ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1477 ความเคลื่อนไหวของเยี่ยเฉีย
อินรั่วเฉินกล่าว “สิ่งที่ข้ารู้นั้นก็มีขอบเขตและมีข้อจำกัดเช่นกัน วิชาลึกลับเช่นนี้ข้าไม่รู้หรอก ต้องขออภัยด้วย”
พรวด! ยังไม่ทันกล่าวจบ อินรั่วเฉินก็กระอักเลือดคำโตออกมา ภิกษุรูปหนึ่งรีบเข้าไปประคองเขาเอาไว้
“โอรสศักดิ์สิทธิ์ รีบกลับเถอะ!”
มู่เฉียนซีจับชีพจรบนข้อมือของอินรั่วเฉิน ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “ได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังจิตปั่นป่วน เจ้า…นี่เจ้าเก็บตัวฝึกบำเพ็ญจนกลายเป็นเช่นนี้เหรอ?”
“ข้าไม่เป็นไร! ข้ามีปัญหาในการฝึกบำเพ็ญเล็ก ๆ น้อย ๆ ข้าขอตัวลาก่อน” อินรั่วเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
ภิกษุรูปนั้นกล่าวว่า “โอรสศักดิ์สิทธิ์รู้ว่าทางด้านหัวหน้าหอมู่เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นจึงได้รีบมาที่นี่ เจ้าอย่าได้กล่าวโทษโอรสศักดิ์สิทธิ์เลย”
“เฮ้อ! พวกวัยหนุ่มสาวอย่างพวกเจ้านี่นะ!” เขากล่าวด้วยความทอดถอนใจ
“กลับไปถึงก็เอายาพวกนี้ให้เจ้าหมอนี่กินด้วยล่ะ!” มู่เฉียนซีกล่าว
“ขอบใจมาก!”
อินรั่วเฉินมาเร็วและไปเร็วมาก!
เซียวเหยากล่าว “นายท่าน ภิกษุรูปนั้นกล่าวถูก! แม้ว่าข้าไม่อยากจะยอมรับ แต่กู้ไป๋อีนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ! ความแข็งแกร่งของเขาไม่ใช่ได้มาจากกระบี่ของเขา แต่มาจากจิตใจอันแข็งแกร่งของผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาต่างหาก”
มู่เฉียนซีหันไปมองเหลิ่งหนิงจือพลางกล่าวว่า “เจ้าอยู่ในแดนซวนเทียน เจ้ารู้หรือไม่ว่าฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งราชวงศ์เป่ยกงคือใคร?”
ก่อนหน้านี้เป่ยกงจั๋วได้กล่าวถึงเสด็จแม่ของเขาขึ้นมา!
เสี่ยวไป๋เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น สายเลือดทั้งสองของเขาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นแน่
เหลิ่งหนิงจือกล่าว “สถานะตัวตนเช่นนี้ของพวกเขา ข้าเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก! ฮ่องเต้เป่ยเป็นคนที่มีจิตใจละโมบโลภมาก และทะเยอทะยานสูงมาก เป่ยกงจั๋วมีนิสัยเหมือนเขามาก! ส่วนฮองเฮา ดูเหมือนว่าจะสิ้นพระชนม์ไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว”
“แต่เบาะแสที่นายท่านต้องการจะรู้ ในราชวงศ์เป่ยกงมีแน่นอน! ทว่า…นายท่าน นายท่านอย่าได้วู่วามเป็นอันขาด!”
ความแข็งแกร่งขั้นจักรพรรดิแห่งภูต เมื่อเทียบกับราชวงศ์เป่ยกงผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ไม่ต่างอะไรกับเอาไข่ไปกระทบหินเลย
น่าหลานอวี้กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “เฉียนซี ตราบใดที่เจ้ายังอยู่รอดปลอดภัยดี ทุกอย่างย่อมมีความหวังและหนทางแน่นอน แต่หากว่าเจ้าไม่รักตัวเสียดายชีวิตแล้วละก็ เช่นนั้นสิ่งที่หัวหน้าตำหนักเป่ยหานทำไปทั้งหมดมันก็จะเป็นการสูญเปล่าไร้ความหมาย”
เยวี่ยเจ๋อกล่าว “ใช่! พี่ใหญ่ ก็แค่กองกำลังระดับห้า ตราบใดที่หอหมอปีศาจของพวกเราแข็งแกร่งมากพอ เราก็จะเอาชนะพวกนั้นเหมือนอย่างที่เอาชนะเป่ยกงจั๋วได้แน่นอน”
โม่จิ่นกล่าว “นายท่าน ไม่ว่ายังไงพวกเราก็จะอยู่เคียงข้างนายท่าน แต่นายท่านจะต้องรักษาตัวเองให้ดี”
มู่เฉียนซีกวาดสายตามองพวกเขาเหล่านี้ สายตาของแต่ละคนมองนางด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เมื่อครู่ นางวู่วามเกินไปจริง ๆ
มู่เฉียนซีเหลือบสายตาไปมองศพของเป่ยกงจั๋ว เซียวเหยากล่าวขึ้นด้วยความเคียดแค้น “นายท่าน เรามาเฆี่ยนตีศพนี่กันเถอะ!”
