ท่านประธานที่รัก - บทที่ 300 ของขวัญที่ทำลายงานเลี้ยง
พอรู้สึกตัวก็ดึงแขนซังหลินจวินไว้ จะให้เขาพูดให้เคลียร์
“เรื่องสำคัญไม่พูดรอบที่สอง” ซังหลินจวินดึงมือเขาออกแล้วเดินไป
“จะรีบไปทำไม ไฮไลต์ที่ตาแก่เตรียมไว้ยังไม่ถึงเลย” เยี่ยนเฟิงพึมพำ รู้สึกโดดเดี่ยว แต่ก่อนในวันนี้ ถึงไอ่ซังไอ่เจียงไม่อยู่เป็นเพื่อนเขา แต่อย่างน้อยไอ่ลู้ก็ยังอยู่
ปีนี้น่าเบื่อจริงๆ
“ทำไรวะ” อยู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น จากนั้นก็มีแขนมาวางที่ไหล่เขา
เยี่ยนเฟิงไม่กล้าหันกลับไป กำลังจิตนาการเงาของคนคนนั้น จากนั้นก็รีบกอดเขาไว้แล้วเอ่ยอย่างดีใจ “ลู้หมี แกกลับมาสักที แกรู้ไหมว่าปีนี้ฉันเศร้าแค่ไหน”
เยี่ยนเฟิงเอาแต่พูดกับลู้หมี
ลู้หมีก็ยิ้มแล้วปล่อยให้เขากอด
เวลาอาจจะนำพาคนมากมายจากไป แต่คนที่จริงใจจริงๆไม่มีทางหายไปแน่นอน
ตอนที่เฉินเฉียวกำลังเช็ดมือที่มีน้ำ ก็มีคนชุดแดงเดินมาทางเธอ
เฉินเฉียวเลยหลีกทางให้
คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นจะกอดอกไว้ ใช้สายตาที่แหลมคมมองสำรวจเธอ จากนั้นริมฝีปากสีแดงก็พ่นคำที่ไม่ค่อยดีออกมา
“ฉันคิดว่าเขาจะชอบผู้หญิงแบบไหนซะอีก คิดไม่ถึงจริงๆ ชอบผักจืดอย่างเธอ ตลกชะมัด” เธอส่องกระจก กำลังมองสำรวจใบหน้าที่งดงามตัวเอง รู้สึกว่าซังอวินต้องตาบอดแน่ๆ
เฉินเฉียวที่โดนแขวะกัดฟันแน่น “คุณหนูโม่ ตอนจะดูถูกฉัน ลบเมคอัพก่อนค่อยคุยกันไหมคะ?”
“แก” โม่อวี่ไม่คิดเลยว่าเฉินเฉียวจะตอกกลับ เลยจ้องเธออย่างโกรธเคือง
“ถ้าคุณหนูโม่อยากแข่งว่าใครตาโตกว่ากัน งั้นฉันคงเทียบด้วยไม่ได้จริงๆ” เฉินเฉียวยักไหล่พูดอย่างนิ่งเฉย ไม่สนใจเธอที่จะเป็นบ้าเลย
เฉินเฉียวพูดจบ ก็เดินออกห้องน้ำ
พอโม่อวี่เห็น เลยไม่สนเมคอัพบนหน้า เดินตามเธอออกไปด้วย
กี่ปีนี้เฉินเฉียวเซนซิทีฟกับคนที่สะกดรอยตามมาก
เพราะฉะนั้นตอนที่รู้ว่าโม่อวี่ตามเธอมา เลยหยุดแล้วหันกลับไปขมวดคิ้วถาม “คุณหนูโม่ คุณจะตามฉันถึงเมื่อไหร่ ถ้าคุณยังตามอีก ฉันจะแจ้งตำรวจ”
โม่อวี่หลุดขำ เหลือบมองเธอแล้วเอ่ยอย่างไม่แคร์ “เธออยากแจ้งก็แจ้งสิ ทางกว้างขนาดนี้ ฉันก็เดินทางนี้ด้วยไม่ได้เหรอ”
“งั้นได้ คุณเดินก่อน” เฉินเฉียวยื่นมือหลีกทางให้
โม่อวี่เหมือนไม่เคยเจอคนแปลกแบบนี้ เลยโกรธแล้วกระทืบเท้าเดินไปทางห้องโถง
ตอนที่ซังหลินจวินเห็นเฉินเฉียว เธอกำลังดูวิวในสวนในบ้านของตระกูลเยี่ยนอยู่
“เบื่อใช่ไหม” เห็นเธอไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่
ซังหลินจวินก็มองตามทิศทางที่เธอมองแต่ก็ไม่เห็นอะไร
“ตกใจหมด” เฉินเฉียวลูบอก เหมือนสติกระเจิง
อาจจะเพราะคุ้นเคยกับเขาเกินไป ตอนที่ซังหลินจวินเข้าใกล้เฉินเฉียว เธอเลยไม่รู้สึกตัว
“ไม่ใส่เสื้ออีกละ” ซังหลินจวินไม่ตอบเธอ เพราะเขาไม่ได้เดินย่อง แต่เธอเหม่อเลยไม่รู้สึกตัวต่างหาก
ตอนที่ซังหลินจวินเห็นเธอถอดเสื้อคลุมมากอดไว้ จึงขมวดคิ้ว แล้วรีบคลุมให้เธอเหมือนเดิม
ตอนที่เฉินเฉียวต่อต้านเขา ซังหลินจวินก็มองสบตาเธอ “เฉียวเฉียว อย่าทำให้ฉันเป็นห่วงได้ไหม?”
