ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1109 ควบคุมความรู้สึกไม่ได้
ถึงแม้จะได้รู้ข่าวนี้ แต่มู่เฉียนซีก็ยังคงไม่ยอมตัดใจ
สมุนไพรที่ควรหาก็ยังต้องหา!
มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าวว่า “ข้ามีเรื่องจะขอให้ท่านช่วย หวังว่าท่านผู้ตัดสินจะตอบตกลง”
“เรื่องอันใดหรือ?” ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นกล่าวด้วยความตื่นเต้น
มู่เฉียนซีเอาสูตรยาใบหนึ่งออกมาและกล่าวว่า “นอกจากผลจิ่วหยางซวนแล้ว มีสมุนไพรชนิดใดในสูตรยาใบนี้ที่พอจะหาเจอได้บ้าง?”
ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “สมุนไพรในสูตรยาใบนี้ นอกจากผลจิ่วหยางซวนแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สมุนไพรขั้นสวรรค์ แต่มันก็หาได้ยากมาก”
“สำนักของท่านมีวิธีหาสมุนไพรเหล่านี้เจอหรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“หาใช้เวลาสักหน่อย ก็อาจจะพอหาเจอ แต่การเสาะหาสมุนไพรอันล้ำค่าระดับนี้ก็ต้องใช้แรงมากเหมือกัน”
มู่เฉียนซีกล่าว “หากท่านทำสำเร็จ ข้าไม่มีทางให้พวกท่านเสียเปรียบแน่นอน”
“นี่ถือว่าเป็นค่ามัดจำ เป็นเช่นไร?” มู่เฉียนซีเอาสูตรยาออกมาสามใบ
สูตรยาสามใบนี้ล้วนแต่เป็นสูตรยาขั้นสวรรค์ระดับเก้าทั้งสิ้น และมีใบหนึ่งที่เป็นสูตรยาขั้นสวรรค์ระดับสูงสุดไร้ที่เปรียบ
ท่านผู้นำตระกูลมู่มักจะใช้ยาลูกกลอนรับมือกับผู้ฝึกยุทธ์ ส่วนนักปรุงยาแล้ว แน่นอนว่าต้องใช้สูตรยา ยิ่งให้หนักเท่าไหร่ก็ไม่มีทางที่จะล้มเหลวแน่นอน
ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นถลึงตากว้างด้วยความตกใจ “นี่ นี่มัน…”
มู่เฉียนซีกล่าว “สมุนไพรเหล่านี้สำคัญกับข้ามาก ท่านไม่อยากช่วยข้าทำเรื่องนี้จริง ๆ เหรอ?”
“ข้าจะกลับไปที่สำนักเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ดูก่อน”
“เช่นนั้นก็รบกวนท่านแล้ว!”
“แล้วสูตรยานี้ล่ะ?”
“สูตรยานี้ท่านก็เอาไปเถอะ หลีกเลี่ยงเผื่อพวกเขาไม่เชื่อ ทุกครั้งที่พวกท่านหาสมุนไพรเจอ พวกท่านก็จะได้รับค่าตอบแทน และค่าตอบแทนนั้นดีกว่าค่ามัดจำนี้อย่างแน่นอน”
“ท่านเชื่อใจข้าถึงเพียงนี้เลยรึ ท่านไม่กลัวว่าข้าได้ค่ามัดจำนี้ไปแล้วจะชิ่งไม่ทำงานให้ท่านหรือ?”
“พวกท่านเป็นถึงผู้จัดการประลองการปรุงยาครั้งใหญ่ในแดนตะวันออกเช่นนี้ ไม่มีทางผิดคำพูดทำให้ตนเองอับอายขายหน้าหรอก อีกอย่าง ผู้ที่รับของของข้าไปแล้ว แต่ไม่ทำงานตามที่ตกลงกันไว้ ผู้นั้นก็จะต้องเสียใจภายหลังแน่นอน” แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นนั้น และเมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งของเขาแล้ว ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นก็ได้เข้าใจดี
หากตนไม่ทำขึ้นมาจริง ๆ ด้วยความสามารถของคนผู้นี้แล้ว ไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าเขาต้องจบชีวิตลงเช่นไร
ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นกล่าว “ท่านหมอปีศาจวางใจได้”
“หากได้ข่าวอะไรมา ก็ส่งคนไปแจ้งได้ที่หอหมอปีศาจ”
“ขอรับ!”
ยังมีเวลาเหลือกว่าที่เวลาในการประลองจะสิ้นสุด นักปรุงยาทุกคนล้วนแต่กระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง
จะไม่ทันอยู่แล้ว จะไม่ทันอยู่แล้ว!
