ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1608 อัจฉริยะตกสวรรค์
ความรวดเร็วของมู่เฉียนซี ทำให้พวกนางปวดหัวเป็นอย่างมาก
แต่ในฐานะที่เป็นผู้นำและผู้อาวุโสของกองกำลังระดับสี่ เช่นนั้นสมบัติของพวกนางต้องมีไม่น้อยแน่นอนอยู่แล้ว
ทุกคนต่างสละอาวุธศักดิ์สิทธิ์หลากหลายชนิดออกมาเพื่อเพิ่มความเร็ว และไล่ล่ามู่เฉียนซีอย่างสุดกำลังความสามารถ
และระยะห่างระหว่างพวกนางก็ใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากที่ไล่ล่ากันมาตลอดทาง คนของสำนักหลินเยว่ก็แผ่กระจายกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
ลมโดยรอบส่งเสียงดัง สวบสาบ! จนทำให้ผู้ฝึกฝนและสัตว์วิญญาณที่กำลังผ่านทางไปทั้งหมด ต่างไม่กล้าที่จะเข้าใกล้
“เป็นการไล่ล่าที่น่าหวาดกลัวเสียจริง สาวน้อยผู้นั้นคาดว่าน่าจะรอดยากเสียแล้ว”
“รวดเร็วมากเหลือเกิน ไม่เห็นแม้กระทั่งเงาคน อีกทั้งยังไม่รู้ด้วยว่ามาจากสำนักไหน? เหตุใดถึงโหดร้ายน่ากลัวเช่นนี้!”
“……”
เมื่อได้เห็นถึงสถานการณ์เช่นนี้ ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาก็ต้องหลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นเสียงซุบซิบนินทาก็ดังขึ้นมา
เวลาผ่านไปราวกับสายน้ำ และในระหว่างที่ถูกไล่ล่าพลังวิญญาณของมู่เฉียนซีก็ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
พลังวิญญาณมิติ มีความลี้ลับที่มหัศจรรย์มากยิ่งกว่าพลังวิญญาณของธาตุวารีกับธาตุอัคคีเสียอีก อีกทั้งการควบคุมก็ยังยากกว่าอีกด้วย
ภายใต้การไล่ล่าอย่างสุดกำลังของสำนักหลินเยว่ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามใกล้เข้ามา และในขณะนี้ก็ถึงระยะที่สามารถทำการโจมตีได้แล้วด้วย
ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจัดการกับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิวิญญาณเพียงหนึ่งคน ไม่คาดคิดว่าจะต้องใช้ความพยายามมากมายเช่นนี้ ดังนั้นมันจึงทำให้คนจากสำนักหลินเยว่เหล่านี้โกรธมากเช่นกัน
เสียงแหวกอากาศดังเข้ามานับครั้งไม่ถ้วน และการโจมตีที่ดื้อดึงก็โหมกระหน่ำไปทั่ว
มีการโจมตีเข้ามาจากทั่วทุกทิศทาง และไม่ว่ามู่เฉียนซีจะใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาไปที่ใดก็ตาม ต่างก็ไม่สามารถที่จะหลีกหนีได้พ้น
แสงสีฟ้าครามกะพริบวูบวาบ ชิงอิ่งใช้ตนเองเป็นเกราะกำบัง และสกัดกั้นการโจมตีของพวกนางไว้
ชิงอิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้ทำร้ายเฉียนทั้งนั้น!”
พวกนางยิ้มเยาะอย่างเหยียดหยาม “ข้าไม่เชื่อ เจ้าคิดว่าจะสามารถพึ่งพาหุ่นเชิดตัวเดียวมาขวางการโจมตีทั้งหมดของพวกข้าไว้ได้เช่นนั้นหรือ?”
“ลงมือ ตรงเข้าไปฆ่านางซะ! อย่าให้มีชีวิตรอดไปได้!”
