ท่านประธานที่รัก - บทที่361 สถานการณ์ที่ลำบาก
“น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ”ผู้พูดคือซังหลินจวิน
ก่อนการประชุมซังอวิ๋นโทรหาซังหลินจวิน หากไม่มีเขาเขาต้องการให้ ซังหลินจวินลองดูวิธีการของเขา
แน่นอนสิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้เขาลองเป็นผู้ฟัง
ซังหลินจวินได้ยินทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบแม้ว่าเขาจะไม่เห็นภาพด้วยตาของเขาเอง แต่เขาก็เดาได้ว่าห้องประชุมของซังอวิ๋นเพิ่งจะมีเรื่องดราม่า
เรื่องที่ซับซ้อนแบบนี้ทำให้ ซังหลินจวินคุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ถูก
เขาฟังออกได้อย่างรวดเร็วว่า เรื่องนี้เหมือนกับเรื่องของเจียงฉยงฉยงในตอนนั้นมาก
ในโลกนี้จะไม่มีคนที่สองที่จะทำเรื่องแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในฐานะผู้หญิง
ดังนั้นซังหลินจวิน จึงให้ความเห็นที่ถูกต้องสำหรับการทดลองนี้
“ แผนของคุณ เป็นคนๆนั้นแน่ๆ ไม่ต้องสงสัย”
“ โอเค ไหนๆคุณก็พูดแบบนี้ งั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องเมตตาคนๆนั้นแล้ว”ซังอวิ๋นเคยร่วมมือกับปู้อี้เฉินมาก่อน แต่ผ่านไปนานมากจนเกือบลืมไปแล้ว
ซังอวิ๋นวางโทรศัพท์
ผู้บริหารที่เพิ่งเห็นประธานกับซังหลินจวินคุยกันแบบนั้นต่อหน้าต่อหน้า ทุกคนก็เกิดความสงสัยในใจ แต่ไม่ได้แสดงออก
เนื่องจากความร่วมมือในช่วงที่ผ่านมา ซังหลินจวิน เคยไปที่ บริษัท ซังอวิ๋นหลายครั้งดังนั้นทุกคนจึงถือได้ว่าคุ้นเคยกับเสียงของเขาท้ายที่สุดแล้วเสียงของซังหลินจวิน นั้นมีแรงดึงดูดมาก ยากที่จะลืม
ซังอวิ๋นเดินอย่างสบาย ๆ มาตรงหน้าหยางเช้อฮว้าเขายังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ในสายตาของหยางเช้อฮว้ารอยยิ้มนี้ดุร้ายยิ่งกว่าเสือ
“บริษัทเราจ่ายค่าตอบแทนให้คุณไม่น้อย แต่คุณทรยศบริษัท ผมเลยไม่อยากพูดอะไรมาก ผมแค่ถามคุณประโยคเดียว คนสั่งการเบื้องหลังคุณคือใคร”
หยางเช้อฮว้าจิตใจว่างเปล่า สายตาเหม่อลอย น้ำเสียงคลุมเครือ: “ท่านประธาน คุณเข้าใจผมผิดแน่ๆ ผมทุ่มเทให้บริษัทมาก ผมไม่เคยทรยศบริษัท หรือว่ามีคนใส่ร้ายผม คุณบอกผมได้ไหมว่าใคร ผมจะต้องไปจัดการ ”
เมื่อเห็นว่าเขายังลังเลที่จะบอกความจริงในตอนนี้ซังอวิ๋น รู้สึกว่าเขาปากแข็งเล็กน้อย:“ งั้นข้อความในเว็บของบริษัทนั้นมีคนส่งแทนคุณหรอ คุณจะบอกว่าเว่ยป๋อของคุณโดนแฮ็คงั้นหรอ ”
หยางเช้อฮว้าพูดยังไงก็ฟังไม่ขึ้น เพราะว่าไม่ว่าเขาจะพูดอะไร คำพูดของเขาก็ไม่น่าเชื่อถือ
ซังอวิ๋นไม่ได้ให้โอกาสเขาในการแก้ตัว เปิดกล้องวงจรปิดของบริษัทฉายภาพที่เขาโพสข้อความนั้น
จะจับคนผิดต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา ซังอวิ๋นมีหลักฐานแล้วถึงกล้าพูด
ทันทีที่วิดีโอนี้เผยแพร่ออกมาผู้บริหารที่เดิมทีคิดว่าหยางเช้อฮว้าบริสุทธิ์ ทุกคนก็คิดว่ารู้หน้าไม่รู้ใจ จะไม่เชื่อเขาอีกแล้ว
ในที่สุดเหตุการณ์นี้ก็มาถึงจุดจบเขาพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่:“ ในอนาคตถ้ามีใครทำอะไรที่จะทำลายภาพลักษณ์ของ บริษัท ผมหวังว่าคุณจะรู้ตัวและลาออกไปเองเรื่องของวันนี้เป็นบทเรียนสำหรับทุกคน จะส่งประกาศไปที่ๆทุกๆแผนก คนที่ได้รับก็เอาไปติดที่ประตูห้องทำงานด้วย คนที่ไม่ได้ทำจะถูกลงโทษ หวังว่าทุกคนได้เรียนรู้จากมันแล้ว โอเค ตอนนี้ดึกแล้ว ทุกคนเลิกงานได้”
โดยไม่นึกถึงความคิดที่ซับซ้อนในใจของทุกคนเมื่อทุกคนจากไปซังอวิ๋นวางโทรศัพท์มือถือของเขาในแนวนอนมองไปที่หยางเช้อฮว้าที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวและพูดว่า “เรื่องวันนี้มีอะไรจะอธิบายไหม?”
