ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1642 ต่อสู้กับลั่วอวี่
ในขณะที่เขากำลังเสียสติอยู่นั้น อัสนีสีม่วงด้านหน้าก็ได้อันตรธานหายไป และมู่เฉียนซีก็ร่วงตกลงมาบนพื้นดิน
แม้ว่าจะดูน่าอนาถเล็กน้อย แต่กลับดูเหมือนสามารถต้านทานการโจมตีของอัสนีสีม่วงนั้นได้
เขาเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ นี่มัน…เป็นไปไม่ได้ ข้าต้องบาดเจ็บสาหัสจนเห็นภาพลวงตาไปแล้วเป็นแน่
ครั้นแล้วเขาก็ถูกหอหลอมอัสนีส่งตัวออกไปทั้งที่ยังมีสีหน้าท่าทางที่ไม่อยากเชื่ออยู่
“เจ้า…” ฉื้อลั่วอวี่ก็ตกตะลึงพรึงเพริดมากเช่นกัน นี่มันไม่ปกติแล้ว นี่นางยังใช่มนุษย์อยู่อีกหรือไม่?
ต้องไม่ใช่แน่ ๆ หญิงสาวผู้นี้ยังแข็งแกร่งกว่าสัตว์ในร่างมนุษย์ของเผ่าหงส์เทพของพวกเขาเสียอีกกระมัง
มิเช่นนั้นจะเอาร่างกายตัวเองต้านทานการโจมตีของอัสนีสีม่วงได้อย่างไรกัน
นางย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่ามู่เฉียนซีไม่ได้ใช่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพเหมือนนาง!
อัสนีสีม่วงนั้นแข็งแกร่งมาก ร่างของมู่เฉียนซีในตอนนี้ชาไปหมดแล้ว
ความเจ็บปวดอันน่ากลัวทำให้ร่างของนางกระตุกขึ้น หากไม่ใช่เพราะนางได้ฝึกฝนร่างกายมาแล้วเจ็ดชั้น คาดว่านางคงถูกคัดออกในการโจมตีจากสายฟ้าแล้วเป็นแน่ อีกอย่างไม่แน่อาจจะต้องนอนพะงาบรักษาตัวอยู่หลายเดือนแน่นอน
ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!
การโจมตีฟาดฟันลงมาอีกครั้ง!
ก่อนหน้านี้ฉื้อลั่วอวี่และพวกสามารถหลบหลีกได้ แต่มาถึงตอนนี้แล้วไม่สามารถหลบหลีกได้ เผชิญหน้ากับสายฟ้าที่ตามไล่ล่าพวกนางเหล่านี้แล้ว ฉื้อลั่วอวี่ทำได้เพียงแค่ใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพต้านทานครั้งต่อครั้งเท่านั้น
ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!
มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพก็ใช่ว่าจะคงกระพันเสมอไป
แกร่ก!
เมื่อมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพปรากฏรอยร้าวขึ้น ในใจของฉื้อลั่วอวี่ก็สั่นสะท้านขึ้น
แต่มู่เฉียนซีกลับสามารถต้านทานได้ครั้งแล้วครั้งเล่า อีกทั้งยังดูเหมือนว่าสามารถต้านทานได้อย่างง่ายดาย นางรู้สึกเหมือนเห็นผีแล้วก็มิปาน
ฉื้อลั่วอวี่กัดฟันกรอด ไม่ว่ายังไงนางก็ต้องออกไปจากชั้นที่แปดก่อนที่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนี้จะพัง มิเช่นนั้นแล้วต้องถูกคัดออกเป็นแน่
มู่เฉียนซีกำลังใช้อัสนีสีม่วงฝึกร่างกายของตนเองอยู่ การเดินมาข้างหน้าของนางจึงเชื่องช้ามาก
ส่วนฉื้อลั่วอวี่ย่างเท้าก้าวเดินด้วยความยากลำบาก ความเร็วในการเดินของนางก็เชื่องช้ามากเช่นกัน
ตลอดการเดินทางมาถึงเจ็ดแปดชั้น ในใจของฉื้อลั่วอวี่นั้นรู้ดีว่ามู่เฉียนซีมีการเปลี่ยนแปลง และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนั้นไม่ใช่พลังวิญญาณ แต่เป็นร่ายกายของนาง!
ฉื้อลั่วอวี่กล่าว “หญิงบ้านางนี้! นี่นาง…นี่นางกำลังใช้อัสนีสีม่วงฝึกร่าง ช่างบ้ายิ่งนัก!”
“หรือว่า ก่อนหน้านี้ที่นางเชื่องช้าก็เป็นเพราะว่า…”
ทุก ๆ ชั้นที่ผ่านมานางใช้สายฟ้าฝึกร่างกายเพื่อให้ร่างกายของนางแข็งแกร่งขึ้น
แต่พวกเขากลับคิดไม่ถึง!
ไม่มีใครยอมรับความเจ็บปวดทรมานเช่นนั้น!
