ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1373 คำขอของคนประหลาด
ตอนนี้เฟิงอวิ๋นซิวมีโอกาสน้อยมากที่จะเอาชนะคนประหลาดผู้นี้ได้ ต่อให้ตอนนี้ทั้งสองมีพลังในระดับเดียวกันก็ตาม
มู่เฉียนซีไม่สามารถพรวดพราดออกไปได้ การต่อสู้ของยอดฝีมือขั้นสูงสุดเช่นนี้นางไม่อาจลงมือได้
ตอนนี้นางยืนอยู่ในจุดที่ปลอดภัย และนางก็สามารถทำเรื่องอื่นได้
ลำแสงมีดอันน่าสะพรึงกลัวนั้นปิดกั้นเฟิงอวิ๋นซิวไว้ เสียง ฉึก! ดังขึ้นสองสามครั้ง เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่ง!
ชั่วขณะหนึ่งร่างของเฟิงอวิ๋นซิวก็ปรากฏรอยบาดแผลนับไม่ถ้วนขึ้น
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! ในตอนนี้เข็มยาพุ่งออกไปแล้ว
พรวด พรวด พรวด!
โดนเป้าแล้ว!
ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งประกายขึ้น พลังอันน่าสะพรึงกลัวโจมตีเข็มยาของมู่เฉียนซีกลับมา
มู่เฉียนซีรีบหลบหลีก เสียง ปัง! ดังขึ้นหลายครั้ง และเข็มยาเหล่านั้นก็ถูกฝังเข้าที่กำแพง
ย้อนกลับมาก็ไม่มีประโยชน์ พิษของนางเปื้อนโดนตัวแล้ว เจ้าหมอนี่ซวยแล้ว
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
แต่ท่าทางเจ้าหมอนั่นดูเหมือนจะไม่โดนพิษเลยแม้แต่น้อย หากเป็นเช่นนี้ก็จัดการยากแล้ว!
ไม่ใช่มนุษย์ ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีรับมือ
มู่เฉียนซีกล่าว “อวิ๋นซิว รีบถอยกลับมา ข้าหาวิธีได้แล้ว!”
เฟิงอวิ๋นซิวจะล่าถอย แต่คนชุดเทาไม่ให้เขามีโอกาสล่าถอยได้เลย
พรวด! เฟิงอวิ๋นซิวได้รับบาดเจ็บสาหัส
“เจ้าอดทนเอาไว้ก่อน!” มู่เฉียนซีก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าอีกต่อไป นางเริ่มปรุงยาใหม่ทันที
ร่างของคนชุดเทาผู้นี้ไม่เหมือนกับร่างของคนที่มีชีวิตอยู่เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเข็มยาพิษนี้จึงใช้ไม่ได้ผล
แต่เขามีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ต้องมีคนควบคุมเขาเป็นแน่
และครั้งนี้นางก็ปรุงยารบกวนพลังจิตออกมา เมื่อเห็นเฟิงอวิ๋นซิวเริ่มรับมือไมไหวแล้ว นางก็เร่งความเร็วในการปรุงยาขึ้น
ไม่นานนักมู่เฉียนซีก็ปรุงยาออกมาได้สำเร็จ
มู่เฉียนซีเอายาบรรจุในเข็มและกล่าวว่า “หวังว่ามันจะได้ผลนะ!”
มู่เฉียนซีเป็นคนที่อยู่นอกบริเวณการโจมตีของคนประหลาดผู้นั้น อีกทั้งพลังของนางอ่อนแอทำให้ไม่เป็นที่น่าสังเกต
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาของมู่เฉียนซีโจมตีไปที่จุดที่ต้องการโจมตีโดยเฉพาะ
ฉึก ฉึก ฉึก! เขาไม่ได้หลบ ดังนั้นเข็มยานี้โดนเป้าแน่นอน
และในตอนนี้มีดของคนประหลาดก็ได้พุ่งหมายจะฟันไปที่เฟิงอวิ๋นซิวแล้ว
มู่เฉียนซีเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็วผลักเฟิงอวิ๋นซิวหลบการโจมตีนั้น
ตูม! พื้นดินปรากฏหลุมลึกขึ้นอีกครั้ง
นัยน์ตาของคนประหลาดมีเพียงแค่การสังหารอันบ้าคลั่ง กำจัดคนที่อยู่ในระยะการโจมตีให้หมดสิ้น
ในตอนนี้มีดของเขาพุ่งไปทางมู่เฉียนซีแล้ว
พลังอันน่าสะพรึงกลัวปิดกั้นมู่เฉียนซีทำให้นางไม่สามารถหลบหลีกได้
“เฉียนซี!”
