ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1499 เผ่ากิเลน
ก่อนที่องค์ชายจิ่วเยี่ยจะกระทำความผิดอย่างกำเริบเสิบสาน น้ำเสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านนอกวังใต้ดิน
“ท่านผู้นำตระกูลมู่ขอรับ มีท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่งนามว่าตงหวงมาขอพบท่านผู้นำตระกูลมู่ขอรับ”
มู่เฉียนซีได้ยินชื่อนี้ก็ตกตะลึงขึ้น “ท่านปู่ตงหวง”
และแน่นอนว่าจิ่วเยี่ยไม่มีโอกาสได้ลงโทษมู่เฉียนซีแล้ว
วันนี้เป็นวันงานเฉลิมฉลอง ตำหนักเป่ยหานครึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง ชายชราในชุดคลุมยาวสีขาวผู้หนึ่งถูกคนประคองเดินเข้ามาในตำหนักเป่ยหาน
ในอ้อมกอดของเขาอุ้มสัตว์น้อยตัวเล็กสีเงินตัวหนึ่งที่กำลังหลับอยู่เข้ามา ท่าทางของมันดูเหมือนว่าจะอ่อนแอมาก
เมื่อเห็นร่างอันคุ้นเคยนั้น มู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นด้วยความดีใจว่า “ท่านปู่ตงหวง ท่านปู่ได้ข่าวแล้วอย่างนั้นเหรอ”
หญิงสาวตรงหน้าดูเหมือนจะเติบโตขึ้นแล้ว เขากล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “ซีเอ๋อร์ เรื่องบางเรื่องล่าช้าไปนานมาก เจ้า…เอ่อ…เจ้าหาเจอแล้วหรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าว “มู่อี ปิดล้อมบริเวณโดยรอบเอาไว้ อย่าให้ใครเข้ามาใกล้เป็นอันขาด”
คัมภีร์หมื่นคำสาปไม่ใช่สิ่งของธรรมดาทั่วไป
หากเรื่องนี้เล็ดลอดไปแม้แต่น้อย มันจะส่งผลเสียต่อนางเป็นอย่างมาก
หลังจากออกคำสั่งเสร็จ มู่เฉียนซีก็พยักหน้าลง “อืม! ท่านปู่ตงหวง ข้าหาคัมภีร์หมื่นคำสาปที่อยู่ในเผ่ามังกรเจอแล้ว แต่บันทึกที่อยู่ในนั้นไม่สามารถแก้คำสาปของจิ่วเยี่ยได้ คาดว่าต้องอยู่ในคัมภีร์ส่วนที่สามเป็นแน่”
ท่านปู่ตงหวงกล่าว “เช่นนั้น…ขอข้าดูคัมภีร์หมื่นคำสาปที่ได้มาจากเผ่ามังกรนั้นหน่อยได้หรือไม่?”
“ได้อยู่แล้ว!”
คัมภีร์หมื่นคำสาปถูกวางลงบนมือท่านปู่ตงหวง จากนั้นเขาก็ใช้พลังจิตอ่านคัมภีร์นั้น แต่…
ชั่วพริบตาเดียว สีหน้าของเขาก็ซีดเผือดลง!
มู่เฉียนซีคิดว่าพลังของท่านปู่ตงหวงแข็งแกร่งมาก คงจะไม่เป็นอะไร แต่คิดไม่ถึงเลยว่า…
“อูกู!” สัตว์วิญญาณตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดท่านปู่ตงหวงตัวนั้นลืมตาขึ้นมา
ดวงตาของมันคู่นั้นขมุกขมัว แต่กลับไม่อาจปิดบังความกังวลเอาไว้ได้
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านปู่ตงหวง พลังจิตของท่านได้รับบาดเจ็บ หากท่านยังฝืนเปิดอ่านตำราต่อ พลังอาจจะย้อนกลับเข้าตัวท่านได้”
ท่านปู่ตงหวงกล่าว “ข้าจำเป็นต้องรู้เรื่องราวบันทึกในคัมภีร์นี้ ข้ารอไม่ไหวแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านปู่ตงหวง ท่านจะทำสิ่งใด บันทึกในคัมภีร์เล่มนี้ข้าจดจำมันได้ทั้งหมดจนแม่นยำแล้ว ข้าคงจะช่วยท่านได้บ้าง”
ใครจะไปรู้ว่าเมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว ท่านปู่ตงหวงจะโกรธเกรี้ยวขึ้น “ซีเอ๋อร์ เจ้าเหลวไหล!”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอันตรายมากเพียงใด นี่มันเป็นถึงคัมภีร์หมื่นคำสาปเชียวนะ เจ้า…”
แม้จะเห็นว่าหลานสาวของตนเองจะยืนอยู่ตรงหน้าอย่างปลอดภัย แต่ในตอนนี้เขาก็รู้สึกกลัวอยู่ดี
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านปู่ตงหวง ข้าไม่เป็นอะไร ข้าก็แค่เจ็บปวดทรมานไปช่วงหนึ่งเท่านั้น”
ท่านปู่ตงหวงได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงขึ้น “เป็นไปได้ยังไง?”
พลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูต ต่อให้พลังจิตแข็งแกร่งเพียงใด เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งนี้ก็ต้องพบเจอกับความตายแน่นอน
ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายจริง ๆ!
หรือว่าเป็นเพราะนางเป็นวิญญาณลิขิตสวรรค์ นางถึงได้ทำได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านปู่ตงหวงบอกว่ามีเรื่องสำคัญไม่ใช่หรอกเหรอ ข้าช่วยได้”
ท่านปู่ตงหวงยื่นสัตว์วิญญาณสีเงินที่นอนขดตัวอยู่ในอ้อมแขนให้กับมู่เฉียนซี เขากล่าว “ซีเอ๋อร์ ช่วยข้าดูหน่อยได้หรือไม่ว่าคำสาปที่นางโดน มันมีบันทึกอยู่ในคัมภีร์เล่มนี้หรือไม่?”
มู่เฉียนซีรับสัตว์วิญญาณตัวเล็กนี้มาอุ้มไว้ในอ้อมกอด จากนั้นมันก็กลิ้งไปมาอย่างดีอกดีใจ อีกทั้งยังเลียฝ่ามือมู่เฉียนซีอีกด้วย มู่เฉียนซีรู้สึกจั๊กจี้และคันเล็กน้อย
มู่เฉียนซีคิดไม่ถึงเลยว่าสัตว์วิญญาณตัวเล็กน่ารักตัวนี้จะโดนคำสาป นางกล่าวถามว่า “ท่านปู่ตงหวง ท่านเป็นห่วงเป็นใยสัตว์วิญญาณตัวนี้มาก มันเป็นสัตว์พันธสัญญาของท่านเหรอ?”
ดวงตาของท่านปู่ตงหวงเปล่งประกายขึ้น “อืม!”
มีคัมภีร์หมื่นคำสาป อีกทั้งยังเคยแก้คำสาปให้อารองได้ มู่เฉียนซีคุ้นเคยกับคำสาปนี้เป็นอย่างดี
ในขณะที่พลังจิตของนางหลั่งไหลเข้าสู่สัตว์วิญญาณน้อยตัวนี้ ก็ถูกพลังแห่งคำสาปอันดำมืดนั้นทำให้หวาดกลัวขึ้น
สีหน้าของนางซีดเผือด “เหตุใดถึงได้รุนแรงเพียงนี้?”
ใบหน้าของท่านปู่ตงหวงเผยความเจ็บปวดออกมา เขาเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง!
มู่เฉียนซีหาพลังแห่งคำสาปนั้น เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนว่าตกลงแล้วสัตว์วิญญาณตัวน้อยนี้โดนคำสาปใดกันแน่ แต่ก็ไม่เป็นผล…
พลังจิตอ่อนแอ ร่างกายอ่อนแอ ดูเหมือนว่าสัตว์วิญญาณน้อยตัวนี้จะสามารถตายไปได้ทุกเมื่อ
เห็น ๆ กันอยู่ว่าเพิ่งจะเจอกันเป็นครั้งแรก ไม่คุ้นเคยกันสักนิด แต่มู่เฉียนซีกลับรู้สึกหวั่นใจ
คัมภีร์หมื่นคำสาปที่ได้มาจากเผ่ามังกรนี้ ไม่ได้มีบันทึกเกี่ยวกับคำสาปนี้อยู่
นางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแก้คำสาปนี้เช่นไร และไม่รู้ว่าจะช่วยมันเช่นไร
มู่เฉียนซีดึงพลังจิตกลับมา เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของนาง สีหน้าของท่านปู่ตงหวงก็ยิ่งซีดขาวราวกับกระดาษ
เขากล่าวเสียงต่ำว่า “คัมภีร์หมื่นคำสาปของเผ่ามังกรไม่มีบันทึกถึงคำสาปนี้เหรอ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านปู่ตงหวง ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ข้าช่วยท่านไม่ได้”
“ดูท่า สิ่งเดียวที่ต้องทำก็คือรีบหาคัมภีร์หมื่นคำสาปเล่มนั้นให้เจอ แต่ว่า…ไม่มีเวลาแล้ว…ไม่มีเวลาแล้ว”
ท่านปู่ตงหวงเอาสัตว์วิญญาณน้อยตัวนั้นไปอุ้มไว้ในอ้อมกอด ทำให้มู่เฉียนซีรู้สึกราวกับว่ากำลังสูญเสียทุกอย่าง
นางมองไปที่สัตว์วิญญาณน้อยตัวนั้น คงไม่…
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านปู่ตงหวง อย่าได้ร้อนใจไป เรายังแก้คำสาปไม่ได้ เช่นนั้นเรามาคิดหาวิธีอื่นกันเถอะ บางทีอาจจะยืดเวลาออกไปจนกว่าเราจะหาคัมภีร์หมื่นคำสาปของเผ่ากิเลนกับเผ่าหงส์เจอก็ได้”
“คัมภีร์หมื่นคำสาปของเผ่ากิเลน!” ท่านปู่ตงหวงผงะไปเล็กน้อย
“ซีเอ๋อร์ ข้าลืมเรื่องนี้ไปเลย สิ่งนี้ข้าให้เจ้า แม้ว่ามันจะไม่มีวิธีแก้คำสาปของเจ้าหนุ่มจิ่วเยี่ยได้ แต่บางทีข้า…”
มู่เฉียนซีเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “นี่มัน…นี่มันคัมภีร์หมื่นคำสาปของเผ่ากิเลนนี่”
ภายนอกดูเหมือนกันมาก
ท่านปู่ตงหวงกล่าว “ใช่!”
