ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1653 เอาเจ้าไปมัดจำ
เริ่มคนเดียว หลายคนยิ่งวิจารณ์
“ขวงจวิ้นอ๋องผู้นี้ช่างใจกว้างเสียจริง! เคล็ดวิชาเช่นนี้จะมอบให้ผู้อื่นอย่างง่ายดายได้อย่างไรกัน?”
“แม่นางมู่ พวกท่านคงจะไม่รู้ว่าแม่นางมู่เป็นผู้ใดใช่หรือไม่? นางก็คือผู้ที่ผูกสัญญากับสายเลือดราชันย์หงส์นิล และยังเป็นผู้ที่บุกขึ้นไปถึงชั้นเก้าของหอหลอมอัสนีอีกด้วย การที่ขวงจวิ้นอ๋องมอบของขวัญที่ล้ำค่าเช่นนี้ให้กับนาง ก็เป็นเรื่องที่ปกติมากอยู่แล้ว”
“แม่นางมู่มีโชคแล้ว”
ขวงจวิ้นอ๋องรู้สึกว่า มู่เฉียนซีไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธของขวัญที่มีมูลค่าสูงถึงเพียงนี้
ภายในดวงตาของหวงจิ่วเยี่ยส่องแสงเปล่งประกายแวววาว ของที่ซีต้องการ ยังไม่ถึงคราวที่จะต้องให้คนที่ไม่มีนัยสำคัญเป็นผู้นำมามอบให้
จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “สองพันล้าน!”
การเพิ่มขึ้นมามากถึงสองเท่าในชั่วพริบตา ทำให้สีหน้าของขวงจวิ้นอ๋องบูดบึ้งไปในทันที
มู่เฉียนซีหมายความว่าอย่างไร? เขาพูดไปถึงเพียงนี้แล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าจะไม่เห็นแก่หน้าของเขาเลยสักนิด
ถึงแม้ว่าเขาจะควบคุมดูแลสิทธิส่วนใหญ่ของเผ่าหงส์นิล แต่ทว่าก็เป็นเรื่องยากที่จะเอาสองพันล้านผลึกวิญญาณหงส์ออกมาได้ในทันที อย่างไรเสียการคลังของเผ่าหงส์นิลในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
ขวงจวิ้นอ๋องไม่ได้เสนอราคาต่อไปอีก สุดท้ายแล้ว “เคล็ดวิชาโม่หยวนนิพพาน” นี้ก็ถูกมู่เฉียนซีประมูลไปได้ด้วยราคาสองพันล้าน
เจ้าเมืองโม่เชวี่ยในตอนนี้รู้สึกมึนงงไปหมดแล้ว เรื่องนี้ควรที่จะสิ้นสุดลงเช่นไรกัน!
มู่เฉียนซีกล่าวเหน็บแนมจิ่วเยี่ยว่า “ฝ่าบาทจิ่วเยี่ย ท่านทำตัวร่ำรวยเพียงนี้! หากพวกข้าทั้งสองไม่มีเงินจ่าย ระวังข้าจะเอาท่านไปหมัดจำเสียล่ะ”
จิ่วเยี่ยกระซิบกล่าวว่า “ซีทิ้งข้าไม่ลงหรอก!”
ในเวลานี้สีหน้าของไป๋ฉางบูดบึ้งเป็นอย่างมาก “มู่เฉียนซีจะไปมีเงินเยอะเช่นนั้นได้อย่างไร นี่มันเป็นไปไม่ได้?”
แกร่ก! ขวงจวิ้นอ๋องบีบแก้วใบหนึ่งจนแหลก
“ฝ่าบาทจวิ้นอ๋อง อย่าโกรธเคืองไปเลยพ่ะย่ะค่ะ! เด็กน้อยผู้นั้นจะไปสามารถที่จะมีผลึกวิญญาณหงส์มากมายขนาดนั้นได้เช่นไร เกรงก็แต่ว่าจะไม่รู้กฎจึงร้องประมูลมั่วซั่ว รอให้นางพบความยากลำบากสักหน่อยแล้วพวกเราค่อยเขาไปช่วยเหลือ เมื่อถึงตอนนั้นนางยังกล้าที่จะไม่เชื่อฟังขวงจวิ้นอ๋องอีกเช่นนั้นหรือ?”
ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวว่า “ที่พูดมาก็ถูกของเจ้า ให้สาวน้อยผู้นั้นพบกับความลำบากลำบนเสียหน่อยแล้วกัน”
ในเวลานี้ เจ้าเมืองโม่เชวี่ยก็กำลังกระวนกระวายใจราวกับมดบนกระทะร้อนอย่างไรอย่างนั้น “ท่านมู่ เรื่องนี้พวกเราจะจัดการเช่นไรดีขอรับ?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จัดการไม่ไหว ก็เอายาลูกกลอนมาทุบ! อย่างไรก็ไม่มีวันขาดแคลนยาลูกกลอนหรอก!”
“นะ…นั่นเป็นไปไม่ได้ งานประมูลเมื่อหลวงก็มีกฎของงานประมูลเมื่อหลวง ข้าเกรงว่าพวกเขาคงจะไม่อาจ…”
ปัง ปัง ปัง! เจ้าเมืองโม่เชวี่ยยังไม่ทันที่จะพูดจบ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาเสียแล้ว
มาแล้ว จบเห่แน่!
แต่ทว่ามู่เฉียนซีและหวงจิ่วเยี่ยนั้นสงบนิ่งมาก อย่างไรเสียทุกปัญหาก็มีทางแก้ไขเสมอ!
ผู้ดูแลของงานประมูลในเมืองหลวงแห่งแคว้นหงส์นิล มาส่งสินค้าที่ประมูลไว้ด้วยตนเอง
ทันทีที่มองเห็นชายสวมชุดคลุมสีดำและสวมหน้ากากที่น่าหวาดกลัวคนหนึ่ง บนใบหน้าของเขาก็มีรอยยิ้มที่ประจบสอพลอขึ้นมาทันที พลางกล่าวว่า “อันที่จริงแล้วต้องขออภัยที่ข้าทำงานได้บกพร่อง ฝ่าบาทเสด็จมา ข้าน้อยก็เพิ่งจะมารู้เอาป่านนี้ ไม่คาดคิดเลยว่าจะให้ฝ่าบาทมาอยู่ในห้องส่วนตัวที่โกโรโสเช่นนี้ได้”
เจ้าเมืองโม่เชวี่ยตะลึงงัน โกโรโส เมื่อเทียบกับข้างล่างแล้ว นี่มันก็หรูหรามากแล้วนะ
จิ่วเยี่ยใช้สายตาเย็นยะเยือกมองไปที่เขาพลางกล่าวว่า “ไปเอาของมา!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
สมุนไพรวิญญาณที่มู่เฉียนซีประมูล แล้วยังมีเคล็ดวิชาเล่มนั้นได้ถูกส่งมาให้แล้ว และก็ไม่ได้มีการสอบถามเรื่องการจ่ายเงินเลยแม้แต่น้อย และสิ่งที่ไร้เหตุผลที่สุดก็คือ ผู้ดูแลการประมูลกล่าวขึ้นว่า “ฝ่าบาท พวกเรายังมีสินค้าคงคลังอีกจำนวนไม่น้อยในงานประมูลเมืองหลวงของแคว้นหงส์นิล หากพระองค์ต้องการสิ่งใดก็รับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ เพื่อพระองค์แล้วข้าน้อยจะทุ่มเทสติปัญญาเเละความสามารถ ตราบจนชีวิตหาไม่”
เจ้าเมืองโม่เชวี่ยตกตะลึงนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปเสียแล้ว ว่าที่สามีของท่านมู่ผู้นี้ แท้จริงแล้วเป็นผู้ใดมาจากไหนกันแน่
จิ่วเยี่ยมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วถามว่า “ซียังมีของอะไรที่ต้องการอยู่อีกหรือไม่?”
