้นคงเป็นสถานที่ที่พวกเขาทั้งสองสามารถหลบหนีได้
“เล๋ยเล่ มองเห็นทางทิศเหนือของประตูตำหนักหรือไม่? ”
หลังจากนั้นเฉินเกอก็รีบเตือนเล๋ยเล่ทันที
เล๋ยเล่จ้องมองไปยังทิศทางที่เฉินเกอพูดทันที และพยักหน้าตอบรับ “พี่เฉิน ฉันเห็นแล้ว!”
“อืม เดี๋ยวฉันจะล่อแมงป่องพวกนี้ไป นายก็รีบพุ่งเข้าไป ไปเปิดประตูบานนั้น”
เฉินเกอสั่งเล๋ยเล่
“โอเค!”
เล๋ยเล่ไม่ลังเล และตอบตกลงทันที
ในยามคับขันต้องเร่งรีบหาทางเอาตัวรอด ฉะนั้นคำสั่งของเฉินเกอ เล๋ยเล่ต้องปฏิบัติตามทันที และจะไม่ลังเล
หรือมีความคิดเห็นใดๆ
หลังจากสั่งเรียบร้อย เฉินเกอก็หยิบกระบี่ซิงหยวนในมือของเขาออกมา
“ไป!”
จากนั้น เฉินเกอก็ตะโกน และผลักเล๋ยเล่ออกไป
ทันทีที่เปล่งเสียงออกมา เฉินเกอก็เหวี่ยงกระบี่ซิงหยวนออกจากมือ พลังวิญญาณที่เปล่งประกายออกมาจากกระบี่ซิงหยวน
ทำให้แมงป่องที่อยู่รอบๆ ล่าถอย
โอกาสนี้เล๋ยเล่ใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดรีบวิ่งไปที่ประตูตำหนัก
เฉินเกอตามหลังเล๋ยเล่ เพื่อปกป้องเล๋ยเล่ เพื่อกันไม่ให้แมงป่องโจมตีเล๋ยเล่
ด้วยการปกป้องของเฉินเกอ เล๋ยเล่ก็มาถึงประตูตำหนักอย่างราบรื่น
เล๋ยเล่ยื่นมือออกไปเพื่อผลักประตูตำหนัก
แต่อย่าลืม ประตูตำหนักนี้สูงมากกว่าสิบเมตร และทั้งหมดนี้สร้างจากหินก้อนใหญ่ที่หนักพันกิโลกรัม ไม่ใช่สิ่งที่เล๋ยเล่คนเดี๋ยวจะสามารถเปิดออกได้
“พี่เฉิน นี่..ประตูนี้ฉันคนเดียวเปิดไม่ออก มันใหญ่และหนักเกินไป!”
เล๋ยเล่ตะโกนเรียกบอกเฉินเกอที่อยู่ด้านล่างทันที
“นายไม่ต้องรีบร้อน ใจเย็นๆ ค่อยๆ มองหากลไก จะต้องมีกลไกที่สามารถเปิดได้!”
เฉินเกอเตือนเล๋ยเล่เสียงดัง แต่ตอนนี้เขาไม่มีหนทางมาช่วยเล๋ยเล่ได้ เพราะต่อหน้าเขามีแมงป่องยักษ์กำลังจะเข้ามาโจมตี
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเกอ เล๋ยเล่ก็เข้าใจทันที เขารู้ว่าตอนนี้เขาต้องพึ่งพาตัวเอง ชีวิตของพวกเขาทั้งสองก็ฝากไว้กับเขา
ถ้าเขาหากลไกไม่พบ เขาและเฉินเกอก็คงจะแย่แน่นอน
เล๋ยเล่ทำตามที่เฉินเกอแนะนำ นิ่งสงบลง และเริ่มมองหากลไก
หลังจากค้นหาอยู่สักพัก ในที่สุดเล๋ยเล่ก็พบกลไกจริงๆ ซึ่งก็คือแหวนดึง
เล๋ยเล่ก็ดึงแหวนดึงออกทันที
“ตูม!”
ทันทีที่ดึงแหวนดึง ประตูทั้งบานก็เริ่มสั่นสะเทือน
เล๋ยเล่ตั้งสติได้รีบก้าวถอยหลัง ก็เห็นประตูตำหนักเปิดออก
“พี่เฉิน ประตูเปิดแล้ว!”
เล๋ยเล่ตะโกนบอกเฉินเกอด้วยความดีใจทันที
เมื่อเฉินเกอได้ยิน เขาก็รีบตรงเข้าไปที่ประตูทันที
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เฉินเกอดึงเล๋ยเล่เข้าไปข้างในทันที
เมื่อทั้งสองพุ่งเข้าไปข้างในแล้ว แมงป่องยักษ์ที่อยู่ด้านนอกก็หยุดโจมตีทันที และต่างถอยออกไปหมด
“โอ้ พี่เฉิน แมงป่องพวกนั้นไม่ได้ไล่พวกเราแล้ว? ”
เล๋ยเล่มองไปที่แมงป่องที่กำลังถอยกลับไปและพูดกับเฉินเกอด้วยความประหลาดใจ
เฉินเกอเงยหน้าขึ้น เป็นอย่างนั้นจริงๆ
“นี่แสดงให้เห็นว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น และข่มแมงป่องพวกนี้ ทำให้แมงป่องพวกนี้กลัว มันจึงไม่กล้าเข้ามา!”
