ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1637 การตรวจสอบการผันเปลี่ยน
สุดท้ายมู่เฉียนซีก็ไม่สนใจนาง เดินเข้าไปในม่านแสงนั้น และยิ่งทิ้งระยะห่างกับนางไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ
ฉื้อลั่วอวี่กัดฟันกรอดพลางกล่าว “นึกไม่ถึงเลยว่าจะเพิกเฉยต่อข้าเช่นนี้”
นางรีบพุ่งตามเข้าไปอย่างสุดกำลังความสามารถ
ใช่ว่ามู่เฉียนซีจะเพิกเฉยต่อนางเสียหน่อย เพียงแค่ตอนนี้นางอยากรีบไปให้ถึงชั้นห้าให้เร็วที่สุดก็เท่านั้นเอง จากนั้นก็หาที่ที่ไม่มีใครอยู่เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแปลงกาย
มู่เฉียนซีมาถึงชั้นห้าเป็นคนแรก จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ที่เปื้อนเลือดนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว
ต่อไปก็!
ตูม!
สายฟ้าฟาดฟันลงมา ปรากฏสายฟ้าและดินเหลืองขึ้น
ต่อมา มู่เฉียนซีก็ถูกสิ่งมีชีวิตทับถม
“มังกรวารีทำลาย!”
มังกรวารีตัวหนึ่งพุ่งออกมาจากใต้ดิน มู่เฉียนซีกระโดดพุ่งออกไป
“ธรณีในสายฟ้า พลังอัสนีธาตุธรณี!”
“ทอง ไม้ วารี อัคคี ธรณี ที่แท้ห้าชั้นแรกก็มาจากพลังวิญญาณห้าดารา และไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอันใดอีก”
ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง! พลังธาตุธรณีหนาแน่นมาก!
ร่างกายของมู่เฉียนซี ต่อให้โคจรพลังวิญญาณได้รวดเร็วเพียงใดก็ไม่อาจต้านทานได้ ดังนั้นจึงถูกธรณีทับถมอีกครั้ง
และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่นางคนเดียวเท่านั้นที่ถูกธรณีทับถม ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ก็ล้วนแต่ถูกธรณีทับถมทั้งสิ้น
บางคนถูกธรณีทับถมนานมากจนอดทนไม่ไหว จนกระทั่งถูกคัดออกส่งตัวกลับไป
คนที่สามารถเอาตัวรอดออกมาจากธรณีนั้นได้ ถึงจะไม่ถูกคัดออก!
ผลลัพธ์คือหงส์แต่ละตัวในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับหนูดินเลย ฉากนี้ช่างน่าตื่นเต้นยิ่งนัก
จากการที่ถูกธรณีทับถมหลายครั้งหลายครา พลังของมู่เฉียนซีก็ก้าวหน้าขึ้นแล้ว ระยะเวลาที่นางอดทนได้จึงนานขึ้นกว่าเดิมมาก
มู่เฉียนซีก็กำลังฝึกฝน คนอื่น ๆ ต่างเร่งรีบเดินทาง เมื่อนางฝึกฝนเสร็จคนอื่น ๆ ก็น่าจะตามมาทันพอดี
ฉื้อลั่วอวี่มาถึงม่านแสงสุดทางช้ากว่ามู่เฉียนซีอีกครั้ง ทว่า ม่านแสงสุดทางนี้ไม่ใช่การมาเดินทางมาถึงชั้นที่หก
นี่น่าจะเป็นมิติผันเผลี่ยน ฉื้อลั่วอวี่กล่าว “เจ้าจงใจจะเป็นคู่อริกับข้า เผ่าหงส์นิลสั่งให้เจ้าทำเช่นนี้ใช่หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าว “โม่ชิงอู่ไม่ได้มีความสามารถที่ทำให้ข้าต้องกระทำอันใดเพื่อนางได้”
“มู่เฉียนซี เจ้ามันเย่อหยิ่งยิ่งนัก! ตัวแทนของเผ่าหงส์นิลในครั้งนี้คือชิงอู่ต่างหากล่ะ”
โม่ชิงอู่และไป๋ฉางก็มาถึงแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของมู่เฉียนซี ไป๋ฉางก็โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง
ฉื้อลั่วอวี่กล่าว “ที่แท้เจ้าก็มีนามว่ามู่เฉียนซีนี่เอง ข้าจดจำเจ้าเอาไว้แล้ว”
มิติผันเผลี่ยนที่เป็นมิติพักผ่อนนี้ไม่ได้มีอันตรายใด หลังจากที่ผ่านอันตรายอย่างน่าระทึกมาห้าชั้นแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็สามารถพักผ่อนได้อย่างวางใจแล้ว
มู่เฉียนซีเองก็ได้โอกาสฝึกบำเพ็ญอย่างสงบเสียที ทำการปรับสมดุลหลังจากการเก็บเกี่ยวการฝึกฝนในห้าชั้นที่ผ่านมาให้อยู่ในสถานภาพที่คงที่
จากนั้นจำนวนผู้คนที่มาถึงมิติผันเปลี่ยนที่เป็นมิติพักผ่อนนี้ก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ห้าคน สิบคน ยี่สิบคน สามสิบคน!
