ท่านประธานที่รัก - บทที่ 299 หวงชีวิตมาก
เขาใช้นิ้วแตะจมูกเธอเบาๆ กำลังจะอธิบาย
แต่โยว่อีที่จูงมือน้องสาวไว้หันมาเอ่ย “แม่ครับ คุณปู่เยี่ยนกำลังเล่นหมากรุกกับคนอื่น ไม่ได้ทานข้าวครับ”
เฉินเฉียวที่เรื่องง่ายๆแค่นี้ก็ไม่เข้าใจอยากมุดหน้าหนี
ดูสิ แม้แต่เด็กยังรู้เลย
ซังหลินจวินที่โดนแย่งพูดจ้องโยว่อีไปหลายวิ
มุมปากเลิกขึ้น จนโยว่อีเสียวสันหลัง
เขาเริ่มรู้สึกผิดปกติ เมื่อกี้เหมือนเขาแย่งพูดเร็วเกินไป
ควรจะให้คุณพ่อพูดสิถึงจะถูก
โยว่อีที่หวงชีวิตไม่อยากให้สายตาคุณพ่อเอาแต่จ้องตัวเอง เลยรีบจูงมือเหมิงเหมิงวิ่งเข้าไปก่อน
เฉินเฉียวตกใจอยากจะดึงไว้ แต่เด็กน้อยทั้งสองคนไหวพริบเร็วเกินไป
“ไปเถอะ” ซังหลินจวินเห็นเด็กเข้าไปแล้ว เลยจูงมือเฉินเฉียวเข้าไปด้วย
เฉินเฉียวพยักหน้า ไม่ลังเลอีก
ตอนที่ซังหลินจวินกับเฉินเฉียวเดินเข้าไปในห้องพักเถ้าแก่เยี่ยน เลยเห็นว่ามีคนเล่นหมากรุกอยู่ที่ข้างหน้าต่าง
โยว่อีกับเหมิงเหมิงแยกไปดูคนละฝั่ง
ตอนที่เห็นซังอวินที่นี่ ในสายตาซังหลินจวินมีความไม่สบอารมณ์ ถึงจะรู้สึกขอบคุณที่เขาเอาหลักฐานมาให้ แต่ถ้าคิดดูดีๆ เขาชอบผู้หญิงของตัวเอง ในใจเลยรู้สึกไม่โอเค
เถ้าแก่เยี่ยนกำลังตั้งใจกับหมากรุก กำลังคิดว่าจะเดินยังไงเพื่อกินอัศวินของซังอวิน
ตอนที่เหมิงเหมิงเข้ามา ซังอวินก็รู้เลยว่าใครจะเข้ามาอีก
รอตอนเฉินเฉียวเข้ามา ซังอวินเห็นเธอแต่งตัวดูดี ในตาเลยมีประกาย
ทั้งๆที่แต่งตัวธรรมดา แม้แต่เครื่องประดับก็ไม่มี แต่กลับทำให้ความรู้สึกที่เขาหักห้ามไว้เอ่อล้นออกมา
เขาเลยตั้งใจกับหมากรุกแทน ไม่มองเธออีก
ฝีมือซังอวินค่อนข้างดี แต่เขาก็แอบออมแรงอย่างไม่มีล่องรอย สุดท้ายก็แพ้ให้เถ้าแก่เยี่ยน
“เถ้าแก่เยี่ยนครับ แขกของคุณมา งั้นผมไม่รบกวนแล้วนะครับ” เขาลุกขึ้นกำลังจะไป
เถ้าแก่เยี่ยนที่เชิญเขามาโดยเฉพาะจะให้เขาไปได้ยังไง เลยเอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ดี “วันนี้วันเกิดแปดสิบห้าของตาแก่อย่างฉัน ถึงจะยุ่งแค่ไหน แต่ยังไงก็ต้องรออวยพรฉันก่อนไปหรือเปล่า”
“นี่……” ซังอวินลังเล สุดท้ายก็ตกลง “งั้นเดี๋ยวผมรอทานอาหารร่วมกันแล้วค่อยไปก็ได้ครับ เถ้าแก่อย่ารังเกียจที่ผมทานด้วยก็พอครับ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงล้อเล่น แต่เถ้าแก่กลับรู้สึกดี
เถ้าแก่เยี่ยนยังชวนเขาเล่นต่อ แต่ซังอวินโบกมือปฏิเสธก่อน
“เจ้าซัง มาเล่นเป็นเพื่อนฉันเร็ว”
ซังหลินจวินจูงมือเฉินเฉียวไปที่ข้างๆโต๊ะแล้วส่ายหน้า “เถ้าแก่ครับ วันนี้ผมมาร่วมงานวันเกิดเถ้าแก่ เล่นหมากรุก ไว้ครั้งหน้าละกันครับ”
พอเห็นว่าแต่ละคนไม่อยากเล่นกับท่าน เถ้าแก่เลยอารมณ์ไม่ค่อยดี
พอเห็นผู้หญิงแปลกหน้าข้างตัวเขา เลยพูดล้อเล่น “เจ้าซังมีแฟนแล้วเหรอ เหมาะสมกันจริงๆ”
ซังหลินจวินกุมมือเฉินเฉียวไว้ แล้วชูแหวนแต่งหน้าขึ้น “จดทะเบียนสมรสแล้วครับ”
