ท่านประธานที่รัก - บทที่ 298 คู่ออกงานของเธอ
ซังหลินจวินค่อยเข้าใจว่าเฉินเฉียวโกรธเขาเพราะอะไร
กี่วันนี้ยุ่งเกินไป ซังหลินจวินพุ่งความสนใจทุกอย่างไว้บนตัวเฉินเฉียวกับเรื่องที่เกิดขึ้น วันนี้ที่รู้ว่าใกล้ถึงวันเกิดเถ้าแก่เยี่ยน นอกจากคิดว่าจะพาเฉียวเฉียวกับเหมิงเหมิงไปให้คนอื่นรู้จัก อย่างอื่นเลยไม่ได้คิดอะไรมาก
แล้วในสายตาเขา เยี่ยนเฟิงกับเจียงฉยงฉยงรู้จักกันตั้งนาน ใครจะเข้าใจผิดถ้าพวกเขาเดินด้วยกัน
แต่พอมาคิดดูดีๆ เรื่องนี้ก็คิดไม่รอบคอบจริงๆ
ซังหลินจวินยื่นมือไปกอดตัวเธอไว้แน่น มองสบตาเธออย่างจริงจังแล้วเอ่ย “เฉียวเฉียว ขอโทษครับ ฉันคิดไม่ถึงเอง แต่ว่าฉันสาบานได้ ฉันไม่ได้จงใจจริงๆ”
เฉินเฉียวมองเขาอย่างประหลาดใจ ความจริงเธอไม่ใช่ว่าอยากได้ยินคำขอโทษของเขาเลยจงใจพูดแบบนี้
เฉินเฉียวเชื่อทุกคำพูดของเขา เพราะฉะนั้นตอนที่เขาตั้งใจขอโทษ เฉินเฉียวก็รู้สึกไม่สบายใจ
ดึงมือเขาออกแล้วตบหลังมือเบาๆ “ช่างเถอะ ฉันให้อภัยนายแล้ว”
เพราะความเข้าใจผิดนี้ เฉินเฉียวเลยไม่อยากคิดแทนฉยงฉยง แล้วเธอก็ยังจำผู้ชายครั้งก่อนที่อยู่กับฉยงฉยงได้
คิดว่าวันนั้นฉยงฉยงไม่มีทางไม่มีคู่ออกงานหรอก
หลังจากนั้นหลายวัน ดูเงียบสงบแปลกๆ เฉินเฉียวตื่นตั้งแต่เช้า แล้วเปลี่ยนชุดใหม่ที่เพิ่งซื้อให้เหมิงเหมิง จากนั้นก็ไปหาชุดของตัวเองในห้อง
เพราะว่าเป็นงานวันเกิดของผู้สูงอายุ เฉินเฉียวเลยจะไม่แต่งตัวจัดจ้าน เลยใส่เดรสสีฟ้าอ่อน แล้วใส่เสื้อทับนอกสีขาว ปลายกระโปรงเป็นลูกไม้ ดูดีดูสวยด้วย
ซังหลินจวินก็ไม่ได้ใส่สูดำ แล้วเปลี่ยนสูทสีน้ำเงินเข้มคู่กับเฉินเฉียว
ตอนที่ทั้งสองเดินลงไป ป้ามั่วที่เห็นพวกเขาก็รีบเอ่ย “คุณชายคุณหญิงสวยหล่อทั้งคู่ เหมาะสมกันจริงๆ”
จากนั้นก็ชูนิ้วโป้งให้
เหมิงเหมิงก็ชมด้วย “วันนี้คุณแม่สวยมากเลยค่ะ”
พอเฉินเฉียวได้ยิน เลยจงใจกอดอกก้มลงไปด้วยหน้าบูดบึ้ง “ปกติคุณแม่ไม่สวยเหรอคะ?”