และไม่มีใครยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อที่จะถูกคัดออกเด็ดขาด!
ทว่า มู่เฉียนซีกลับทำมัน!
ดูเหมือนว่าทั้งสองจะมาถึงจุดสิ้นสุดทางพร้อม ๆ กัน
สภาพของมู่เฉียนซีดูจนตรอกกว่าฉื้อลั่วอวี่มาก ทว่า ฉื้อลั่วอวี่กลับไม่ดีใจเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าภายนอกที่ดูจนตรอกนั้นคือมู่เฉียนซี แต่คนที่จนตรอกจริง ๆ นั้นกลับเป็นนางต่างหาก
หากไม่มีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพคอยปกป้อง คาดว่านางคงจะถูกคัดออกไปตั้งนานแล้ว
ระหว่างชั้นที่แปดกับชั้นที่เก้าก็มีม่านแสงหนึ่ง แต่ม่านแสงนี้ไม่ได้มีอันตรายใด ๆ อีกทั้งยังสามารถหลบภัยจากสายฟ้าได้อีกด้วย
ตรงนี้ปลอดภัยมาก สามารถพักได้ชั่วคราว
อัสนีสีม่วงชั้นที่แปดยังอันตรายมากถึงเพียงนี้ มู่เฉียนซีคาดเดาได้เลยว่าความท้าทายในชั้นที่เก้านั้นยากเย็นมากเพียงใด ดังนั้นนางต้องพักและทำให้ตนเองอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด
ฉื้อลั่วอวี่กล่าว “เจ้าช่างฉลาดยิ่งนัก! นึกไม่ถึงเลยว่าจะใช้สายฟ้าฝึกร่างกายจนมาถึงขั้นนี้ได้! การฝึกร่างของเจ้าไม่ธรรมดาจริง ๆ”
ฉื้อลั่วอวี่พูดกับมู่เฉียนซี แต่มู่เฉียนซีกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการรักษาบาดแผล จึงไม่ได้สนใจคำพูดของนาง
ใบหน้าของฉื้อลั่วอวี่เผยความโกรธเกรี้ยวออกมา
“แม้ว่าเจ้าจะฉลาดที่มาถึงชั้นนี้ได้ แต่เจ้าก็มาได้เพียงเท่านี้!”
เปลวไฟสีแดงฉานพุ่งออกมาและมุ่งเป้าไปที่มู่เฉียนซี
ตอนนี้มู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่เป็นโอกาสดีที่จะลงมือกับนาง
มิเช่นนั้นนางอาจจะเป็นศัตรูตัวฉกาจอย่างแน่นอน
การที่ฉื้อลั่วอวี่โจมตีนาง มู่เฉียนซีรับรู้ได้ก่อนหน้านี้แล้ว
แต่นางก็ไม่ได้หลบหลีกแต่อย่างใด
ตูม!
หมัดหนึ่งที่เต็มไปด้วยพลังแห่งเปลวเพลิงของหงส์เพลิงพุ่งเข้าหามู่เฉียนซี ร่างของมู่เฉียนซีแค่ถอยหลังไปหลายสิบก้าวก็เท่านั้น
มู่เฉียนซีลืมตาขึ้น มองไปที่ฉื้อลั่วอวี่พลางกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าอยากโดนคัดออกตรงนี้ เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าได้สมความปรารถนา”
นางต้องการที่จะไปหาคัมภีร์หมื่นคำสาปที่ชั้นเก้า มีคนเพิ่มอีกหนึ่งคน ตัวแปรก็เพิ่มมาอีกหนึ่ง!
ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามลงมือก่อน เช่นนั้นก็ต้องทำให้นางตกรอบไปซะตั้งแต่ที่นี่ มันคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว
“อยากจะปล่อยข้า คงเป็นไปไม่ได้!”
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของฉื้อลั่วอวี่ปะทุขึ้น จากนั้นลูกบอลเพลิงสีแดงก่ำลูกหนึ่ง ก็พุ่งมาทางมู่เฉียนซี
“ฝนเพลิงคลั่งพิฆาต!”
พลังอันน่าสะพรึงกลัว พุ่งเข้าโจมตีมู่เฉียนซี
ฟึ่บ ฟึ่บ! มู่เฉียนซีหลบหลีกด้วยความรวดเร็ว จากนั้นแค่การสะบัดครั้งเดียวของกระบี่มังกรเพลิงก็ทำให้ฉื้อลั่วอวี่ระเบิดออก
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ตูม!
พลังวิญญาณธาตุอัคคีที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดขึ้นท่ามกลางม่านแสงในชั้นที่แปด
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
ความแข็งแกร่งทางร่างกายของฝ่ายตรงข้าม และความรวดเร็ว ต่างก็เหนือกว่านางมาก!
แม้พลังวิญญาณจะอ่อนแอ แต่หากเป็นทักษะทางจิตวิญญาณของพลังการต่อสู้จะไปที่ไหนได้?
