ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1487 พิฆาตวิญญาณ เยี่ยเฉีย
ผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนกำลังจะทำลายตัวเอง!
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยฝีมือของเยี่ยเฉีย ยากที่จะสู้ต่อต่อไปได้ มีเพียงอย่างเดียวที่เขาสามารถทำได้ นั่นก็คือใช้พลังของตัวเองทำบางอย่างเพื่อดินแดนสี่ทิศแห่งนี้
“ท่านผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดน อย่า!”
“รีบถอยไป! เร็วเข้า!”
สุดท้ายแล้ว หากเขาสามารถลากคนของเผ่าวิญญาณร้ายตายไปด้วยได้มากเท่าไร เขาก็จะลากไปเท่านั้น
ร่างของผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนขยายใหญ่ขึ้น ไม่มีโอกาสให้พวกเขาได้ขัดขวางห้ามปรามเลย
อาถิงกล่าว “หญิงอัปลักษณ์ รีบหนีเร็วเข้า! ผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดนทำลายตัวเอง พลังนี้อย่าได้ดูถูกเชียว”
ตูม!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา เนื่องจากได้รับการเตือนจากผู้พิทักษ์ปกป้องดินแดน พวกเขาจึงล่าถอยออกไปได้ไกลและไม่ได้รับแรงกระแทกจากพลังนี้
ทว่า คนส่วนใหญ่ของเผ่าวิญญาณร้ายก็ถูกทำลายไปด้วยพลังนี้
ชั่วพริบตาเดียว ศัตรูก็เหลือน้อยลงแล้ว
แต่อย่าได้มองโลกในแง่ดีเกินไป เพราะคนที่ตายไปเหล่านั้นล้วนแต่เป็นพวกที่มีฝีมือกระจอก ๆ ทั้งสิ้น
พลังการระเบิดนี้ได้ครอบคลุมร่างของเยี่ยเฉียเช่นกัน ทว่า เยี่ยเฉียกลับต้านทานเอาไว้ได้
แม้แต่การทำลายตัวเองนี้ก็ไม่สามารถฆ่าเยี่ยเฉียให้ตายได้ สีหน้าของพวกเขาทวีความเคร่งเครียดขึ้น
เยี่ยเฉียกล่าวดูถูกว่า “ก็แค่มดปลวกตัวเดียว ไม่ประเมินตนเลย หึ คิดจะทำร้ายข้า”
สำหรับลูกน้องที่ล้มตายไปเหล่านั้นของเขา เขาไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย!
ตายไปแล้วก็แล้วไป อย่างไรเสียเขาก็มีทางออกมาได้แล้ว
“มู่เฉียนซี ครั้งนี้เจ้าหนีไม่พ้นแล้วล่ะ”
เป้าหมายของเขาไม่ใช่คนอื่น แต่คือมู่เฉียนซี!
“พวกเราจะฆ่าพวกมัน! ฆ่าพวกมันให้สิ้น”
คนของเผ่าวิญญาณร้ายที่เหลืออยู่ไม่มากนักเหล่านั้น พวกเขาพุ่งออกไปด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า
แม้ว่าจะรับมือกับเยี่ยเฉียไม่ได้ แต่ฆ่าศัตรูได้มากเท่าไรก็ยิ่งดี
ไม่นานนัก เยี่ยเฉียก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้ามู่เฉียนซี
อาถิงยืนขวางอยู่ด้านหน้ามู่เฉียนซีเอาไว้ เขากล่าว “เป็นเจ้าคนน่ารังเกียจเช่นเจ้าอีกแล้ว ข้าไม่มีทางให้เจ้ามาทำร้ายผู้เป็นพันธสัญญาของข้าได้หรอก”
“คราก่อนเจ้าพ่ายแพ้ ครานี้ เจ้าก็ถูกกำหนดให้พ่ายแพ้ข้าเช่นเดิม!”
สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมขึ้น จากนั้นก็แหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้า
คลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้น หากไม่ใช่เพราะสุ่ยจิงอิ๋งปิดผนึกดินแดนสี่ทิศเอาไว้ นางคิดว่าดินแดนสี่ทิศต้องพังทลายลงจนยับเยินแล้วเป็นแน่
การต่อสู้กลางอากาศเป็นไปอย่างน่าหวาดกลัวที่สุด สิ่งที่โชคดีก็คือ พลังของจิ่วเยี่ยยังอยู่ในขั้นที่เขาสามารถควบคุมได้
หมิงจีจ้องมองชายผู้อันตรายตรงหน้าอย่างประหลาดใจ “เป็นไปได้ยังไง? ถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังควบคุมมันได้”
“เจ้าสมควรตาย!”
