ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1562 คู่ต่อสู้พิเศษ
มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเราไม่ได้เป็นอะไร และต้องขอบใจเจ้าด้วยซ้ำที่นำทางข้ามาที่นี่”
สีหน้าของศิษย์พี่หวังเขียวคล้ำขึ้น นางกล่าวเสียงขรึมว่า “ศิษย์น้องหญิงข้าตายไปแล้วสี่คน แต่พวกเจ้ากลับรอดมาได้ นับตั้งแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก เป็นเช่นไร?”
“ต่อให้พวกเราหนีมาก่อน ตอนนี้เจ้ายังมีหน้ามาพูดว่าต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน เจ้าหน้าด้านเกินไปหน่อยแล้วกระมัง!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยความเย็นชา
“เจ้าอย่าได้หยาบคายไปหน่อยเลย คิดว่าข้าจะกลัวพวกเจ้าจริง ๆ เหรอ” ศิษย์พี่หวังกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ในเมื่อไม่กลัว เช่นนั้นเจ้าจะรออันใดอยู่ล่ะ รีบลงมือเลยสิ!”
ศิษย์พี่หวังแอบหวั่นอยู่ในใจ ร่างกายของพวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ สามารถหนีรอดมาจากมังกรสองหัวได้ ต้องผิดปกติแน่
นางไม่อยากยอมรับ แต่กลับจำใจต้องคิด คนสองคนนี้แข็งแกร่งกว่านางมาก
นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
และในตอนนี้เอง ประตูสามบานที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ก็เปิดอยู่
ประตูบานแรกคนที่เดินออกมานั้นก็คือศิษย์สำนักหลินเยว่ ศิษย์น้องหญิงสองคนของศิษย์พี่หวัง
ประตูอีกบาน คนที่เดินออกมานั้นก็คือศิษย์ห้าคนของสำนักหลางซิง ส่วนประตูบานที่สามก็คือจีซานเหนียงและจีหว่านเหนียง
สุ่ยโหรวกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “ศิษย์พี่หวัง ในที่สุดก็หาท่านเจอจนได้ ศิษย์พี่หยูกับศิษย์พี่คนอื่นอีกสองคน นาง…พวกนาง…ฮือ ๆ ๆ…”
ที่นี่มีอันตรายอยู่รอบด้าน มีคนตายไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
มีศิษย์น้องเพิ่มมาอีกสองคนเช่นนี้ ศิษย์พี่หวังมีความมั่นใจขึ้นมาในระดับหนึ่ง
นางมองไปที่มู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ศิษย์น้องของข้ามาแล้ว พวกเจ้าแน่ใจนะว่าจะลงมือกับข้า”
สุ่ยโหรวกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “มู่เฉียนซีก็อยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอ นึกไม่ถึงเลยว่านางจะลงมือกับศิษย์พี่หวัง”
ชายหนุ่มเหล่านั้นของสำนักหลางซิงกล่าวเย้ยหยันว่า “ดูท่าสำนักของพวกเจ้าคงจะบาดเจ็บล้มตายกันไปไม่น้อยกระมัง เหลือเพียงแค่สามคนเช่นนี้ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก”
ศิษย์พี่หวังกล่าว “พวกเจ้าก็เหลือเพียงแค่ห้าคนแล้ว มีสิ่งใดน่าภูมิใจอย่างนั้นรึ”
“พวกเรามีเป้าหมายเดียวกัน จะต้องไม่ตกไปอยู่ในกำมือของผู้อื่น สองคนนี้รับมือได้ยากนัก จำเป็นต้องรีบจัดการพวกเขาให้สิ้นซาก มาร่วมมือกันเป็นเช่นไร?” ศิษย์พี่หวังมองคนเหล่านั้นของสำนักหลางซิงพลางกล่าว
“แล้วความดีความชอบจะแบ่งกันเช่นไร?”
“แน่นอนว่าต้องครึ่งส่วนครึ่ง”
“ครึ่งหนึ่ง? ช่างเถอะ ยังไม่สู้ฆ่าพวกเจ้าสามคนทิ้งแล้วค่อยจัดการอีกสองคนยังง่ายกว่าเสียอีก แปดสองเป็นเช่นไร!”
ศิษย์พี่หวังโกรธเกรี้ยวมาก “พวกเจ้าอย่าได้กระทำกันเกินไปหน่อยนักเลย”
ศิษย์สำนักหลางซิงกล่าว “แปดสอง มิเช่นนั้นไม่มีอะไรต้องคุยกัน”
ศิษย์พี่หวังกล่าว “แปดสองก็แปดสอง รีบลงมือเร็วเข้า!”
