ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1448 อับอายบ้างหรือไม่
“ลั่วลี่จื้อกับลั่วจือเป็นพี่น้องกัน ความเข้าใจในการต่อสู้ร่วมกันของทั้งสองนั้นยอดเยี่ยมมาก มู่เฉียนซีที่มีเด็กน้อยเป็นตัวถ่วงอยู่เช่นนี้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกนางแน่นอน!”
“หากเป็นข้านะ ข้าจะยอมแพ้ตั้งแต่แรกแล้ว!”
“การประลองสนามนี้ไม่ต้องคาดเดาก็รู้ผลแล้ว!”
“พี่สาวมู่!” ลั่วเหมี่ยวดึงแขนมู่เฉียนซีพลางกล่าวเสียงต่ำ
“ประเดี๋ยวพอผู้ตัดสินประกาศเริ่มการประลอง เจ้าจำเอาไว้ให้มั่นว่าอย่าให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ ข้าไม่แพ้แน่นอน” มู่เฉียนซีกล่าวกับลั่วเหมี่ยว
ดวงตาสีฟ้าอ่อนคู่นั้นเปล่งประกายขึ้น “อืม!”
นางเชื่อมั่นในพี่สาวมู่!
ลั่วจือกล่าว “นึกไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวต่างถิ่นเช่นเจ้าจะไม่เอ่ยปากยอมแพ้ ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะมีฝีมือสักแค่ไหน แต่ว่านะ…นี่มันก็เป็นแค่เพียงการดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์ก็เท่านั้น”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “การที่พวกเจ้าได้มีโอกาสประลองกับข้า ก็นับว่าเป็นความโชคดีของพวกเจ้ามากแล้ว!”
ลั่วลี่จื้อกล่าว “มั่นใจในตัวเองมากนักนะ!”
“เริ่มการประลองได้!” และผู้ตัดสินก็ได้ประกาศเริ่มการประลองขึ้นแล้ว
เท้าคู่นั้นของลั่วลี่จื้อกระโดดขึ้นกลางอากาศ ร่างของนางพุ่งไปที่มู่เฉียนซีอย่างรุนแรงราวกับระเบิดก็มิปาน
ส่วนลั่วจือกระโจนออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เล็บของนางพลันยืดยาวออกมา และพุ่งโจมตีไปที่มู่เฉียนซีอย่างรุนแรง
ทุกคนต่างคิดว่ามู่เฉียนซีที่ต้องเผชิญกับการโจมตีอันแข็งแกร่งของสองคนนี้ไม่มีทางตอบโต้กลับได้ แม้แต่จะหลบหลีกก็ยากที่จะหลบหลีกได้
ลั่วซินกล่าวด้วยความลำพองใจว่า “นางต้องตายแน่ ๆ!”
และแล้วร่างในชุดสีม่วงนั้นก็ได้อันตรธานหายไป!
การโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ ภายใต้ความเร็วอันน่าทึ่งของมู่เฉียนซีนั้นใช้ไม่ได้ผลเลย!
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ความเร็วของพวกเจ้าทั้งสองก็งั้น ๆ!”
พวกเขาสองพี่น้องตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “เจ้าก็แค่อาศัยทักษะร่างที่รวดเร็วก็เท่านั้น ไม่มีอะไรน่าภูมิใจหรอกนะ!”
“กรงเล็บสวรรค์!”
“หมัดสวรรค์ทำลาย!”
พลังวิญญาณของทั้งสองโคจรขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ทักษะวิญญาณของทั้งสองพุ่งตัดผ่านอากาศมุ่งเป้าไปที่มู่เฉียนซีอย่างรุนแรงอีกครั้ง
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
“ทักษะโยวหลัว!”
มู่เฉียนซีเองก็ไม่อยากเสียเวลากับพวกนางทั้งสองมาก มังกรตัวหนึ่งพุ่งออกไปสกัดทักษะวิญญาณของทั้งสองไว้ อีกทั้งยังสกัดกั้นได้อย่างง่ายดายมาก
เมื่อทุกคนเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงจนตาค้างขึ้น “นี่มัน นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
“พลังของนางเป็นเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า ไม่ใช่มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า ข้าไม่ได้ดูผิดไปกระมัง!”
“ดูไม่ผิดหรอก แต่กำลังในการต่อสู้เช่นนี้น่ากลัวเกินไปแล้วจริง ๆ!”
ปัง ปัง! สองพี่น้องคู่นี้ถูกมู่เฉียนซีโจมตีจนกระเด็นลอยออกไปแล้ว
“ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก!”
สีหน้าของพวกเขาทั้งสองเคร่งเครียดขึ้น พวกนางทั้งสองรู้ดีว่าพวกนางทั้งสองกับหญิงสาวผู้นี้ห่างชั้นกันมาก
ขืนต่อสู้ต่อไป พวกนางไม่มีทางที่จะเอาชนะได้แน่นอน!
