ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1407 ไม่มีทางฆ่าเขา
“โจมตีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์มิตินั่นซะ! เก้าอิมโจมตีให้ข้าซะ!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง! ในสายตาของเป่ยกงจั๋ว กู้ไป๋อีไม่ได้เป็นภัยคุกคามเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจับตัวมู่เฉียนซีให้ได้
ทว่า หอฉงโหลวบนเมฆาไม่ใช่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์มิติธรรมดาทั่วไป ต่อให้เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ก็ใช่ว่าจะโจมตีหอฉงโหลวบนเมฆาได้ง่ายขนาดนั้น
เก้าอิมอยากจะโจมตีด้วยพลังการต่อสู้อย่างสุดกำลัง แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะตอนนี้ท้องฟ้าได้ปรากฏสายฟ้าฟาดขึ้นแล้ว
สายฟ้าลงทัณฑ์ปกป้องดินแดนทนไม่ไหวแล้ว
“หอฉงโหลวบนเมฆา! ให้ข้าออกไปเดี๋ยวนี้!” กู้ไป๋อีได้รับบาดเจ็บสาหัส มู่เฉียนซีร้อนรนใจเป็นอย่างยิ่ง
“นายท่าน หากนายท่านออกไป มีหวังพวกมันฆ่านายท่านแน่!”
หอฉงโหลวบนเมฆารั้งมู่เฉียนซีไว้อย่างสุดชีวิต ไม่ยอมปล่อยมู่เฉียนซีออกไป
ในตอนนี้ร่างของกู้ไป๋อีถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสดไปทั่วทั้งตัว เขามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ เขาไม่มีทางฆ่าข้า! เจ้ารีบหนีไป!”
ฉึก! เลือดสีแดงสดกระฉูดออกมา กู้ไป๋อีเองก็ทนไม่ไหวแล้ว ร่างของเขาจึงร่วงหล่นตกลงไปจากกลางอากาศ
“นายท่าน ข้า…ข้าจะเข้าสู่ความว่างเปล่าแล้ว!”
หอฉงโหลวบนเมฆากระวนกระวายใจขึ้นแล้ว แม้จะกลัวว่านายท่านจะลงโทษ แม้จะกลัวว่านายท่านจะตัดเสบียงอาหาร แต่มันก็บังคับเข้าสู่ความว่างเปล่าแล้ว
“เสี่ยวไป๋!” มู่เฉียนซีกำหมัดแน่นจนตอนนี้กลางฝ่ามือของนางเกิดรอยเลือดขึ้นแล้ว ในหัวนางมีเพียงแค่ของคนที่ร่างถูกย้อมไปด้วยเลือดผู้นั้น
เป่ยกงจั๋วจะไม่ฆ่าเขาจริง ๆ เหรอ คนเช่นนั้นจะสนใจในความเป็นพี่เป็นน้องได้อย่างไรล่ะ มู่เฉียนซีร้อนอกร้อนใจราวกับมีไฟสุมอยู่ในอก แต่ว่า…
หากนางออกไป แล้วจะควบคุมสิ่งใดได้บ้าง
เผชิญหน้ากับเป่ยกงจั๋ว พลังของนางในตอนนี้ไม่เพียงพอเลยสักนิด
เมื่อเห็นหอฉงโหลวบนเมฆาเข้าสู่ความว่างเปล่าเช่นนี้ สีหน้าของเป่ยกงจั๋วก็เคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง
“บัดซบ! หนีไปจนได้ ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ในดินแดนสี่ทิศ เจ้าคิดว่าจะหนีรอดไปจากเงื้อมมือของข้าได้อย่างนั้นเหรอ?”
หัวหน้าหอล่าถอยไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว คนของหอหมอปีศาจก็ล่าถอยกลับไปแล้วเช่นกัน
ชายชราผู้หนึ่งกล่าวถามว่า “องค์รัชทายาท ฝ่าบาทหานทรงเป็นเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่าให้ตายก็พอ”
เขาเหลือบมองไปที่คนผู้นั้นที่นอนจมอยู่ในกองเลือด ตอนนี้กู้ไป๋อีหายใจอย่างแผ่วเบาแล้ว
“ท่านพี่ นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าคนที่เย็นชาไร้ความรู้สึกเช่นท่านจะทำเพื่อผู้หญิงคนเดียวจนยอมแลกแม้กระทั่งชีวิตเช่นนี้ ช่างน่าสนใจจริง ๆ! ข้าไม่ให้ท่านตายหรอกนะ ข้าจะให้ท่านใช้ชีวิตอย่างดี และให้ท่านมองดูนางตกมาเป็นเหยื่อในกำมือข้า”
กู้ไป๋อีถูกนำตัวไป เป่ยกงจั๋วกล่าว “นับจากนี้ต่อไป ข้าคือหัวหน้าตำหนักเป่ยหาน! ส่งกองกำลังทั้งหมดออกไปตามหามู่เฉียนซี หากได้ข่าวมู่เฉียนซีเมื่อใดก็รีบส่งข่าวมาให้ข้า”
“เสี่ยวไป๋!”