กับสายตาที่จริงจังของเขา เฉินเฉียวเลยไม่พูดอะไรขัดอีก
จนกระทั่งเธอโดนดึงกลับไปในงาน เฉินเฉียวก็ยังหงุดหงิดอยู่
ทำไมเธอต้องหลงเพราะสายตาของเขาด้วย
ตอนที่ซังหลินจวินกับเฉินเฉียวเข้าไป เยี่ยนเฟิงก็กำลังพูดอวยพรเถ้าแก่แล้วพูดเอาใจต่างๆนานา
เถ้าแก่เยี่ยนหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุขกับหลานตัวเอง
เยี่ยนเฟิงเห็นว่าบรรยากาศกำลังดีเลยเอ่ย “ปู่ครับ ผมเอาของขวัญของผมให้ปู่ดูดีไหมครับ”
เถ้าแก่เห็นว่าเขาเป็นเด็กดีขนาดนี้ เลยปล่อยเขา
ซังหลินจวินดึงเฉินเฉียวมานั่งข้างโยว่อีกับเหมิงเหมิง กำลังมองเยี่ยนเฟิงไปหยิบของขวัญ เขาก้มหน้าแล้วกระซิบกับเฉินเฉียว “เฉียวเฉียว ใจฉันมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี รู้สึกว่าเยี่ยนเฟิงจะพังงานเลี้ยง”
เฉินเฉียวก็พูดเสียงเบา “ไม่หรอกมั้ง”
เฉินเฉียวคิดว่าถึงเยี่ยนเฟิงจะออกนอกกรอบแค่ไหน แต่คงไม่ก่อเรื่องวันนี้หรอก
แต่ความจริงทำให้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่ทางเกิดขึ้นกลับเกิดขึ้น
เฉินเฉียวทึ่งไม่รู้ว่าเยี่ยนเฟิงเอาดอกไม้ใหญ่ขนาดนั้นมาจากไหน……ใช่ดอกไม้เหรอ
เธอไม่รู้ว่าควรเรียกสิ่งนั้นยังไง
เป็นแผ่นกระดานไม้กลมๆอันใหญ่
กลีบดอกไม้สีแดงเรียงเป็นคำว่าอายุยืนนาน
ขอบกระดานก็ประดับด้วยกลีบดอกไม้สีเหลือง
ถ้านี่ไม่ใช่งานวันเกิดแปดสิบห้าปีของคนแก่ ของขวัญนี่ก็คงประทับใจมาก
แต่ปัญหาคือ เถ้าแก่ไม่ใช่ผู้หญิงของเขา ที่จะมอบดอกไม้โรแมนติกแบบนี้
“ของขวัญแต่ก่อนที่เยี่ยนเฟิงให้เถ้าแก่ ก็น่าตกใจแบบนี้เหรอ?” เฉินเฉียวพยายามกลืนนำ้ลาย แล้วค่อยเรียบเรียงคำพูด
ซังหลินจวินกุมขมับ ทนดูไม่ได้
กับความสงสัยของเฉินเฉียว แค่ส่ายหน้า “แต่ก่อนฉัน อี้ฟานกับลู้หมีช่วยมันเลือกของขวัญ ของขวัญที่ไอ่เยี่ยนเฟิงคิดได้มีแค่สามอย่าง ดอกไม้ ไข่มุก เงิน”
จากนั้นก็พูดต่อ “ไม่ว่ากับใครก็ตาม”
ปากเฉินเฉียวกระตุก รู้สึกหมดคำพูด
แล้วใบหน้าเถ้าแก่ที่กำลังจะรับของขวัญจากหลานก็หน้าเขียว
แต่เพื่อไม่ให้หลานตัวเองขายหน้า ท่านเลยจำใจรับมา แล้วรีบเรียกคนให้ขึ้นมาเอาลงไป
เยี่ยนเฟิงคิดว่าเถ้าแก่พอใจ เลยยิ้มแล้วถาม “คุณปู่ ของขวัญที่ผมให้เป็นยังไงบ้างครับ”
มุมปากเขาเลิกขึ้น เหมือนกำลังภูมิใจ
เถ้าแก่เกือบจะกระอักเลือด ยังดีที่ท่านผ่านเรื่องมาเยอะ เลยหักห้ามความโมโหแล้วตบศีรษะหลานเบาๆ “เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน”
เฉินเฉียวหรี่ตา ไม่อยากดูต่อ
เพราะความเกรงขามของเถ้าแก่เยี่ยน ในงานวันเกิดท่านเลยไม่มีใครพูดถึงของขวัญของเยี่ยนเฟิง
แต่วันต่อมา กับของขวัญที่เยี่ยนเฟิงให้ปู่ตัวเองถูกลือไปทั่วเมือง