4ในขณะที่พวกนางต้องการจะลงมือต่อ พวกนางกลับรู้สึกถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นมาโดยรอบ
มีลมนับไม่ถ้วนพัดผ่านมิติบิดตัดเข้ามา และยังมีการจู่โจมมาจากทั่วทุกทิศทาง จนทำให้เหล่าผู้คนต้องขนพองสยองเกล้า
ผู้นำอาวุโสของสำนักหลินเยว่เหล่านี้ ต่างก็หน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวไปในทันที!
“บัดซบ! มิติพายุเป็นพื้นที่หวงห้าม ไม่คิดเลยว่าพวกเราจะไล่ล่ามาจนถึงที่นี่ได้”
“รีบถอยเร็วเข้า มิเช่นนั้นพวกเราได้ตายกันหมดแน่!”
ขอบเขตของอาณาเขตหนานหลิง มีพื้นที่หวงห้ามอยู่แห่งหนึ่ง ภายในมิตินี้เป็นพื้นที่ที่ไม่มีความเสถียรเป็นอย่างยิ่ง และพายุที่ปั่นป่วนภายในมิติพายุก็ไม่เคยหยุดนิ่งมาก่อนอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูต ปราชญ์แห่งภูตหรือว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเกิดหลงเข้าไปติดอยู่ในมิติพายุ ก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!
ทุกคนต่างก็หนีออกมาด้วยความอับอาย “อ๊าา!” มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น และมีสองสามคนที่ถูกดูดกลืนเข้าไปภายในมิติพายุ ภายในพริบตาเดียวก็ไม่มีแม้แต่เศษซากหลงเหลืออยู่เลย
หลังจากที่พวกนางหนีออกมาจากพื้นที่หวงห้ามได้แล้ว ก็มองไปโดยรอบแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของมู่เฉียนซีที่ควรจะหลบหนีออกมาด้วย
พวกนางกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ให้ตายเถอะ! นางเด็กน้อยที่สมควรตายผู้นั้นคงรู้ว่าตนเองยากที่จะหนีจากความตายได้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะดึงพวกเรามาจนถึงสถานที่เช่นนี้ จะตายก็ยังอยากที่จะมาลากพวกเราให้ตายไปด้วยสินะ!”
“ดูถูกนางมากเกินไปแล้วจริง ๆ ไม่อาจสังหารนางอย่างโหดเหี้ยมด้วยมือของตนเองได้!”
“การตายภายใต้การทำลายล้างของมิติพายุ มันเป็นความเจ็บปวดอย่างหาที่สุดไม่ได้เลย”
ในตอนนี้ มู่เฉียนซีไม่ได้หนีออกมาด้วย และพวกนางต่างก็คิดว่ามู่เฉียนซีต้องตายไปแล้วอย่างแน่นอน
แต่ทว่า ในขณะนี้ มู่เฉียนซียังคงอยู่ในพื้นที่หวงห้ามนี้ได้เป็นสัปดาห์ อีกทั้งยังมีชีวิตอย่างดีอีกด้วย
ปฏิกิริยาโต้ตอบของนางต่อมิติมีความเฉียบแหลมเป็นอย่างยิ่ง ทำให้สามารถหลบหลีกการโจมตีของมิติพายุได้
ตูม!
มิติพายุที่ทำให้ถึงตายได้นั้น ไม่สามารถที่จะเอาชีวิตของมู่เฉียนซีได้ในทันที
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ชิงอิ่ง เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่? เจ้าอดทนอยู่ในนี้ชั่วคราวก่อนนะ รอหลังจากที่พวกนางไปแล้วพวกเราก็จะสามารถออกไปได้แล้วล่ะ! และหลังจากนี้ไปในอนาคตตัวตนของมู่เฉียนซีนี้ คงจะไม่สามารถใช้ได้อีกแล้ว”
ทันทีที่นางตัดสินใจที่จะใช้ชื่อปลอมชื่อหนึ่งในการก้าวไปเป็นผู้มีพรสวรรค์อันดับของแดนซวนเทียน นางก็คิดถึงขั้นตอนการหลีกหนีจากความตายไว้แล้ว
อาณาเขตหนานหลิงมีชื่อเสียงในการต่อสู้ครั้งแรกของผู้มีพรสวรรค์มาก และการไล่ล่าของสำนักหลินเยว่ก็ทำให้นางได้รับโอกาสพอดี
ชิงอิ่งส่ายศีรษะ “ข้าไม่เป็นไรเฉียน ข้าสบายดีอยู่แล้ว! แต่หากว่าเฉียนเป็นอะไรไปแล้วละก็ ตอนนั้นข้าจะต้องไม่สบายอย่างแน่นอน”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! มู่เฉียนซีได้ย้ายกระแสพลังวิญญาณที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดขึ้นมา และหลบอยู่ภายในมิติพายุ
เมื่อรอเวลาผ่านไปได้พอสมควรแล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นว่า “ชิงอิ่ง พวกเราไปกันเถอะ!”