มู่เฉียนซีตกอยู่ในความเหม่อลอย เสี่ยวหงกับอู๋ตี้ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วจึงออกมาจากมิติพันธสัญญา
“นายท่าน!” พวกมันมองมู่เฉียนซีด้วยความเป็นห่วง
อู๋ตี้กล่าว “นายท่าน กู้ไป๋อีเคยโกหกนายท่านซะที่ไหนกันเล่า! พวกเขาเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน คงจะ…”
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึมว่า “เสี่ยวไป๋ไม่มีทางโกหกข้าเด็ดขาด!”
คนจิตใจโหดเหี้ยมชั่วร้ายอย่างเป่ยกงจั๋วยอมไว้ชีวิตเสี่ยวไป๋ นั่นเป็นเรื่องที่แปลกมาก
แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็แค่ใช้อุบายเพื่อทำให้เสี่ยวไป๋ลำบากใจเท่านั้น เรื่องเหล่านี้เสี่ยวไป๋ไม่ได้เอามาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้นของเป่ยกงจั๋วก็ดูเหมือนเรื่องตลกก็เท่านั้น
เสี่ยวไปไม่มีทางโกหกนาง จะต้องมีบางอย่างที่ทำให้เป่ยกงจั๋วไม่สามารถฆ่าเสี่ยวไป๋ได้แน่นอน แต่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้น ต่อให้เป่ยกงจั๋วไม่ฆ่าเขา เป่ยกงจั๋วก็ไม่มีทางดูแลเขาดีเป็นแน่
แม้ว่าจะร้อนใจดั่งไฟสุมอก แต่นางก็รู้ตัวดีว่าหากกลับไปที่ตำหนักเป่ยหานในตอนนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
หอฉงโหลวบนเมฆาเดินทางในความว่างเปล่า มันกล่าวถามว่า “นายท่าน พวกเราจะไปที่ไหนกัน?”
เป่ยกงจั๋วไม่มีทางยอมรามือแน่นอน เขาต้องการจับตัวนาง อันดับแรกเขาต้องควบคุมตำหนักเป่ยหานแน่นอน
รูปร่างหน้าตาเช่นนั้น หากบอกใครว่าเขาคือเสี่ยวไป๋ก็จะไม่มีผู้ใดสงสัยเป็นแน่!
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึมว่า “ไปแดนตะวันตก! ข้าจะไปเอาฝักกระบี่คืน!”
ในเมื่อหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินไม่รักษาสัจจะ ไม่ยอมส่งตัวอินรั่วเฉินมา นางก็ทำได้เพียงแค่ไปเอาฝักกระบี่กลับคืนมาด้วยตัวเอง เช่นนี้มังกรเพลิงถึงจะแข็งแกร่งขึ้น
แดนตะวันออก แดนเหนือ รวมไปถึงแดนใต้ เกรงว่าตอนนี้คงถูกเป่ยกงจั๋วควบคุมแล้ว มีเพียงแค่แดนตะวันตกเท่านั้นที่เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
หอฉงโหลวบนเมฆาดีใจที่นายท่านคิดออกแล้ว มันจึงกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “นายท่าน ข้าจะพานายท่านมุ่งหน้าไปแดนตะวันตกเดี๋ยวนี้!”
“ทหาร! ถ่ายทอดคำสั่งออกไป หากพบมู่เฉียนซี รีบมาแจ้งข้าให้เร็วที่สุด!”
“ขอรับ!”
“ลงมือกับหอหมอปีศาจ หากเกิดเรื่องขึ้นกับหอหมอปีศาจ ข้าไม่เชื่อหรอกว่านางจะทนดูอยู่เฉย ๆ ได้!”
“ขอรับ!”
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด สิ่งที่เป่ยกงจั๋วเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่มู่เฉียนซีคิดเอาไว้อยู่แล้ว
พลังความแข็งแกร่งขั้นสูงสุด ใบหน้าที่เหมือนกับกู้ไป๋อี เขาใช้อุบายเหล่านี้ให้คนของตำหนักเป่ยหานทำให้เขาเป็นหัวหน้าตำหนัก
เป่ยกงจั๋วนั่งบนบัลลังก์ของหัวหน้าตำหนักเป่ยหาน มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ดูท่าการที่ส่งเจ้าหมอนั่นไปตำหนักตงจี๋ ข้าคิดไม่ผิดจริง ๆ พวกเจ้ายึดตำหนักตงจี๋มาจริง ๆ แล้วใช่หรือไม่”
“ตอนนี้ตำหนักเป่ยหานควบคุมดินแดนครึ่งหนึ่งของดินแดนสี่ทิศ การตามหาเจ้ามันสะดวกมาก! มู่เฉียนซี เจ้าหนีไม่พ้นสายตาข้าหรอก หม้อเทพนิรันดร์ จะต้องเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว”
ในตอนนี้เอง มีคนเข้ามารายงานว่า “องค์รัชทายาท หัวหน้าตำหนักหานหมดสติไปยังไม่ฟื้น อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย การฝึกบำเพ็ญของเขา เอ่อ…การฝึกบำเพ็ญของเขา…”
เป่ยกงจั๋วกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “การฝึกบำเพ็ญถูกทำลายไปแล้วก็คือถูกทำลายไปแล้ว ในตอนนั้นที่ทำให้เขาสามารถฝึกบำเพ็ญได้ก็แค่ทำให้ฝึกบำเพ็ญเท่านั้นแต่ไม่อาจสู้ข้าได้ ตอนนี้กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปแล้วก็นับว่าไม่เลว”
“ข้าไม่ได้อยากให้เขาฟื้นขึ้นมาอยู่แล้ว แม้ว่าจะฝึกบำเพ็ญเป็นผู้ฝึกยุทธ์ถึงขั้นมหาจักรพรรดิ แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก!”