มู่เฉียนซีกระซิบกระซาบว่า “จิ่วเยี่ย นี่ท่านกำลังทำอะไรอยู่กันแน่?”
“ของสิ่งใดก็ตามที่อยู่ในงานประมูลนี้ หากซีต้องการก็นำไปได้เลย รวมของทั้งโรงประมูลนี้หรือแม้แต่โรงประมูลหวางเฉิงแห่งเผ่าหงส์ทั้งหมด”
ก่อนหน้านี้ยังบอกว่าสิ้นเนื้อประดาตัวอยากให้นางเลี้ยงดู ไม่คิดเลยว่าจะร่ำรวยขนาดนี้ มู่เฉียนซีรู้สึกว่าถูกผู้ชายหน้าเนื้อใจเสือผู้นี้หลอกลวงเสียแล้ว
ทันทีที่คิดไปถึงพิษของราชาโม่ นางก็ยังต้องการสมุนไพรวิญญาณอีกไม่น้อยเลย
ในเมื่อจิ่วเยี่ยกล่าวเช่นนี้ อย่างนั้นก็คงไม่เกรงใจเขาอีกแล้ว
มู่เฉียนซีเริ่มทำรายการสมุนไพรวิญญาณหลากหลายชนิด หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “อายุยิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งดี และรีบหามาให้ถึงมือข้าให้เร็วที่สุด! แน่นอนว่า ข้าจะไม่ปฏิบัติต่อโรงประมูลของพวกเจ้าอย่างขาดความยุติธรรม”
อย่างไรก็ตามยาลูกกลอนระดับต่ำที่นำมาประมูลในวันนี้ ต่างก็ขายออกไปได้ในราคาที่สูง
นางทำยาลูกกลอนอะไรก็ได้ออกมาสักสองสามขวด ก็คงเพียงพอที่จะจ่ายคืนพวกเขาแล้ว
ผู้ดูแลกล่าวว่า “นายหญิง นี่ท่านกำลังพูดถึงเรื่องใดหรือ? การที่พวกท่านสามารถมาถึงโรงประมูลของพวกเราได้ นั่นก็ถือเป็นเกียรติของพวกเราอย่างยิ่งแล้ว ข้าจะรีบส่งคนไปเตรียมมาให้ท่านทันที”
หลังจากที่ผู้ดูแลจากไปแล้ว ก็ได้สั่งให้คนเตรียมขนมอบใหม่และผลไม้ที่คุณภาพดีเยี่ยมมาให้ อีกทั้งยังสั่งให้คนมาเฝ้าอยู่ที่นี่ เพื่อที่จะได้ไม่มีผู้ใดเข้าไปรบกวนฝ่าบาทจิ่วเยี่ย
เจ้าเมืองโม่เชวี่ยรู้สึกราวกับว่ากำลังฝันอยู่อย่างไรอย่างนั้น
จิ่วเยี่ยกล่าวว่า “ค่อยกลับไปอธิบาย”
ขวงจวิ้นอ๋องได้เตรียมการอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ไปยังห้องส่วนตัวของมู่เฉียนซีด้วยตนเองเพื่อที่จะไปหามู่เฉียนซี
ทันทีที่มาถึงประตูห้องส่วนตัวก็ได้เห็นยอดฝีมือระดับสูงของโรงประมูลหวางเฉิงหลายคนเฝ้าอยู่ตรงนั้น และในดวงตาของเขาก็มีแสงมืดแวววาวปรากฎขึ้น
เกิดเรื่องอย่างที่คาดไว้ และนี่ก็อยู่ในสิ่งที่เขาได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว
ขวงจวิ้นอ๋องคิดอยากจะเข้าไป แต่กลับถูกคนมาขวางเอาไว้เสียก่อน
เขากล่าวว่า “พวกเจ้า แม้แต่ข้าก็ไม่รู้จักแล้วเช่นนั้นหรือ?”
