ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1425 ออกหน้าแทนเขา
นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนก่อเรื่องในตอนนี้
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนโกรธเกรี้ยวมาก!
ทุกคนต่างพากันจ้องมองไปที่คนผู้นั้น และพบว่าคนผู้นั้นเป็นชายหนุ่มร่างสูงผู้หนึ่ง
คนผู้นี้โกนผมออกบวชแล้ว สวมชุดจีวรสีเหลืองอ่อน เป็นผู้ที่มีพลังที่แข็งแกร่งมากผู้หนึ่ง
คนผู้นั้นมองอินรั่วเฉินและกล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอิน ท่านเป็นผู้นำให้ผู้คนบำเพ็ญตนตามหลักคำสอน แต่ท่านกลับมีจิตใจผูกพันกับอายตนะภายนอก ท่านหมดความศรัทธาในธรรมะไปแล้ว”
“ข้ายอมรับนะว่าคนที่มีพรสวรรค์อย่างท่านนั้นหาได้ยากมากในรอบหมื่นปี แต่หากท่านยังไร้ความแข็งแกร่งอยู่เช่นนี้ ได้โปรดท่านออกจากตำแหน่งนี้เสียเถอะ”
ในตอนนี้เอง หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินก็เดินออกมาพลางกล่าวว่า “ผู้ใดกันที่กล่าววาจาเช่นนี้?”
คนผู้นี้ดูแปลกหน้าแปลกตามาก เขาไม่เคยเห็นคนผู้นี้ในตำหนักเทพมาก่อนเลย
“เขาเป็นศิษย์ของข้าเอง!”
พระชราหนวดเคราขาวรูปหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินผู้หนึ่งเดินออกมา เมื่อหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินเห็น ก็อุทานขึ้นด้วยความตกใจว่า “ท่านพี่!”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงขึ้นเช่นกัน “พี่ชายของหัวหน้าแคว้นเป็นปรมาจารย์แห่งแคว้นไม่ใช่หรอกเหรอ?”
“ในที่สุดท่านปรมาจารย์แห่งแคว้นก็ออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญแล้ว”
“ที่แท้ก็เป็นท่านปรมาจารย์แห่งแคว้นนี่เอง เช่นนั้นชายหนุ่มผู้นั้นก็คือศิษย์ของท่านปรมาจารย์แห่งแคว้นน่ะสิ”
ปรมาจารย์แห่งแคว้นมองหัวหน้าแคว้นและกล่าวว่า “เจ้ารั่วเฉินยังเด็ก เขาเป็นเช่นไรเจ้าเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ตำแหน่งโอรสศักดิ์สิทธิ์นี้ เขาควรจะลงจากตำแหน่งได้แล้ว”
หัวหน้าแคว้นกล่าว “หลายปีที่ผ่านมานี้ รั่วเฉินในฐานะที่เป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่เคยกระทำเรื่องที่ผิดมาก่อน เขารวบรวมพลังแห่งความเชื่อความศรัทธาแห่งธรรม ทำให้พสกนิกรแคว้นเทพฟ้านอินอยู่เย็นเป็นสุขมาโดยตลอด เขาเหมาะสมที่จะเป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งแคว้นเทพฟ้านอินของข้าที่แท้จริง”
“ใช่! เขาเป็นคนที่เหมาะสมอย่างแท้จริง!”
“ในแคว้นเทพฟ้านอินไม่มีผู้ใดเหมาะสมที่จะเป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์ไปมากกว่าเขาแล้ว”
“……”
กลุ่มคนจำนวนมากต่างเห็นด้วยกับคำพูดนี้
ปรมาจารย์แห่งแคว้นกล่าวเย้ยหยันว่า “ไม่เคยกระทำเรื่องผิดอย่างนั้นเหรอ แล้วเรื่องที่คนเขารู้ไปทั่วทั้งดินแดนสี่ทิศนั่นล่ะ เจ้าลืมไปแล้วหรือไง ?”
“นั่นมันเป็นแผนการของพวกเผ่าวิญญาณร้าย ไม่เกี่ยวข้องกับรั่วเฉิน”
“เกี่ยวข้องหรือไม่ หัวหน้าแคว้นย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจดี”
หัวหน้าแคว้นหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้น ท่านพี่ท่านนี้ของเขามีความคิดต่างและขัดแย้งกับเขามาโดยตลอด
ตอนนี้ออกมาจากการฝึกบำเพ็ญ พลังต้องแข็งแกร่งขึ้นมากแน่นอน มิเช่นนั้นคงไม่มีความมั่นใจถึงเพียงนี้
ปรมาจารย์แห่งแคว้นกล่าว “อินรั่วเฉิน หากเจ้าไม่อยากให้ข่าวฉาวโฉ่ของเจ้าแพร่สะพัดไปทั่วทั้งใต้หล้า เจ้าก็รับคำท้าประลองกับศิษย์ของข้าเถอะ!”