คนตายที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างเป่ยกงหาน เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจอยู่แล้ว เป้าหมายของเขาในตอนนี้ก็คือตามหามู่เฉียนซี แม้ว่าจะต้องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินก็ต้องตามหาให้เจอ
“รายงานท่านหัวหน้าตำหนัก คนของหอหมอปีศาจล่าถอยกันไปหมดแล้ว ตอนนี้ตามหาคนของหอหมอปีศาจไม่เจอเลยขอรับ”
การตอบสนองของเยวี่ยเจ๋อก็รวดเร็วมากเหมือนกัน หลังจากที่ได้รู้ข่าว เขาก็ออกคำสั่งในทันที
แม้ว่าในใจจะเป็นห่วงพี่ใหญ่มาก แต่เขาก็ต้องรักษารากฐานของหอหมอปีศาจเอาไว้ก่อน
เป่ยกงจั๋วโกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว “เจ้าว่ายังไงนะ? พวกมันล่าถอยกันไปหมดแล้วอย่างนั้นเหรอ”
“ออกไปตามหามาให้ข้าเดี๋ยวนี้! ต้องหาคนของหอหมอปีศาจที่ได้เรื่องมาให้ข้าให้ได้!”
“ขอรับ!”
ภายในชั่วพริบตาเดียว หอหมอปีศาจทั้งหมดทั่วทั้งแดนเหนือล้วนแต่ปิดร้านแล้ว ส่วนนักปรุงยาและผู้ดูแลก็หายตัวไปอย่างลึกลับ
ทุกคนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น หอหมอปีศาจปิดร้านหมดแล้ว แล้วพวกเราจะไปซื้อยาลูกกลอนที่ไหนกันล่ะ!”
“ข้าได้ยินมาว่าตำหนักเป่ยหานลงมือกับหอหมอปีศาจ นี่มันไม่ต่างอะไรกับถีบหัวส่งเลยนะ!”
“ก่อนหน้านี้ไม่นานหอหมอปีศาจร่วมมือกับตำหนักเป่ยหานจนเอาชนะตำหนักตงจี๋ได้ พวกเขาร่วมมือกันได้ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย นึกไม่ถึงเลยว่าผ่านมาเพียงแค่ไม่กี่วันตำหนักเป่ยหานจะกลับกลอกไม่ไว้หน้าหอหมอปีศาจเช่นนี้แล้ว”
“หัวหน้าตำหนักเป่ยหานเป็นคนที่ข้าชื่นชอบมาก! เขาจะเป็นคนใจร้ายเช่นนั้นได้ยังไงกัน”
บรรยากาศแปลก ๆ ของตำหนักเป่ยหานกับหอหมอปีศาจทำให้ทั่วทั้งดินแดนสี่ทิศเริ่มวุ่นวายขึ้นแล้ว
ทุกคนผิดหวังกับการกระทำในครั้งนี้ของหัวหน้าตำหนักเป่ยหานมาก มันช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วจริง ๆ
มู่เฉียนซีไม่รู้ว่าตอนนี้โลกภายนอกวุ่นวายเพียงใดแล้ว ตอนนี้นางกำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ในหอฉงโหลวบนเมฆา
“ฮือ ๆ ๆ! นายท่าน เป็นเพราะข้าไม่ดีเอง ตอนที่ข้าหลับใหลอยู่ข้าถูกพวกนั้นเล่นอุบายใส่ ข้าไม่รู้ตัวเลยจริง ๆ” เสี่ยวลิ่วออกมาจากห้องดำและร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว
“เข้าไปอยู่ในห้องดำเดี๋ยวนี้ อย่ามารบกวนข้า!”
พลาดไปเพียงแค่ก้าวเดียว นางถูกเจ้าเป่ยกงจั๋วผู้ชั่วร้ายผู้นั้นเล่นงานเอาซะแล้ว ครั้งนี้ถือว่าพลาดมาก!
หอฉงโหลวบนเมฆาเอ่ยถาม “นายท่าน ถึงเขตแดนตะวันตกแล้ว นายท่านจะให้ลงตรงไหนขอรับ?”
.