ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1409 ชาวประชาตามไล่ฆ่า
“พวกเจ้าเห็นกับตาหรือไม่ว่าเขาเป็นคนทำ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
แม้ว่านางจะถูกอินรั่วเฉินหลอก แต่เรื่องที่โหดร้ายถึงเพียงนี้ มันไม่ใช่นิสัยของเขาที่เขาจะกระทำได้เลย
“อุโบสถของโอรสศักดิ์สิทธิ์มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น นอกจากโอรสศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ไม่มีคนอื่นอีก!”
นั่นก็หมายความว่าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง!
“ไม่มีคนนอกเข้าไปเลยเหรอ?”
“ตำหนักเทพของพวกเรามีเวรยามเฝ้าอย่างหนาแน่นมาโดยตลอด มีข้อห้ามหลายอย่าง คนนอกไม่มีทางเข้าตำหนักเทพของโอรสศักดิ์สิทธิ์ได้แน่นอน”
มันก็ไม่แน่ และหากนั่นเป็นเจ้าพิฆาตวิญญาณด้วยแล้ว!
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“โอรสศักดิ์สิทธิ์ได้ก่อการสังหารอย่างโหดเหี้ยม เดิมทีท่านหัวหน้าแคว้นอยากจะจับเขา แต่โอรสศักดิ์สิทธิ์กลับหนีไปได้! พวกเราออกมาตามหาโอรสศักดิ์สิทธิ์ จะต้องนำตัวโอรสศักดิ์สิทธิ์กลับไปให้ท่านหัวหน้าแคว้นตัดสินลงโทษให้ได้”
โอรสศักดิ์สิทธิ์ ดวงใจอันศักดิ์สิทธิ์แห่งธรรมะ เป็นผู้ที่มีใจเมตตากรุณา ในดินแดนสี่ทิศแดนตะวันตกแห่งนี้ ทุกคนล้วนแต่รู้ถึงความมีเมตตาของเขาดี
ตอนนี้มากระทำความผิดเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน
“แล้วพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาไปทางไหน?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ทางนั้น! พวกเรารู้แค่นี้ ท่านอรหันต์ตามเขาไปตั้งนานแล้ว พวกเรามีพลังไม่ได้แข็งแกร่งนักก็เลยช้า”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! มู่เฉียนซีโบกมือ เข็มยาหลายเข็มพุ่งออกไปแทงผิวหนังของพวกเขา
ปัง ปัง ปัง! พวกเขาแต่ละคนต่างล้มลงไปบนพื้น มู่เฉียนซีกล่าวเสียงแผ่วเบา “นอนหลับไปสักครึ่งชั่วยามนะ ประเดี๋ยวพวกเจ้าก็จะลืมเรื่องทั้งหมดนี้ไป”
จากนั้นร่างของนางเคลื่อนไหว มู่เฉียนซีมุ่งหน้าไปทางที่พวกเขาชี้ทางให้
อินรั่วเฉินยังไม่ตาย บางทีฝักกระบี่อาจจะยังอยู่ที่เขาก็ได้ ต้องหาตัวเขาให้เจอก่อน
เขาไม่ได้อยู่ในตำหนักเทพ แต่อยู่ข้างนอก โอกาสที่นางจะแย่งชิงฝักกระบี่กลับมานั้นมีมากขึ้นแล้ว
มู่เฉียนซีเดินทางอย่างรวดเร็ว พลังจิตอันแข็งแกร่งถูกแผ่ซ่านออกมา และนางก็รับรู้ได้ว่าบริเวณรอบ ๆ นี้ไม่มีกลิ่นอายของยอดฝีมืออยู่เลย
“มังกรเพลิง เจ้าว่าเป็นฝีมือของพิฆาตวิญญาณหรือไม่?”
“ฟังจากคนพวกนั้นเล่าแล้วก็เหมือนจะเป็นฝีมือของพิฆาตวิญญาณเลยขอรับ แต่หากเป็นพิฆาตวิญญาณ โอรสศักดิ์สิทธิ์ยังจะมีชีวิตรอดอยู่อีกเหรอนายท่าน”
“บางทีพวกเราอาจจะประเมินความสามารถของอินรั่วเฉินต่ำไปก็ได้! เดิมทีพิฆาตวิญญาณก็ถูกอาถิงทำจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วด้วย”
ตอนนี้ไม่อาจคาดเดาอะไรได้เลย ค้นหาอินรั่วเฉินให้เจอก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที!