เช่นนี้ก็สามารถบอกได้ว่า ขาดเพียงแค่เล่มเดียว ก็นับว่าหาคัมภีร์หมื่นคำสาปได้ครบแล้ว
“จิ่วเยี่ย!”
ในตอนนี้เองจิ่วเยี่ยก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อยแล้ว บางทีโอกาสในการแก้คำสาปของเขานั้น…อยู่อีกไม่ไกลแล้ว
ท่านปู่ตงหวงกล่าว “หวังว่าซีเอ๋อร์จะทำสำเร็จ ไม่เหมือนกับข้าที่ไร้ความสามารถ ข้า…”
“ท่านปู่ตงหวง ข้าเป็นนักปรุงยา! ท่านอยู่พักที่ตำหนักเป่ยหานก่อน ข้าจะพยายามทำทุกวิถีทาง”
สัตว์วิญญาณตัวน้อยนั้นมองไปที่มู่เฉียนซีอย่างอาลัยอาวรณ์ สิ่งนี้ทำให้ท่านปู่ตงหวงเปลี่ยนใจแล้ว
“อืม! ซีเอ๋อร์ให้ข้าอยู่ ข้าก็จะอยู่”
นางสามารถแย่งชิงชีวิตมนุษย์มาจากเทพแห่งความตายได้ แต่เมื่อเผชิญกับคำสาปเช่นนี้แล้ว นางเองก็รู้สึกไร้ความสามารถเช่นกัน
เผชิญหน้ากับคำสาปของจิ่วเยี่ยเช่นไร ก็เผชิญหน้ากับสัตว์พันธสัญญาของท่านปู่ตงหวงเช่นนั้น
คำสาปนี้หยั่งรากเข้าในร่างของสัตว์วิญญาณน้อยตัวนี้นานมากกว่าจิ่วเยี่ยเสียอีก สามารถอดทนมาได้ถึงตอนนี้ เกรงว่าท่านปู่ตงหวงคงจะทุ่มเทไปไม่น้อย
หากเกิดอะไรขึ้นกับสัตว์วิญญาณน้อยตัวนี้ เกรงว่าท่านปู่ตงหวงคงรับไม่ได้แน่นอน
ท่านปู่ตงหวงกล่าว “ซีเอ๋อร์ ไม่เป็นไร! ทำให้อยู่กับข้านานกว่าเดิมข้าก็ดีใจแล้ว”
สุดท้าย มู่เฉียนซีก็เดินจากห้องไป
ปรุงยาไม่ได้ มู่เฉียนซีจึงเริ่มเปิดคัมภีร์หมื่นคำสาปของเผ่ากิเลน
พลังจิตของนางแข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนมาก และนางใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งคืนเท่านั้นในการอ่านคัมภีร์เล่มนี้
จิ่วเยี่ยเฝ้าอยู่ข้างกายนางตลอด โอบกอดนางไว้ และเมื่อยามรุ่งสาง มู่เฉียนซีก็ลืมตาขึ้น
“นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเช่นนี้ คัมภีร์หมื่นคำสาปนี้ยากที่จะหยั่งถึงได้จริง ๆ”
“คำสาปนั้น มีวิธีล้างคำสาปนั้นแล้ว” มู่เฉียนซีพุ่งพรวดออกไป จากนั้นก็เปิดประตูห้องของท่านปู่ตงหวงทันที