เมื่อปลายเท้าแตะลงเป็นพื้นอย่างแผ่วเบา มู่เฉียนซีก็กำลังฉวยโอกาสออกไป แต่ทว่าตอนที่กำลังจะออกไปจากพื้นที่หวงห้ามแห่งนี้ พื้นดินของทั้งพื้นที่หวงห้ามก็ได้เริ่มพังทลายลง
ครืน ครืน!
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าได้หลุดเข้าไปในอีกมิติหนึ่ง และสีหน้าของนางก็จมลงไปทันที
“ให้ตายเถอะ! ตกเข้าไปภายในรอยแยกของมิติแล้ว”
มู่เฉียนซีวางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากนางเคยตรวจสอบมาก่อน และรู้ว่าภายในนี้การเกิดมิติพายุและมิติผันผวนเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก
แต่ทว่าสถานการณ์ของการเกิดรอยแยกของมิตินั้นกลับเป็นไปได้น้อยมาก แต่ความน่าจะเป็นเพียงเล็กน้อยนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาชนเข้ากับนาง
“เฉียน!” ชิงอิ่งดึงมู่เฉียนซีเอาไว้
ภายในรอยแยกของมิติมีความไม่เสถียรเป็นอย่างยิ่ง มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “สุ่ยจิงอิ๋ง!”
“ชิงอิ่ง ไปที่มิติ!”
ภายในอันตรายเป็นอย่างมาก และการอยู่ในความคุ้มครองของสุ่ยจิงอิ๋ง จะทำให้การรอดพ้นจากอันตรายก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
ท้ายที่สุดแล้ว ผู้พิทักษ์นิรันดร์ ดอกบัวหงส์เก้ากลีบก็เป็นผู้ปกครองของมิติ
“เฉียน ระวังนะ!”
ชิงอิ่งรู้ว่า เมื่ออยู่ภายในความว่างเปล่าที่พังทลายนี้ เขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มากนัก เช่นนั้นเขาจึงกลับไปในมิติในทันที
ตูม!
เสียงการพังทลายอันน่าสะพรึงกลัวในพื้นที่หวงห้ามนั้น แม้แต่คนของสำนักหลินเยว่ที่ไปไกลมากแล้วเหล่านั้น ต่างก็ยังคงได้ยินมันได้อย่างชัดเจน
ในตอนนี้พวกนางก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ครู่หนึ่ง “การพังทลายของพื้นที่หวงห้าม ทำให้เกิดรอยแยกของมิติขนาดใหญ่มากขึ้นมาเสียแล้ว! มิฉะนั้นก็คงไม่อาจสั่นสะเทือนได้ถึงเพียงนี้อย่างแน่นอน”
“ศิษย์พี่ โชคดีที่พวกเราหนีออกมาได้ไว!”
“เมื่อเกิดรอยแยกของมิติแล้ว เกรงว่าแม้แต่ราชันวิญญาณก็อาจจะตกเข้าไปภายในนั้นได้ ถึงเป็นเด็กสาวคนนั้นและแม้ว่าจะมีเก้าชีวิต ก็คงจะไม่พอใช้อยู่ดี!”