การมีอยู่ของมู่เฉียนซีกับฉู่หลีทำให้นางรู้สึกว่าทั้งสองเป็นภัยคุกคามต่อนาง ดังนั้นนางจึงให้คนของสำนักหลางซิงลงมือก่อน
ศิษย์สำนักหลางซิงกล่าว “พวกเจ้าลงมือก่อนสิ มาเร่งข้าด้วยเหตุอันใดเล่า”
ศิษย์พี่หวังเตรียมจะลงมือ ในตอนนี้เองลูกบอลกลมที่อยู่ด้านบนตำหนักใหญ่ก็พลันระเบิดลำแสงสีขาวออกมา
ทุกคนถูกส่งตัวไปยังมิติแสงสีขาวมิติหนึ่ง บริเวณรอบ ๆ เป็นกระจกผลึกใส
มู่เฉียนซีเห็นตัวเองสะท้อนผ่านกระจกผลึกใสนี้ คนในกระจกเคลื่อนไหแล้ว และเดินออกมาจากในนั้น จากนั้นก็ก่อตัวเป็นผลึกใส
ส่วนสูง รูปร่างลักษณะเลียนแบบออกมาเหมือนกันทุกประการ
มู่เฉียนซีตกใจผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะลงมืออย่างไม่เกรงใจ
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ตูม! ทักษะวิญญาณโจมตีไปที่ร่างผลึกใสเลียนแบบนี้ มันดูเหมือนกระจก แต่กลับไม่ได้บอบบางเหมือนกระจก
การโจมตีของทักษะโยวจั๋วไม่สามารถสร้างรอยร้าวใด ๆ บนร่างผลึกใสนั้นได้เลย
แข็งแกร่งอย่างมิอาจหาที่เปรียบได้ กำลังในการป้องกันก็แข็งแกร่งมาก!
ร่างเลียนแบบนั้นเข้าใจแล้ว ทักษะร่างความเร็วนั้นรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง พลังอันคุ้นเคยแผ่ซ่านออกมา รูม่านตามู่เฉียนซีหดตัวลง มันคือทักษะโยวจั๋ว!
นึกไม่ถึงว่าร่างเลียนแบบนี้จะใช้ทักษะโยวจั๋วได้ด้วย
มู่เฉียนซีหลบหลีกอย่างรวดเร็ว
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง! เสียงระเบิดดังขึ้นข้างหู การโจมตีที่ฝ่ายตรงข้ามใช้นี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าจะของนางเลย
มู่เฉียนซีเอากระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณออกมา กระบี่กวัดแกว่งตัดผ่านไป และบัวอัคคีสีแดงฉานก็พุ่งออกไป
“บัวแดงพิฆาต!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
มันยังคงหลบหลีกอยู่ ในมือยังมีกระบี่เล่มหนึ่งที่เหมือนกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณมาก และบัวอัคคีดอกหนึ่งก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“เพลิงสังหารซิวหลัว!” มู่เฉียนซีโจมตีต่อ
ไม่ว่านางจะใช้กระบวนท่าใดโจมตี ร่างเลียนแบบก็เลียนแบบกระบวนท่าโจมตีของนางได้หมด พลังน่าทึ่งมาก!
ไม่เพียงแค่ทักษะวิญญาณเท่านั้นที่ถูกเลียนแบบ ความเร็วของมู่เฉียนซี การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาก็ถูกเลียนแบบได้เช่นกัน
ศัตรูของนางก็คือตัวเอง!
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงต่ำว่า “นี่เป็นการทดสอบของพระราชวังหนานหลิงอย่างนั้นเหรอ เช่นนั้นก็ค่อย ๆ สนุกด้วยกันเถอะ!”
คู่ต่อสู้ที่ยากที่สุดก็คือตัวเอง แต่นางก็เข้าใจตัวเองมากที่สุดเช่นกัน
หากเอาชนะคู่ต่อสู้ผู้นี้ได้ ก็เท่ากับว่าได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น
ทั่วทั้งร่างของมู่เฉียนซีกำลังสั่นสะท้าน นางทุ่มอย่างสุดกำลังความสามารถเพื่อรับมือกับศัตรูคนพิเศษตรงหน้าผู้นี้
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณตัดผ่านอากาศไปอย่างรวดเร็วดุจดั่งสายฟ้า
เปรี้ยง!
