ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1582 ผู้วางหมาก
มู่เฉียนซีกล่าว “คุณชายไป๋เจ๋อ?”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ดูท่าข้าจะประเมินคู่หูของข้าต่ำเกินไปแล้ว ความสามารถของเขาแข็งแกร่งกว่าที่ข้าจินตนาการเอาไว้มาก”
ตอนที่เข้ามาในแดนซวนเทียนตอนแรก ๆ ผู้ที่สนิทกับนางที่สุดก็มีเพียงแค่คนสองคนเท่านั้น
คนแรกก็คือศิษย์พี่ ส่วนอีกคนก็คือโม่ซวน
โม่ซวนนั้นความสามารถยากที่จะหยั่งถึงได้ เบื้องหลังของเขามีกองกำลังที่แข็งแกร่งมากอยู่กองกำลังหนึ่ง
ตอนนี้เขาได้เห็นศักยภาพของหอหมอปีศาจแล้ว ตอนนี้เขาแสดงความจริงใจออกมา
มู่เฉียนซีกล่าว “วางใจเถอะ ข้าไม่บอกใครหรอก!”
ผู้อาวุโสอาภรณ์ขาวกล่าว “เดิมทีข้าคิดว่าคุณชายไป๋เจ๋อมีโอกาสชนะได้ไม่มาก แต่เมื่อมีแม่นางมู่มาช่วย สุดท้ายผู้ใดจะเป็นผู้ชนะมันก็ไม่แน่นอน”
“ข้ารู้สึกว่าคุณชายไป๋เจ๋อของพวกท่านกำลังวางหมากกระดานใหญ่อยู่”
“เจ้าทายผิดแล้วล่ะ ผู้ที่วางหมากนั้นไม่ใช่คุณชายสักหน่อย”
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ว่าผู้วางหมากจะเป็นใคร ข้าและหอหมอปีศาจไม่มีทางเข้าร่วมหมากเกมนี้อย่างแน่นอน หากอยากให้ข้าเข้าร่วม ข้าต้องเป็นคนคุมเกม”
เขายิ้มพลางกล่าว “แม่นางมู่ไม่รู้ว่านายท่านของพวกเราเป็นใคร แม่นางถึงได้มั่นใจในตัวเองมากเช่นนี้”
“ข้าสงสัยในตัวนายท่านของพวกท่านเหมือนกัน”
“หากเจ้าสามารถช่วยให้คุณชายไป๋เจ๋อเอาชนะคุณชายคนอื่น ๆ ได้ บางทีเจ้าอาจจะมีสิทธิ์ได้เข้าพบนายท่านก็ได้ แต่ตอนนี้ยังพบไม่ได้!” ผู้อาวุโสอาภรณ์ขาวยิ้มพลางกล่าว
มู่เฉียนซีกล่าว “อ๋อ! เป็นเช่นนั้นเหรอ!”
“เรื่องนี้ข้าต้องคุยกับเขาซึ่ง ๆ หน้า!” พลังอันแข็งแกร่งเช่นนี้ หากไม่ใช่ศัตรู ก็ต้องเป็นพันธมิตรกัน
เนื่องจากศัตรูของนางคือกองกำลังสองกองกำลังที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งที่สุดในแดนซวนเทียน
หลังจากที่พูดคุยเรื่องเหล่านี้เสร็จแล้ว มู่เฉียนซีก็ไปที่หอคอยวิญญาณด้วยกัน!
ในเมื่อทะลวงพลังวิญญาณได้แล้ว ต่อไปก็ต้องรวบรวมพลังความแข็งแกร่งให้คงที่
มู่เฉียนซีเป็นนักปรุงยาระดับศักดิ์สิทธิ์ คนทั่วทั้งเมืองหนานหลิงล้วนแต่รู้จักนางดี
เหนือหอคอยวิญญาณ ท่านผู้ดูแลมาต้อนรับด้วยความตื่นเต้น “ท่านปรมาจารย์ ทะ ท่าน ท่านจะเข้ามาฝึกฝนในหอคอยวิญญาณใช่หรือไม่ ท่านต้องการไปฝึกที่ชั้นใด?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ชั้นที่เก้า!”
ใช้ไปอีกร้อยล้าน สิ่งนี้ทำให้คนอื่นตกตะลึงพรึงเพริดเป็นอย่างมาก
สมกับที่เป็นนักปรุงยาระดับศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ใช้หยกซวนฟุ่มเฟือยราวกับเป็นเพียงแค่หินก้อนหนึ่ง!
