ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 961
บทที่ 961 สงครามสองฝ่าย
ในเมื่อเฉินเกอและพวกทั้งสองได้ทำลายเครื่องจักรกลไปแล้ว ดังนั้นหลินเทียนหยวนและพวกจึงเข้าไปถึงตัวตำหนักได้โดยแทบไม่ต้องออกแรงใด ๆ จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปสุสานแคว้นจางจากตาน้ำในบ่อน้ำลึกลงไป
หลังจากกลุ่มหลินเทียนหยวนเข้ามาถึงสุสานแล้ว ทุกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึง
“ฮะ ๆ ๆ ๆ ๆ!”
ได้ยินเพียงเสียงของหลินเทียนหยวนที่จู่ ๆ ก็แหงนหน้ามองฟ้าและระเบิดเสียงหัวเราะดังออกมา
“ในที่สุดฉันก็หาเจอ ที่นี่แหละไม่ผิด!”
หลินเทียนหยวนร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็รีบพุ่งตัวเข้าไปตรงหน้าโลงศพไม้ทอง
เมื่อดูโลงศพไม้ทอง ที่อยู่ตรงหน้า มันทำให้หินเทียนหยวนไม่สามารถจะวางตาได้เลยจนดูเหมือนจะทำให้ดวงตาฝ้าฟาง
“ท่านหลิน นี่ ตกลงที่นี่เป็นสุสานของใครกันครับ?”
ทันใดนั้นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยของลูกน้องของหลินเทียนหยวนก็ดังขึ้น
“นี่คือสุสานของแม่ทัพโบราณแคว้นจาง ในสุสานของเขามีสมบัติล้ำค่ามากมาย โดยเฉพาะในโลงศพของเขา ได้ยินมาว่ามีลูกปัดหมื่นปีเม็ดหนึ่ง สามารถรักษาสภาพร่างกายไม่ให้เน่าเปื่อยตลอดกาล”
หลินเทียนหยวนเริ่มพูดแนะนำ ในขณะที่พูดนั้นเขาก็ยังคงสัมผัสโลงศพไม้ทอง ที่อยู่ตรงหน้าไปด้วยตลอด
“จริงเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นไม่ถือเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งชาติเลยเหรอเนี่ย!”
หลังจากที่ได้ยินลูกน้องคนนั้นก็พูดขึ้นอีกด้วยความตื่นเต้น
“ไม่ผิด ถือเป็นสมบัติล้ำค่า มา หยิบเครื่องมือออกมาเตรียมไว้ เตรียมเปิดโลง!”
จากนั้นหลินเทียนหยวนก็หันไปสั่งงานกลุ่มลูกน้องของเขา
หลังจากได้ฟังคำสั่งของหลินเทียนหยวน ทุกคนต่างหยิบเครื่องมือที่เตรียมเอามาด้วยออกมา
เครื่องมือเหล่านี้เป็นเครื่องมือที่หลินเทียนหยวนบอกให้พวกเขาเตรียมไว้โดยเฉพาะ เพื่อเข้ามาในสุสานและเปิดโลงศพ
เดิมทีหลินเทียนหยวนคิดว่าเฉินเกอและกลุ่มจะค้นพบสุสานนี้ก่อนแล้ว ยิ่งกว่านั้นคงจะเปิดโลงนี้ไปแล้วด้วยแต่ตอนนี้หลินเทียนหยวนดูแล้วมันคงจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคาดไว้
อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดก็ถูกเตรียมพร้อม เครื่องมือต่าง ๆ ถูกวางไว้บนฝาโลงโลงศพไม้ทอง และเตรียมพร้อมจะเปิดฝาโลงในทันที
“เปิดโลงไม่ได้นะ!”
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นจากปากสุสาน
ไม่ผิด เสียงนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเสียงของเฉินเกอ
เฉินเกอรีบห้ามเมื่อเห็นว่าหลินเทียนหยวนและพวกกำลังจะเปิดโลงนั้น
“เฉินเกอ!”
เมื่อเห็นเฉินเกอปรากฏตัว หลินเทียนหยวนก็ตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อเฉินเกอ
ใครใช้ให้เฉินเกอขโมยแผนที่ของเขาไปกันล่ะ
“หลินเทียนหยวน ผู้รู้ว่าจุดมุ่งหมายของคุณคือสุสานแม่ทัพแคว้นจาง แต่ผมขอบอกคุณ ถ้าคุณเปิดโลงเมื่อของที่อยู่ในโลงนั้นออกมา ถึงเวลานั้นพวกคุณก็อย่าเสียใจภายหลังแล้วกัน!”