เหมิงเหมิงที่ชมคุณแม่เพราะสวยมากเลยอึ้งไม่รู้จะตอบยังไง
ยังดีโยว่อีที่ใส่สูทสีชมพูน่ารักๆไปจูงมือเหมิงเหมิงไว้ แล้วช่วยเหมิงเหมิงตอบ “แม่ของผมสวยที่สุดในโลกแล้ว ใช่ไหมครับ”
“เรานี่หนา” เฉินเฉียวหลุดยิ้ม
ยิ่งโยว่อีโตขึ้น ก็ยิ่งพูดเก่งขึ้น
เขาไม่เหมือนพ่อหรอกที่ทำให้ความสัมพันธ์ตัวเองกับพ่อเหมือนลูกระเบิด แค่แตะก็จะระเบิด
เขาปากหวาน ตอนที่พูดปลอบใจคนอื่นสายตาก็จริงจังมาก จนทำให้คนอื่นรู้สึกว่าคำพูดของเขา เหมือนเขาพูดจากใจจริงๆ
“แม่ก็ต้องสวยที่สุดอยู่แล้ว แล้วพ่อล่ะ” ซังหลินจวินจัดแขนเสื้อไปด้วยแล้วเอ่ยถามด้วย
น้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนแค่ถามลอยๆ
แต่โยว่อีกลับรู้สึกขนลุก
ถึงเขาจะพูดเก่งมากแค่ไหน แต่กับคุณพ่อที่แข็งกระด้าง เขาก็จนปัญญาจริงๆ
เลยรีบหาข้ออ้างแล้วจูงมือเหมิงเหมิงออกไปก่อน
ตอนที่ซังหลินจวินกับเฉินเฉียวเดินออกไปถึงประตู เลยรู้ว่าวันนี้ฝนตก
ซังหลินจวินรีบเอาเสื้อคลุมที่เป็นแค่เครื่องประดับคลุมให้เธอทันที
โยว่อีกับเหมิงเหมิงนั่งรถของลุงฟู่ ซังหลินจวินพาเฉินเฉียวนั่งอีกคัน
รถไวส์แมนสีเทาหรู ทรงรถดูดีสบายตามาก
สีอื่นอาจจะดูเด่นเกินไป แต่สีเทากลับให้ความรู้สึกเป็นผู้ดี
ก่อนที่เฉินเฉียวจะนั่งก็แอบลังเล เพราะเธอไม่เคยเห็นซังหลินจวินขับรถคันนี้ เลยคิดว่าเป็นลูกรักของเขา
เธอไม่รู้ว่ารถยี่ห้ออะไร แค่รู้สึกว่าถ้าพวกเขาขับรถคันนี้ออกไป ต้องเด่นแน่นอน
ซังหลินจวินที่นั่งในรถแล้วเห็นเฉินเฉียวเปิดประตู แต่ไม่เข้ามานั่ง พอเห็นคิ้วที่ครุ่นคิดของเธอ เลยรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่
“อย่ามองแล้ว ใกล้ถึงเวลาแล้ว” ซังหลินจวินก็ไม่บอกเธอว่ารถคันนี้ก็ไม่ได้อะไรมาก แค่จ้องท่าทางเกร็งๆของเธอแบบนั้น
“โอเคโอเค” เฉินเฉียวรู้สึกว่าเรื่องรถไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด ที่สำคัญคือในงานเลี้ยงวันนี้เธอจะรับมือยังไง
เฉินเฉียวที่ในความทรงจำเหมือนไม่เคยเข้าร่วมงานวันเกิดเลยต้องเตรียมใจไว้
ตอนที่ลงรถ เฉินเฉียวเห็นตึกที่สูงราวฟ้า ในใจเลยกังวล แต่พอเห็นโยว่อีกับเหมิงเหมิง ก็รีบรวบรวมความกล้า
ซังหลินจวินลงรถก่อนเฉินเฉียว เขาลงมาแล้วเดินอ้อมไปทางเฉินเฉียว แล้วค่อยๆเปิดประตูให้เธอ
จากนั้นก็ยื่นมือไปหาเธอ
เฉินเฉียวอายเล็กน้อย แต่พอเห็นสายตาที่ให้กำลังใจของเขา สุดท้ายก็ยื่นมือไปวางบนมือเขา
เพราะตำแหน่งของเถ้าแก่เยี่ยน ถึงจะเป็นงานเลี้ยงที่ใหญ่โต แต่ก็ไม่มีนักข่าวหลุดเข้ามาเลย
เพราะยังไงก็เป็นคนในค่ายทหาร
ในมุมลับๆ มีกองกำลังแอบซ่อนตัวปกป้องอยู่ แต่ละคนก็เป็นคนที่มีประสบการณ์เกษียณแล้ว
ตอนที่เฉินเฉียวคล้องแขนซังหลินจวินเดินเข้าไป เห็นว่ารู้จักคนในงานไม่น้อย
เยี่ยนเฟิงในสูทเต็มยศ ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ครั้งก่อนที่เจอยังผมแดงอยู่ ตอนนี้กลับมาเป็นสีดำแล้ว
ตอนที่แขกแต่ละคนเข้ามาในงาน เขาก็พาไปนั่งอย่างมีมารยาท
อาจจะเพราะเห็นพวกเขา ตาเยี่ยนเฟิงเลยเป็นประกาย
จากนั้นเฉินเฉียวก็เห็นผู้ชายที่เพิ่งพูดชมไป เอาแขนมากอดไหล่ซังหลินจวินไว้ แสดงให้เห็นธาตุแท้ทันที
ล้อเล่น ถ้าเขาทำอะไรแบบนั้นตอนนี้ เขาก็ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงสิ เขาไม่ทำหรอก
พอเยี่ยนเฟิงเห็นเลยเบะปาก ยังดีที่เขาจำได้ว่าที่นี่ที่ไหน แค่ส่งสายตาให้ซังหลินจวินว่าให้รอก่อน จากนั้นก็กลับไปเป็นเด็กดีเหมือนเดิม
เพราะความสัมพันธ์ซังหลินจวินกับเถ้าแก่เยี่ยนค่อนข้างดี เลยไปเยี่ยมท่านที่เขาห้องพัก
เฉินเฉียวที่พาเด็กเดินไปที่ห้องของเถ้าแก่ ประตูที่เปิดกว้างมีเสียงหัวเราะมีความสุขของเถ้าแก่ลอยออกมาว่ากินอะไรสักอย่าง
เฉินเฉียวคิดว่าเถ้าแก่กำลังรับประทานอาหาร เลยดึงมือซังหลินจวิน “เถ้าแก่กำลังทานอาหารอยู่ เราเข้าไปไม่ค่อยดีมั้ง”
ซังหลินจวินมองเฉินเฉียวที่ซื่อตรงแล้วยิ้มให้