เมื่อสามสิบคนมาถึง ประตูมิติผันเปลี่ยนนี้ก็ปิดลง
และคนที่มาไม่ถึงมิตินี้เหล่านั้นทั้งหมดได้ถูกส่งตัวออกไปแล้ว
“นี่มันเกิดอันใดขึ้น! ข้าถูกคัดออกส่งตัวออกมาได้อย่างไรกัน”
“เห็น ๆ กันอยู่ว่าข้ายังสามารถต่อสู้ได้!”
“……”
เหล่าบรรดาคนที่ถูกส่งตัวออกมาต่างเอ่ยปากพูดคุยกันด้วยความงุนงง
ครืน ตูม ตูม!
ในตอนนี้เองบริเวณรอบมีประตูสิบสองบานปรากฏขึ้น
ฉื้อลั่วอวี่กล่าว “ดูท่าจะมีเพียงแค่สิบสองคนเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าไปในชั้นที่หกได้!”
นางกระโดดไปเพื่อแย่งชิงตำแหน่งที่หนึ่งอีกครั้ง
ทว่า นึกไม่ถึงเลยว่าในฐานะที่มู่เฉียนซีได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์จะมีความเร็วที่เร็วกว่านางมากเช่นนี้
มู่เฉียนซีมาถึงตำแหน่งที่หนึ่งเป็นคนแรกอย่างราบรื่น ฉื้อลั่วอวี่กล่าว “เจ้าไสหัวลงมาเดี๋ยวนี้นะ!”
ฉื้อลั่วอวี่ตะโกนขึ้นอีกครั้ง “ข้าบอกให้เจ้าไสหัวลงมาเดี๋ยวนี้!”
รอบตัวฉื้อลั่วอวี่มีเปลวไฟสีแดงฉานเปล่งประกายขึ้น มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าแน่ใจแล้วเหรอว่าจะเสียเวลากับข้า?”
ฉื้อลั่วอวี่กล่าว “ข้าว่าเจ้าคงจะกลัวข้ามากกว่าสินะ!”
และในตอนนี้เอง ร่างสีดำร่างหนึ่งก็พุ่งมา
“คนอย่างฉื้อลั่วอวี่มอบเป็นหน้าที่ข้ารับมือเป็นเช่นไร?”
“ก็จริง หากแม้แต่เจ้านางยังรับมือไม่ได้ นางก็ไม่มีค่าคู่ควรจะมาเป็นคู่ต่อสู้ของข้า”
สีหน้าของเฮยหลิวเคร่งขรึมขึ้น นึกไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวผู้นี้จะประเมินนางต่ำเช่นนี้!
ฉือฉินอาสา นางกล่าว “ท่านพี่หญิงลั่วอวี่ ข้ารู้ว่าเพียงคนเดียวไม่อาจแย่งชิงหนึ่งในสิบสองประตูนี้ได้ แต่ข้าสามารถช่วยท่านพี่รับมือกับมู่เฉียนซีแห่งเผ่าหงส์นิลนี้ได้เจ้าค่ะ”
หลาย ๆ คนมีสายเลือดราชา นางรู้ตัวดีว่าตัวเองมีความสามารถมากน้อยเพียงใด ดังนั้นจึงอาสาทำบางอย่างเพื่อเอาใจท่านพี่หญิงลั่วอวี่
“มู่เฉียนซีผู้นี้ยั่วยุท่านพี่หญิงลั่วอวี่ครั้งแล้วครั้งเล่า”
ฉื้อลั่วอวี่กล่าว “ดี! เจ้าไปเถอะ!”
นางพุ่งตัวไปที่ประตูที่สองอย่างรุนแรงและรวดเร็วจนทำให้คนที่ยึดครองประตูที่สองผู้นั้นกระเด็นลอยออกไป
“ประตูนี้! ข้าฉื้อลั่วอวี่ครองแล้ว! เจ้าไปหาประตูบานอื่นเถอะ!”
สามสิบคน สิบสองคนยึดครองประตูไปแล้ว คนอื่น ๆ ต่างก็เริ่มทำการโจมตี
บางคนก็หนึ่งต่อหนึ่ง บางคนก็สองรุมหนึ่ง
มู่เฉียนซีโชคไม่ดีเอาเสียเลย เพราะคู่ต่อสู้ของนางคือเฮยหลิว เผ่าหงส์ดำผู้มีสายเลือดราชันย์ และยังมีฉื้อฉินอัจฉริยะแห่งเผ่าหงส์เพลิง
โม่ชิงอู่กล่าว “มู่เฉียนซี เจ้าระวังตัวด้วย!”