เฉินเกอมองหลินเทียนหยวนแล้วร้องเตือน
แต่หลินเทียนหยวนมีหรือที่จะฟังสิ่งที่เฉินเกอพูด เขามีแต่ความเกลียดชังต่อเฉินเกอ เกลียดเสียจนอยากจะฆ่าเฉินเกอทิ้งไปเสียในทันที
“เฉินเกอ ฉันจะบอกแกให้ วันนี้พวกแกอย่าหวังจะมีชีวิตออกไปได้ ฉันไม่มีทางปล่อยพวกแกแน่!”
หลินเทียนหยวนจ้องมองและพูดกับเฉินเกอและพวกอย่างโกรธแค้น
“หลินเทียนหยวน แกมันเดรัจฉาน แกฆ่าทุกคนในหมู่บ้านเยว่เสีย แกไม่สมควรจะเป็นคนต่อไปแล้ว!”
เฉินเกอเองก็กล่าวคำผรุสวาทต่อว่าหลินเทียนหยวนเช่นกัน ความโกรธในใจของเขายิ่งเพิ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
“ฮ่า ๆ ๆ !”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเกอ หลินเทียนหยวนก็หัวเราะเสียงดังออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประชดประชัน
“คนพวกนั้นตายไปก็ไม่น่าเสียดาย ฉันจะบอกแกให้ พวกมันตายก็เพราะแกเป็นคนทำ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน!”
หลินเทียนหยวนพูดถึงเรื่องทุกอย่างที่ตนเองทำออกมาอย่างง่ายดายโดยที่ไม่สำนึกผิดแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฉินเกอยิ่งโกรธ ในสายตาเขาในตอนนี้ หลินเทียนหยวนไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว
“หลินเทียนหยวน แกจะต้องชดใช้สำหรับสิ่งนี้!”
เฉินเกอจ้องมองหลินเทียนหยวนและพูดอย่างเย็นชา
หลินหยวนเทียนกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาไม่เห็นเฉินเกออยู่ในสายตาด้วยซ้ำไป ในเมื่อเขาพาพวกมาด้วยก็ไม่ใช่น้อย และคิดว่าลำพังเฉินเกอและพวกเพียงสองคนคงไม่มีทางสู้พวกเขาได้
“มานี่ มาเปิดโลง!”
จากนั้น หลินเทียนหยวนก็ออกคำสั่งกับลูกน้องของเขาอีกครั้ง
วันนี้เขาหลินเทียนหยวนจะต้องเปิดโลงศพนี้ให้ได้ ใครก็ไม่มีทางจะขวางเขาไว้ได้!
“หลินเทียนหยวน!”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินเทียนหยวนพูด เฉินเกอก็ตะโกนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด
พูดจบเฉินเกอก็เดินเข้าไปหาหลินเทียนหยวนอย่างรวดเร็ว
“รีบหยุดเขาไว้สิ!”
หลินเทียนหยวนร้องโวยวายขึ้น
จากนั้นลูกน้องหลายคนของเขาก็รีบวิ่งมาขวางหน้าเฉินเกอไว้
แน่นอนว่าเฉินเกอไม่มัวแต่มาพูดกับคนพวกนี้ให้เสียเวลา แล้วลงมือในทันที
“โครม!”
เฉินเกอลงมืออย่างรวดเร็ว เพียงแค่กระบวนท่าเดียวลูกน้องของหลินเทียนหยวนก็ต่างพากันกระเด็นกระดอนออกไป
เมื่อเห็นเฉินเกอลงมือ ทุกคนรอบ ๆ ต่างเข้าโจมตีเฉินเกอ
และหลินเทียนหยวนก็พาลูกน้องสามคนพร้อมเครื่องมือเข้าไปเปิดโลงศพนั้น โดยไม่ได้สนใจการกระทำและปฏิกิริยาของเฉินเกอเลย
ตอนนี้ในสายตาของหลินเทียนหยวน มีแต่เรื่องการเปิดโลงเท่านั้นที่สำคัญที่สุด
แต่กระนั้นคนที่หลินเทียนหยวนพามานั้นไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นคู่ประมือของเฉินเกอได้เลย
เพียงพริบตา กลุ่มคนเหล่านี้ก็ถูกเฉินเกอเล่นงานจนล้มลงกับพื้นอย่างง่ายดาย ทุกคนล้วนแต่โดนเฉินเกอเหวี่ยงทิ้งและนอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้น
หลังจากจัดการกับบรรดาลูกกระจ๊อกแล้ว เฉินเกอรีบพุ่งตัวเข้าไปหาหลินเทียนหยวน เขาจะต้องห้ามไม่ให้หลินเทียนหยวนเปิดฝาโลงนั้นให้ได้
ถ้าเปิดฝาโลงนั้น เกรงว่าจะต้องเกิดเรื่องหายนะขึ้นแน่
และในเวลานี้หลินเทียนหยวนและพวกทั้งสี่ได้ขยับฝาโลงโลงศพไม้ทอง แล้ว
“พวกแกสามคน มานี่ กันมันไว้!”
