ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1663 เพื่อนบ้านข้างห้อง
ครูฝึกจื่อไม่เห็นแก่หน้าของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ฉะนั้นชิงเสี้ยวเทียนและชิงอ้าวเทียนจึงถูกส่งไปทำการลงโทษทันที
และคนที่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นอีกจำนวนไม่น้อยก็กล่าวขึ้นว่า “สมน้ำหน้า!”
ในส่วนของคนที่คิดอยากจะลงมือแย่งชิงห้องมาไว้ในครอบครองเหล่านั้น ต่างก็ต้องยอมล้มเลิกความตั้งใจไป
ครูฝึกจื่อไม่ได้บอกว่าสามารถแย่งได้ แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่อาจรนหาเรื่องเดือดร้อนเช่นนั้นได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ก็ทำให้คนที่คว้าห้องมาไว้ได้ก็สามารถฝึกฝนได้อย่างสบายใจ
เมื่อถึงยามค่ำคืน ด้านนอกก็เปลี่ยนเป็นหนาวเหน็บขึ้นอย่างกะทันหัน
อากาศที่หนาวเหน็บนั้นเย็นจนทำให้นอนไม่หลับ ถึงจะเป็นร่างกายของสัตว์เทพหงส์ต่างก็รับไม่ค่อยไหวเช่นเดียวกัน
“แน่นอนว่าต้องจงใจอยู่แล้ว ที่จริงพวกเขาเลือกแล้วว่าจะใช้ที่ใดในการฝึกฝนพิเศษ”
“มันทรมานกันเกินไปแล้ว”
“……”
ในค่ำคืนนี้ คนที่ไม่มีสถานที่นอนต่างก็ส่งเสียงบ่นดังกึกก้องไปทั่ว
แต่ทว่ามู่เฉียนซีและเสี่ยวโม่โม่ได้ฝึกฝนอยู่ในห้องที่มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เลวเลย
ปัง ปัง ปัง! หลังจากที่ฝึกฝนไปแล้วครู่หนึ่ง มู่เฉียนซีได้ยินเสียงคนเคาะหน้าต่าง
เมื่อมู่เฉียนซีเปิดหน้าต่างออกมา ก็มองเห็นใบหน้าที่อ่อนโยนและมีรูปลักษณ์ของผู้ที่มีการศึกษาผู้หนึ่ง มู่เฉียนซีจึงกล่าวถามว่า “มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?”
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “ทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนบ้านกันทั้งนั้น ข้าอยากที่จะรู้จักเจ้าสักหน่อย ได้หรือไม่? ข้าคือ หลานเนี้ยนหลี่แห่งเผ่าหงส์คราม”
มู่เฉียนซีเป็นคนหนึ่งที่มีความพิเศษมากที่สุดในค่ายฝึกฝนนี้ เนื่องจากว่าไม่มีใครเห็นคนที่ผูกพันธสัญญากับนางเลย
เพียงแต่ว่าสามารถมาถึงที่นี่ได้ แน่นอนว่าจะต้องมีการผูกพันธสัญญากับหงส์อยู่แล้ว
อีกทั้งยังมีความเร็วที่แปลกประหลาด จนทำให้ผู้คนยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้นไปอีก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มู่เฉียนซีแห่งเผ่าหงส์นิล”
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ยินดีที่ได้รู้จักเจ้า ราตรีสวัสดิ์”
“ราตรีสวัสดิ์!”
ในคืนนี้ มู่เฉียนซีนอนหลับเป็นอย่างดี เนื่องจากห้องนี้มีการป้องกันที่ดีเป็นอย่างมาก
เช้าวันรุ่งขึ้น ก็มีเสียงระฆังดังกึกก้องขึ้นมา
“รวมตัว! ใครสาย ไสหัวไปให้พ้น!”
ทุกคนต่างมาด้วยความเร็วที่มากที่สุด เพื่อรีบพุ่งเข้าไปยังจุดรวมตัว
หลังจากนั้น ครูฝึกจื่อก็ได้แจกสร้อยสีม่วงให้แก่ทุกคนคนละเส้น
“ใส่ซะ!”