จากนั้น นางต้องรับมือกับคู่ต่อสู้ของนาง
เฮยหลิวกล่าว “แม่นาง เจ้าอย่าได้เกะกะขวางทางจะดีกว่า!”
ฉื้อฉินกล่าวอย่างเชื่อฟังว่า “เจ้าโจมตีหลัก ข้าสนับสนุน ข้ารับรองว่าจะไม่ขวางทาง!”
เฮยหลิวคิดไปคิดมา หญิงสาวผู้นี้ใช้อุบายเล่ห์เหลี่ยม ใช้อาวุธลับคงจะยากในการป้องกัน มีคนช่วยมาสักคนก็ไม่เลว
มู่เฉียนซีกล่าว “เผ่าหงส์ดำเหลือเพียงแค่เจ้าคนเดียวแล้ว เจ้ามายั่วโมโหข้าเช่นนี้ ไม่กลัวว่าเผ่าหงส์ดำของพวกเจ้าจะถูกทำลายล้างเผ่าบ้างเลยเหรอ”
เฮยหลิวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “มู่เฉียนซี ก่อนหน้านี้ข้าพ่ายแพ้ให้แก่เจ้าก็เพราะว่าข้าเคราะห์ร้ายที่ถูกเจ้าลอบกัด แต่ครั้งนี้ข้าเตรียมตัวมาดีแล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะยังให้เจ้าสมปรารถนาอีกอย่างนั้นเหรอ”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เช่นนั้นเจ้าก็ลองดูสิ!”
หลังจากที่ผ่านการฝึกมาห้าชั้น มู่เฉียนซีก็อยากจะทดสอบดูเหมือนกันว่าร่างกายของนางในตอนนี้แข็งแกร่งถึงขั้นไหนแล้ว
คาดว่าหอหลอมอัสนีคงจะตั้งมิติผันเปลี่ยนนี้ขึ้นมาเพื่อทดสอบความสามารถของทุกคนที่ได้รับการฝึกจากห้าชั้นที่ผ่านมา
ตูม! เฮยหลิวแปลงเป็นกายแท้โดยไม่รีรอ จิตสังหารอันบ้าคลั่งพรั่งพรูออกมาและพุ่งโจมตีไปที่มู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีไม่ได้หลบหลีก เนื่องจากนางรู้สึกได้ว่าพลังนี้ของเฮยหลิว นางสามารถต้านทานได้!
เสียง ตูม! ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น มู่เฉียนซีไม่ได้ใช้พลังวิญญาณแต่อย่างใด แต่สามารถต้านทานการโจมตีของเฮยหลิวได้
เพียงแค่ถอยหลังไปหลายก้าวก็เท่านั้น!
“เป็นไปได้ยังไง! ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมแล้ว! ” เฮยหลิวกล่าวด้วยความตกใจ
ฉื้อฉินเองก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ร่างของมนุษย์ผู้นี้ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก นึกไม่ถึงเลยว่าจะเก่งกาจกว่าสัตว์เทพอย่างพวกเขา นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ถูกสายฟ้าฟาดก็แข็งแกร่งขึ้นแล้วนะสิ เฮยหลิว รับการโจมตีเถอะ”
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
แม้ว่าระดับของมู่เฉียนซีจะยังไม่ได้ทะลวง แต่พลังแห่งธาตุสองชนิดนี้ก็แข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย!
พลังอำนาจช่างแข็งแกร่งมาก!
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
การโจมตีของพลังธาตุวารีและอัคคีทั้งสองพัดกระโชกมา!
ด้วยความเร็วนี้ ต่อให้เฮยหลิวทุ่มเทพลังทั้งหมดก็ไม่อาจต้านทานได้ ร่างของเขาถูกโจมตีจนกระเด็นลอยออกไป
ฉื้อฉินกล่าวดูถูกเหยียดหยามว่า “ยังมีหน้ามาพูดอีกว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเผ่าหงส์ดำผู้มีสายสายเลือดราชันย์ ดูท่าแล้วฝีมือก็งั้น ๆ!”
“ร่วมมือกันสิ! มิเช่นนั้นจะเอาชนะมู่เฉียนซีได้อย่างไรกัน”
ฉื้อฉินก็ลงมืออย่างรุนแรงเช่นกัน หงส์เพลิงตัวหนึ่งคล้ายกับลูกบอลที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟ กลิ่นอายบริเวณโดยรอบร้อนแผดเผาขึ้น
“หงส์เพลิงเริงระบำ!” ฉื้อฉินตะโกนกร้าว