ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1519 สำเร็จไปหนึ่งขั้น
“ไม่เลวเลย! แถมยังเป็นศิษย์สำนักลั่วเยว่อีกด้วย นึกไม่ถึงเลยว่าศิษย์สำนักลั่วเยว่จะไม่เกรงกลัวความตายเช่นนี้”
มู่เฉียนซีสวมชุดคลุมยาวของศิษย์สำนักในของสำนักลั่วเยว่ พวกเขาจึงรู้จัก!
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “มีอะไรต้องกลัว อย่างไรเสียคนที่ตายก็คือพวกเจ้า”
พวกเขาได้ยินเช่นนี้ก็หัวเราะเสียงดังสนั่น “คนที่ตายคือพวกข้าอย่างนั้นเหรอ มีคนมากมายหวังจะให้ข้าตาย แต่สุดท้ายแล้วคนที่ตายกลับเป็นคนพวกนั้นทุกครั้ง เพียงแต่ว่า คนงาม เจ้าช่างรูปร่างหน้าตางดงามยิ่งนัก ข้าไม่ให้เจ้าตายเร็วเกินไปแน่นอน”
พลังขั้นมหาจักรพรรดิพรั่งพรูออกมา นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสอง ซึ่งพลังนี้มันช่างแตกต่างกับขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งเป็นอย่างมาก
ศิษย์สำนักลั่วเยว่ไม่รับภารกิจนี้ นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
ถูขวงยกมือขึ้น ลำแสงสีเลือดแห่งการฆ่าสังหารปรากฏขึ้นบนนิ้วมือของเขา และพุ่งไปจับมู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว
มู่เฉียนซีรีบหลบหลีก พลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระเบิดออกมา ก่อนจะโจมตีกลับไปด้วยทักษะวิญญาณ
“ทักษะโยวจั๋ว!”
น่าเสียดายที่มู่เฉียนซีฝึกฝนทักษะโยวจั๋วยังไม่บรรลุ ดังนั้นการโจมตีนี้จึงไม่ได้ผล!
ปัง!
พลังก็ไม่เท่าไร
ถูขวงหลบหลีก หัวเราะเสียงดังลั่นออกมา ก่อนจะกล่าวว่า “มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง สมกับที่เป็นศิษย์สำนักในแห่งสำนักลั่วเยว่จริง ๆ มีแค่พลังความแข็งแกร่ง แต่ทักษะวิญญาณกลับฝึกฝนได้เพียงเท่านี้ยังคิดจะมาฆ่าข้า ช่างคิดเพ้อฝันยิ่งนัก”
ถูขวงผ่านประสบการณ์ในการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน เขาบีบเข้ามาโจมตีมู่เฉียนซีอีกครั้ง
เผชิญหน้ากับการโจมตีแต่ละครั้งของเขาเช่นนี้ มู่เฉียนซีล้วนแต่ใช้ทักษะร่างหลบหลีก และใช้เพียงแค่ทักษะเดียวในการโจมตีถูขวงกลับ
“ทักษะโยวจั๋ว!”
“ทักษะโยวจั๋ว!”
“……”
เนื่องจากเพิ่งจะฝึกฝนทักษะวิญญาณ อีกอย่างถูขวงก็มีพลังเหนือกว่ามู่เฉียนซีหนึ่งระดับ ดังนั้น ทุก ๆ การโจมตีของนางจึงไม่อาจทำให้ถูขวงบาดเจ็บได้เลย!
ถูขวงยกยิ้มขึ้น “เจ้าฝึกฝนเพียงแค่ทักษะวิญญาณนี้กระบวนท่าเดียวอย่างนั้นเหรอ หรือว่ากระบวนท่านี้ของเจ้ามันสุดยอดที่สุดสำหรับเจ้าแล้ว”
“ดูท่าสำนักลั่วเยว่ต้องถึงคราวซวยแล้วเป็นแน่ อัจฉริยะผู้เป็นศิษย์สำนักในอาศัยพลังวิญญาณและทักษะวิญญาณที่อ่อนแอโจมตีศัตรู ไม่ถึงคราวซวยก็แปลกแล้วล่ะ”
ไม่ว่าถูขวงจะกระตุ้นอารมณ์โกรธมากเพียงใด มู่เฉียนซีก็ยังคงหลบหลีกและโจมตีต่อไป!
ทุก ๆ การโจมตีล้วนแต่ถูกฝ่ายตรงข้ามหลบหลีกได้ ถูขวงรู้สึกทนไม่ไหวแล้ว ศิษย์คนสวยของสำนักในแห่งสำนักลั่วเยว่ผู้นี้ ต้องรีบโจมตีให้นางสลบไปให้เร็วที่สุด
เขากระทืบเท้าลงบนพื้นดิน ชั่วพริบตาเดียวพื้นดินที่เขาเหยียบก็แหลกละเอียด
“สาวน้อย ข้าหมดความอดทนแล้ว ข้าไม่เล่นกับเจ้าแล้ว ถึงเวลาที่ควรจบลงเสียที!”