ผลที่ได้ก็คือหลังจากที่พวกเขาใส่เข้าไปแล้ว ก็มีเรื่องที่ผิดปกติเกิดขึ้น
พลังวิญญาณของพวกเขา ไม่สามารถไหลเวียนได้อย่างสมบูรณ์!
บนร่างกาย ดูเหมือนว่าจะรับน้ำหนักเพิ่มอีกหลายพันจิน
ถึงแม้ว่าจะมีร่างกายและพลังของเผ่าหงส์ แต่เนื่องจากไม่มีพลังวิญญาณ ทำให้คนที่ไร้ความสามารถบางคนเกือบที่จะล้มลงไปกองกับพื้นอยู่แล้ว
สีหน้าของครูฝึกจื่อมืดมนลง ในตอนนี้ พวกคนหนุ่มสาวเหล่านี้ล้วนแต่เริ่มอ่อนแอมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
“ครูฝึกจื่อ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
“ของสิ่งนี้มันกักขังพลังวิญญาณของพวกเราไว้ พวกเราไม่ใส่มันไว้ได้หรือไม่?”
“……”
เมื่อจะต้องทำเสมือนว่าไม่มีพลังที่พวกเขาใช้พึ่งพาเพื่อความอยู่รอดมาตลอด มันกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คุ้นเคยไปในชั่วขณะหนึ่ง
ครูฝึกจื่อกล่าวว่า “พวกเจ้าเป็นคนที่ต้องเข้าไปในสุสานเทพหงส์ศักดิ์สิทธิ์ สภาพภายในมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าใจได้ บางทีอาจจะมีการกักขังพลังวิญญาณก็ได้ พวกเจ้าจึงจำเป็นที่จะต้องผ่านการฝึกฝนทางด้านนี้ด้วย เป็นเช่นนี้เราถึงจะสามารถรับมือกับวิกฤตที่ตามมาได้”
“และไม่อนุญาตให้ถอดออก เริ่มด้วยการวิ่ง! ให้วิ่งรอบ ๆ ป่าแห่งนี้ทั้งหมดหนึ่งร้อยรอบ! ใครที่วิ่งเสร็จก่อน จึงจะมีสิทธิ์ที่จะได้เลือกห้องพัก”
เมื่อกล่าวขึ้นมาว่าสามารถเลือกห้องได้ พวกเขาก็มีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย แต่ทว่าหนึ่งร้อยรอบ นี่มันไม่เยอะเกินไปหน่อยหรือ!
บริเวณโดยรอบป่านี้ ที่จริงแล้วไม่ได้ใหญ่นัก หากว่าพวกเขามีพลังวิญญาณ แล้วสามารถบินได้ละก็ ถึงจะสามร้อยรอบก็ไม่ใช่ปัญหาเลย
แต่ทว่าตอนนี้…
สายตาของครูฝึกจื่อกวาดไปที่ร่างกายของมู่เฉียนซี เขากล่าวว่า “สัตว์พันธสัญญาของเจ้า ก็จะต้องออกมาทำด้วยกัน! อย่าเอาแต่อยู่ในห้วงมิติ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตกลง!”
ผลก็คือนางได้ให้เสี่ยวโม่โม่ตัวจิ๋วเกาะอยู่บนไหล่ของนาง
ครูฝึกจื่อก็มีความแปลกใจเล็กน้อย นี่มันเล็กเกินไปแล้วหรือเปล่า เผ่าหงส์นิลคิดอะไรอยู่กันแน่?
เสี่ยวโม่โม่ก็ต้องคล้องสร้อยข้อมือไว้เช่นกัน เสี่ยวโม่โม่กล่าวว่า “นายท่าน ข้าอยากวิ่งด้วยตนเองได้หรือไม่?”
“หนึ่งร้อยรอบ เจ้าแน่ใจหรือ! ตอนนี้เสี่ยวโม่โม่จะไม่สามารถแปลงร่างเดิมได้ และก็ไม่สามารถบินได้ด้วยนะ!”