มู่เฉียนซีนั่งชมการประลองด้วยท่วงท่าที่สบาย ๆ จู่ ๆ ร่างร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า มู่เฉียนซีเงยหน้าขึ้นก็เห็นกับดวงตาสีอำพันอันคุ้นเคยคู่นั้น
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวเสียงขรึมว่า “ท่านช่างแข็งแกร่งจริง ๆ ช่างเป็นปีศาจยิ่งกว่าที่ข้าได้จินตนาการเอาไว้มาก ทำดีกับเฉียนซีเอาไว้ หากท่านกล้ารังแกเฉียนซีแล้วละก็ ไม่ว่าท่านจะแข็งแกร่งเพียงใดข้าจะไม่ปล่อยท่านแน่”
สำหรับความแข็งแกร่งของหมอปีศาจแล้ว เฟิงอวิ๋นซิวนับถือแล้วจริง ๆ
คนที่เก่งกาจเช่นนี้สามารถปกป้องเฉียนซีได้
ส่วนเขา เขามีคนที่ต้องปกป้องอยู่แล้ว
แต่ถึงกระนั้น เหตุใดถึงได้กล่าววาจาเช่นนี้ออกมาอีกเล่า หัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย
ดวงตาสีอำพันคู่นั้นมีบางอย่างเก็บซ่อนไว้ ดูเหมือนว่าเขาจะเอาใจใส่มู่เฉียนซีมากกว่าที่เขาได้จินตนาการเอาไว้เสียอีก
เป็นเพราะว่ารูปร่างหน้าตาของเฉียนซีนั้นเหมือนกับนาง จึงทำให้เขาสูญเสียการควบคุมเช่นนี้ หรือเป็นเพราะว่า…
มู่เฉียนซีได้ยินคำพูดนี้ของเฟิงอวิ๋นซิวก็ผงะไปครู่หนึ่ง นางจะทำร้ายตัวเองได้อย่างไรกันเล่า
เฟิงอวิ๋นซิวคิดว่าหมอปีศาจมีความสัมพันธ์กับนางจริง ๆ มู่เฉียนซีก็รู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย นางจึงกล่าวว่า “ข้าเป็นคนของนาง ข้าไม่มีทางทำร้ายนางแน่นอน นายน้อยอวิ๋นซิววางใจเถอะ!”
“เป็นเช่นนั้นก็ดี!”
ทว่า เมื่อได้ยินชายหนุ่มตรงหน้าผู้นี้พูดว่าเขาเป็นคนของเฉียนซีแล้ว ในใจของเฟิงอวิ๋นซิวก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น
นอกจากเฟิงอวิ๋นซิวที่สนใจมู่เฉียนซีแล้ว ไป๋อู๋ห่ายกับบุตรสาวสองพ่อลูกคู่นี้ก็สนใจมู่เฉียนซีมากด้วยเช่นกัน
ไป๋เหยียนเอ๋อร์กล่าว “ชายผู้นั้นไม่ใช่คนแล้ว เป็นปีศาจชัด ๆ! มีผู้ใดกันที่สามารถปรุงยาจนดึงดูดสายตาผู้คนมากมายเช่นนี้ได้ ท่านพ่อ…”
ไป๋อู๋ห่ายกล่าว “คนเช่นนี้ทำได้เพียงแค่ดึงมาเป็นพวกหรือคบค้าสมาคมได้เท่านั้น ไม่อาจล่วงเกินได้ เหมือนกับที่ท่านหมิงจีได้กำชับเอาไว้ไม่มีผิด ตอนนี้ห้ามแตะต้องมู่เฉียนซีเด็ดขาด อย่างไรเสีย มู่เฉียนซีเป็นคนที่หมอปีศาจใส่ใจมากที่สุด”
ไป๋เหยียนเอ๋อร์กล่าว “แต่ลูกไม่สบายใจ มู่เฉียนซีมีสิทธิ์อันใดกันที่มีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ปกป้อง”
“เจ้าพยายามฝึกบำเพ็ญให้ดี รอให้พลังของท่านหมิงจีฟื้นฟูกลับมาก่อน จะต้องมีโอกาสแก้แค้นแน่นอน”
“ท่านพ่อ ลูกเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”
ตุ้ม ตุ้ม ตุ้ม! เสียงกลองดังขึ้น หมดเวลาการประลองแล้ว
ในขณะที่เสียงกลองดังขึ้นก็มีบางคนที่ยังหลอมยาไม่เสร็จ และมีบางคนที่หลอมออกมาได้สำเร็จในเวลาที่เฉียดฉิว
เดิมทียอดปรมาจารย์นักปรุงยาอัจฉริยะเหล่านี้ควรจะแสดงฝีมือในการประลองครั้งนี้ แสดงความสามารถว่าตนเองนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นในการประลอง ทำให้คะแนนของพวกเขาออกมาไม่เป็นที่พึงพอใจมาก
ทว่า พวกเขาไม่คิดเสียใจทีหลังเลย ต่อให้ต้องพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช มันก็คุ้มค่า อย่างน้อยรออีกร้อยปีก็ค่อยมาเข้าร่วมประลองใหม่
มู่เฉียนซีหลอมยาออกมาได้สำเร็จเป็นคนแรก อีกทั้งยังมีอายุมากกว่าผู้เข้าร่วมประลองคนอื่น ๆ ดังนั้นยาลูกกลอนของนางจึงถูกตรวจสอบเป็นคนแรก!