คนหนึ่งในนั้นกล่าวอย่างวางตัวได้ดีว่า “ขวงจวิ้นอ๋อง พวกเราจะต้องรู้จักท่านแน่นอนอยู่แล้ว! เพียงแต่หากไม่มีคำสั่งจากผู้ดูแลของพวกเรา ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจเข้าไปข้างในได้”
ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ไปแจ้งผู้ดูแลของพวกเจ้าหน่อย ว่าข้ามีเรื่องที่สำคัญจะต้องเข้าไปพูดคุยกับแม่นางมู่ และจะไม่รบกวนการทำงานของโรงประมูลของพวกเจ้า”
“เช่นนั้นขวงจวิ้นอ๋อง ท่านโปรดรออยู่ตรงนี้เถิด!”
เพียงไม่นานก็ได้ข้อความมาจากผู้ดูแล คนผู้นั้นกล่าวว่า “ขวงจวิ้นอ๋อง เชิญด้านใน!”
“ดี! ขอบใจมาก!”
เมื่อขวงจวิ้นอ๋องเดินเข้าไป ก็มองไปทางมู่เฉียนซีที่ยังคงสงบนิ่งอยู่
แม่นางน้อยผู้นี้คาดว่าจะต้องเสแสร้งแกล้วทำเป็นสงบนิ่งอย่างแน่นอน
ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวว่า “แม่นางมู่ ครั้งนี้เจ้าถูกภัยพิบัติถาโถมเข้ามาแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าประมูลของมาโดยที่ไม่จ่ายเงิน คงจะไม่ถือว่าเป็นภัยพิบัติถาโถมเข้ามาหรอกใช่หรือไม่?”
“นี่ยังไม่นับอีกหรือ? เจ้าช่างเป็นลูกวัวเพิ่งเกิดใหม่ที่ไม่กลัวเสือเสียจริง ทั่วทั้งเผ่าหงส์ต่างก็รู้ดีว่าไม่อาจผิดใจกับโรงประมูลหวางเฉิงได้! เจ้านายที่อยู่เบื้องหลังเขา ก็คือคนโปรดของท่านเทพราชา”
“แต่ทว่า คนก็กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว ก็ไม่มีทางเลือก”
ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวว่า “แม่นางมู่ หากว่าเจ้าให้เสี่ยวโม่โม่มาเป็นลูกสาวบุญธรรมของข้า ข้าจะช่วยเจ้าจัดการหนี้ก้อนใหญ่นี้ให้เอง! เจ้าคิดว่าเป็นเช่นไร”
“ข้ารู้สึกว่าขวงจวิ้นอ๋องไม่เหมาะสมที่จะให้เสี่ยวโม่โม่เป็นลูกสาวบุญธรรม เช่นนั้นช่างมันไปเสียเถอะ!”
“จะ…เจ้ายังจะดึงดันจนถึงตอนนี้อีกหรือ! ไม่มีข้าคอยแก้ปัญหาให้ คนของโรงประมูลหวางเฉิงไม่อาจปล่อยเจ้าไปแน่นอน” ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ถึงจะเป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่อาจเอาเสี่ยวโม่โม่ไปขายเเพื่อเงินได้หรอก! เชิญขวงจวิ้นอ๋องกลับไปเสียเถอะ”
ขวงจวิ้นอ๋องกล่าวอย่างจริงใจเป็นอย่างมาก “นี่จะถือว่าขายได้อย่างไร? นี่ข้าต้องการที่จะช่วยเหลือเจ้าจัดการปัญหาด้วยใจจริง และยังชอบเสี่ยวโม่โม่ด้วยความจริงใจอีกด้วย”
เจ้าเมืองโม่เชวี่ยยืนดูการแสดงอยู่อีกด้านหนึ่ง โดยไม่พูดอะไรสักคำ!
ท่านมู่สามารถซื้อของจากโรงประมูลหวางเฉิงได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเลย การที่ขวงจวิ้นอ๋องมาในครั้งนี้ กลายเป็นเรื่องเกินความจำเป็นไปโดยสิ้นเชิง เนื่องจากเดิมทีแล้วท่านมู่ก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือของเขาเลยสักนิด