ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1447 ดินแดนเทพทะเลเมฆา
ในตอนนี้เอง น้ำเสียงเคร่งขรึมเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“แม่นางมู่พูดจริงเหรอ?”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “หัวหน้าเกาะลั่วเห็นข้าเป็นคนกล่าววาจาโป้ปดหรืออย่างไร?”
ลั่วอี้โจวกล่าว “เช่นนั้นก็รบกวนแม่นางมู่แล้ว หากต้องการสมุนไพรวิญญาณใดก็บอกข้าได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”
“ข้าไม่เกรงใจแน่นอน!”
นับตั้งแต่มู่เฉียนซีได้รักษาปรับสมดุลให้ร่างกายของลั่วเหมี่ยว หัวหน้าเกาะลั่วก็ปกป้องพวกเขาเป็นพิเศษ ดังนั้นลั่วซินจึงไม่มีโอกาสมาหาเรื่องรบกวนพวกเขาเลย
และแน่นอนว่าพวกเขาก็กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่เหมือนกัน!
ได้ยินมาว่าดินแดนเทพทะเลเมฆากำลังจะเปิด
ดินแดนเทพทะเลเมฆาเป็นสถานที่ที่เยี่ยมยอดแห่งหนึ่ง หากได้เข้าไปฝึกบำเพ็ญในที่แห่งนั้น บางทีพลังอาจจะพุ่งสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วก็ได้ อีกทั้งยังมีโอกาสได้ของล้ำค่ามากมายอีกด้วย ไม่ส่าจะเป็นทรัพยากรในการฝึกบำเพ็ญ อีกทั้งโอกาสที่มากมาย
จำนวนคนที่เข้าไปในดินแดนเทพทะเลเมฆานั้นมีจำกัด และอัจฉริยะในเกาะเมฆาก็มีไม่น้อย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำการคัดเลือก
“คุณหนูใหญ่ ข้าได้ข่าวมาจากเหล่าผู้อาวุโสว่าการคัดเลือกดินแดนเทพทะเลเมฆาแบ่งออกเป็นกลุ่มละสองคน เนื่องจากครั้งก่อนมีคนหลงทางในดินแดนเทพทะเลเมฆาและได้รับอันตรายไปไม่น้อย ดังนั้นครั้งนี้จึงจัดแบ่งกลุ่มเป็นสองคนจะได้ร่วมทางไปเป็นเพื่อนกัน”
ลั่วซินกล่าว “สองคนอย่างนั้นเหรอ?”
“ขอรับ!”
“ตอนลงชื่อสมัคร อย่าลืมลงชื่อมู่เฉียนซีกับลั่วเหมี่ยวเข้าไปด้วย”
“แต่คุณหนูน้อยอายุยังน้อย ส่วนมู่เฉียนซีก็ไม่ใช่คนของเกาะเมฆาของพวกเรา จะลงชื่อสมัครได้อย่างไรกันขอรับ”
“พวกมันสองคนไม่ผ่านการคัดเลือกแน่นอน สิ่งที่ข้าต้องการก็คือให้พวกมันสองคนพ่ายแพ้ไปอย่างน่าอนาถในการคัดเลือก เจ้ารู้หรือไม่ ว่าหากครั้งนี้เจ้าทำไม่สำเร็จ ข้าจะจับเจ้าโยนลงทะเลให้ไปเป็นอาหารปลาซะ”
“ข้าน้อยทำสำเร็จแน่นอนขอรับ!”
มู่เฉียนซีกำลังรักษาและปรับสมดุลร่างกายให้กับลั่วเหมี่ยวอยู่ นางไม่รู้เลยว่าลั่วซินได้ขุดหลุมใหญ่ไว้ให้นางแล้ว
เมื่อถึงวันคัดเลือกของดินแดนเทพทะเลเมฆามาถึง จึงมีคนมาบอกเรื่องนี้กับมู่เฉียนซีและลั่วเหมี่ยว
“คุณหนูน้อย ท่านนักปรุงยามู่ การคัดเลือกแห่งดินแดนเทพทะเลเมฆากำลังจะเริ่มแล้ว เหตุใดถึงยังไม่ไปเข้าร่วมอีกล่ะเจ้าคะ! ลงชื่อสมัครไปแล้วแต่ไม่ไปเช่นนี้ นับว่าเป็นการดูหมิ่นเหล่าผู้อาวุโสนะเจ้าคะ”
ในเกาะเมฆา นอกจากจะมีลั่วอี้โจวที่เป็นหัวหน้าใหญ่แล้ว เหล่าบรรดาผู้อาวุโสก็มีอำนาจมากเช่นกัน
เมื่อมู่เฉียนซีกับลั่วเหมี่ยวได้ยินเช่นนี้ต่างก็เผยสีหน้างุนงงขึ้น
“ดินแดนเทพทะเลเมฆาคือสิ่งใด?”
“ดินแดนเทพทะเลเมฆาพวกท่านไม่รู้จักหรอกเหรอ แล้วลงชื่อสมัครได้อย่างไร ไม่ทันแล้ว รีบไปเถอะเจ้าค่ะ!”
