ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1476 ควรเชื่อในตัวเขา
“ไสหัวออกไปจากร่างของเสี่ยวไป๋เดี๋ยวนี้” มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึม
“แต่ร่างของข้ามันพังลงไปแล้ว หากไม่ใช้ร่างกายสำรองนี้แล้ว จะให้ข้าทำเช่นไรล่ะ?”
เป่ยกงจั๋วเอามือไปจับกระบี่ของมู่เฉียนซี คมกระบี่กรีดมือของเขา เลือดสีแดงสดไหลหยดลงมา
เป่ยกงจั๋วกล่าว “แทงตรงนี้ ทำลายร่างกายนี้ เช่นนี้เจ้าก็จะสามารถฆ่าข้าได้จริง ๆ แล้ว”
“เป่ยกงจั๋ว เสี่ยวไป๋เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” มือของมู่เฉียนซีสั่นเทา
“ฮ่า ๆ ๆ! วิญญาณของเขาดับสูญไปแล้ว ตอนนี้ร่างกายนี้เป็นของข้าแล้ว”
“เจ้า…”
มู่เฉียนซีโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง ทันทีที่ข้อมือของนางขยับ เลือดในมือของเป่ยกงจั๋วก็ไหลออกมามากขึ้น
ทว่า นี่คือร่างของเสี่ยวไป๋!
เป่ยกงจั๋วยิ้มอย่างหยอกล้อพลางกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าอาลัยอาวรณ์ฆ่าข้าไม่ลง เช่นนั้นก็เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน”
กล่าวจบ เป่ยกงจั๋วก็เคลื่อนตัวพุ่งไปที่ค่ายกลส่งตัวระยะไกลทันที!
มู่เฉียนซีตะโกนลั่น “ชิงอิ่ง ขวางเขาเอาไว้! จะปล่อยเขาไปไม่ได้เด็ดขาด”
ปัง!
เป่ยกงจั๋วไม่ตอบโต้ ในทางกลับกันเขายังเผยจุดอ่อนที่สุดออกมาอีกด้วย
“เจ้าอยากฆ่าก็ฆ่าสิ! อย่างไรเสียมันก็ไม่ใช่ร่างของข้าอยู่แล้ว!”
ชิงอิ่งย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่ามู่เฉียนซีใส่ใจกู้ไป๋อีเป็นพิเศษ เขาจึงทำได้เพียงแค่ยั้งมือ
“ฮ่า ๆ ๆ!” เป่ยกงจั๋วหัวเราะด้วยความสะใจ
“เช่นนั้น ข้าขอตัวล่ะ!”
“ถ้าหากว่าเจ้าไม่สบายใจก็ตามข้ามาได้นะ! แต่หากเจ้าตามมาแล้วละก็ ข้าไม่รับประกันนะว่าข้าจะทำหรือลงมือทำอันใดกับร่างนี้บ้าง”
เป่ยกงจั๋วมองมู่เฉียนซีแวบหนึ่งก่อนจะจากไป
เขาจงใจจะยั่วยุให้มู่เฉียนซีโกรธ!
ร่างในชุดขาวอันตรธานหายไปต่อหน้ามู่เฉียนซี เขาใช้หยกวิญญาณเปิดค่ายกลส่งตัวระยะไกล และทันใดนั้นร่างของเป่ยกงจั๋วก็อันตรธานหายไปในที่สุด
ร่างในชุดสีม่วงพุ่งออกไป มู่เฉียนซีคิดจะใช้หยกวิญญาณเปิดค่ายกลส่งตัวระยะไกลตามไป
“เฉียน!” ชิงอิ่งดึงมือมู่เฉียนซีเอาไว้
“อย่าไป อันตราย!”
มู่เฉียนซีย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่าหากนางตามไปในแดนซวนเทียนมันจะอันตรายมากเพียงใด อีกอย่างประตูทางออกของค่ายกลส่งระยะไกลนี้ก็คือราชวงศ์ตงหวง
เป่ยกงจั๋วเองก็คิดเรื่องนี้เอาไว้แล้ว จึงได้ยั่วยุนาง
ทว่า จะไม่ไปได้อย่างนั้นเหรอ จะทอดทิ้งเสี่ยวไป๋ไปเช่นนี้อย่างนั้นเหรอ!
ต่อให้รู้ว่ามันเป็นกับดัก แต่นางก็ยังไม่วางใจปล่อยให้เสี่ยวไป๋ไปเช่นนี้อยู่ดี!
“ชิงอิ่ง ข้าจะไป! ข้าจะทิ้งเสี่ยวไป๋ไปเช่นนี้ไม่ได้”
“ตกลง เช่นนั้นข้าจะไปด้วย!” ชิงอิ่งยืนยัน
จากนั้นมู่เฉียนซีก็วางหยกวิญญาณลง เตรียมจะเปิดค่ายกลส่งตัวระยะไกล!