“หากเจ้าพ่ายแพ้ เจ้าต้องออกจากตำแหน่งโอรสศักดิ์สิทธิ์ และไสหัวออกไปจากแคว้นเทพฟ้านอินซะ”
ทุกคนได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “เหตุใดปรมาจารย์แห่งแคว้นถึงได้กลายเป็นคนเช่นนี้ไปได้ ท่านโอรสศักดิ์สิทธิ์จะมีข่าวฉาวโฉ่ได้อย่างไรกัน”
“ปรมาจารย์แห่งแคว้นเป็นถึงยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแคว้นเทพฟ้านอินก็จริง แต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาใส่ร้ายป้ายสีโอรสศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้”
“……”
มู่เฉียนซีมองไปที่พระเฒ่ารูปนั้น ที่แท้ก็เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแคว้นเทพฟ้านอินในตำนานนี่เอง มิน่าล่ะว่าเหตุใดถึงได้หยิ่งผยองถึงเพียงนี้!
ตลอดเวลาที่ผ่านมาแคว้นเทพฟ้านอินถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย หัวหน้าแคว้นและโอรสศักดิ์สิทธิ์ดูแลในเรื่องความเชื่อแห่งธรรม
ส่วนฝ่ายของปรมาจารย์แห่งแคว้นจะดูแลในเรื่องของกองกำลัง
ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะสงบมาโดยตลอด ทำให้คนอื่น ๆ ไม่รู้ถึงความขัดแย้งนี้เลย
มู่เฉียนซีเองก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย นึกไม่ถึงเลยว่าอินรั่วเฉินจะตกอยู่ในกำมือของปรมาจารย์แห่งแคว้นเช่นนี้
ต้องยอมรับเลยจริง ๆ ว่าปรมาจารย์แห่งแคว้นผู้นี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก อินรั่วเฉินเดิมทีก็บาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว ตอนนี้สูญเสียพลังจิตไปมาก มาท้าประลองในตอนนี้ เกรงว่า…
อินรั่วเฉินมองไปที่มู่เฉียนซี แม้ว่าตำแหน่งโอรสศักดิ์สิทธิ์จะตกไปอยู่ในกำมือของปรมาจารย์แห่งแคว้นก็ไม่เป็นไร
และในขณะที่อินรั่วเฉินจะพยักหน้าตอบรับคำท้าประลองนั้น ร่างในชุดสีขาวร่างหนึ่งก็ได้เคลื่อนไหวไปบนแท่นบูชา
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่พระเฒ่าเคราขาวผู้นั้นและกล่าวว่า “ปรมาจารย์แห่งแคว้น ศิษย์ของท่านก็เป็นแค่คนคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักอะไรมากมาย ไม่มีสิทธิ์มาท้าประลองกับโอรสศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ แต่หากท่านยังยืนยันที่จะท้าประลองแล้วละก็ ต้องผ่านด่านข้าไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน”
เล่อฝาน ศิษย์ของปรมาจารย์แห่งแคว้นกล่าวขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็นใครกัน รนหาที่ตายแท้!”
อินรั่วเฉินลุกยืนขึ้นข้างกายมู่เฉียนซี ก่อนจะกล่าวว่า “คุณชายผู้นี้เป็นสหายของข้า เจ้าช่วยมีมารยาทด้วย”
ปรมาจารย์แห่งแคว้นยิ้มพลางกล่าวว่า “นึกไม่ถึงเลยว่าคนอย่างโอรสศักดิ์สิทธิ์จะมีสหายรุ่นราวคราวเดียวกันด้วย ช่างหาได้ยากนัก เจ้าไม่กลัวว่าเจ้าจะทำให้เขาต้องตายหรอกเหรอ?”
ดวงตาของอินรั่วเฉินลึกล้ำขึ้น มู่เฉียนซีกล่าว “ปรมาจารย์แห่งแคว้น ท่านก็เป็นผู้อาวุโสแล้ว มากว่าววาจาเช่นนี้กับผู้น้อย ดูไม่สุภาพเอาซะเลย”
ปรมาจารย์แห่งแคว้นมองอินรั่วเฉินด้วยสีหน้าแสดงความสงสาร พลางกล่าวว่า “ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสารซะจริง ๆ พวกเจ้าถูกอินรั่วเฉินหลอกแล้วล่ะ อย่าได้เข้ามาก้าวก่ายเรื่องนี้เลยนะ มิเช่นนั้นเจ้าจะเสียใจทีหลังเอาได้”
มู่เฉียนซีกล่าว “เรื่องใดที่ข้าตัดสินใจไปแล้ว ข้าไม่มีทางเสียใจทีหลังแน่นอน! ศิษย์ผู้นั้นของท่านปรารถนาจะเป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์ ต้องการจะเอาชนะอินรั่วเฉิน งั้นก็มาสิ! มาเอาชนะข้าให้ได้ก่อน หากไม่กล้าก็รีบไสหัวไปซะ!”
เล่อฝานพุ่งตัวไปที่แท่นบูชา ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าหนุ่ม ในเมื่อเจ้าอยากประลองกับข้า ข้าก็จะทำให้เจ้าได้สมปรารถนาเอง”
“แม่นางมู่!” อินรั่วเฉินห้ามมู่เฉียนซี
ในเมื่อเล่อฝานกล้ามาท้าประลองเช่นนี้ นั่นก็หมายความว่าพลังของเขาต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน!