ปัง!
เฟิงอวิ๋นซิวเข้าไปขวางหน้ามู่เฉียนซีอย่างรวดเร็วราวประหนึ่งสายลม พร้อมกันนั้นกระบี่ของเขาก็ขวางมีดของคนประหลาดเอาไว้ได้
ฉ่า! พลังอันแข็งแกร่งของคนประหลาดทำให้กระบี่เล่มนี้ของเฟิงอวิ๋นซิวปรากฏรอยร้าวขึ้น
เมื่อใดที่กระบี่หักลง ร่างของเฟิงอวิ๋นซิวจะต้องถูกหั่นเป็นสองท่อนแน่นอน
แกร่ก แกร่ก!
และในขณะที่มีดนั้นกำลังจะฟันลงมา ดวงตาอันเย็นยะเยือกของคนประหลาดก็เผยความสับสนออกมา
แกร๊ง แกร๊ง! มีดที่อยู่ในมือของคนประหลาดตกลงบนพื้น จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นจับขมับของตัวเองพลางกล่าว “ข้าเป็นใคร?”
“ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ยารบกวนพลังจิตออกฤทธิ์แล้วเหรอ? ใบหน้าของมู่เฉียนซีเผยความดีใจออกมา จากนั้นก็ดึงเฟิงอวิ๋นซิวมาอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัย
พรวด! เฟิงอวิ๋นซิวกระอักเลือดออกมาคำโต
บาดแผลภายนอกและแผลภายในล้วนแต่อาการสาหัส มู่เฉียนซีรีบรักษาอาการให้เขาอย่างเร่งด่วน เฟิงอวิ๋นซิวจับมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “เฉียนซี อย่า…”
มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง “เฟิงอวิ๋นซิว เจ้ารู้หรือไม่ว่าตัวเองพูดอะไรออกมา เจ้าบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้แล้วยังจะไม่ให้ข้ารักษาอีก เจ้าอยากตายรึไง?”
เขากล่าว “ข้าไม่อยากตาย เพียงแต่…”
เขาหันกลับไปมองมู่เฉียนซี และกล่าวว่า “เฉียนซี ไม่ต้องใช้ยาดีอะไรมาก แค่ไม่ตายก็พอแล้ว”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินเงื่อนไขของคนไข้เช่นนี้” คนอื่น ๆ ล้วนแต่อยากรักษาด้วยยาที่ดีที่สุดทั้งนั้น เพราะอยากหายไว ๆ
“ข้าบาดเจ็บสาหัส ข้าก็ไม่มีความสามารถจะไปแย่งชิงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์กับเจ้าได้ ฉะนั้นเจ้าไม่ต้องสนใจข้า” เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวขอร้อง
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็จนปัญญา “เฟิงอวิ๋นซิว เหตุใดต้องทำเช่นนี้ด้วย!”
ความรักกับความชอบธรรมเป็นสิ่งที่เลือกยาก นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะใช้วิธีเช่นนี้มาหลีกเลี่ยง เอาร่างกายตัวเองมาแลก
มู่เฉียนซีกล่าว “ตอนนี้เรายังไม่ได้ออกไปจากภาพลวงตานี้นะ! ส่วนไป๋อู๋ห่ายและพวกยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ที่นี่ยังมีสัตว์ร้ายอยู่ตัวหนึ่งและพลังของมันก็น่ากลัวมาก เจ้าจะให้ข้าพาเจ้าที่อาการย่ำแย่เช่นนี้ออกไป ข้าไม่มีความสามารถนั้นหรอกนะ”
“ข้า…”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว! รักษาเจ้าให้ดีขึ้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน เมื่อถึงตอนนั้นหากเจ้าจะแย่งชิงฝักกระบี่ไปจากข้า ข้าก็แค่แทงเจ้าให้สลบโดยไม่ต้องเกรงใจ จำไว้ข้าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้เจ้าเด็ดขาด”
กล่าวจบ นางก็ให้เฟิงอวิ๋นซิวกินยา และทายาทำแผลให้เขา
และในตอนนี้เอง นางก็รู้สึกได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาที่นางและเฟิงอวิ๋นซิว
เขาเอ่ยปากกล่าวว่า “พวกเจ้าเป็นใคร?”
มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเราเป็นแค่คนที่บุกเข้ามาที่นี่ ท่านล่ะเป็นใคร มีความสัมพันธ์ใดกับสิงโตทองลวงตา?”
เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่มู่เฉียนซีเอ่ยถามก็ตกตะลึงเล็กน้อย สิงโตทองลวงตา!
ดูเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ “ข้ามาฝึกประสบการณ์ที่สถานที่เหนือสุด พบกับมิติหนึ่งและข้าก็เข้ามา เดิมทีข้าคิดว่าจะหาโอกาสทะลวงพลังวิญญาณได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะพบกับฝันร้ายเช่นนี้!”
“สัตว์ร้ายนั่นเห็นว่าพลังของข้าแข็งแกร่ง มันหลอมรวมร่างของข้าและควบคุมวิญญาณของข้าแล้วให้ข้าเฝ้าอยู่ตรงนี้เหมือนสุนัขเฝ้าประตู”
ทันใดนั้นเอง แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร!
แต่ไม่นานนักแววตาคู่นั้นก็กลับมาเป็นปกติ จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยความอดกลั้นว่า “ข้าอดทนเอาไว้ได้ไม่นาน เจ้ารับปากข้าสักเรื่องได้หรือไม่ แล้วข้าจะพาพวกเจ้าออกไปจากตำหนักแห่งนี้”
มู่เฉียนซีกล่าว “เรื่องอะไร?”
“กำจัดข้า ทำให้พลังจิตของข้าแตกสลาย ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นนักปรุงยา เจ้าทำได้”
มู่เฉียนซีอยากตอบตกลง แต่กลับถูกเฟิงอวิ๋นซิวห้ามไว้
“เฉียนซี ผู้อาวุโสท่านนี้เป็นยอดฝีมือขั้นสูงสุด การที่จะทำให้พลังจิตของเขาแตกสลายมันเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายมาก” สีหน้าของเฟิงอวิ๋นซิวเคร่งขรึมขึ้น
มู่เฉียนซีกล่าว “เรื่องอื่นข้าไม่กล้าพูดหรอกนะ แต่หากเป็นเรื่องพลังจิต ข้ามีความมั่นใจมาก! เจ้าไม่ต้องกังวล”
นางมองไปที่คนประหลาดผู้นั้น “ข้าตกลง มาลองดูกัน!”
พลังจิตของนางเคลื่อนไหวเข้าสู่พลังจิตของเขา และเริ่มทำลายทันที!
พลังจิตอันแข็งแกร่งของมู่เฉียนซีมีข้อได้เปรียบอยู่มาก จึงทำให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
แต่เมื่อมาถึงวินาทีสุดท้าย เปลวไฟสีทองก็เริ่มตอบโต้กลับมา
วิญญาณนี้ คาดว่าคงจะเป็นสิ่งที่สิงโตทองลวงตาทิ้งเอาไว้
นี่เป็นกับดัก คาดว่าแม้แต่คนประหลาดผู้นี้ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
กับดักแล้วอย่างไรเล่า ก็ทำลายมันเลยสิ!
มู่เฉียนซีกำลังต่อสู้อยู่กับพลังจิตที่สิงโตทองลวงตาทิ้งไว้ เฟิงอวิ๋นซิวสังเกตเห็นสีหน้าของนางยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ แล้ว
เขากำหมัดแน่น หากเฉียนซีมีอันตราย เขาไม่อาจสนใจอะไรมากนักได้แล้ว จำเป็นต้องใช้เงา!
หากสิงโตทองลวงตาใช้พลังจิตทั้งหมดต่อสู้กับมู่เฉียนซี การที่มู่เฉียนซีจะเอาชนะได้นั้นมันเป็นเรื่องยากมาก แต่หลังจากที่ต่อสู้กันมาพักหนึ่ง สิงโตทองลวงตาก็ถูกมู่เฉียนซีโจมตีจนแตกกระจาย
ปัง! คนประหลาดผู้นั้นล้มลงไปกับพื้น เขามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “สาวน้อย ขอบใจเจ้ามาก ในที่สุดข้าก็หลุดออกจากการควบคุมนี้แล้ว ข้าเป็นอิสระแล้ว!”
.
.