แม้ว่าจิ่วเยี่ยจะกำลังต่อสู้อยู่กับหมิงจี แต่สถานการณ์ของมู่เฉียนซีตอนนี้ เขาก็รับรู้ได้อย่างชัดเจน
ความแข็งแกร่งของเจ้าหมอนั่นในตอนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าหมิงจีเลย ศาลานิรันดร์ก็ใช่ว่าจะต้านทานเอาไว้ได้ เขาจำเป็นต้องรีบกำจัดหมิงจีให้เร็วที่สุด
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
พลังอันน่าทึ่งแผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศในดินแดนสี่ทิศ!
ดินแดนสี่ทิศจะวินาศลงแล้วจริง ๆ เหรอ?
ทุกคนต่างรู้สึกตื่นตระหนกและสิ้นหวัง!
เชียนอ้าวเซี่ยและพวกที่อยู่ในเซี่ยโจวก็รับรู้ได้ถึงพลังนี้ เชียนอ้าวเซี่ยพึมพำเสียงต่ำว่า “เสี่ยวซีเอ๋อร์ เจ้าจะต้องไม่เป็นอะไร เจ้าจะต้องปลอดภัย!”
“เฉียนซี!” น่าหลานอวี้เงยหน้ามองท้องฟ้า สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ
“พี่ใหญ่!”
น่าหลานอวี้กล่าว “ยับยั้งพลังนี้ต่อไป ตราบใดที่มันยังไม่ระเบิดออกมาโดยสมบูรณ์ นั่นหมายความว่าเรายังไม่แพ้”
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “ยังไม่แพ้ เสี่ยวซีเอ๋อร์ก็ต้องปลอดภัย พวกเราจะไม่ยอมแพ้!”
อาถิง “สู้!”
ทันใดนั้น พวกเขาก็ต่อสู้ประมือกันอีกครั้ง!
“บัวแดงพิฆาต!”
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
การต่อสู้ครั้งใหญ่ในครั้งนี้ พลังจิตของมู่เฉียนซีถูกอาถิงใช้ไปจนหมดสิ้นแล้ว
เยี่ยเฉียยิ้มพลางกล่าวว่า “ที่แท้ วิญญาณลิขิตสวรรค์ มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ ภายใต้พันธสัญญาที่เชื่อมกันเต็มร้อย มีพลังเช่นนี้นี่เอง”
พลังนี้ เนื่องจากมู่เฉียนซีมีความแข็งแกร่งเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูต พลังของศาลานิรันดร์จึงฟื้นฟูกลับมาได้เพียงเล็กน้อย ดังนั้นความแข็งแกร่งจึงไม่ถึงระดับสูงสุด
หากพลังถึงระดับสูงสุด ต่อให้ทำลายฟ้าดินนี้ ก็เป็นเรื่องง่ายเพียงนิดเดียว!
สายตาของเยี่ยเฉียนั้นฉายแววความละโมบโลภมากออกมาอย่างเห็นได้ชัด เขากระโจนขึ้นสู่กลางอากาศ สีหน้าเย็นชาดุจดั่งน้ำแข็งอันเย็นยะเยือก!
ชั่วพริบตาเดียวท้องฟ้าก็พลันมืดครึ้มลง เขามีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะช่วงชิงวิญญาณลิขิตสวรรค์มาให้ได้ และแน่นอนว่าเขาเลือกการต่อสู้ในรูปแบบที่รีบรบรีบจบศึก!
“วิญญาณร้ายสะท้านสวรรค์!”
พลังแห่งวิญญาณร้ายอันดำมืดพลันเปลี่ยนเป็นลูกบอลสีดำที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง และพุ่งไปที่มู่เฉียนซี
อาถิงโผเข้าไปหามู่เฉียนซี “หญิงอัปลักษณ์ หากเจ้าเป็นอะไรไป ข้าจะไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นอันขาด!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
เสียงอันน่าสะพรึงกลัวดังสนั่นขึ้น มู่เฉียนซีกับอาถิงร่วงตกลงมาจากกลางอากาศ
มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่าร่างของอาถิงที่ล้มทับร่างของนางนั้นเริ่มเบาลงเรื่อย ๆ แล้ว เบาราวขนนกก็มิปาน
“อาถิง กลับเข้าไปพักในมิติเดี๋ยวนี้!”