ฉึก! กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณแทงทะลุหัวใจของฝ่ายตรงข้าม และกระบี่ของมันเพียงฟันแฉลบแขนมู่เฉียนซีเท่านั้น
เปรี้ยง!
คนตรงหน้าพลันแตกเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ลงแล้ว แต่มู่เฉียนซีกลับไม่ได้วางใจ
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
คนสองคนรูปร่างหน้าตาเหมือนกันกับนางเดินออกมาจากกระจกใส และเริ่มการต่อสู้ในรอบถัดมา
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
มู่เฉียนซีคิดไม่ถึงเลย จนกระทั่งระเบิดการโจมตีอันแข็งแกร่งที่สุดออกมา ร่างเลียนแบบสองร่างนั้นล้วนแต่มีกระบี่เหมือนกัน อีกทั้งยังโจมตีกลับมาอีกด้วย
ปัง ปัง ปัง!
คู่ต่อสู้ของมู่เฉียนซีก็คือตัวเอง และฉู่หลีกลับเข้าไปในมิติมืดสนิทมิติหนึ่ง คู่ต่อสู้ของเขาคือเงาร่างชุดดำร่างหนึ่ง
ฉู่หลีรู้ดีว่าฝ่ายตรงข้ามคือใคร คือเขา แต่ก็ไม่ใช่เขา!
หรือจะพูดได้ว่าเป็นเขาในเมื่อก่อน!
สายตาของเขาเย็นชามาก เขาลงมืออย่างรุนแรง จำเป็นต้องกำจัดให้เร็วที่สุด
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
ทุกครั้งที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ก็จะมีคู่ต่อสู้ปรากฏตัวออกมาเพิ่มขึ้นอีก มู่เฉียนซีเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นได้ต่อสู้ไปนานเพียงใดแล้ว
ในตอนนี้ จีซานเหนียงและคนของสำนักหลางซิง สำนักหลินเยว่ได้ปรากฏตัวอยู่ในห้องหรูหราห้องหนึ่ง พวกเขาตกใจผงะไปเล็กน้อย “พวกเราไม่ได้พ่ายแพ้!”
“เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้เช่นนั้น การพ่ายแพ้ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว พวกเราอดทนพยายามต่อสู้มานานถึงเพียงนั้น พวกเราก็เลยผ่านด่านมาได้”
“น่าจะเป็นเช่นนั้น”
ครืน! เกิดการเคลื่อนไหวบางอย่างบนพื้น โลงศพไม้โลงหนึ่งปรากฏออกมาจากใต้ดิน
สุ่ยโหรวตกใจผงะไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “หรือว่า…หรือว่าในโลงศพนี้จะมีกระดูกศักดิ์สิทธิ์อยู่ข้างใน”
ศิษย์พี่หวังกล่าว “เปิดดูก่อน!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ฝาโลงถูกเปิดออก ด้านในว่างเปล่า แต่กระดูกที่เต็มไปด้วยความผันผวนของพลังอันแข็งแกร่งหนึ่งกลับดึงดูดความสนใจของทุกคนได้
“นี่มัน…นี่มันกระดูกศักดิ์สิทธิ์!”
ศิษย์พี่หวังยื่นมือออกไปคว้ามาด้วยความมือไวตาไว แต่กลับถูกคนของสำนักหลางซิงขวางเอาไว้
“นี่มันเป็นของพวกข้า! สตรีอย่างพวกเจ้าอย่าได้คิดที่จะแย่งชิง!”
“บุรุษใจหญิงอย่างพวกเจ้ากล้าแย่งของของพวกข้าอย่างนั้นเหรอ ไสหัวไปให้พ้น!”
ตูม!
มาถึงขั้นนี้แล้วยังไม่มีใครคว้ากระดูกศักดิ์สิทธิ์นั้นไปได้ ทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้กันแล้ว!
สำนักหลินเยว่มีกันแค่สามคนเท่านั้น ส่วนสำนักหลางซิงมีกันห้าคน พวกนางเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด!
จีซานเหนียงกล่าวถามว่า “ท่านพี่ ดูท่ามู่เฉียนซีกับฉู่หลีนั่นคงจะไม่ผ่านการทดสอบเป็นแน่ พวกนั้นไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อพวกเราแล้ว แล้วตอนนี้เราจะทำเช่นไรดีเจ้าคะ”
“รีบไปช่วยศิษย์ของสำนักหลินเยว่ก่อน เร็วเข้า…” พลังความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายต่างกัน หากคนของสำนักหลางซิงเอาชนะได้ มันจะไม่เป็นผลดีต่อพวกนาง!
.
.