ในขณะนั้นเฉินเกอก็นึกขึ้นมาได้ และอธิบายให้เล๋ยเล่
พูดจบ เฉินเกอก็ลุกขึ้นมา
พวกเขาเห็นสระน้ำอยู่ข้างหน้า และมีตาน้ำอยู่กลางสระน้ำ ตาน้ำก็ผุดน้ำใสๆ ออกมาเรื่อยๆ และน้ำก็กระเซ็นไปทั่ว
เมื่อเห็นตาน้ำนี้ เฉินเกอก็ประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าจะมีตาน้ำอยู่ข้างใน
“พี่เฉิน ตรงนี้มีตาน้ำหนึ่งอันได้ยังไง!”
หลังจากเล๋ยเล่เห็น ก็อุทานด้วยความตะลึง
หลังจากพูดจบ เล๋ยเล่ก็เอนตัวลงทันที ยื่นมือออกไปรองน้ำจากสระเพื่อดื่ม
“ว้าว พี่เฉิน น้ำแร่นี้หวานมาก!”
หลังจากดื่มไปแล้ว เล๋ยเล่มองไปที่เฉินเกอและพูดด้วยความประหลาดใจ
เขาไม่เคยดื่มน้ำแร่ในสระที่หวานขนาดนี้ มันทำให้สดชื่นมาก
หลังจากเฉินเกอได้ฟัง เขาก็รองน้ำแร่ด้วยมือของเขาขึ้นมาดื่ม
แน่นอนเป็นอย่างที่เล๋ยเล่พูด มันหวานมาก
ที่นี่อัศจรรย์มาก สถานที่ที่น่ากลัวเช่นนี้ จะมีน้ำแร่หวานขนาดนี้
ในวินาทีถัดมา เห็นน้ำแร่ในสระเริ่มผุดเดือดขึ้นมา
หลังจากนั้นไม่นาน น้ำแร่ในสระทั้งหมดก็หายไป
“ทำไม..ทำไมมันหายไป น้ำล่ะ? ”
เล๋ยเล่เบิกตาโต และมองไปที่ฉากตรงหน้าเขาอย่างเหลือเชื่อและพูด
“เชี๊ยะ!”
เพียงแค่ได้ฟังเสียงที่คมชัด
เห็นว่าสระน้ำเดิมมีแผ่นหินลอยออกมา และใต้แผ่นหินนั้นมีช่องทางเดินที่มืด
เล๋ยเล่มองไปที่เฉินเกอทันที
เฉินเกอไม่ได้พูดอะไร เขาจึงยกไฟฉายส่องไปที่ช่องทางเดินด้านล่าง
หลังจากส่องได้สักพัก เฉินเกอก็ตัดสินใจไปดู
เล๋ยเล่ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเดินตามเฉินเกอไป
ทั้งสองเดินลงไปจนสุด และมาถึงห้องสุสานขนาดใหญ่
ในสุสานมีโลงศพที่พันลวดทอง
“ว้าว ที่แท้ใต้ตำหนักนี้เป็นสุสาน
เล๋ยเล่เหลือบมองไปรอบๆ และถอนหายใจ
คิดว่าพวกเขาไม่ใช่นักสำรวจ ทำไมตอนนี้กลายเป็นนักสำรวจสุสาน
หลังจากที่ทั้งสองคนเดินไปแล้ว เทียนที่สว่างไสวก็ถูกจุดขึ้นในทันที ในพริบตาเทียนก็สว่างขึ้นทั่วทั้งสุสาน
เฉินเกอมองไปที่สุสานทั้งหมด และเดินไปที่ป้ายหลุมฝังศพที่ตั้งอยู่ตรงหน้า
มีตัวหนังสือโบราณเขียนบนป้ายหลุมฝังศพ
“เล๋ยเล่ นายอ่านออกไหมตัวหนังสือโบราณเหล่านี้หมายความว่าอะไร? ”
เมื่อเห็นเช่นนี้เฉินเกอก็ถามเล๋ยเล่ทันที
เพราะเล๋ยเล่เป็นนักเรียนดีเด่น ดังนั้นเฉินเกอจึงอยากรู้ว่าเขาอ่านออกหรือไม่
หลังจากเล๋ยเล่ได้ฟัง เขาก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบทันที
หลังจากดูสักพัก เล๋ยเล่ก็พูดขึ้น
“พี่เฉิน นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของสุสาน เจ้าของสุสานเป็นนายพลสมัยโบราณที่มาจากแคว้นจางชื่อหยุนเทียนซื่อ
เล๋ยเล่รีบอธิบายให้เฉินเกอทราบทันที
“สุสานนายพลแคว้นจาง..มันมาปรากฏในเขาตงอู มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ
หลังจากที่เล๋ยเล่พูดจบเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครั้ง
เฉินเกอก็เข้าใจเช่นกัน แต่เขาก็รู้ว่าพวกเขาไม่อาจแตะต้องสิ่งของใดๆ ในสุสาน เมื่อกลไกถูกกระตุ้นพวกเขาก็แย่แน่ๆ
ในขณะนี้ เฉินเกอเห็นสัญลักษณ์บนโลงศพไม้ทองและรู้สึกคุ้นเคยมาก ราวกับว่าเขาเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง