ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1480 ซวนหยวนชิงอวิ๋น
ในวังดอกบัวเงินคราม ยอดเสาสวรรค์ที่อยู่ใจกลางของมันนั้นกำลังถูกพลังแห่งวิญญาณร้ายกัดกร่อนเข้ามา มันกำลังสั่นคลอน และดูเหมือนว่าจะล้มลงมาได้ตลอดเวลาก็มิปาน
เยี่ยเฉียมองดูยอดเสาสวรรค์ที่กำลังสั่นคลอนนั้น และหัวเราะต่ออย่างบ้าคลั่ง “วิญญาณลิขิตสวรรค์!”
“มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์!”
“ล้วนแต่ต้องเป็นของข้า มันต้องเป็นของข้า!”
ทว่า ทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น! พลังแห่งวิญญาณร้ายที่หลั่งไหลเข้ามาในค่ายกลแห่งความตาย เหตุใดถึงพลันอ่อนแอลงแล้ว?”
สีหน้าของเยี่ยเฉียบิดเบี้ยวและดูโหดร้ายเป็นอย่างยิ่ง “หลัวซา นี่เจ้าจัดการอย่างไรกัน เหตุใดถึงได้เป็นเช่นนี้ไปได้?”
หลังจากเอายาลูกกลอนเทใส่ค่ายกลอย่างไม่รู้จักหมดสิ้น แต่อย่างไรก็ยังคงไม่สามารถยับยั้งได้อย่างสมบูรณ์
ยังมีพลังแห่งวิญญาณร้ายเหล่านั้นพลั่งพรูออกมา และไหลกลับเข้าไปอย่างต่อเนื่อง!
นิรันดร์กล่าวว่า “แม่ยอดดวงใจ ค่ายกลนี้เป็นเพียงส่วนประกอบส่วนหนึ่งเท่านั้น หากต้องการจะปิดผนึกให้สมบูรณ์ จะต้องทำทั้งสี่ค่ายกลไม่ให้ขาด”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน!”
มู่เฉียนซีปรุงยาน้ำและหลอมยาลูกกลอนออกมากองใหญ่อีกครั้ง ดินแดนสี่ทิศตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินรีบกลับไปด้วยความร้อนอกร้อนใจ แม้แต่ท่านผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนเองก็ไปด้วยเช่นกัน
แล้วแดนเหนือ ผู้ใดจะเป็นผู้ไปควบคุมสถานการณ์กันล่ะ
มู่เฉียนซีรีบเรียกคนของหอหมอปีศาจส่วนใหญ่มารวมตัวกัน ก่อนจะกล่าว “เหลิ่งหนิงจือ เซียวเหยา ที่นี่มอบให้เป็นหน้าที่ของพวกเจ้าแล้ว หากมันแพร่กระจายออกมาอีก ก็เทยาลูกกลอนใส่ไปได้เลย หากคนของเผ่าวิญญาณร้ายมา อย่าให้พวกมันก่อปัญหาได้เป็นอันขาด”
เหลิ่งหนิงจือกล่าว “พวกเราจะเฝ้าที่นี่เป็นอย่างดี”
“เช่นนั้นข้าไปแดนตะวันตกก่อน”
สถานการณ์ในตอนนี้ ทุกวินาทีล้วนแต่สำคัญมาก
มู่เฉียนซีเรียกหอฉงโหลวบนเมฆาออกมา “เราออกเดินทางไปแดนตะวันตกกัน”
ในหอฉงโหลวบนเมฆา มู่เฉียนซียังคงเร่งรีบแข่งกับเวลา
การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของเผ่าวิญญาณร้ายนี้ จะต้องเป็นแผนการของเยี่ยเฉียแน่นอน
หากเยี่ยเฉียออกมาได้ ดินแดนสี่ทิศก็จะถูกทำลายโดยสมบูรณ์ และคนอย่างเจ้าหมอนั่นไม่มีทางปล่อยนางไปอย่างแน่นอน
ค่ายกลของเผ่าวิญญาณร้ายในแดนตะวันตกอยู่ทางทิศตะวันตก ในตอนนี้แสงแห่งธรรมอันแข็งแกร่งก็กำลังรับมือกับพลังแห่งวิญญาณร้ายนั้นอยู่
ผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนกับหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินรีบมาด้วยความร้อนอกร้อนใจ เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังแห่งธรรมนี้แล้ว สีหน้าของพวกเขาก็พลันเปลี่ยนไป
“รั่วเฉิน เจ้าไม่ควรออกมา!” หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินกล่าว
“โอรสศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการฝึกบำเพ็ญ” สีหน้าของผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนพลันเคร่งขรึมขึ้นเช่นกัน
อินรั่วเฉินกล่าว “ข้าไม่เป็นไร ต้องขวางแผนการชั่วร้ายนี้เอาไว้ให้ได้ มิเช่นนั้นดินแดนสี่ทิศจะเกิดหายนะขึ้นจริง ๆ”
อินรั่วเฉินยกมือทั้งสองข้างประสานกัน ยับยั้งพลังแห่งวิญญาณร้ายของค่ายกลนี้
หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินไร้หนทาง ทำได้เพียงแค่กระวนกระวายใจอยู่ใกล้ ๆ เท่านั้น
และในตอนนี้เอง คนของเผ่าวิญญาณร้ายก็แห่กันมาแล้ว
“ท่านหลัวซามีคำสั่ง กำจัดคนที่มันขวางทางเอาไว้ให้หมด ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใด ต้องกำจัดทิ้งให้หมด! โดยเฉพาะโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอิน”
“คุ้มกันโอรสศักดิ์สิทธิ์!”
“สู้!”
เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งแห่งแคว้นเทพฟ้านอินจึงได้ต่อสู้กับคนของเผ่าวิญญาณร้ายเหล่านี้
การต่อสู้นี้เกิดขึ้นตรงใจกลางของค่ายกลนั้นที่อินรั่วเฉินยืนอยู่ ชั่วพริบตาเดียว ท้องฟ้าพลันมืดลง แต่ไม่นานนัก บัวอัคคีดอกหนึ่งก็บานสะพรั่งราวกับดวงอาทิตย์ และพุ่งลงมาจากกลางอากาศอย่างรุนแรง
“คนของเผ่าวิญญาณร้ายอย่างพวกเจ้ามันช่างตามหลอกหลอนไม่ยอมเลิกราจริง ๆ เลยนะ!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง! ในขณะที่บัวอัคคีพุ่งลงมาโจมตีนั้น ร่างในชุดสีม่วงก็พุ่งลงมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายอินรั่วเฉิน
“เดิมทีร่างกายของเจ้าก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงอยู่แล้ว เจ้าออกมาตอนนี้ ออกมารนหาที่ตายหรือไง?”
ทันทีที่มู่เฉียนซีโบกมือขึ้น ยาลูกกลอนและยาน้ำที่อยู่ในหอฉงโหลวบนเมฆาจำนวนมหาศาลก็ถูกเทเข้าไปในหลุมค่ายกล
มู่เฉียนซีมองอินรั่วเฉินพลางกล่าว “อย่าได้เปลืองแรงของเจ้าเลย คุ้มกันข้าก็พอ! หากจะปิดหลุมบ้านี่ให้ได้ ยังต้องใช้กำลังไม่น้อยเลย”
จากนั้นมู่เฉียนซีก็ทำการหลอมยาลูกกลอนต่อ นิรันดร์กล่าว “เมื่อครู่แม่ยอดดวงใจคงเหน็ดเหนื่อยมากแล้ว เรามาสลับกันหลอมเถอะ!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
อีกทางด้านหนึ่ง พวกเขาต้านทานคนของเผ่าวิญญาณร้ายได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนมู่เฉียนซีก็กำลังหลอมยาอย่างบ้าคลั่ง!
ยาลูกกลอนหลายหมื่นเม็ดถูกเทเข้าไปในหลุมค่ายกลนั้นราวกับเป็นเพียงแค่ก้อนหินก็มิปาน ช่างเป็นการเปิดโลกสำหรับคนอื่น ๆ จริง ๆ สมแล้วที่เป็นท่านหมอปีศาจแห่งหอหมอปีศาจ!
ฟุ่มเฟือย ไม่ตระหนี่ถี่เหนียวเลยแม้แต่น้อย!
การต่อสู้ผ่านไปหนึ่งวัน ด้านนอกยังคงยืนหยัดที่จะต่อสู้อยู่ แต่มู่เฉียนซีใกล้จะปิดผนึกค่ายกลนี้สำเร็จแล้ว
สีหน้าคนของเผ่าวิญญาณร้ายพลันเปลี่ยนไปมาก “บัดซบ! เหตุใดถึงได้อ่อนแอลงอีกแล้ว”
“ถ้าทำงานไม่สำเร็จ ท่านหลัวซาไม่มีทางปล่อยพวกเราไปแน่นอน ฆ่ามัน!”
เยี่ยเฉียที่อยู่ในวังดอกบัวเงินครามนั้น ตอนนี้ก็ได้แผ่ซ่านพลังกดดันออกมาทั่วทั้งร่างกาย ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
“ยิ่งอ่อนแอลงเรื่อย ๆ แล้ว ใครกันแน่ที่ขัดขวางแผนการนี้ของข้า ผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนเหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้! ความสามารถของเขาก็มีเพียงแค่น้อยนิดเช่นนั้น จะรับมือได้อย่างไร ค่ายกลของข้าสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่มีผู้ใดสามารถทำลายได้”
หลังจากบ่มเพาะมานานหลายปี ก็เพื่อรอวันนี้ เยี่ยเฉียไม่มีทางให้ทุกอย่างที่เขาทำมาล้มเหลวแน่นอน
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
เผ่าวิญญาณร้ายโจมตีดินแดนสี่ทิศอย่างรุนแรงและน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ แดนตะวันออกส่งข่าวมาแจ้งว่า “ท่านหมอปีศาจ ท่านโม่จิ่นส่งข่าวมาแจ้งว่าจะต้านไว้ไม่อยู่แล้วขอรับ”
ทางด้านนี้ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ดีพอประมาณแล้ว มู่เฉียนซีเองก็คิดจะรีบไปดูสถานการณ์ด้านนั้นเสียที
ก่อนที่มู่เฉียนซีจะไป อินรั่วเฉินกล่าวว่า “ระวังตัวด้วย!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าก็ด้วย!”
ความเร็วของหอฉงโหลวบนเมฆานั้นรวดเร็วมาก เมื่อมู่เฉียนซีมาถึงแดนตะวันออก ทุกคนก็กำลังต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง
“ชิงอิ่ง อู๋ตี้ เสี่ยวหง ขวางพวกมันเอาไว้!”
“โม่จิ่น เยวี่ยเจ๋อ น่าหลาน รีบเอายาให้ทุกคนเร็วเข้า”
พลังแห่งวิญญาณร้ายของเยี่ยเฉียนั้นน่ากลัวมาก แต่เมื่อมียาเสริมพลัง ทำให้พวกเขาสามารถต่อสู้กับคนของเผ่าวิญญาณร้ายได้ มิเช่นนั้นต้องลำบากเป็นแน่
มู่เฉียนซีมองดูหลุมค่ายกลที่พลังแห่งวิญญาณร้ายปะทุออกมานั้น ก่อนจะสูดลมหายใจลึกเข้าปอดเฮือกหนึ่ง จำเป็นต้องเร่งมือแล้ว!
เซี่ยโจวอยู่ห่างไกล อาจจะมีคนของเผ่าวิญญาณร้ายไม่มากนัก แต่นางอยากจะรีบกลับไปให้เร็วที่สุด!
มู่เฉียนซีเริ่มหลอมยาขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะเติมเต็มหลุมค่ายกลนี้ได้ แต่ในเรื่องของการต่อสู้ ฝ่ายของพวกเขาก็ยังคงเสียเปรียบอยู่!
หากเอาชิงอิ่ง อู๋ตี้และพวกออก แม้ว่าจะยับยั้งพลังแห่งวิญญาณร้ายนั้นได้ ก็ไร้หนทางอยู่ดี
แดนตะวันตกมีอินรั่วเฉิน มีหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินและท่านผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนคอยควบคุมอยู่ แดนตะวันตกจึงปลอดภัยที่สุด!
แดนเหนือมีเหลิ่งหนิงจือกับเซียวเหยา รวมถึงยอดฝีมือของหอหมอปีศาจและตำหนักเป่ยหานอยู่
แต่แดนตะวันออกไม่มีใคร ยอดฝีมือของตำหนักตงจี๋ก็เหลือเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึมว่า “ชิงอิ่ง เจ้าอยู่รับมือกับคนของเผ่าวิญญาณร้าย อย่าปล่อยให้พวกมันทำให้พลังแห่งวิญญาณร้ายแข็งแกร่งได้เด็ดขาด”
“เฉียน ไม่ได้! ข้าทำไม่ได้!”
“ข้าจะอยู่ข้างกายเจ้า”
ชิงอิ่งปฏิเสธแล้ว!
ตอนนี้เป็นเวลาที่อันตรายที่สุด ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะไม่ยอมให้นางอยู่ห่างตัวเขาเป็นอันขาด
และในตอนนี้เอง ร่างในชุดสีขาวนวลร่างหนึ่งก็ลอยตัวมากลางอากาศ อาภรณ์พัดพลิ้วไปตามสายลม ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะมีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงสุด
เมื่อมู่เฉียนซีเห็นร่างของคนผู้นี้ที่มีสีหน้าเมินเฉยนางก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “ซวนหยวนชิงอวิ๋น!”
ซวนหยวนชิงอวิ๋นออกไปฝึกฝนสั่งสมประสบการณ์ตัวคนเดียว แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมานางไม่เคยได้ข่าวของเขาเลย นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้
ซวนหยวนชิงอวิ๋นกล่าว “เฉียนซี ไม่ได้เจอกันนานเลย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาระลึกถึงวันเก่า ๆ”
“ก็ใช่!”
“ที่นี่มอบให้เป็นหน้าที่ข้า เจ้าวางใจได้! ข้าเอาอยู่”
พลังที่ซวนหยวนชิงอวิ๋นแผ่ซ่านออกมาในตอนนี้ ไม่ได้ต่ำไปกว่ายอดฝีมือระดับสูงสุดของกองกำลังระดับสามเลย
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ตกลง เช่นนั้นก็มอบให้เป็นหน้าที่เจ้าแล้ว”
“เยวี่ยเจ๋อ น่าหลาน พวกเรากลับเซี่ยโจวกัน” มู่เฉียนซีกล่าว
.