สาวใช้รีบนำทางไป พลางชี้แจงให้มู่เฉียนซีกับลั่วเหมี่ยวฟังถึงเรื่องของดินแดนเทพทะเลเมฆา
เป็นดินแดนลึกลับที่ยอดเยี่ยมมากแห่งหนึ่ง และมีของล้ำค่ามากมาย!
ว่ากันตามหลักเหตุผลแล้ว สถานที่ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ มู่เฉียนซีผู้ที่เป็นคนนอกไม่มีโอกาสเข้าไปด้วยซ้ำ และไม่มีสิทธิ์ที่จะลงชื่อสมัครด้วย
ไม่รู้ว่าคนใจดีที่ไหนลงชื่อสมัครให้นาง และตอนนี้นางก็รู้สึกสนใจดินแดนลึกลับนี้ขึ้นมาแล้ว
ทว่า คนผู้นั้นกลับลงชื่อสมัครให้ลั่วเหมี่ยวไปกับนางด้วย เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาร้ายแฝงอยู่
เมื่อมู่เฉียนซีกับลั่วเหมี่ยวมาถึงสนามการประลองยุทธ์ ก็มีคนกล่าวขึ้นว่า “มู่เฉียนซี ลั่วเหมี่ยวประลองกับคู่ของลั่วอวี้เจียง ลั่วจื่อชาง”
ลั่วเหมี่ยวเข้าใจสถานการณ์นี้ดี ส่วนคนอื่นต่างส่งเสียงถกเถียงอย่างโกลาหลขึ้นแล้ว “นี่มันเกิดอันใดขึ้น คนนอกเข้าร่วมได้อย่างไรกัน?”
“ปรมาจารย์มู่เข้าร่วมก็พอจะเข้าใจได้ แต่คุณหนูน้อยเพิ่งจะอายุเจ็ดขวบ มาเข้าร่วมประลองได้อย่างไรกัน!”
“อีกอย่างคุณหนูน้อยก็ไม่สามารถฝึกบำเพ็ญได้ ฝึกบำเพ็ญไม่ได้แล้วจะประลองได้อย่างไรกันล่ะ!”
หัวหน้าเกาะลั่วที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้ตัดสินในตอนนี้เห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงนิ่งอึ้งไปแล้ว “นี่มันอะไรกัน ใครกล้าก่อเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ขึ้น!”
เขาผู้ที่ทนเห็นลั่วเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็ไม่ได้เช่นนี้ จะยอมให้นางเข้าร่วมการประลองเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
ลั่วอวี้เจียงกล่าว “เป็นอะไรไปล่ะ พวกเจ้ากลัวอย่างนั้นเหรอ ยังไม่ทันขึ้นลานประลองก็กลัวซะแล้ว!”
ลั่วจื่อชางกล่าว “คนงาม หากเจ้าคุกเข่าขอร้องพวกข้า และยอมรับความพ่ายแพ้ พวกเจ้าก็ไม่ต้องเจ็บตัว”
พวกเขาไม่ได้คิดจะให้มู่เฉียนซียอมแพ้แต่อย่างใด เพราะหากพวกเขาทำให้หญิงสาวผู้นี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเท่าไร คุณหนูใหญ่ก็จะตบรางวัลให้พวกเขามากเท่านั้น
มู่เฉียนซีจูงมือลั่วเหมี่ยวเดินขึ้นไปบนลานประลองอย่างช้า ๆ จากนั้นก็กล่าวว่า “ยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ สวะไร้ประโยชน์อย่างพวกเจ้าสองคนมีค่าอันใดให้ข้ายอมแพ้ให้ด้วยล่ะ แน่จริงก็เข้ามาเลยสิ!”
“สามหาว อวดดีนักนะ!”
“เจ้าต้องตายแน่!”
พลันนั้นพวกเขาทั้งสองก็กระโดดขึ้นไปบนลานประลองทันที ลั่วซินเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
พลังความแข็งแกร่งของสองคนนี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่านางเลย หญิงสาวผู้นี้รับมือนางได้คนเดียว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรับมือกับคู่ต่อสู้ถึงสองคนในเวลาเดียวกันได้สักหน่อย
มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวเหมี่ยว เจ้าไปหลบอยู่ข้าง ๆ อย่าให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บล่ะ รอข้าจัดการสองคนนี้ไม่นานหรอก”
ลั่วเหมี่ยวพยักหน้าตอบรับอย่างเชื่อฟัง นางเคยเห็นมู่เฉียนซีต่อสู้กับศัตรูมาแล้ว
ตอนที่อยู่บนพื้นผิวทะเลในครั้งนั้น คนมากมายเหล่านั้นก็สู้พี่สาวมู่ไม่ได้ และสองคนนี้ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่สาวมู่เลย
“เริ่มการประลองได้!” ครั้นแล้วผู้ตัดสินจึงประกาศเริ่มการประลองขึ้น
ทันทีที่สิ้นเสียงประกาศ สองคนนี้ก็แผ่ซ่านพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งออกมากดดัน และพุ่งไปที่มู่เฉียนซีทันที
ทุกคนเห็นเช่นนี้ก็อุทานขึ้นว่า “เจ้าหนุ่มสองคนนี้ก้าวหน้าไปไม่น้อยเลย แม่นางมู่คนเดียวรับมือกับคู่ต่อสู้สองคนเช่นนี้ ดูท่าจะไม่มีโอกาสให้เอาชนะได้เลย”
“สาวน้อยผู้นั้นไม่มีทางเอาชนะได้แน่นอน! เราจะปล่อยให้คนนอกเข้าไปในดินแดนเทพทะเลเมฆาได้อย่างไรกันเล่า”
“……”
ในขณะที่พวกเขาทั้งสองพุ่งเข้ามานั้น ร่างของมู่เฉียนซีก็อันตรธานหายวับไปแล้ว
“เช่นนี้อีกแล้วเหรอ อาศัยทักษะร่างอย่างนั้นเหรอ หึ!” ลั่วซินกัดฟันกรอดพลางกล่าว
ในตอนนี้เอง พลังธาตุวารีอันเย็นยะเยือกก็ได้แผ่ซ่านออกมา
“มังกรวารีทำลาย!”