“เอาล่ะ! ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว พวกเรากลับไปรายงานการปฏิบัติภารกิจที่สำนักกันเถอะ!”
“เจ้าค่ะ! ศิษย์พี่”
“ฮ่า ๆ ๆ! ตายแล้ว! ตายไปแล้ว!” มีใครคนหนึ่งส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากที่เจ้าสำนักสวี่รู้ข่าวว่ามู่เฉียนซีเขาไปในมิติพายุซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้าม แล้วพบเข้ากับรอยแยกของมิติจนตายไปอย่างไร้ร่องรอยของศพด้วยซ้ำ เขาก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดหย่อน
“กังเอ้อร์ นางเด็กสาวผู้นั้นตายไปแล้ว ข้าแก้แค้นให้กับเจ้าแล้ว! วางใจเถอะ พิษของเจ้า ขอเพียงแค่หาแพทย์ปีศาจพบ จะต้องมีวิธีแก้พิษอย่างแน่นอน” เขากล่าวขณะจ้องมองไปที่สวี่กังที่นอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่เริ่มเป็นดำคล้ำ
สวี่ฝูรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก “ตายได้ดี! ในที่สุดหญิงสาวที่สมควรตายอย่างมู่เฉียนซีก็ตายไปอย่างไร้ศพแล้ว”
การตายของมู่เฉียนซียังไม่เพียงพอที่จะทำให้เจ้าสำนักสวี่และสวี่ฝูระบายความโกรธเคืองลงได้ ดังนั้นจึงนำข่าวการตายอย่างน่าอนาถของมู่เฉียนซีแพร่กระจ่ายไปทั่วทั้งอาณาเขตหนานหลิง
“อะไรนะ? คนวิปริตผู้นั้นตายแล้วเช่นนั้นหรือ?” สีหน้าผู้อาวุโสใหญ่ของเมืองหนานเจ๋อตื่นตะลึง
คนอื่นในอาณาเขตหนานหลิงที่ได้ทราบข่าวนี้แล้ว ต่างก็ถอนหายใจออกมาอย่างไม่มีสิ้นสุด!
อัจฉริยะที่เป็นปีศาจที่วิปริตอย่างหาที่เปรียบไม่ได้คนนั้น ไม่คาดคิดเลยว่าจะตกสวรรค์รวดเร็วเช่นนี้ ช่างน่าเสียดายเป็นอย่างมากจริง ๆ
“ฉู่หลี เจ้าออกไปให้พ้นหน้าข้า ฉู่หลี…เจ้าเด็กน้อยเฉียนซี…”
“ฮือ ๆ ๆ! พี่เฟิงอวิ๋นต้องทำงานใหญ่ และข้าก็ช่วยเขาไม่ได้ แต่ไม่คาดคิดว่าข้ากลับปล่อยให้น้องสาวอันเป็นที่รักของเขาเกิดเรื่องขึ้นภายใต้การดูแลของข้า ข้า…ข้ามีชีวิตอยู่ไม่ได้แล้ว”
ฉู่หลีกล่าวด้วยเสียงที่เรียบเฉย “อย่ามารบกวนการพักผ่อนของข้า”
“เด็กน้อยเช่นเจ้าช่างใจเย็นเสียจริง รอยแยกมิติ แม่นางน้อยเฉียนซีคนนั้นหลุดเข้าไปในรอยแยกมิติ…ฮือ ๆ ๆ…”
“ศิษย์น้องหญิง จะต้องไม่เป็นอะไร!”
คนอื่นไม่รู้เบื้องลึกของมู่เฉียนซี แต่ทว่าฉู่หลีนั้นรู้ถึงมันเป็นอย่างดี
นางมีผู้พิทักษ์นิรันดร์อยู่ด้วย ในโลกนี้สิ่งที่ทำร้ายศิษย์น้องได้มีไม่มากเท่าไรนัก แต่…
แววตาของฉู่หลีมืดมนลง เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของร่างกายนี้ อ่อนแอมากเกินไปสักหน่อย
.