ทว่า พวกนางจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด หากพ่ายแพ้ พวกนางก็จะพลาดโอกาสที่จะเข้าไปในดินแดนเทพทะเลเมฆาครั้งนี้
สองพี่น้องหันไปมองหน้ากันแวบหนึ่ง จากนั้นลั่วลี่จื้อก็พุ่งเข้าหามู่เฉียนซีทันที
แต่ลั่วจือกลับไม่ได้ร่วมมือกับนางเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่กลับพุ่งเข้าหาลั่วเหมี่ยวที่ไร้ซึ่งกำลังในการต่อสู้
การโจมตีลั่วเหมี่ยวจะทำให้มู่เฉียนซีเป็นกังวล พวกนางไม่เชื่อหรอกว่ามู่เฉียนซีจะทั้งรับมือและปกป้องลั่วเหมี่ยวได้ในเวลาเดียวกัน
“บัดซบ!” หัวหน้าเกาะลั่วสบถคำด่าออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
นึกไม่ถึงเลยว่าสองพี่น้องคู่นี้จะเอาชนะมู่เฉียนซีไม่ได้แล้วหันไปลงมือกับบุตรสาวของเขาเช่นนี้ เขาอยากจะเข้าไปขวาง แต่ผู้อาวุโสสูงสุดกลับกล่าวขึ้นเสียก่อนว่า “หัวหน้าเกาะ พวกนางสองพี่น้องรู้จักขอบเขตอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก ตอนนี้การประลองสำคัญที่สุด”
สองพี่น้องคู่นี้โจมตีลั่วเหมี่ยวอย่างไร้ยางอาย ทำให้มู่เฉียนซีโกรธเกรี้ยวมาก
กระบี่ยาวสีแดงฉานเล่มหนึ่งถูกมู่เฉียนซีชักออกมา นางตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “มังกรเพลิงสังหาร!”
การโจมตีของกระบี่โจมตีออกไป มู่เฉียนซีพุ่งไปที่ลั่วลี่จื้ออย่างรวดเร็ว
ความเร็วของนางนั้นน่าทึ่งเกินไปแล้วจริง ๆ รวดเร็วจนลั่วลี่จื้อไม่สามารถตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย!
“ทักษะโยวหลัว!”
ตูม! ลั่วลี่จื้อถูกโจมตีจนร่างกระเด็นออกไปจากลานประลอง
มังกรเพลิงสีแดงฉานพุ่งออกไปปกคลุมร่างของลั่วจือเอาไว้ นางยังไม่ทันได้สัมผัสลั่วเหมี่ยวแม้แต่ปลายเล็บก็ถูกมังกรเพลิงโจมตีจนกระเด็นลอยออกไปจากลานประลองเช่นกัน
ทุกคนเห็นเช่นนี้ก็เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ สองกระบวนท่านี้ดูเหมือนจะโจมตีออกไปพร้อมกัน พรสวรรค์เช่นนี้น่ากลัวเกินไปแล้วจริง ๆ
ผู้ตัดสินเองก็ตกใจนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งกว่าจะเรียกสติกลับมาได้ และประกาศออกมาว่า “มู่เฉียนซีและลั่วเหมี่ยวเป็นฝ่ายชนะ!”
มู่เฉียนซีรีบวิ่งไปข้างกายลั่วเหมี่ยวและกล่าวถามว่า “เสี่ยวเหมี่ยว เมื่อครู่เจ้ากลัวหรือไม่?”
แขนเล็ก ๆ ขาเล็ก ๆ นี้ของเสี่ยวเหมี่ยวไม่มีทางรับการโจมตีนั้นของลั่วจือไหวแน่นอน แต่โชคดีที่นางขวางเอาไว้ได้
ลั่วเหมี่ยวยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้าไม่กลัว พี่สาวมู่ยอดเยี่ยมที่สุด ข้าก็เลยไม่กลัว!”
มู่เฉียนซีเผยความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งนี้ออกมาให้ทุกคนได้เห็น ต่อมา คู่ต่อสู้ของนางทั้งหมดก็ล้วนแต่เอ่ยปากยอมแพ้ไปทั้งสิ้น
แม้พลังวิญญาณจะยังไม่ถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า แต่ถ้าหากต่อสู้กับคนวิปริตเช่นนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย!
ทว่า อัจฉริยะแห่งเกาะเมฆาของพวกเขาที่มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้ามีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น!
ลั่วซินกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “พวกสวะไร้ประโยชน์ ไม่ได้เรื่องสักคน!”