นาง ดูถูกผู้หญิงคนนี้เกินไปจริง ๆ
“ไฟอมตะ ระเบิดเพลิง!”
ภายใต้เปลวเพลิงที่เผาไหม้ ความแข็งแกร่งของฉื้อลั่วอวี่ก็ยิ่งก้าวขึ้นไปอีกขั้น
ด้วยวิธีการลับ นี่เป็นวิธีการลับในการเลื่อนขั้นความสามารถของเผ่าหงส์เพลิง
หากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดถูกแบ่งระดับแล้วละก็ เช่นนั้นฉื้อลั่วอวี่ก็จะอยู่ในลำดับที่สามมาก่อน และตอนนี้ก็ได้พุ่งขึ้นมาถึงระดับสี่ได้อย่างกะทันหัน
ความสามารถของนาง แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นแล้ว!
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า หากข้าเป็นเจ้าแล้วละก็ คงจะต้องล่าถอยไปอย่างแน่นอน และไม่นำความอัปยศมาสู่ตนอยู่ที่นี่แน่!”
“อ๋อ! เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงไม่ล่าถอยออกไปสักทีละ!”
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ! เสียงฝ่าทะลวงดังออกมานับไม่ถ้วน ฉื้อลั่วอวี่เริ่มระเบิดการโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
แม้แต่ตอนนี้การโจมตีของนางก็ไม่สามารถทำให้มู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ แต่ทว่าก็มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
มู่เฉียนซีกับฉื้อลั่วอวี่ต่อสู้กันไปมานับครั้งไม่ถ้วน ท่ามกลางแรงกดดันไปที่ละก้าวของนาง เดิมทีแล้วระดับของนางอยู่ในระยะคอขวดแต่ก็สามารถทะลวงผ่านไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ผู้บำเพ็ญภูตขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสี่! เทียบเท่ากับความแข็งแกร่งสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าที่อ่อนแอที่สุด
“เจ้า…ไม่คิดว่าเจ้าจะเลื่อนขั้นที่หอหลอมอัสนีนี่จริง ๆ!”
บนใบหน้าของฉื้อลั่วอวี่ฉายแววมึนงงออกมา จากนั้นก็ไล่โจมตีมู่เฉียนซีต่อไปอย่างไม่ลดละ
แม้ว่าจะทะลวงผ่านไปได้ แล้วมันอย่างไรกันล่ะ?
นางจะต้องชนะอย่างแน่นอน!
“ทักษะโยวจั๋ว!”
มู่เฉียนซีลงมือโจมตีอย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย “ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!”
ในระหว่างแสงสว่างวาบชั่วพริบตา พวกเขาต่อสู้กันไปมาหลายสิบรอบ
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
มังกรน้ำแข็งขนาดมหึมา เจาะทะลวงเกาะป้องกันเปลวเพลิงของฉื้อลั่วอวี่อย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย
อันตราย!
ฉื้อลั่วอวี่เสียสละเอามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพป้องกันของนางออกมา แกร่ก! ธาตุน้ำแข็งเป็นธาตุปรปักษ์กับธาตุอัคคี
เดิมทีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนี้ถูกอัสนีสีม่วงโจมตีจนเกิดรอยร้าวมาแล้ว และเมื่อมังกรน้ำแข็งพุ่งเข้ามา มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ป้องกันนี้ ก็เลยแตกออกเป็นชิ้น ๆ ไปเสียแล้ว!
ดวงตาของฉื้อลั่วอวี่เบิกกว้าง “โล่เทพเปลวเพลิงอัคคี!”
เมื่อโล่เทพเปลวเพลิงอัคคีหายไปแล้ว ในตอนที่นางอยู่ชั้นที่เก้า จะต้องลำบากมากอย่างแน่นอน
ยิ่งกว่านั้น เมื่อถึงเวลานางจะอธิบายกับท่านพ่อว่าอย่างไร!
เงาร่างสีม่วง พุ่งมาถึงเหนือศีรษะของฉื้อลั่วอวี่แล้ว
จากนั้นมู่เฉียนซีก็ใช้ดาบฟันลงมา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า “เพลิงสังหารซิวหลัว!”
นางปวดใจที่มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพของนางเผยข้อบกพร่องออกมาแล้ว!
ตูม!
ดาบที่กวัดแกว่งนี้ ทำให้ฉื้อลั่วอวี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ปัง! ฉื้อลั่วอวี่ล้มลงไปบนพื้น แล้วกระอักเลือดออกมา พร้อมทั้งใบหน้าที่เริ่มซีดเซียว!
ในขณะที่นางคิดจะโจมตีต่อไปนั้น กระบี่ยาวธาตุอัคคีที่น่าสะพรึงกลัวเล่มหนึ่ง ก็พาดลงมาที่คอของนางจากทางด้านหลังในเวลานี้
“อย่าขยับ!”