“ข้าทำได้!”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ครูฝึกจื่อ ไม่จำเป็นที่ข้าและสัตว์พันธสัญญาจะต้องทำภารกิจเสร็จพร้อมกันถึงจะสามารถเลือกห้องได้ใช่หรือไม่?”
“ไม่จำเป็น ตราบใดที่มีคนหนึ่งที่ทำสำเร็จ ก็เพียงพอแล้ว”
“เช่นนั้นก็ดี”
อากาศตอนกลางคืนของที่นี่เลวร้ายเป็นอย่างมาก และยังไม่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
ครูฝึกกล่าวว่า “ตอนนี้! เริ่มได้! เร่งทำเวลาเข้า”
“นายท่าน ท่านวิ่งไปก่อนเลย! ท่านจะต้องเอาที่หนึ่งมาให้ได้” เสี่ยวโม่โม่กล่าว
“เช่นนั้นเจ้าก็พยายามเข้า ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถทำได้”
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว!”
คนเหล่านี้ เมื่อไม่มีพลังวิญญาณแล้วก็รู้สึกราวกับว่าถูกมัดมือมัดเท้าไว้ และยังมีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น มันยิ่งทำให้มีความเร็วที่ช้ามากขึ้นไปอีก
สำหรับมู่เฉียนซีแล้วเรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหามากเท่าไรนัก ฉะนั้นนางจึงใช้ความเร็วสูงสุดในการวิ่งออกไป
ป่าผืนนี้สำหรับหงส์แล้วไม่ถือว่าใหญ่เลย แต่สำหรับมนุษย์นั้นมันถือว่ากว้างใหญ่มาก การวิ่งหนึ่งร้อยรอบจึงเป็นภารกิจที่หนักหนามากเลยทีเดียว
ในตอนที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน มู่เฉียนซีก็ทำภารกิจสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย ในตอนนี้ทั่วทั้งศีรษะของนางนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
หลังจากที่วิ่งเสร็จแล้ว มู่เฉียนซีก็ได้ครอบครองห้องแรกเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงแต่ระยะห่างที่เสี่ยวโม่โม่จะทำภารกิจสำเร็จนั้น ซึ่งยังคงมีหนทางอีกยาวไกลเป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เรียนครูฝึก หากข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ สิทธิ์ของห้องนี้จะตกไปเป็นของผู้อื่นหรือไม่?”
ครูฝึกจื่อกล่าวว่า “เจ้าที่เป็นคนแรก แน่นอนว่ามันต้องเป็นของเจ้า!”
“เช่นนั้นก็ดี! อย่างนั้นข้าจะไปวิ่งต่ออีกสักหน่อย”
ต่อมา มู่เฉียนซีก็ไปวิ่งช้า ๆ เป็นเพื่อนเสี่ยวโม่โม่
เสี่ยวโม่โม่นั้นซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก “นายท่าน!”
“นายท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ!”
“หากว่าข้าไม่อยู่ด้วย แล้วเจ้าถูกคนอื่นรังแกจะทำเช่นไร?” มู่เฉียนซีกล่าว
“ดูท่าแล้ว อีกไม่นานก็จะทำได้สำเร็จแล้ว”
ถึงแม้ว่าเสี่ยวโม่โม่จะเล็กอยู่มาก แต่ทว่าในทางกลับกัน กลับไม่ใช่คนที่ช้าที่สุด
มีหลายคนที่มีความอดทนไม่เพียงพอ แค่มาถึงข้างหลังก็กินแรงไปมากแล้ว ส่วนเสี่ยวโม่โม่ที่มีมู่เฉียนซีอยู่เป็นเพื่อน กลับมีแรงอดทนที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก
สุดท้ายแล้วเสี่ยวโม่โม่ก็วิ่งเสร็จจนได้ และเมื่อเห็นว่าเสี่ยวโม่โม่วิ่งเสร็จแล้ว แต่กลับยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังวิ่งไม่เสร็จ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ครูฝึกจื่อเดือดดาลยิ่งขึ้น
“ตอนนี้ผู้ใดที่ยังวิ่งไม่สำเร็จ ทั้งหมดออกไปให้พ้นจากค่ายฝึกฝนของข้า! แม้แต่เจ้าตัวน้อยนี้ พวกเจ้าก็ยังสู้ไม่ได้ ยังมีหน้าที่จะอยู่ที่นี่อีกเช่นนั้นหรือ?”
