ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1508 พี่ใหญ่ผู้แข็งแกร่ง
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ!
รังแกอย่างนั้นเหรอ? พวกเขาต่างหากล่ะที่เป็นฝ่ายรังแกพวกนาง! ช่างอวดดียิ่งนัก
จางฉงคือคนที่เคยเห็นความแข็งแกร่งอันวิปริตของมู่เฉียนซีมาแล้ว เขาจึงแอบโศกเศร้าเสียใจแทนศิษย์ของสำนักเหล่านั้นเล็กน้อย
พี่ใหญ่จะแก้แค้นให้เขาแล้ว!
ศิษย์ของสำนักกลุ่มนี้ถึงคราวซวยแล้ว
น้ำเสียงอันเรียบนิ่งนั้นของมู่เฉียนซีทำให้ศิษย์ของสำนักเหล่านี้ทนไม่ไหวแล้ว
“คิดจะให้พวกข้าทั้งหมดรุมเจ้า เช่นนั้นก็อย่าได้เสียใจทีหลังก็แล้วกัน!”
และคนที่ลงมือเป็นคนแรกนั่นก็คือศิษย์น้องหญิงผู้มีพลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับห้าผู้นั้นนั่นเอง
ใช้ความแข็งแกร่งอันเล็กน้อยเช่นนี้มาโจมตีมู่เฉียนซี ช่างดูไม่ได้เลยจริง ๆ!
มู่เฉียนซีง้างมือขึ้น “มังกรวารีทำลาย!”
มังกรวารีตัวหนึ่งพุ่งไปที่ศิษย์น้องหญิงผู้นั้น ศิษย์พี่หลิวกล่าว่า “ศิษย์น้องหลี่ รีบหลบเร็วเข้า!”
ทว่า ความเร็วของมังกรตัวนี้นั้นเร็วเกินไป นางจะหลบได้อย่างไรกันเล่า
ปัง!
อ๊า! ศิษย์น้องหญิงผู้นั้นกระเด็นลอยออกไปภายในกระบวนท่าเดียวเท่านั้น!
จางฉงเห็นเช่นนี้ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พี่ใหญ่ช่างแข็งแกร่งจริง ๆ
ศิษย์คนอื่น ๆ ของสำนักลั่วเยว่มองมู่เฉียนซีด้วยความตกตะลึง พวกเขารู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณของหญิงสาวผู้นี้อ่อนแอมาก อย่างน้อยก็อ่อนแอกว่าพวกเขามาก
แต่ไม่อาจรับรู้ได้เลยว่าอยู่ในระดับใด และเมื่อเห็นนางสามารถเอาชนะศิษย์น้องหลี่ได้ คาดว่าตอนนี้นางคงมีพลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับห้าผู้หนึ่ง
จากนั้นศิษย์พี่หลิวก็ลงมือแล้ว คนอื่น ๆ ก็ลงมือแล้วเช่นกัน
ร่างในชุดม่วงนั้นหลบหลีกการโจมตีของพวกเขาได้!
“มังกรวารีสังหาร!”
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
“ทักษะเทียนซวน!”
อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น
ดูเหมือนว่ามู่เฉียนซีเพียงคนเดียวจะจัดการทุกคนได้อย่างง่ายดายภายในกระบวนท่าเดียว
สุดท้ายคนอื่น ๆ ก็ถูกโจมตีไปทั้งหมด มีเพียงแค่ศิษย์พี่หลิวผู้นั้นเพียงผู้เดียวที่ยังมีแรงต่อสู้อยู่
เขากล่าวด้วยความแปลกใจว่า “นี่มันพลังขั้นใดกันแน่”
มู่เฉียนซีเองก็ค้นพบว่าตอนที่ตนเองข้ามผ่านดินแดนมา เคล็ดวิชาต้านสวรรค์น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว
นั่นก็คือฝ่ายตรงข้ามรับรู้ว่าพลังของนางอ่อนแอ แต่ไม่อาจดูออกเลยว่านางมีพลังขั้นใดระดับใด
ดังนั้นตอนนี้นางเป็นได้ทั้งพลังขั้นราชา และเป็นได้ทั้งพลังขั้นจักรพรรดิ
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “พวกเจ้าก็ลองเดาดูเองสิ!”
สีหน้าของศิษย์พี่หลิวพลันเคร่งขรึมขึ้น “ล่วงเกินแล้ว!”
ลำแสงกระบี่สว่างวาบขึ้น ศิษย์พี่หลิวลงมือโจมตีอีกครั้ง
หญิงสาวชุดม่วงผู้นี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก สามารถบดบังขั้นพลังวิญญาณของตัวเองได้ ระดับทักษะวิญญาณไม่เลวเลย!
วันนี้ต้องเอาชนะนางให้ได้ ต้องสู้อย่างสุดชีวิต
“จันทราสังหาร!”