หลินเทียนหยวนเห็นเฉินเกอพุ่งเข้ามาหาตน จึงได้ร้องสั่งลูกน้องอีกสามคนที่อยู่ข้างตน
หลังจากทั้งสามได้ยินคำสั่งก็ไม่ลังเลพุ่งตัวเข้าใส่เฉินเกอคิดจะขวางทางเฉินเกอไว้
“เพียะ!”
“เพียะ!”
“เพียะ!”
เฉินเกอลงมืออย่างรวดเร็ว เขายื่นมือออกไปตบหน้าพวกเขาสามคนคนละทีอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นความสามารถที่เก่งกาจของเฉินเกอก็ทำให้หลินเทียนหยวนต้องตกตะลึงอย่างยิ่งยวด เขารู้ว่าตนเองคงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินเกอ
“แก อย่าเข้ามานะ ถ้าแกเข้ามา ฉันจะเปิดโลง อย่างมากพวกเราก็ตายพร้อมกัน!”
หลินเทียนหยวนชี้หน้าเฉินเกอและตะโกนด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินเทียนหยวนพูดออกมา เฉินเกอจึงได้หยุดแล้วจ้องมองหลินเทียนหยวนอย่างเอาเป็นเอาตาย
“หลินเทียนหยวน วันนี้ฉันจะไม่ปล่อยแกแน่ ฉันเคยพูด แกจะต้องชดใช้ให้กับทุกชีวิตของชาวบ้านหมู่บ้านเยว่เสีย!”
เฉินเกอไม่มีทางปล่อยให้หลินเทียนหยวนรอดพ้นไปได้อย่างง่ายดาย
เขาพูดแล้วว่าหลินเทียนหยวนจะต้องตาย วันนี้ก็ต้องตายไม่มีทางที่ใครจะหยุดยั้งได้
หากไม่ฆ่าหลินเทียนหยวนคงยากที่จะระงับความโกรธแค้นและไม่สามารถแก้แค้นแทนหลินซานฉี่และชาวบ้านหมู่บ้านเยว่เสียได้
“หึ เฉินเกอ ถ้าไม่ใช่เพราะแกขโมยแผนที่ของฉันไป ฉันจะทำแบบนั้นไปทำไม ดังนั้นคนพวกนั้นตายไปก็เพราะแก แกต่างหากที่เป็นคนรับผิดชอบถึงจะถูก ไม่ใช่เอาแต่มาโทษฉัน!”
หลินเทียนหยวนไม่สำนึกผิดแม้แต่น้อย ยังคงเถียงเฉินเกอคำไม่ตกฟาก
“พูดจาไร้สาระ ปล่อยมือจากฝาโลงเสีย ฉันจะปรานีให้แกตายอย่างไม่ทรมาน ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้แกตายทั้งเป็น!”
เฉินเกอไม่ต้องการจะต่อล้อต่อเถียงกับหลินเทียนหยวนอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงตะคอกสั่งเสียงดังใส่หลินเทียนหยวน
จะมัวเสียเวลาพูดจากับหลินเทียนหยวนก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร หลินเทียนหยวนนั้นเป็นเหมือนปีศาจร้าย เป็นสัตว์เลือดเย็นไร้ความเป็นมนุษย์
“ฮ่า ๆ ๆ !”
หลังจากหลินเทียนหยวนได้ยินก็ระเบิดเสียงหัวเราะเสียงดังในทันที
เขาไม่มีทางจะประนีประนอมและยิ่งไม่มีทางยอมฟังคำพูดของเฉินเกอง่าย ๆ