นี่เป็นราวกับฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ!
“ครูฝึก ท่านฟังพวกเราอธิบายก่อนนะขอรับ! พวกข้ายังไม่อาจปรับพลังวิญญาณได้ในช่วงขณะหนึ่ง ให้เวลาพวกเราอีกสักวันก็เพียงพอแล้ว”
“ใช่แล้ว! ความสามารถของพวกเราแข็งแกร่งมากนะขอรับ! หากท่านครูฝึกปล่อยพวกเราไป มันจะต้องเป็นความผิดพลาดของพวกท่านอย่างแน่นอน”
ครูฝึกจื่อกล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นยะเยือกว่า “คำพูดไร้สาระนี่มีมากเสียจริง โยนออกไปซะ!”
“เฮ้อ!”
ขณะที่ครูฝึกจื่อกำลังจัดการกับคนไร้ประโยชน์เหล่านั้น เสี่ยวโม่โม่ก็เหนื่อยจนนอนคว่ำไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ฝึกฝนในระดับแข็งแกร่งเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย มันจึงทำให้ร่างกายเล็ก ๆ นี้ค่อนข้างที่จะรับไม่ไหว
ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังเตรียมที่นำยาน้ำมาฟื้นฟูให้กับเสี่ยวโม่โม่นั้น ก็มีแสงสว่างสีฟ้าอ่อนมาปกคลุมเสี่ยวโม่โม่เอาไว้เสียก่อน
แสงสว่างนี้มีความสามารถในการรักษาตนเองอยู่ด้วย ทำให้เสี่ยวโม่โม่สามารถฟื้นฟูได้ในชั่วพริบตา
และคนที่ลงมือทำนั้น ก็คือหลานเนี้ยนหลี่
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ขอบคุณท่านมาก!”
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “วันนี้พวกเราก็ได้เป็นเพื่อนบ้านกันอีกแล้ว ไม่ต้องเกรงใจเลย! ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อยากที่จะเห็นเจ้าตัวน้อยที่น่ารักเช่นนี้ต้องได้รับความทุกข์ทรมานหรอก”
เสี่ยวโม่โม่ซ่อนอยู่ภายในอ้อมแขนของมู่เฉียนซีด้วยความเขินอาย มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะมีน้ำใจมากถึงเพียงนี้”
มู่เฉียนซีได้รับที่หนึ่ง ส่วนหลานเนี้ยนหลี่ได้รับที่สอง
มู่เฉียนซีรู้ดีว่า คนผู้นี้อาจจะดูเหมือนเป็นผู้ชายที่มีกิริยาสุภาพเรียบร้อยแต่ทว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และนางก็ไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับเขาด้วย
ในสองสามวันต่อมาต่างก็เป็นการวิ่ง และวิ่ง ตอนนี้เสี่ยวโม่โม่ปรับตัวได้มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
หลังจากที่รอให้การฝึกฝนครั้งนี้สิ้นสุดลง ครูฝึกจื่อก็เริ่มแผนต่อไปในทันที
“ต่อไป จะเป็นการฝึกฝนแบบต่อสู้! พวกเจ้าทุกคนต่างก็จะได้รับแจกจ่ายหุ่นเชิดสัตว์สงครามหนึ่งตัวเป็นคู่ต่อสู้ ความแข็งแกร่งของมันจะปรับไปตามความแข็งแกร่งของตัวพวกเจ้าเอง”
“มนุษย์จะต้องแยกจากผู้ทำสัญญา และจะต้องจัดการกับคู่ต่อสู้ด้วยตนเอง!”