“โอ้ทำไมเร็วขนาดนี้” เถ้าแก่ไม่สนใจเรื่องบันเทิงอยู่แล้ว เลยพลาดข่าว
แต่ว่าในสายตาท่านมีแต่ความอิจฉา
จากนั้นก็หันมองเด็กผู้หญิงน่ารักข้างๆ “เจ้าหนูคนนี้ก็ของบ้านเราเหรอ”
ใบหน้าเฉินเฉียวแดงขึ้นมาทันที
ซังหลินจวินพยักหน้า”เราควรจะแต่งงานกันเมื่อสามปีก่อนแล้วครับ แต่เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยเลยไม่ได้แต่ง เถ้าแก่น่าจะยังจำได้”
พอเขาพูดแบบนี้ เถ้าแก่ก็นึกถึงงานแต่งที่ไม่มีเจ้าสาวเมื่อสามปีก่อน เลยถอนหายใจ
เรื่องของความรู้สึกไม่มีใครคาดเดาได้จริงๆ
ตอนนั้นทุกคนคิดว่าพวกเขาคงไม่มีทางอยู่ด้วยกันแล้ว เพราะงานแต่งครั้งนั้นทำให้ตระกูลซังเสื่อมเสียชื่อเสียง ถึงเจ้าซังจะตกลง แต่พ่อเขาคงไม่ตกลงหรอก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายพวกเขาก็อยู่ด้วยกัน
เรื่องของความรู้สึกก็เหมือนเชือกที่ผูกไว้แน่น แกะยังไงก็ไม่ออก ใครจะเหมือนเด็กในบ้านท่านล่ะ วันๆเอาแต่ก่อเรื่อง
อยู่ๆประเด็นนี้ก็โยงไปหาเยี่ยนเฟิง
เถ้าแก่พูดบ่น “เด็กเกเรนั่นไม่รู้จะมีเหลนให้ฉันเมื่อไหร่ แต่ก่อนก็มีผู้หญิงตั้งหลายคน แต่ก็ไม่มีใครท้องเลย”
ซังหลินจวินก็ไม่อยากดึงเยี่ยนเฟิงลงมาด้วย
จึงยิ้มอ่อน ไม่ได้พูดอะไรมาก
อาจจะเพราะประเด็นนี้ เยี่ยนเฟิงเดินมาจากข้างนอกกำลังจะเรียกเถ้าแก่ไปรับประทานอาหาร เถ้าแก่เลยดึงคอเสื้อเยี่ยนเฟิงไว้แล้วพูดทีละคำ “ไอ่เด็กนี่ เมื่อไหร่จะสัญญากับปู่ว่าจะแต่งงาน ขอแค่แกมีลูก อีกหน่อยแกจะเอาแต่ใจแค่ไหนก็ได้”
เพราะถ้ามีเหลน ท่านก็จะทุ่มใจดูแลเขา ไม่มีเวลาสนใจเขาหรอก
เยี่ยนเฟิงอยากดึงคอเสื้อกลับมา แต่แรงเถ้าแก่เยอะมากเลยไม่ขยับเลย
เยี่ยนเฟิงทำอะไรไม่ได้เลยต้องยอม “ปู่ปล่อยก่อนสิครับ”
เถ้าแก่เยี่ยนเอาแต่จ้องเขา
เยี่ยนเฟิงรีบยกมือสาบาน “รอวันเกิดปู่ผ่านไปแล้ว ผมจะรีบหาสะใภ้เลยครับ”
“นี่ค่อยว่าไปอย่าง” เถ้าแก่ค่อยปล่อยมืออย่างพอใจ
“ไปเถอะ” พออารมณ์ดีขึ้น เถ้าแก่ก็เดินนำออกไปก่อน
ตอนนี้ข้างนอกแขกมาเยอะแล้ว เป็นคนรู้จักทั้งนั้น คนตระกูลใหญ่ๆทั้งแปดก็มาด้วย เถ้าแก่เลยหัวเราะอารมณ์ดี
เฉินเฉียวตามติดซังหลินจวิน เธอไม่ค่อยรู้จักคนเหล่านี้อยู่แล้ว เลยไม่ได้ไปทักทาย
คนอื่นก็พูดทักทายกัน เฉินเฉียวเลยพาเด็กไปหาของกิน ไม่รู้ว่ากินเยอะเกินไปหรือเปล่า เลยรู้สึกไม่สบายท้อง
เฉินเฉียวบอกซังหลินจวินแล้ว เลยเดินตามคนรับใช้ไปทางห้องน้ำ
เยี่ยนเฟิงเห็นไอ่ซังที่ตัวไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหลังจากที่เธอไปแล้ว เลยตบไหล่เขาแล้วส่ายหน้า “ไอ่ซัง แกนี่หนา หลงเมียหัวปักหัวปำ เฉินเฉียวเพิ่งไป แกก็มองหาเป็นสิบรอบแล้วเนี่ย”
ซังหลินจวินมองบนใส่เขา แล้วเขย่าแชมเปญในมือเบาๆ มองเห็นฟองในแก้วแล้วค่อยวางลง
จากนั้นก็พูดแซะ “ยังไงก็ดีกว่าแกที่กลับไปกินหญ้าเก่า”
“นี่นี่นี่ ไอ่ซัง แกพูดอะไรวะ” ตาเยี่ยนเฟิงมีประกายไฟ