ศิษย์สำนักลั่วเยว่ที่ถูกมู่เฉียนซีโจมตีเอาชนะได้เหล่านั้นกล่าวว่า “ศิษย์พี่หลิวสมกับที่เป็นอัจฉริยะสำนักนอกจริง ๆ แม้แต่กระบวนท่าจันทราสังหารเขาก็ฝึกฝนจนบรรลุแล้ว”
“จันทราสังหารเป็นหนึ่งในทักษะกระบี่อันเยี่ยมยอดของสำนักพวกเรา สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ แม่นางผู้นี้ต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน”
ทว่า เผชิญหน้ากับทักษะกระบี่อันโหดเหี้ยมเช่นนี้ นึกไม่ถึงเลยว่ามู่เฉียนซีจะไม่หลบหลีก
นางกล่าวอย่างเย็นชาว่า “โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
ปัง ปัง ปัง! การโจมตีถูกชั้นน้ำแข็งต้านทานเอาไว้ได้ และมู่เฉียนซีก็ไม่เป็นอะไรเลย
ร่างในชุดม่วงเคลื่อนไหว มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “หากความแข็งแกร่งของพวกเจ้ามีเพียงเท่านี้แล้วละก็ การต่อสู้ในครั้งนี้ก็ควรจะจบลงได้แล้ว”
ศิษย์พี่หลิวที่เพิ่งจะใช้ทักษะกระบี่อันแข็งแกร่งเมื่อครู่มีพื้นฐานที่ไม่มั่นคง ยากจะรับมือกับการโจมตีของมู่เฉียนซีได้
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทักษะโยวหลัว!”
ตูม!
ถูกทักษะโยวหลัวของมู่เฉียนซีโจมตี ร่างของศิษย์พี่หลิวก็กระเด็นลอยออกไป และกระแทกลงบนพื้นดินอย่างแรง ก่อนจะกลิ้งไปหลายตลบ
พรวด! เลือดสีแดงสดถูกกระอักออกมา สีหน้าของเขาซีดเผือดลง!
เขาพ่ายแพ้แล้ว!
ศิษย์สำนักลั่วเยว่เหล่านั้นต่างเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด ศิษย์พี่หลิวพ่ายแพ้แล้ว!
ศิษย์ผู้เป็นอัจฉริยะสำนักนอกแห่งสำนักลั่วเยว่ของพวกเขาพ่ายแพ้แล้ว ช่างน่าตกใจยิ่งนัก
มู่เฉียนซีกล่าว “ตอนนี้ พวกเจ้ายังคิดจะจับตัวพวกเขาอีกหรือไม่?”
ศิษย์พี่หลิวเผยสีหน้าเศร้าหมองออกมา “ความแข็งแกร่งมิอาจสู้ได้ พวกข้ายอมรับความพ่ายแพ้! แม่นางเก่งกาจมาก”
เขาพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้น ก่อนจะกล่าวว่า “พวกเราไปกันเถอะ!”
ศิษย์สำนักเหล่านี้ยังไม่ทันเดินไปไกล จางฉงและพวกก็ส่งเสียงโห่ร้องชื่นชมขึ้น
“พี่ใหญ่แข็งแกร่งมาก! พี่ใหญ่แข็งแกร่งเกินไปแล้ว”
“พี่ใหญ่ทรงพลังเกินไปแล้ว พวกเราเลื่อมใสในตัวพี่ใหญ่ยิ่งนัก”
“……”
ศิษย์น้องหลี่กล่าว “ศิษย์พี่หลิว นึกไม่ถึงเลยว่าโจรพวกนั้นจะเรียกแม่นางผู้นั้นว่าพี่ใหญ่!”
อีกคนหนึ่งกล่าวว่า “ด้วยพลังความแข็งแกร่งของแม่นางผู้นั้น สามารถเข้าเป็นศิษย์สำนักในของกองกำลังระดับสามได้แล้ว จะมาเป็นพี่ใหญ่ของพวกกลุ่มโจรได้อย่างไรกัน ต่อให้โจรพวกนั้นจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้วก็เถอะ”
“นั่นนะสิ! ช่างน่าเสียดายพรสวรรค์จริง ๆ”
ศิษย์พี่หลิวผู้นั้นเอ่ยปากกล่าว “พลังวิญญาณของแม่นางผู้นั้นอ่อนแอมาก พวกเจ้าเองก็รับรู้ได้เหมือนกันกับข้า รากฐานของนางไม่มั่นคงเลย อาศัยความโชคดีที่ได้ฝึกฝนทักษะวิญญาณที่แข็งแกร่ง ต้องฝึกฝนในทางที่ไม่ถูกต้องเป็นแน่”
“การมีรากฐานที่มั่นคงต่างหากล่ะ ที่เป็นรากฐานที่แท้จริง!”
ศิษย์น้องชายศิษย์น้องหญิงเหล่านี้กล่าวอย่างคนได้รับการศึกษา “ศิษย์พี่หลิวพูดถูก”
หลังจากที่พวกศิษย์ของสำนักเหล่านั้นเดินไปไกลแล้ว มู่เฉียนซีก็ยืนอยู่ที่เดิมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “กลับเถอะ!”