“ฉีกเนื้อหนังมังสาของมันออกมา!”
“สับเนื้อหั่นเป็นชิ้น ๆ!”
แต่ละคนต่างเสนอความคิดเห็นอันโหดร้ายออกมา เจ้าหมอนี่ทำให้หัวหน้าตำหนักเป่ยหานบาดเจ็บถึงเพียงนั้น อีกทั้งยังยั่วยุล่อหลอกให้มู่เฉียนซีตามไปในสถานที่ที่อันตรายเช่นนั้นอีก ต่อให้เอาแส้เฆี่ยนตีศพนี้เป็นร้อย ๆ ปีมันก็ไม่เพียงพอ
มู่เฉียนซีส่ายหน้าพลางกล่าวว่า “ไม่! ข้าต้องการให้ศพนี้ฟื้นสภาพกลับมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด สมบูรณ์อย่างไร้ที่ติ”
ทว่า สายตาของมู่เฉียนซีนั้นเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง
นางเห็นร่างของเจ้าหมอนี่แล้ว ก็แทบอยากจะเอามีดสับเนื้อเขาออกมาเป็นหมื่น ๆ ชิ้น แต่นางจำใจไม่อาจทำเช่นนั้นได้
บางทีหากศพร่างนี้ยังอยู่ดี เมื่อถึงเวลานั้นแล้วอาจจะมีวิธีเอาเป่ยกงจั๋วยัดเข้าร่างนี้ได้ก็ได้
และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดนั่นก็คือเอาเสี่ยวไป๋เข้าร่างนี้
แม้ว่ามันจะไม่ดี แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
มู่เฉียนซีกล่าว “กลับหอหมอปีศาจ ระวังตัวด้วย! และตรวจสอบหาสาเหตุเรื่องค่ายกลส่งตัวระยะไกลให้กระจ่าง”
“ขอรับ!”
ทันทีที่กลับมาถึงหอหมอปีศาจ มู่เฉียนซีก็เก็บตัวอยู่ในห้องปรุงยา
เวลาสามวันผ่านไป ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ปรุงยาออกมาได้สำเร็จ จากนั้นนางก็เอายาที่ปรุงได้เทลงในถังแก้วผลึกใส!
“เด็ก ๆ! จับเจ้าหมอนี่โยนเข้าไปแช่ในถัง”
ตูม!
ร่างของเป่ยกงจั๋วถูกโยนเข้าไปในถัง และถูกปิดผนึกลง!
แม้ว่านางจะฟื้นฟูสภาพร่างกายของเป่ยกงจั๋วเป็นอย่างดี แต่การกระทำของนางนั้นหยาบคายมาก
สายตาของมู่เฉียนซีมองร่างที่แช่อยู่ในถังยานั้นอย่างเย็นชา “เป่ยกงจั๋ว ข้าจะต้องถลกหนังเจ้าออกมาให้ได้แน่”
“กู้ไป๋อี เจ้านั่นก็เหมือนกัน! เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีไปจากข้าได้เหรอ?” มู่เฉียนซีกัดฟันกรอดพลางกล่าว
ค่ายกลส่งตัวระยะไกลถูกทำลายไปแล้วสามวัน จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังตรวจสอบหาสาเหตุไม่เจอ
เมื่อสามวันผ่านไปย่างเข้าวันที่สี่ พลังสีดำอันลึกลับก็ได้ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
พลังอันชั่วร้ายแผ่ซ่านออกมา ผู้ที่มีสุขภาพไม่ค่อยดีต่างก็เจ็บไข้ล้มป่วยไป
มู่เฉียนซีเงยหน้าแหงนมองท้องฟ้า ก่อนจะกล่าวเสียงขรึมว่า “นี่มัน…นี่มันพลังของเผ่าวิญญาณร้ายนี่”
“เยี่ยเฉีย คิดจะทำสิ่งใดกันแน่!”
มู่เฉียนซีเริ่มออกคำสั่ง “ไปตรวจสอบหาต้นตอของพลังวิญญาณร้ายนี้ รีบไปเร็วเข้า!”
“ขอรับ!”
“สถานการณ์ทางด้านทุ่งรกร้างเรียบร้อยดีหรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ทางด้านทุ่งรกร้างไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดขอรับ”
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึม “เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด!”
“ข้าจะไปเตรียมตัวปรุงยา!”
พลังวิญญาณร้ายนี้ นางได้ศึกษายาออกมารับมือได้แล้ว
ในขณะที่นางศึกษาตัวยาออกมาได้ ก็มีข่าวมาจากแดนตะวันตก
แคว้นเทพฟ้านอินแห่งแดนตะวันตกได้ส่งสาส์นเชิญมายังมู่เฉียนซี หัวหน้าหอหมอปีศาจ และตัวแทนของตำหนักเป่ยหานไปปรึกษาหารือกันที่แคว้นเทพฟ้านอิน
ดินแดนสี่ทิศกำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว
ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่กองกำลังระดับสามเท่านั้น กองกำลังระดับสองและกองกำลังระดับหนึ่งก็ถูกเชิญไปด้วยเช่นกัน
พลังชั่วร้ายนี้ปกคลุมไปทั่วทั้งดินแดนสี่ทิศ และกัดกินสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
นี่คือมหันตภัยครั้งใหญ่ และเป็นมหันตภัยที่มีโอกาสทำลายดินแดนสี่ทิศได้เลยทีเดียว ทุกคนจึงจำเป็นต้องร่วมมือกัน
“ข้าจะไปแดนตะวันตกตอนนี้”
นี่เป็นการรวมตัวกันปรึกษาหารือที่เคร่งเครียดอีกครั้งหนึ่ง กองกำลังใหญ่ ๆ ทั้งหลายต่างเร่งเดินทางไปยังแดนตะวันตกโดยเร็วที่สุด
คนสำคัญที่สุดในการปรึกษาหารือในครั้งนี้ไม่ใช่หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอิน แต่กลับเป็นท่านผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดน
ผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนเป็นผู้ลึกลับมาโดยตลอด น้อยคนนักที่จะเคยเห็นผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนผู้นี้
ท่านผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดน และหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินต่างก็มากันครบแล้ว
มู่เฉียนซีกับหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินนั่งอยู่ตำแหน่งแถวหน้าสุด
หัวหน้าตำหนักเป่ยหานหายตัวไปแล้ว กลับไม่มีผู้ใดสงสัยเคลือบแคลงใจที่มู่เฉียนซีได้เป็นตัวแทนของหัวหน้าตำหนักเป่ยหานเลย ส่วนกองกำลังอันแข็งแกร่งของหอหมอปีศาจนั้น ไม่มีกองกำลังใดกล้าล่วงเกิน
การปรึกษาหารือที่สำคัญเช่นนี้ อินรั่วเฉินกลับไม่อยู่เข้าร่วม
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย อาการบาดเจ็บจากการเก็บตัวฝึกบำเพ็ญของอินรั่วเฉินสาหัสเกินไปแล้วหรือไม่?
ผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนผู้นี้มีรูปร่างหน้าตาธรรมดา ทว่า กลับสง่างามเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้เขาเผยสีหน้าเคร่งขรึมออกมา พลางกล่าวว่า “ค่ายกลส่งตัวระยะไกลในดินแดนสี่ทิศที่เชื่อมต่อกับดินแดนอื่นถูกทำลายไปแล้ว อีกทั้งยังถูกทำลายด้วยพลังมิติอันแข็งแกร่งพลังหนึ่งอีกด้วย ข้าสงสัยว่าผู้ที่ลงมือจะเป็นผู้ที่มีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพมิติ”
“ค่ายกลส่งตัวระยะไกลถูกปิดผนึก ทั่วทั้งดินแดนสี่ทิศก็ถูกปิดกั้นเช่นกัน ไม่อาจส่งข่าวใดออกไปได้! ข้าสงสัยว่า เมื่อก่อนที่พวกเราออกไปจากดินแดนสี่ทิศได้ยากนั้น นั่นเป็นเพราะว่ามิติของดินแดนสี่ทิศถูกปิดผนึกลง”
“เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนมันไม่ได้ถูกปิดผนึกสมบูรณ์เช่นครั้งนี้ แต่ครั้งนี้ถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์แล้ว ปิดกั้นดินแดนหนึ่งได้ ข้าคิดว่าผู้ที่สามารถทำได้ก็คือมหาศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ในตำนานผู้นั้นแน่นอน”
ทันใดนั้นก็มีคนหนึ่งอุทานขึ้นว่า “นั่นก็คือผู้พิทักษ์นิรันดร์ ดอกบัวหงส์เก้ากลีบ จ้าวแห่งมิติทั้งปวง!”
ได้ยินเช่นนี้แล้วสีหน้าของมู่เฉียนซีก็เคร่งขรึมขึ้น เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด ฝีมือของเยี่ยเฉียจริง ๆ ด้วย
เขาใช้พลังของสุ่ยจิงอิ๋งทำเรื่องเช่นนี้ขึ้น
ผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนกล่าวว่า “ข้าไม่อาจออกไปจากที่นี่ได้ ไม่อาจแจ้งเรื่องนี้ให้เผ่าปกป้องดินแดนทราบได้ ต่อจากนี้แม้ว่าจะเกิดภัยพิบัติอันร้ายแรงขึ้น พวกเราก็ต้องรับมือกันเองแล้ว! ผู้ที่ลงมือคงได้วางแผนมานานหลายหมื่นปีแล้ว ตอนนี้ได้ลงมือแล้ว ข้าเกรงว่า…”
ทุกคนต่างสูดลมหายใจเย็นเข้าปอดด้วยความตกใจ วางแผนมานานกว่าหลายหมื่นปี หากลงมือกระทำขึ้นมาแล้ว ก็มีโอกาสทำให้ดินแดนสี่ทิศดับสูญไปได้เลย