การตรวจสอบนี้ ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นเป็นคนลงมือตรวจสอบด้วยตัวเอง เขาตื่นเต้นจนแทบจะลุกกระโดดขึ้นแล้ว “ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับเก้า คุณภาพของยาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ไร้สิ่งเจือปน!”
โปร่งใสดุจดั่งหยก ช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก!
นอกจากจะตรวจสอบคุณภาพของเม็ดยาแล้ว จำนวนของเม็ดยาก็ต้องนับด้วยเช่นกัน ทั้งหมดแปดร้อยเม็ด
หลอมออกมาได้มากมายถึงเพียงนี้ภายในคราเดียว เขาไม่ใช่มนุษย์แล้ว! ทุกคนต่างพากันพึมพำ
ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นกล่าวถามว่า “ท่านหมอปีศาจ ยาลูกกลอนชนิดนี้ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ไม่ทราบว่าเป็นยาชนิดใด?”
มู่เฉียนซีกล่าว “นี่คือยาหัวใจโพธิ์ เป็นยาลูกกลอนเสริม ใช้ฝึกจิตและอารมณ์ ช่วยเสริมการรับรู้และความเข้าใจให้แข็งแกร่งขึ้น…”
มู่เฉียนซีอธิบายสรรพคุณของยานี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ต้านสวรรค์มากนัก
ทว่า อัจฉริยะนักปรุงยาล้วนแต่รู้ดีว่ายาลูกกลอนที่สามารถช่วยเสริมการฝึกจิตและอารมณ์เช่นนี้มันได้หายสาบสูญไปนานมากแล้ว
สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญแล้ว พรสวรรค์กับพรแสวงนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่จิตใจและอารมณ์นั้นก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน
หากอัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานมีจิตใจและอารมณ์ที่ไม่คงที่ ก็ยากที่จะฝึกบำเพ็ญให้ก้าวหน้าได้ อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะหลงเดินไปในทางที่ผิดได้
คนอื่น ๆ ต่างก็กล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่า “พระเจ้า! นึกไม่ถึงเลยว่าจะมียาลูกกลอนเช่นนี้อยู่ด้วย ท่านหมอปีศาจยาหัวใจโพธิ์นี้ท่านขายหรือไม่?”
คราก่อนมู่เฉียนซีรับปากว่าจะขายยาต่อชะตาชีวิต พวกเขาก็หวังว่าท่านหมอปีศาจจะขายยานี้เช่นกัน
ดวงตาของปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นลุกวาวขึ้น หากหมอปีศาจขายยานี้แล้วละก็ เขาก็จะแย่งซื้อเช่นกัน
คำตอบของมู่เฉียนซีทำให้พวกเขาผิดหวังมาก “ต้องขอโทษทุกท่านด้วย ยาลูกลอนนี้ข้าไม่ขาย”
นิรันดร์หลอมออกมามากมายเช่นนี้ แต่คำสาปของจิ่วเยี่ยนั้นไม่อาจคาดเดาได้ ดังนั้นต้องเตรียมเอาไว้ให้มากสักหน่อย
ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นกล่าว “ท่านหมอปีศาจ ท่านไม่ขายจริง ๆ เหรอ แล้วหากว่าข้าหาสมุนไพรเหล่านั้นเจอ ท่านยอมแลกด้วยยาลูกกลอนชนิดนี้หรือไม่?”
“เอ่อ…” มู่เฉียนซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ลดน้อยลงเพียงไม่กี่เม็ดก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร!
“ได้สิ สมุนไพรวิญญาณหนึ่งชนิดแลกกับยาลูกกลอนหนึ่งเม็ด!”
ในตอนนี้เอง คนอื่น ๆ ต่างก็เกิดความสงสัยขึ้นแล้ว “เอาสิ่งใดมาแลกได้นะ?”
“สมุนไพรชนิดใดท่านหมอ!”
ที่นี่มีนักปรุงยาอยู่เป็นจำนวนมาก คนเยอะ กำลังการเสาะหาสมุนไพรก็เพิ่มมากขึ้น!
มู่เฉียนซีคิดแผนการบางอย่างขึ้นได้ นางเอาสูตรยาออกมาและกล่าวว่า “หากท่านใดหาสมุนไพรวิญญาณในสูตรยานี้เจอ ก็สามารถเอามาแลกกับยาลูกกลอนได้ ส่วนสมุนไพรอื่น ไม่รับแลก”
ทุกคนมองไปที่สูตรยานั้น ทันทีที่ได้เห็นชื่อสมุนไพรอันล้ำค่าที่หายากเหล่านั้นต่างก็ตกใจขึ้น อีกทั้งยังมีสมุนไพรบางชนิดที่พวกเขาไม่รู้จักอีกด้วย
ยากเกินไปแล้ว! พวกเขารู้สึกผิดหวังอยู่ในใจ มู่เฉียนซีมองไปที่ปรมาจารย์ไป๋อวิ๋นและกล่าวว่า “ท่านปรมาจารย์ผู้ตัดสิน รีบตรวจสอบยาลูกกลอนของผู้ร่วมประลองท่านอื่นและประกาศจบการประลองเถอะ!”
.