มู่เฉียนซีเดินทางไปถึงครึ่งทาง และทันใดนั้นเองแสงแห่งธรรมก็ส่องสว่างเจิดจรัสอยู่ทางด้านหนึ่ง
เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น แม้ว่ามู่เฉียนซีจะอยู่ห่างไกลจากแสงแห่งธรรมนั้นมาก แต่นางก็รับรู้ได้ถึงการสั่นสะเทือนของผืนดินใต้ฝ่าเท้าของนาง
แสงแห่งธรรมอันบริสุทธิ์นั้นมู่เฉียนซีคุ้นเคยมาก นั่นคือพลังของอินรั่วเฉิน
ดวงตาสีดำขลับเปล่งประกายขึ้น ในที่สุดก็หาเจอแล้ว
นางพุ่งตัวมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้อินรั่วเฉินหนีทัน หรือให้คนของแคว้นเทพฟ้านอินเอาตัวอินรั่วเฉินไปเสียก่อน
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
การต่อสู้ยิ่งดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุด มู่เฉียนซีก็เข้าไปใกล้เขตบริเวณการต่อสู้นั้นแล้ว
ในตอนนี้อรหันต์ทั้งสามของแคว้นเทพฟ้านอินได้ห้อมล้อมอินรั่วเฉินเอาไว้ สีหน้าของอินรั่วเฉินซีดเผือด พลังอันเข้มแข็งเกรียงไกรนั้นเสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลายแล้ว แต่อินรั่วเฉินกลับไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ!
“โอรสศักดิ์สิทธิ์ กลับไปกับพวกเราเถอะ!”
“ตราบใดที่ท่านล้างบาปความชั่วร้ายออกไป ท่านหัวหน้าแคว้นไม่มีทางลงโทษท่านหนักแน่นอน”
“โอรสศักดิ์สิทธิ์ หากท่านจะฝืนดันทุรังต่อไป พวกเราคงทำได้เพียงแค่ล่วงเกินท่านแล้ว”
สองมือของอินรั่วเฉินประสานกัน ดวงตามองไปที่อรหันต์ทั้งสามและกล่าวว่า “ตอนนี้รั่วเฉินยังกลับไปไม่ได้! ไม่อาจกลับไปถูกขังคุกได้ ไม่อาจทำลายวิชาธรรมะได้ ทำได้เพียงแค่ล่วงเกินแล้ว”
ไม่นานนักพวกเขาก็ลงมือเปิดศึกสู้รบกันอีกครั้ง และการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ดุเดือดยิ่งกว่าเดิม
อินรั่วเฉินรับมือกับอรหันต์ทั้งสาม เขาย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่นอน มู่เฉียนซีก็ไม่ได้คิดจะลงมือในตอนนี้
แม้ว่านางจะมีกำลังการต่อสู้ขั้นจักรพรรดิ แต่นางก็ยืนมองพวกเขาต่อสู้จนพ่ายแพ้กันไปทั้งสองข้างด้วยความยินดี
ก็ใครใช้ให้อินรั่วเฉินหลอกลวงนางกันล่ะ!
ตีกันเลย! ตีกันไปเลย! ขอแค่อย่าให้อินรั่วเฉินตายก็พอ
มู่เฉียนซีมองดูความสนุกอยู่ข้าง ๆ และชื่นชมในทักษะวิญญาณวิชาแห่งธรรมของแคว้นเทพฟ้านอินมาก
แสงสีทองส่องอร่ามดุจดั่งดวงตะวันสาดแสงก็มิปาน
มู่เฉียนซีมองดูพวกเขาต่อสู้กันด้วยความใจร้าย อินรั่วเฉินก็ดื้อรั้นดึงดันมาก ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะอดทนยืนหยัดได้ถึงครึ่งชั่วยาม
พรวด! เขากระอักเลือดสีแดงสดออกมา แสงแห่งธรรมอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและสุกสกาวนั้นพลันจืดจางลง และไม่สามารถปกป้องเขาได้อีกต่อไป
ตุบ! ร่างของอินรั่วเฉินร่วงลงมากระแทกกับพื้น
จีวรสีเหลืองอ่อนของเขาในตอนนี้ได้ขาดหลุดลุ่ยเป็นริ้ว ๆ ไม่เหลือชิ้นดี
ร่างของเขาร่วงตกลงมากระแทกพื้น อาการบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถคืบคลานขึ้นมาได้ เขามองไปที่อรหันต์ทั้งสามและกล่าวว่า “ข้าไม่ได้ทำ และข้าก็ยังกลับไปไม่ได้ ข้า…ข้าจะต้องพิสูจน์ความจริงให้กระจ่าง!”
อรหันต์ทั้งสามกล่าว “ท่านหัวหน้าแคว้นตรวจสอบทุกอย่างชัดเจนแล้ว โอรสศักดิ์สิทธิ์ ผู้ออกบวชไม่อาจกล่าววาจาโป้ปดได้”
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็ได้แต่ทอดถอนใจ เมื่อก่อนไม่ว่าอินรั่วเฉินจะทำสิ่งใด ทุกคนก็ล้วนแต่เคารพเลื่อมใสในตัวเขาทุกอย่าง เขาผู้เป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ ผู้มีความเมตตากรุณาเป็นอย่างยิ่ง!
แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่พันธนาการแต่อย่างใด
ตอนนี้ได้กระทำความผิดใหญ่หลวง แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะไม่เข้าข้างเขา ไม่มีใครเชื่อเขาเลย
“โอรสศักดิ์สิทธิ์ เรากลับกันเถอะนะ!”
หนึ่งในอรหันต์ท่านหนึ่งเข้ามาประคองอินรั่วเฉินไว้
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! ในตอนนี้เอง พวกเขาไม่ได้ระมัดระวังตัวเลยสักนิด
พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าเข็มยาขนาดเล็กและบางทิ่มแทงเข้าที่ท้ายทอยของพวกเขาแล้ว พวกเขารู้สึกเหมือนยุงกัดเท่านั้น ภายในชั่วพริบตาเดียวสมองของพวกเขาก็ว่างเปล่า และร่างของพวกเขาก็ล้มลงไปกับพื้น
ร่างร่างหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าอินรั่วเฉิน อินรั่วเฉินยิ้มขึ้นเล็กน้อย นี่ไม่ใช่รอยยิ้มที่สดใสบริสุทธิ์ แต่เป็นรอยยิ้มที่สื่อสารความในใจได้ดีที่สุด
“แม่นางมู่ เจ้ามาแล้ว!”
ตุบ! เขาทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ดวงตาทั้งสองข้างหลับสนิท และล้มนอนลงกับพื้น
มู่เฉียนซีเอามือลูบหน้าตัวเองเบา ๆ ปลอมตัวมาขนาดนี้แล้ว เจ้าหมอนี่ก็ยังจำนางได้ทั้ง ๆ ที่อยู่ในอาการสะลึมสะลือ
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาหลายเข็มปักเข้าร่างอินรั่วเฉิน นางลงมืออย่างหนัก
คนที่เคยทำไม่ดีกับนางเช่นนี้ นางไม่ปักเข็มยาลงบนจุดไท่หยางก็นับว่ามีความเมตตามากแล้ว
ช่วยไม่ได้ ต้องให้เจ้าหมอนี่ฟื้นขึ้นมาเพื่อถามเรื่องฝักกระบี่
เพิ่งจะลงเข็มได้ไม่นาน มู่เฉียนซีก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายหลายกลิ่นเข้าใกล้มา แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ต้องเป็นเหล่าอรหันต์เหล่านั้นเป็นแน่
นางไม่อยากเผชิญการต่อสู้ซึ่ง ๆ หน้า ดังนั้นจึงต้องพาตัวเขาไป!
“เสี่ยวหง แบกเขามา เร็วเข้า!”
เดิมทีแคว้นเทพฟ้านอินได้ปิดข่าวเอาไว้แล้ว แต่นับตั้งแต่อินรั่วเฉินหนีออกมาได้นานถึงเพียงนี้ จึงปิดข่าวเอาไว้ไม่อยู่
ข่าวเรื่องที่โอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินเข้าสู่ทางมารกระทำเรื่องอันโหดร้ายได้แพร่กระจายไปทั่วแดนตะวันตกแล้ว และยังเป็นข่าวที่โด่งดังกว่าตำหนักเป่ยหานลงมือกับหอหมอปีศาจเสียอีก
โอรสศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมแห่งความเชื่อของชาวพุทธสำหรับพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ความพิเศษที่สุดของการเป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์ก็คือเป็นหัวใจแห่งธรรมมาตั้งแต่กำเนิด เป็นผู้มีความเมตตากรุณาเป็นอย่างยิ่ง
แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นมารผู้โหดร้ายไปแล้ว ความเชื่อ ความเลื่อมใสศรัทธาของพวกเขาก็สั่นคลอนไปจนหมด
พวกเขาไม่เชื่อ แต่ท่านหัวหน้าแคว้นกลับออกมาประกาศว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง และเรื่องนี้เขาก็มีความผิดเหมือนกัน
แคว้นเทพฟ้านอินเริ่มออกตาไล่ล่าโอรสศักดิ์สิทธิ์ผู้ชั่วร้าย และดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็ตามไล่ล่าอินรั่วเฉินเช่นกัน
นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าโอรสศักดิ์สิทธิ์จะทรยศหักหลังพระพุทธเจ้า ทรยศหักหลังความเชื่อของชาวประชาเช่นนี้ ความโกรธนี้ไม่สามารถอภัยให้ได้ จะต้องถูกตัดสินโทษ!
เมื่อมู่เฉียนซีได้รู้ข่าวนี้เข้าก็รู้สึกเคร่งเครียดขึ้น ตอนนี้นางกำลังถูกเป่ยกงจั๋วตามไล่ฆ่าอยู่ด้วย นางยังเอาตัวเองไม่รอดเลย
เดิมทีคิดว่าแดนตะวันตกจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับนาง นึกไม่ถึงเลยว่าจะอันตรายมากกว่าเดิมเช่นนี้ อินรั่วเฉิน ต้องรีบคิดหาวิธีจัดการโดยเร็ว แต่ตอนนี้เขายังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย!
.
.