นางมองไปที่ชายหนุ่มผู้รูปงามที่อยู่ข้างกายและกล่าวขึ้นว่า “พี่ใหญ่! พี่ต้องเอาชนะหญิงสาวผู้นั้นได้แน่นอน จะให้นางอวดดีเย่อหยิ่งเช่นนี้ต่อไปไม่ได้นะเจ้าคะ”
ดวงตาของลั่วชิงเปล่งประกายขึ้น “ช่างเป็นหญิงสาวที่ทำให้ผู้คนต้องยอมจำนนจริง ๆ คู่ต่อสู้เช่นนี้ข้าไม่ได้เจอมานานแล้วเหมือนกัน”
หลังจากที่คู่ต่อสู้คนอื่น ๆ เอ่ยปากยอมแพ้มู่เฉียนซีไปหลายคู่ มู่เฉียนซีและลั่วเหมี่ยวก็ได้พบกับคู่ต่อสู้สองพี่น้องอย่างลั่วซินและลั่วชิง
ลั่วอี้โจวกล่าว “หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ทำร้ายน้องสาวของพวกเจ้านะ ระลึกเอาไว้ในใจด้วยว่าเจ้าเป็นพี่ชายและพี่สาวของนาง”
ลั่วซินและลั่วชิงหันไปมองลั่วเหมี่ยว น้องสาวผู้นี้รูปร่างหน้าตางดงามและประณีตราวกับตุ๊กตา แต่นางเกิดมาจากหญิงสาวที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน พวกเขาทั้งสองไม่อาจชื่นชอบนางได้เลย
ลั่วชิงกล่าว “ซินเอ๋อร์ หญิงสาวผู้นี้ข้าจะจัดการเอง! เจ้ายืนดูอยู่ข้าง ๆ ก็พอ!”
ลั่วซินกล่าว “พี่ใหญ่ แต่ข้าอยากช่วยท่านด้วย!”
ลั่วชิงกล่าว “เจ้าจะเกะกะขวางข้าจนเสียการเปล่า ๆ”
ลั่วซินเป็นคนที่นิสัยเย่อหยิ่งมาโดยตลอด เมื่อถูกพี่ชายห้ามเช่นนี้นางก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสานกับลั่วชิง แต่กลับจ้องเขม็งไปที่มู่เฉียนซีด้วยสายตาดุร้ายแทน
เป็นเพราะผู้หญิงบัดซบผู้นี้คนเดียวแท้ ๆ!
ลั่วชิงกล่าว “แม่นางมู่ โปรดชี้แนะด้วย! หากเจ้าแพ้ เจ้าก็ไม่ต้องไปดูแลเด็กสวะไร้ประโยชน์นั่นแล้ว มาเป็นสนมของข้าแทนเป็นเช่นไร ข้ารับรองว่าจะปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างดี!”
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “คุณชายลั่วเป็นคนช่างคิดจริง ๆ นะ! กล่าววาจาเช่นนี้ออกมา ไม่กลัวว่าข้าจะทำให้เจ้าสืบทอดสกุลไม่ได้บ้างหรือไร!”
“ดูท่าแม่นางมู่จะโกรธเอาเสียแล้ว เช่นนี้ข้าก็ยิ่งสนใจในตัวเจ้ามากขึ้นไปอีก” ลั่วชิงยิ้มพลางกล่าว
หัวหน้าเกาะลั่วหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นแล้ว บุตรชายผู้นี้โดดเด่นมาก ฝึกบำเพ็ญจนพลังวิญาณถึงขั้นสูง ซึ่งนั่นก็คือทักษะวิเศษนั่นเอง
อาศัยการดูดซับพลังวิญญาณของหญิงสาวเพื่อเลื่อนขั้น ไม่คิดมุ่งแสวงหาความก้าวหน้า คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเห็นมู่เฉียนซีเป็นเป้าหมายด้วย
เหมี่ยวเอ๋อร์ยังต้องการหญิงสาวผู้นี้ นางจะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด!
ในตอนนี้เอง ผู้ตัดสินก็ประกาศขึ้นว่า “การประลองเริ่มได้!”
มู่เฉียนซีรู้สึกว่าคนผู้นี้เกะกะขวางลูกหูลูกตามาก ดังนั้นกระบี่มังกรเพลิงจึงเริ่มเคลื่อนไหว และในครั้งนี้นางก็เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน!
“มังกรเพลิงสังหาร!”
ตูม! ลั่วชิงหลบหลีกการโจมตีของกระบี่มังกรเพลิงนี้ เขายิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าแข็งแกร่งมากจริง ๆ แต่เพียงเท่านี้มันยังไม่พอหรอกนะ!”
“ข้าไม่ได้เหมือนกับพวกสวะไร้ประโยชน์พวกนั้น พลังของข้า คือขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าอย่างแท้จริง”
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “อายุเจ้าก็ไม่ได้น้อยแล้วนะ กล่าววาจาเช่นนี้ออกมาไม่รู้จักอับอายขายหน้าบ้างหรือไร ดูจากหน้าตาของเจ้าก็รู้แล้วว่าไตเจ้าไม่ดี ใช้งานหนักไปแล้วกระมัง! แต่ก็ช่างเถอะ พลังวิญญาณไม่คงที่ ดูเหมือนการฝึกบำเพ็ญของเจ้าจะผิดปกติไปนะ!”
“ใช้วิธีผิดแปลกฝึกฝนมาจนถึงขั้นนี้ เจ้ายังมีหน้ามาพูดว่าพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าที่แท้จริงอีก ข้าว่าแม้แต่ขั้นมหาจักรพรรดิ