มู่เฉียนซีกล่าว “ความแข็งแกร่งของข้า เจ้ายังไม่รู้ชัดอีกเหรอ?”
“แต่ว่า…” ตัวตนของนางอาจจะถูกเปิดเผยได้
“ข้าคิดว่าวันนี้ต้องมีผลลัพธ์ออกมาแน่นอน เปิดเผยก็เปิดเผยไป ไม่เป็นไร เมื่อถึงตอนนั้นแคว้นเทพฟ้านอินอาจจะวุ่นวายหน่อย เจ้ายังพอมีความสามารถจัดการกับผลที่ตามมาได้อยู่กระมัง!”
“อืม!”
“แม้ว่าตำแหน่งโอรสศักดิ์สิทธิ์มันจะมีเรื่องให้เจ้าต้องปวดหัววุ่นวาย แต่ตำแหน่งนี้ก็ยังมีประโยชน์มาก เจ้ายอมถูกคนพวกนี้แย่งชิงไปจริง ๆ เหรอ?”
“ก็จริงอย่างที่เจ้าว่า!”
“เจ้าหลบไปอยู่ข้าง ๆ รักษาตัวก่อนเถอะ!” มู่เฉียนซีโยนขวดยาลูกกลอนขวดหนึ่งให้อินรั่วเฉิน
อินรั่วเฉินพยักหน้าเบา ๆ ก่อนถอยออกไป!
เล่อฝานกล่าวเยาะเย้ยว่า “อินรั่วเฉิน ข้าว่าพลังความแข็งแกร่งของเจ้าก็ไม่เท่าไหร่ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะให้เจ้าขี้เหร่ผู้นี้ช่วยเจ้า เช่นนี้แล้ว เจ้ามีสิทธิ์อะไรอยู่ในตำแหน่งโอรสศักดิ์สิทธิ์ต่ออีกเล่า”
มู่เฉียนซีเชิดหน้าชูคอพลางกล่าว “ข้าอยากช่วยเขาแล้วเจ้าจะทำไม แล้วข้าก็จะช่วยเขาเอาชนะเจ้าด้วย!”
“เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
แม้ว่าคนผู้นี้จะดูเหมือนพระรูปหนึ่ง แต่กลับเผยสีหน้าที่โหดร้ายออกมา ช่างไม่เข้ากันเลยสักนิด
เล่อฝานมองไปที่ปรมาจารย์แห่งแคว้นและกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ จะเริ่มได้รึยัง?”
ปรมาจารย์แห่งแคว้นมองหัวหน้าแคว้นพลางกล่าว “หัวหน้าแคว้นว่าอย่างไร?”
ในตอนนี้เอง อินรั่วเฉินกล่าวขึ้นว่า “เริ่มได้!”
“บัวแดงพิฆาต!”
ทันทีที่อินรั่วเฉินกล่าวจบ มู่เฉียนซีก็โจมตีด้วยกระบี่อย่างไม่เกรงใจ
บัวอัคคีอันน่าสะพรึงกลัวโจมตีลงมาจากกลางอากาศ เล่อฝานหลบการโจมตีนี้อย่างน่าอับอาย
เขากล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “จะลงมือก็ไม่ทักทายกันบ้างเลย!”
“การประลองครั้งนี้เจ้าต้องการตำแหน่งโอรสศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นผู้ตัดสินในการประลองครั้งนี้ก็ต้องเป็นโอรสศักดิ์สิทธิ์แน่นอนอยู่แล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้ายังจะไปถามอาจารย์ของเจ้าอีกว่าเริ่มได้รึยัง เจ้ามันช่างโง่เขลาเสียจริง!” มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยัน
ลูกประคำในมือเขาพุ่งตัดผ่านอากาศตรงไปที่มู่เฉียนซี
“เจ้าหนุ่ม ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้ด้วยความอนาถแน่นอน”
“ผูกมัด!”
ทันทีที่กระบี่ของมู่เฉียนซีพุ่งออกไป มันก็พุ่งเป้าเข้าจะฟันลูกประคำเส้นนั้น
เสียง ตูม! ดังลั่นขึ้น ลูกประคำเส้นนั้นถูกกระบี่มังกรเพลิงฟันจนขาดสะบั้น
ป่อก ป่อก ป่อก! ลูกประคำร่วงตกลงมาบนพื้น
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยท่าทางเกียจคร้านว่า “อาวุธของเจ้าช่างไร้ประโยชน์เสียจริง! ไม่ทันได้ใช้ก็พังซะแล้ว ความสามารถเพียงเท่านี้ยังกล้ามาต่อสู้กับคนอย่างข้าอีก!”
สีหน้าของเล่อฝานเขียวคล้ำขึ้นด้วยความโกรธ ขณะเดียวกันสีหน้าของปรมาจารย์แห่งแคว้นก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนักเช่นกัน แต่ไหนแต่ไรมาไม่มีอาวุธใดที่สามารถทำลายลูกประคำเส้นนี้ได้ กระบี่อัคคีในมือเจ้าเด็กนั่นเป็นอาวุธวิญญาณระดับใดกันแน่