เขาโผเข้าหามู่เฉียนซีอย่างรุนแรง พลางตะโกนขึ้นว่า “ฝ่ามือเมฆา!”
ตูม!
เมื่อฝ่ามือนั้นโจมตีไป น้องเล็กของเขากล่าวขึ้นว่า “โดนเป้าแล้ว พี่ใหญ่ช่างไม่รู้จักทะนุถนอมคนงามเลย! คนงามเช่นนี้หากได้รับบาดเจ็บเข้ามันจะเสียของ”
การโจมตีนั้นโดนร่างในชุดม่วง แต่จากนั้นร่างนั้นก็ได้อันตรธานหายไป
“หายไปแล้ว เจอผีเข้าแล้วอย่างนั้นรึ!”
“นั่นมันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น ผีเผอที่ไหนกันล่ะ”
“ความเร็วของนางรวดเร็วขึ้นว่าเดิมมาก การโจมตีของพี่ใหญ่โดนเพียงแค่ร่างลวงตาของนางเท่านั้น”
ถูขวงโจมตีโดนเพียงแค่ร่างลวงตา และในตอนนี้มู่เฉียนซีก็ฉวยโอกาสนี้พุ่งเข้าไปใกล้เขา จากนั้นก็โจมตีด้วยทักษะวิญญาณ
นางเข้าใจในทักษะโยวจั๋วนี้แล้ว!
ตูม! เผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างกะทันหันเช่นนี้ ถูขวงรีบยกมือขึ้นมาต้านทาน!
ทักษะวิญญาณที่เขารู้สึกว่าไม่อาจทำอะไรเขาได้ ในตอนนี้กลับทำให้มือและแขนของเขาชาขึ้นมาอย่างกระทันหัน
เขาตะโกนขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว พร้อมกับโจมตีออกไป “เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
แต่ทุก ๆ การโจมตีของเขาล้วนแต่โดนร่างลวงตาของมู่เฉียนซีทั้งสิ้น
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ทั้งสองสู้รบสลับกันไปมา แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะโจมตีด้วยทักษะวิญญาณเพียงอย่างเดียว แต่การสู้รบในครั้งนี้กลับน่าระทึกมาก
“ศิษย์สำนักลั่วเยว่ของพวกเจ้ามีพรสวรรค์เพียงแค่ใช้ทักษะร่างหลบหนีอย่างนั้นเหรอ บัดซบยิ่งนัก!” ถูขวงกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว
การโจมตีด้วยทักษะวิญญาณนั้นไม่ค่อยจะดี แต่ใช้ทักษะร่างเช่นนี้ ช่างยอดเยี่ยมอย่างไม่อาจหาคำใดมาบรรยายได้เลย!
เร็ว! ช่างรวดเร็วยิ่งนัก!
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขีดจำกัดความเร็วของหญิงสาวผู้นี้อยู่ที่ใด
ถูขวงกล่าวข่มขู่ว่า “สาวน้อย เจ้ามันช่างยั่วโทสะข้าจริง ๆ ข้าจะไม่ยั้งมือไว้ไมตรีกับเจ้าอีกต่อไป”
พลันนั้นพลังวิญญาณในร่างของถูขวงก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง!
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วเล็กน้อยพลางกล่าว “มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสาม เจ้ายังจะแอบซ่อนระดับพลังวิญญาณอีก พลังความแข็งแกร่งเช่นนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมาเป็นโจรภูเขาอยู่ที่นี่”
ถูขวงยิ้มพลางกล่าวว่า “ก็ข้าชอบนี่ ข้าชอบมองดูพวกมดปลวกมันดิ้นรนทรมาน และข้าก็ชอบเหยียบมดปลวกพวกนั้นให้มันตาย ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”
“และเจ้า ก็จะต้องตายเช่นกัน!”
ดวงตาสีดำขลับของมู่เฉียนซีเผยความเย็นยะเยือกออกมา “พลังอันเล็กน้อยเช่นนี้ของเจ้า ไม่กล้าไปท้าสู้รบกับคนที่แข็งแกร่งกว่า แต่กลับใช้กับคนธรรมดาที่อ่อนแอกว่า ข้าว่าพวกมดปลวกที่เจ้าเอ่ยปากกล่าวปาว ๆ นั่น น่าจะเป็นเจ้ามากกว่า”
คำพูดนี้ของมู่เฉียนซีทำให้ถูขวงไม่อาจระงับความโกรธเอาไว้ได้แล้ว
ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำขึ้น และเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“เจ้ามันรนหาที่ตาย ข้าจะฆ่าเจ้า”
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “โกรธเกรี้ยวถึงปานนี้ ข้าคงพูดแทงใจดำเจ้ากระมัง”
“เจ้า ไปตายซะเถอะ!”