“มังกรวารีสังหาร!”
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
ทักษะวิญญาณพลังธาตุวารีสามกระบวนท่าดูเหมือนว่าจะพุ่งโจมตีออกมาพร้อม ๆ กัน
ปัง ปัง! ร่างของสองคนนี้ถูกโจมตีจนกระเด็นลอยออกไปจากลานประลอง
เอาชนะได้ภายในชั่วพริบตาเดียว ภายในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น!
สองรุมหนึ่ง เอาชนะได้ภายในชั่วพริบตาเดียว!
ทุกคนเบิกตากว้างจ้องมองไปที่ร่างในชุดสีม่วงที่อยู่บนลานประลองนั้นด้วยความตกใจ
ในตอนนี้เอง ลั่วซินก็กล่าวขึ้นว่า “นางเป็นนักปรุงยาไม่ใช่เหรอ เหตุใดพลังของนางถึงไม่ใช่พลังธาตุอัคคี แต่เป็นพลังธาตุวารีล่ะ ท่านพ่อ นางโกหกหลอกลวง!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ดูเหมือนคุณหนูใหญ่ลั่วจะไม่ค่อยมีความรู้สักเท่าไรเลยนะ ใครบอกล่ะว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารีจะเป็นนักปรุงยาไม่ได้”
ลั่วเหมี่ยวเองก็ยืนกรานส่งเสียงกล่าวขึ้นแล้ว “พี่สาวซิน พี่สาวมู่เป็นนักปรุงยาจริง ๆ พี่สาวมู่เก่งกาจกว่านักปรุงยาท่านอื่นมากด้วย แถมยาของพี่สาวมู่ก็อร่อยกว่ายาของนักปรุงยาท่านอื่นด้วย”
‘ปรุงยาอร่อยกว่ายาของนักปรุงยาท่านอื่น’ คำกล่าวนี้ทุกคนล้วนแต่คิดว่าเป็นคำกล่าวที่เกินจริง จึงไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเด็กน้อยผู้นี้
หัวหน้าเกาะลั่วกล่าว “ซินเอ๋อร์ แม่นางมู่เป็นนักปรุงยาจริง ๆ ตั้งแต่นางมารักษาอาการของเหมี่ยวเอ๋อร์ ร่างกายของเหมี่ยวเอ๋อร์ก็ดีขึ้นมาก เจ้าอย่าได้กล่าววาจาไร้สาระเช่นนี้อีก”
“ท่านพ่อ!” ลั่วซินกระทืบเท้าด้วยความโกรธเกรี้ยวและไม่พอใจ
ในตอนนี้เอง ผู้ตัดสินก็ได้ประกาศว่า “มู่เฉียนซีและลั่วเหมี่ยวเป็นฝ่ายชนะ!”
การประลองครั้งนี้เพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น!
นางยังต้องพบกับยอดฝีมือตัวจริงของเกาะเมฆาอีก
มู่เฉียนซีกับลั่วเหมี่ยวนั่งชมการประลองอยู่ข้าง ๆ
เนื่องจากลั่วซินเป็นบุตรสาวของหัวหน้าเกาะลั่ว การประลองในครั้งนี้จึงมีคนจำนวนมากยอมหลีกทางให้นางชนะ
ลั่วเหมี่ยวรู้สึกอิจฉามากที่เห็นลั่วซินได้แสดงฝีมือเช่นนี้ “หากข้าช่วยพี่สาวมู่ได้ก็ดีสิ แต่ตอนนี้ข้าช่วยอะไรพี่สาวมู่ไม่ได้เลยสักอย่าง แถมตอนประลอง ยังต้องให้พี่สาวมู่ปกป้องข้าอีก”
“เพียงแค่เจ้าเชื่อฟัง เจ้าก็จะมีโอกาส!”
“อืม!”
“การประลองสนามต่อไป มู่เฉียนซีและลั่วเหมี่ยว พบกับลั่วลี่จื้อและลั่วจือ”
.