ในขณะที่มู่เฉียนซีกระโดดเข้าไปในหอคอยวิญญาณอีกครั้ง สวี่ฝูก็กล่าวขึ้นว่า “บัดซบ! นึกไม่ถึงเลยว่านางยังไม่ออกไปจากเมืองหนานหลิง แถมยังไปฝึกฝนต่ออีก”
จีซานเหนียงกล่าว “ข้าไม่เชื่อหรอกว่านางจะอยู่ที่นี่ไปตลอด”
เวลาผ่านไปเจ็ดวัน พลังที่มู่เฉียนซีทะลวงพลังไปได้ก็อยู่ในขั้นคงที่แล้ว หากฝึกฝนต่อที่หอคอยวิญญาณก็ไม่ได้ช่วยให้พลังสูงขึ้นไปมากกว่านี้แล้ว ต้องเปลี่ยนสถานที่ฝึกฝน
มู่เฉียนซีจะจากไป เฉาหนานรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย
“แม่นางมู่ สตรีสองคนนั้นของสำนักฉางฮวนกับสำนักเล่ออันมีจิตใจคิดทำร้ายแม่นางมู่ ข้ากลัวว่าหากเจ้าออกไปจากเมืองแล้วจะพบเจออันตราย ข้าว่าเจ้ากลับไปสำนักฉางยวนกับพวกเราก่อนเถอะนะ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่เป็นไร หากพวกเขากล้าลงมือกับข้า ก็ให้พวกเขาทำเถอะ!”
อย่างไรเสียพวกเขาก็เคยเห็นพลังความแข็งแกร่งอันวิปริตของมู่เฉียนซีแล้ว นางไม่ใช่คนประมาท พวกเขาจึงกล่าวเพียงว่า “เช่นนั้นแม่นางมู่ต้องระวังตัวให้มากนะ”
และในขณะที่มู่เฉียนซีจะออกจากเมืองหนานหลิงนั้นเอง นางก็พบว่ามีคนใช้พลังจิตควบคุมตัวนางไว้
ร่างในชุดม่วงพุ่งออกไป และหลังจากที่มู่เฉียนซีเข้าไปเขตป่าหนาทึบแห่งหนึ่ง จีซานเหนียงก็กล่าวว่า “ลงมือได้!”
พวกเขาก็ไม่อยากจะล่วงเกินสำนักฉางยวนเหมือนกัน ดังนั้นจึงลงมือกันเพียงแค่ไม่กี่คน
สวี่ฝู จีซานเหนียง ปราชญ์แห่งภูตขั้นสูงสุดสองคนและภูตศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งคน
จีซานเหนียงกล่าว “มู่เฉียนซี! เหตุใดถึงไม่หนีล่ะ ไม่มีศิษย์พี่คอยช่วยปกป้องเจ้า การที่พวกข้าจะฆ่าเจ้า แค่พวกเขาก็มีกำลังเหลือเฟือ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าแน่ใจหรือ?”
“หลังจากที่ออกมาจากซากปรักหักพังหนานหลิงในครั้งนั้น เจ้าไม่มีความก้าวหน้าแต่อย่างใดเลย อีกทั้งยังชอบทำตัวรนหาที่ตายอีก”
“เจ้านั่นแหละที่รนหาที่ตาย!” กล่าวจบ จีซานเหนียงก็โคจรพลังวิญญาณขึ้น และโจมตีไปที่มู่เฉียนซีทันที
มู่เฉียนซีกล่าว “อู๋ตี้ เสี่ยวหง ขวางตาเฒ่าสองคนนั้นให้ข้า”
ส่วนมู่เฉียนซีพุ่งตัวออกไปรับมือกับจีซานเหนียง!
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
อู๋ตี้กับเสี่ยวหงพุ่งออกไป ตาเฒ่าสองคนนั้นเห็นเข้าก็ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง!
“นี่มัน…สัตว์ศักดิ์สิทธิ์!”
พลังของอู๋ตี้เพียงพอที่จะรับมือกับตาเฒ่านั้นได้ ส่วนเสี่ยวหงก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน
เมื่อเห็นพลังอำนาจของอู๋ตี้แล้ว มันก็ยิ่งต่อสู้อย่างโหดเหี้ยมมากขึ้นเรื่อย ๆ มันต้องเลื่อนขั้นให้ได้ ต้องเลื่อนขั้นให้ได้!
ขีซานเหนียงโจมตีออกไปอีกครั้ง นางยิ้มพลางกล่าวว่า “มู่เฉียนซี เจ้าคิดว่าข้าจะเหมือนเมื่อก่อนอย่างนั้นเหรอ ครั้งนี้ข้าได้ยาลูกกลอนชั้นดีมาไม่น้อย และการฝึกฝนของข้าก็ไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
นางผู้ที่มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูต ตอนนี้พลังของนางคือขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสามแล้ว พลังของนางเพิ่มขึ้นหลายระดับมาก
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “แล้วเช่นไร? การฝึกฝนด้วยวิธีเช่นนั้นจนทำให้พลังถึงขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสาม เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้แล้วอย่างนั้นเหรอ”
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
กระบี่ของจีซานเหนียงกวัดแกว่งตัดผ่านอากาศไป ชั่วพริบตาเดียวพื้นที่บริเวณโดยรอบก็ปรากฏหลุมลึกขึ้นนับไม่ถ้วน
“ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะจัดการเจ้าไม่ได้”
มู่เฉียนซียังคงหลบหลีกการโจมตีได้ ความเร็วเพียงเท่านี้นางไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนท่าเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตา
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณสีแดงฉานถูกมู่เฉียนซีชักออกมา มู่เฉียนซีตะโกนเสียงเย็นชาว่า “บัวแดงพิฆาต!”
จีซานเหนียงรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่ายุ่งยากเสียแล้ว จึงรีบล่าถอย นางหลบหลีกด้วยความน่าสังเวช แต่แววตายังคงฉายแววโหดเหี้ยมออกมา
นางยังคงฆ่าหญิงสาวผู้นี้ไม่ได้
จีซานเหนียงตะโกนขึ้นว่า “สวี่ฝู พวกเรารุมนาง! กำจัดนางให้ได้!”
สวี่ฝูกล่าว “ศิษย์พี่จีซาน ตกลง! ดูข้านะ!”
สวี่ฝูชักกระบี่ออกมาและพุ่งโจมตีไป อันที่จริงแล้วจีซานเหนียงเองก็ไม่คิดว่าสวี่ฝูจะมีประโยชน์มากถึงเพียงนี้
นางเป็นคุณหนูสามแห่งสำนักฉางฮวน ไม่ใช่ผู้ที่ได้รับความโปรดปราณมากที่สุด ผู้ที่ได้รับความโปรดปราณมากที่สุดก็คือพี่สาวของนาง ผู้ที่มีความสามารถมากผู้นั้นต่างหาก ดังนั้นองครักษ์ของนางจึงมีเพียงแค่ปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าคนเดียวเท่านั้น
ไม่เหมือนกับสวี่ฝู สวี่ฝูนางเป็นคุณหนูใหญ่แห่งสำนักเล่ออันมีองครักษ์พลังภูตศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องอยู่!
หากภูตศักดิ์สิทธิ์ลงมือ มู่เฉียนซีต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!
การโจมตีของสวี่ฝูไม่ได้ส่งผลกระทบใดต่อมู่เฉียนซีเลยแม้แต่น้อย มู่เฉียนซีโจมตีกลับด้วยกระบี่ นางตะโกนขึ้นว่า “เพลิงสังหารซิวหลัว!”
อ๊า! การโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้ามา สวี่ฝูยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องรับมือเช่นไร!
ปัง! ร่างของนางล้มลงไปกระแทกพื้น หากไม่ใช่เพราะมีเกราะป้องกัน นางคงถูกเผาร่างเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว
และในตอนนี้เอง มู่เฉียนซีก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่อยู่ด้านหลัง!
เสียงตัดผ่านอากาศดังขึ้น และนี่ก็คือการโจมตีของภูตศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง!
ทักษะร่างไม่อาจหลบหลีกได้ แต่นางใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาหลบหลีก!
เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น ภายในชั่วพริบตาเดียวมู่เฉียนซีก็ปรากฏตัวขึ้นอีกทางด้านหนึ่ง
ชายชราผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หลบหลีกได้! นึกไม่ถึงเลยว่าจะใช้พลังแห่งมิติหลบหลีก!”
ลมพายุนับไม่ถ้วนพัดกระโชกมา และเต็มไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว
พลังอำนาจของขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!
มิติรอบ ๆ ตัวมู่เฉียนซีบิดเบี้ยวขึ้น และนางก็หลบหลีกอีกครั้ง!
สีหน้าของชายชราเคร่งขรึมขึ้น เขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ พลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ! นึกไม่ถึงเลยว่าผู้ที่มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสามผู้หนึ่งจะหลบหลีกการโจมตีของเขาได้ถึงสองครั้งสองครา ช่างดูถูกพลังของเขามากเกินไปแล้ว!
ชายชราผู้นี้ชักกระบี่ออกมา “กระบวนท่าสุดท้าย ข้าจะฆ่าเจ้าให้จงได้!”
“ตายซะเถอะ!”
เขายิ้มอย่างโหดร้าย กระบี่เล่มนี้ ต่อให้มีอาวุธวิญญาณมิติปกป้องก็ไม่อาจหลบหลีกได้ กลิ่นอายกระบี่ของเขาได้กักขังมิติรอบบริเวณเอาไว้แล้ว นางต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน
จีซานเหนียงตื่นเต้นมาก ในที่สุดมู่เฉียนซี หญิงบ้าผู้นี้จะได้ตายจริง ๆ เสียที
สวี่ฝูกล่าว “นึกไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวผู้นี้จะหลบหลีกกระบวนท่าสังหารของท่านผู้อาวุโสได้!”