หยางเช้อฮว้าส่ายหัวและกล่าวว่า “ประธานสืบเรื่องทั้งหมดแล้วนิครับ ผมจะพูดอะไรได้อีก”
“ ผมไม่มีอะไรจะพูด แต่อีกคนมีเรื่องจะถามคุณ”ซังอวิ๋นยักไหล่ท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็จบลงแล้วและเขาก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
เขาเปิดลำโพงโทรศัพท์ ในโทรศัพท์มีเสียงของซังหลินจวินออกมา
“หยางเช้อฮว้า เรื่องของคุณไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม ผมก็ไม่อยากจะถามเรื่องเซินซิงจิ่วเทียน แค่อยากจะถามอะไรประโยคนึง แค่คุณบอกผม ผมจะให้คุณไ่ม่น้อยไปกว่างานที่คุณลาออกเลย ”
ซังหลินจวินรู้ดีว่า คนที่โดนปู้อีเฉินหลอกได้ ต้องเห็นเงินสำคัญ
หยางเช้อฮว้าถามอย่างสั่น ๆ : “ประธานซังบอกผมได้ไหมว่ามันคืออะไร?”
เมื่อเห็นว่าปลากินเหยื่อแล้ว ซังหลินจวินใบหน้าเย็นชาเอนตัวไปที่หัวเตียงพูดว่า “ฉันอยากรู้ว่าใครสั่งให้คุณลงมือจัดการเซินซิงจิ่วเทียน หรือจัดการกับหย่วนเซิ้ง”
“ประธานซัง คุณ คุณรู้ได้ยังไง”หยางเช้อฮว้าถามด้วยน้ำเสียงกลัวๆ
ในไม่ช้าเขาก็หลุดคำพูดออกมา
“ที่แท้ คนอยู่เบื้องหลังคุณอยากทำให้ผู้คนรู้สึกไม่พอใจกับเซินซิงจิ่วเทียน แล้วรอให้เรื่องยิ่งรุนแรงขึ้น แล้วปัดความรับผิดชอบให้หย่วนเซิ้ง อย่างเช่นบอกว่า เป็นความต้องการของประธานหย่วนซิ้งใช่ไหม ? ”
ซังหลินจวินกำลังคิดถึงเรื่องนี้เพราะเขาเข้าใจว่าปู้อี้เฉินตั้งเป้ามาที่เขาซังหลินจวินจึงได้กระจายความคิดของเขาไปยังแง่มุมนี้
หลังจากการคาดเดาไม่กี่ครั้งเขาก็ได้เบาะแสบางอย่าง
แม้ว่าคำอธิบายนี้จะฟังดูไร้สาระแต่ความจริงเรื่องมาถึงขั้นนี้ ไม่ได้เกินความขาดหมาย
อย่างไรก็ตามพวกเกรียนคีย์บอดเยอะเกินไป ถ้ามีคนใส่ร้ายหย่วนเซิ้งเกรงว่าจะแย่
เพราะว่าครั้งที่แล้วถึงแม้จะพิสูจน์แล้วว่าเรื่องอุปกรณ์การแพทย์จะไม่เกี่ยวกับหย่วนเซิ้ง แต่ความเป็นจริงก็ช่วยหย่วนเซิ้งได้
ดังนั้นเรื่องนั้นก็ทำให้หย่วนเซิ้งขาดทุนอย่างหนัก
หยางเช้อฮว้ากัดฟันไม่พูด
เขานับว่าเข้าใจแล้ว เมื่อเทียบกับการไล่เขาออกแล้ว ประธานที่เป็นคนพูดตรงๆ แต่ประธานซังเป็นคนที่เอาไม่อยู่จริงๆ
เพียงไม่กี่คำก็สามารถเดาข้อเท็จจริงได้
คนแบบนี้ เขาไม่กล้าทำให้โกรธ
เมื่อเห็นว่าหยางเช้อฮว้าไม่ยอมเปิดปากพูด ซังหลินจวินก็พูดอีกครั้ง: “ฉันได้ยินมาว่าหยางเช้อฮว้ามียายหายตัวไปเมื่อครึ่งเดือนก่อน ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จริงไหม”
เมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับคุณย่ายของเขาหยางเช้อฮว้าก็เปลี่ยนสีหน้า ตั้งแต่เล็กจนโตยายเลี้ยงเขามาคนเดียว เปรียบกับอนาคตของเขาแล้วเขาสนใจยายของเขามากกว่า
แต่ยายของเขาหายไปเมื่อครึ่งเดื่อนก่อน มีเพียงคนเดียวที่รู้ข่าวก็คือคนที่ช่วยเขาจ่ายหนี้ดอกสูงๆ เขาเป็นคนฉลาด ทำไมจะไม่รู้ว่าหนี้ดอกสูงๆที่เขายืมมานั้นเป็นแผนตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขาจะทำยังไงดี เขาที่ไม่มีอะไรเลย ทำได้เพียงก้าวไปหากับดับที่เขาวางไว้ เพราะมีแต่ทางนี้ที่ทำให้เขาจะได้เจอยายได้อีกครั้ง