และในขณะที่ลำแสงของค่ายกลส่งตัวระยะไกลปรากฏแสงสาดส่องออกมา คนอื่น ๆ ก็ตามมาด้วยเช่นกัน
“นายท่าน นายท่านจะไปแดนซวนเทียนไม่ได้!” เหลิ่งหนิงจือตะโกนกล่าว
“พี่ใหญ่ ข้าจะไปด้วย!”
“พวกเราก็จะไปด้วย!”
“ไม่ได้ ข้าไปคนเดียวก็พอแล้ว!”
ตูม! เดิมทีค่ายกลส่งตัวระยะไกลควรจะส่งตัวมู่เฉียนซีไป แต่ทันใดนั้นค่ายกลส่งตัวระยะไกลที่นางยืนอยู่ได้เกิดการระเบิดขึ้น
ชิงอิ่งรีบอุ้มมู่เฉียนซีและขวางพลังนั้นเอาไว้
มู่เฉียนซีเองก็รีบใช้พลังป้องกัน “โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ค่ายกลนี้ถูกทำลายไปโดยสมบูรณ์ ซึ่งการถูกทำลายไปโดยสมบูรณ์นี้ สมบูรณ์ยิ่งกว่าครั้งที่ค่ายกลส่งตัวระยะไกลในแดนใต้ถูกทำลายเสียอีก
ใครเป็นคนทำลายค่ายกลส่งตัวระยะไกลกัน?
เป่ยกงจั๋วไม่มีทางทำลายมันเด็ดขาด ในทางกลับกันเขายังรอให้นางตามเขาไปด้วยซ้ำ
“องค์รัชทายาทเป่ยกง!” หญิงสาวผู้หนึ่งที่สวมชุดฮั่นฝูเอ่ยเรียก ในขณะที่มีการตอบสนองมาจากดินแดนสี่ทิศ นางก็ได้มารออยู่ที่ค่ายกลส่งตัวระยะไกลแล้ว
เมื่อนางได้เห็นกับเป่ยกงจั๋วที่ตกอยู่ในสภาพจนตรอกเช่นนี้ ก็อดที่จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยไม่ได้!
“องค์หญิงมู่หลินหลาง เฝ้าเอาไว้ให้ดี! อีกประเดี๋ยวข้าจะมอบของขวัญให้กับเจ้า”
“ของขวัญ?”
“ก็เจ้านายของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ และน้องสาวตัวดีของเจ้าอย่างมู่เฉียนซีอย่างไรล่ะ!”
“นางจะมารนหาที่ตายอย่างนั้นเหรอ!”
“นางมาแน่!” เป่ยกงจั๋วกล่าวด้วยความมั่นใจ
เขาเข้าใจคนที่มีอารมณ์แค้นที่สุด สิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน
ทว่า หลังจากที่รอมาเป็นเวลานาน ก็ยังไม่มีผู้ใดมา
มู่หลินหลางโกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว “เป่ยกงจั๋ว เจ้าเล่นตลกอันใดกับข้า!”
และในตอนนี้เองก็มีคนผู้หนึ่งเข้ามารายงานว่า “องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ ค่ายกลส่งตัวระยะไกลที่ดินแดนสี่ทิศถูกทำลายด้วยพลังอันลึกลับ ตอนนี้พวกเราไม่สามารถไปยังดินแดนสี่ทิศได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“เป่ยกงจั๋ว นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?” สีหน้าของมู่หลินหลางพลันเคร่งขรึมขึ้น
เป่ยกงจั๋วเองก็สับสนงุนงง เมื่อครู่ค่ายกลส่งตัวระยะไกลก็ยังดีอยู่ เหตุใดถึงถูกทำลายไปได้
“เรื่องนี้ต้องมีอันใดไม่ชอบมาพากลเป็นแน่!”
“เด็ก ๆ! เชิญว่าที่สามีของข้าไปนั่งพักที่วังตงหวงก่อนเถอะ!” มู่หลินหลางกล่าวเสียงขรึม
ค่ายกลส่งตัวระยะไกลนี้ถูกทำลายไปอย่างลึกลับ ไม่ใช่ฝีมือของชิงอิ่งแน่นอน เช่นนั้นแล้วเป็นฝีมือของใครกัน
เซียวเหยากล่าวอย่างไร้เดียงสาว่า “นายท่าน ไม่ใช่ฝีมือข้าแน่นอน”
“ยิ่งพวกเรายิ่งเป็นไปไม่ได้!”
ไม่นานนัก ก็มีคนมารายงานอีกว่า “ท่านหัวหน้าหอ แย่แล้วขอรับ! ค่ายกลส่งตัวระยะไกลของตำหนักเป่ยหานท่ีไปยังแดนซวนเทียนถูกทำลายลงแล้วขอรับ”
“ถูกทำลายในเวลาเดียวกัน!”
โม่จิ่นกล่าว “พังหมดก็ดี! พวกหมาป่าเจ้าเล่ห์พวกนั้นก็จะลงมาไม่ได้แล้ว นายท่านก็จะปลอดภัย”
มู่เฉียนซีกล่าว “อย่าได้ดีใจไปก่อนเลย เรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล!”
และไม่นานนัก ทางด้านของแคว้นเทพฟ้านอินก็มีได้รับรายงานข่าวว่าค่ายกลส่งตัวระยะไกลของพวกเขาก็ถูกทำลายลงแล้ว
ตกลงเป็นฝีมือผู้ใดกันแน่ที่ทำลายค่ายกงส่งตัวระยะไกลทั้งสามแห่งไปพร้อม ๆ กันเช่นนี้
กลิ่นอายอันคุ้นเคยได้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งดินแดนสี่ทิศ
ลั่วเหมี่ยวดึงมือมู่เฉียนซีเอาไว้พลางกล่าวว่า “พี่สาวมู่ กลิ่นอายนี้ เป็นกลิ่นอายของพี่สาวผู้นั้น”
หรือว่า ผู้ที่ปิดตายค่ายกลส่งตัวระยะไกลจะเป็นสุ่ยจิงอิ๋ง สุ่ยจิงอิ๋งขวางนางไม่ให้ไปอย่างนั้นเหรอ?
ไม่ใช่สิ สุ่ยจิงอิ๋งยังคงหลับใหลอยู่ กลีบดอกส่วนที่ตกอยู่ในมือของเยี่ยเฉียกลีบนั้นอยู่ห่างไกลมาก จะรู้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางนี้ได้อย่างไรกัน
ขณะเดียวกัน อินรั่วเฉินก็รีบมาด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซีไม่ได้เป็นอะไร เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“หัวหน้าตำหนักเป่ยหาน!”
เขามองไปยังศพที่เอนกายนอนอยู่ตรงนั้น สีหน้าพลันเปลี่ยนไปทันที!
เนื่องจากศพนั้นเอนกายโดยไม่ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด จึงมีน้อยคนนักที่จะสามารถแยกแยะระหว่างเป่ยกงจั๋วและเป่ยกงหานออกจากกันได้
“ภิกษุ!”
เซียวเหยารีบดึงอินรั่วเฉินพลางกล่าวว่า “ไม่ว่าพวกเราจะพูดเช่นไรนายท่านก็ไม่ยอมฟัง พวกเราก็ไม่รู้จะปลอบใจนางเช่นไรแล้ว ท่านสวดมนต์ได้เก่งมามิใช่หรือ? เช่นนั้น ข้ามอบหน้าที่นี้ให้ท่านก็แล้วกัน”
ในตอนนี้พวกเขาดีใจมากที่ค่ายกลส่งตัวระยะไกลพังลงไป จึงทำให้ขวางนายท่านเอาไว้ได้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“เรื่องนี้ช่างน่าแปลกยิ่งนัก ไม่รู้ว่าโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินมีความเห็นเช่นไร” น่าหลานอวี้กล่าวเสียงต่ำ
อินรั่วเฉินฟังจบก็ตกใจขึ้นเล็กน้อย ที่แท้คนที่ตายก็คือเป่ยกงจั๋ว
ไม่สิ เป่ยกงจั๋วยังไม่ตาย!
เขาเดินไปตรงหน้ามู่เฉียนซีและกล่าวว่า “แม่นางมู่ หัวหน้าตำหนักเป่ยหานคือผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแห่งดินแดนสี่ทิศ! เขาแข็งแกร่งมากเพียงใด แม่นางมู่ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ”
“โปรดแม่นางมู่จงเชื่อในตัวเขา หากแม่นางมู่สงบจิตสงบใจครุ่นคิดดูสักนิด บางทีคำตอบอาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้”
มู่เฉียนซีกำหมัดแน่น สงบจิตใจ สงบสติอารมณ์!
เสี่ยวไป๋หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้เพียงแค่ร่าง และร่างนั้นก็มีเป่ยกงจั๋วแอบซ่อนอยู่
นางสับสนไปหมดแล้ว ใช่! นางต้องเชื่อใจในตัวเสี่ยวไป๋
หากเป่ยกงจั๋วต้องการมีชีวิตรอดจริง ๆ ก็ควรบอกว่าเสี่ยวไป๋ยังอยู่ดี ฆ่าเขา ก็เท่ากับฆ่าเสี่ยวไป๋ด้วย แต่นี่เขากลับไม่กล่าวอันใดออกมา อีกทั้งยังจงใจจะยั่วยุนาง และล่อให้นางไปยังแดนซวนเทียน!
นางควรจะเชื่อในตัวเสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋ไม่มีทางพ่ายแพ้ให้คนเจ้าเล่ห์อย่างเป่ยกงจั๋วแน่นอน
แม้ว่ามู่เฉียนซีจะตั้งสติและคิดวิเคราะห์ได้ แต่ในใจที่แท้จริงของนางก็ยังไม่ได้สงบลงจริง ๆ อยู่ดี นางไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่นางคิดนั้นเป็นความจริง “คนคนหนึ่งตายไปแล้ว ส่วนอีกคนก็ใช้ร่างของพี่ชายตามอำเภอใจ นี่มันวิชาลึกลับชั่วร้ายอะไรกันแน่” มู่เฉียนซีมองอินรั่วเฉินพลางกล่าว