“ฝ่ามือสังหาร!”
เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น ที่ที่มู่เฉียนซียืนอยู่เมื่อครู่ปรากฏหลุดขนาดใหญ่ขึ้น
นางหลบหลีกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด!
ถูขวงหรี่ตาลงอย่างอันตราย บัดซบยิ่งนัก!
พลังของเขาเพิ่มขึ้น ความเร็วก็รวดเร็วมากขึ้น แต่ความเร็วของนางก็รวดเร็วขึ้นมากเช่นกัน ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก
ถูขวงจ้องมองไปที่น้องเล็กของเขา “พวกเจ้ามัวแต่ยืนนิ่งอยู่ทำไมกันล่ะ รุมนางเร็วเข้า ข้าเองก็อยากจะรู้นักว่านางจะหลบไปได้สักกี่น้ำ”
“ฮะ! พี่ใหญ่ รุมนางเนี่ยนะ?”
พี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีมาก เวลาสู้รบไม่ชอบให้ผู้ใดมาช่วย ชอบสำเร็จภารกิจฆ่าศัตรูด้วยตัวเอง
“อย่าพูดจาให้มากความ ลงมือ! จัดการนังผู้หญิงคนนี้ซะ”
“ตกลง!”
ขวับ ๆ!
เมื่อคนเหล่านี้ได้รับคำสั่งก็พุ่งเข้าใส่มู่เฉียนซี และโจมตีมู่เฉียนซีไปทั่วทุกทิศทันที
ถูกคนกลุ่มนี้ห้อมล้อมโจมตี แต่สีหน้าของมู่เฉียนซียังคงเรียบนิ่งอยู่เฉกเช่นเดิม
“จำนวนคนเยอะกว่ามันก็ไร้ประโยชน์!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ความเร็วของนางยิ่งทวีความเร็วมากขึ้น ต่อให้จำนวนคนเยอะมากเพียงใด แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้มู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย
“ทักษะโยวจั๋ว!”
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
เนื่องจากการต่อสู้อันโกลาหล พื้นดินบริเวณรอบ ๆ จึงกลายเป็นหลุมบ่อลึกหลายหลุม
รักษาความเร็วนานเช่นนั้น โจมตีด้วยพลังวิญญาณไปอย่างต่อนื่อง ต่อสู้มานานมากถึงเพียงนี้แต่พลังวิญญาณกลับยังไม่หมด นี่เป็นครั้งแรกที่โจรเหล่านี้ได้พบเจอกับคนวิปริตเช่นนี้
“ทักษะโยวจั๋ว!” ในตอนนี้เองมู่เฉียนซีลงมือแล้ว
เสียง ปัง!ดังสนั่นขึ้น และคนเหล่านี้ก็ถูกโจมตีจนร่างกระเด็นลอยออกไป
อ๊า! เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นขึ้น คนผู้นั้นกระอักเลือดออกมา
มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ได้ผลแล้ว เช่นนั้นก็มาลองอีกที!
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ปัง ๆ ๆ!
หลังจากที่นางควบคุมทักษะโยวจั๋วได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ นางจึงเผชิญหน้าต่อสู้กับโจรเหล่านี้ด้วยทักษะวิญญาณอย่างต่อเนื่อง
ไม่นานนักพวกเขาก็ถูกนางกวาดล้างจนเรียบเป็นหน้ากระดาน
ถูขวงได้ทำทุกวิถีทางมามากมายกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้จวบจนถึงทุกวันนี้ เขาไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปัญญา เขาจึงพบว่าทักษะวิญญาณที่มู่เฉียนซีใช้นั้นยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
มันแตกต่างไปจากที่เขาเห็นครั้งแรกโดยสิ้นเชิง
“เจ้า…นี่ทักษะวิญญาณของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว นี่เจ้า…เจ้ากำลังใช้พวกข้าเพื่อเป็นเครื่องมือฝึกฝนทักษะวิญญาณ”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ก็ใช่นะสิ! ข้าต้องขอบใจเจ้ามานะที่เจ้าเรียกลูกน้องของเจ้ามารุมข้า ทำให้ข้าสำเร็จไปขั้นหนึ่ง เข้ามาอีกสิ!”
“ข้าจะฆ่าเจ้า!” ถูขวงคำรามขึ้นเสียงดัง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกหญิงสาวปั่นหัวได้ถึงเพียงนี้
.