“หากวิญญาณของเจ้าถูกเจ้านั่นดูดไปล่ะ จะให้ข้าพักได้อย่างไรกันเล่า หากจะตายก็ตายไปด้วยกัน” อาถิงกล่าว
“ตอนนี้เจ้าต้องฟังข้า” มู่เฉียนซีบังคับให้อาถิงกลับเข้าไป
แต่เยี่ยเฉียได้มาปรากฏตัวตรงหน้ามู่เฉียนซีแล้ว
เขาจ้องมองมู่เฉียนซีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและไร้เรี่ยวแรงต่อสู้ ก่อนจะยิ้มพลางกล่าวว่า “วางใจเถอะ ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก หากข้าฆ่าเจ้า มหาวัตถุศักดิ์ผู้พิทักษ์นิรันดร์ก็คงจะทำทุกอย่างเพื่อจัดการข้าแน่นอน”
เขากับหนึ่งในกลีบดอกของผู้พิทักษ์นิรันดร์อยู่ด้วยกันมานานหลายปี เขาย่อมเข้าใจนิสัยของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพผู้พิทักษ์นิรันดร์ผู้นี้ดีที่สุด
เยี่ยเฉียยื่นมือออกไป ต้องการสัมผัสใบหน้าของมู่เฉียนซี
และในตอนนี้เอง ลำแสงสีแดงเลือดลำแสงหนึ่งก็พุ่งออกมา
ฉึก! ลำแสงนั้นพุ่งมาทางด้านหลังของเยี่ยเฉีย และทะลุร่างของเขาไป!
ร่างของเยี่ยเฉียสว่างวาบขึ้น พลังแห่งวิญญาณร้ายทำให้อาการบาดเจ็บของเขาฟื้นฟูกลับมาเป็นดังเดิม เขากล่าว “ใคร?”
“แมวน้อยที่ข้าต้องตา ข้าจะยอมให้มือสกปรก ๆ ของเจ้ามาแตะต้องนางได้อย่างไรกันเล่า!”
ชุดสีแดงดุจดั่งโลหิต มีเสน่ห์ดุจดั่งจอมมาร ดวงตาสีแดงโลหิตคู่นั้นเต็มไปด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า
อันตรายมาก!
“พิฆาตวิญญาณ!” มู่เฉียนซีเห็นเงาร่างนั้นแล้ว
“แมวน้อย ข้าจะตกลงเงื่อนไขกับเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้าสารเลวนี่ แต่ตอนนนี้เจ้าต้องส่งตัวเจ้าสวะไร้ประโยชน์นั่นมาให้ข้า”
แม้ว่าพิฆาตวิญญาณจะเย่อหยิ่ง แต่ร่างของเขายังไม่สมบูรณ์ การที่จะรับมือกับเจ้าหมอนี่นับว่าเป็นเรื่องที่จัดการยากเช่นกัน แต่หากร่างของเขาได้รับการฟื้นฟู เช่นนั้นผลของมันก็จะแตกต่างออกไป
มู่เฉียนซีมองไปที่พิฆาตวิญญาณ และโยนกระบี่มังกรเพลิงให้
“พิฆาตวิญญาณ ข้าตกลงเงื่อนไขของเจ้า”
เมื่อเทียบกับเยี่ยเฉียแล้ว นางเข้าข้างพิฆาตวิญญาณมากกว่า เนื่องจากอาถิง สุ่ยจิงอิ๋ง และพวก อีกทั้งยังมีมังกรเพลิงที่ยังรับมือกับเขาได้ แม้ว่าเขาจะอันตรายมากก็ตาม
พิฆาตวิญญาณรับกระบี่มังกรเพลิงไป เขายิ้มพลางกล่าวว่า “แมวน้อย ข้าสดชื่นยิ่งนัก!”
เมื่อกระบี่มังกรเพลิงมาถึงมือ กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณที่แท้จริงก็ปล่อยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา
เปลวไฟสีแดงฉานนั้นพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า!
ไม่จำเป็นต้องให้พิฆาตวิญญาณเอ่ยปากบอกว่าเขาเป็นใคร เยี่ยเฉียก็รู้ถึงตัวตนของเขาแล้ว!
นอกจากเจ้านายของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสามารถปล่อยพลังของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ออกมาถึงขั้นนี้ได้ เว้นเพียงแต่!
พิฆาตวิญญาณ!
สีหน้าของเยี่ยเฉียเผยความหวาดกลัวออกมา อย่างไรเสีย นับตั้งแต่โบราณกาลจนถึงตอนนี้ ชื่อเสียงอันเป็นตำนานของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ก็มาพร้อมกับการสังหารอย่างกระหายเลือด
“ต่อให้เจ้าคือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์แล้วเช่นไร พลังก็ยังไม่สมบูรณ์อยู่ดี!”
เยี่ยเฉียเลือกที่จะรุกโจมตีก่อน และพิฆาตวิญญาณในตอนนี้ก็เริ่มกวัดแกว่งกระบี่ในมือ มังกรเพลิงสีแดงฉานจึงพุ่งทะยานออกไป
เจ้าพิฆาตวิญญาณดูเหมือนจะมีแผนการอยู่ในใจ มู่เฉียนซีไม่ได้เป็นห่วงเขาเลย
นางเงยหน้ามองบนท้องฟ้า จิ่วเยี่ย…
เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น ร่างทั้งสองร่างนั้นพลันแยกออกจากกัน