“ขอรับ พี่ใหญ่!”
เนื่องจากการต่อสู้ในวันนี้ เหล่าโจรในหุบเขาจึงยอมจำนนและเลื่อมใสพี่ใหญ่ผู้แข็งแกร่งผู้นี้ด้วยใจจริงแล้ว
พวกเขาเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ศิษย์ของสำนักที่ที่จากไปแล้ว จะถูกโจรที่ออกมาเก็บสมุนไพรเหล่านี้พบเข้าในวันรุ่งขึ้น
ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในอาการหมดสติ ดูท่าทางเหมือนจะถูกพิษเข้าแล้ว
“จะทำเช่นไรดี ฆ่ามันเลยดีหรือไม่?”
“เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ คนพวกนี้เป็นศิษย์ของสำนักลั่วเยว่ หากฆ่าไปแล้วคนจากสำนักลั่วเยว่แห่กันมาเจ้าจะทำเช่นไร?”
“แล้วพวกเราจะทำเช่นไรดี?”
“แบกกลับไปดีกว่า แล้วค่อยถามพี่ใหญ่ว่าจะทำเช่นไร มิเช่นนั้น หากมันมาตายในพื้นที่ของเราเช่นนี้ อาจจะสร้างปัญหาให้พวกเราได้เหมือนกันนะ”
“ตกลง! แบกกลับไป”
เมื่อมู่เฉียนซีเห็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเหล่านี้แล้ว นางก็กวาดสายตามองไปอย่างละเอียดรอบหนึ่ง
“ประสบกับสัตว์วิญญาณที่มีพิษรุนแรง โดนพิษเข้าแล้ว หากไม่ถอนพิษออก มีหวังต้องตายเป็นแน่”
จางฉงกล่าว “เมื่อวานคนกลุ่มนี้ยังคิดจะจับตัวพวกเราอยู่เลย นึกไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชเช่นนี้ พี่ใหญ่ไม่ต้องไปสนใจหรอกว่าคนพวกนี้จะเป็นหรือจะตาย”
มู่เฉียนซีกล่าว “หากมาตายที่นี่ มีหวังต้องสร้างความวุ่นวายเป็นแน่ อีกอย่างเป็นศิษย์ของสำนักเช่นนี้ น่าจะมีของสะสมสักเล็ก ๆ น้อย ๆ กระมัง”
“เอาโอสถเหล่านี้ป้อนให้พวกเขาดื่ม”
จางฉงตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “พวกเขาโดนพิษร้าย ดื่มโอสถเพียงเท่านี้จะได้ผลหรือขอรับ”
“จะได้ผลหรือไม่ ลองดูเจ้าก็จะรู้เอง ถ้าพวกเขาตื่นแล้วไปแจ้งข้าด้วย” มู่เฉียนซีกล่าว
“ขอรับ!”
ภายในเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วยาม ศิษย์ของสำนักลั่วเยว่เหล่านี้ก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว
ในฐานะที่เป็นผู้ที่มาใหม่ มู่เฉียนซีไม่อยากทำอะไรให้ยิ่งใหญ่เกินไป จึงใช้โอสถคุณภาพต่ำที่สุดแก้พิษให้พวกเขา
แม้จะเป็นยาแก้พิษคุณภาพต่ำ แต่ยาแก้พิษที่ได้ผลเร็วเช่นนี้ก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงมากเช่นกัน
“พวกเรายังไม่ตาย!”
“พวกเรายังไม่ตาย ศิษย์พี่หลิว”
“ที่นี่ที่ไหน?”
ปัง! ในตอนนี้เอง เสียงผลักประตูดังขึ้น
จางฉงกล่าว “ในที่สุดพวกเจ้าก็ฟื้นขึ้นมาจนได้นะ”
และแน่นอนว่าพวกเขารู้จักจางฉง เนื่องจากเมื่อวานพวกเขาได้ต่อสู้กันมาแล้ว
“พวกเจ้าช่วยพวกเราเอาไว้อย่างนั้นเหรอ?” เหล่าศิษย์ของสำนักลั่วเยว่กล่าวด้วยความแปลกใจ
พวกเขาโดนพิษของสัตว์วิญญาณนั้น และยากที่จะแก้พิษได้ เดิมทีพวกเขาคิดว่าต้องตายแล้วแน่นอน นึกไม่ถึงเลย…
โจรกลุ่มนี้มียาแก้พิษระดับนี้ได้อย่างไรกัน ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
จางฉงกล่าว “ในเมื่อฟื้นแล้ว ข้าจะได้ไปแจ้งพี่ใหญ่! ก่อนที่พี่ใหญ่ข้ายังไม่ได้ออกคำสั่ง พวกเจ้าอย่าคิดทำอันใดเชียวล่ะ มิเช่นนั้นแล้วละก็ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
ต่อให้พวกเขาคิดจะหนี ก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะหนี! แม้จะแก้พิษได้แล้ว แต่พลังวิญญาณยังไม่ฟื้นฟูกลับมา
.
.