ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1665 คำชี้แน่ะของจิ่วเยี่ย
หรือจะพูดได้ว่า ชิงเสี้ยวเทียนพ่ายแพ้ไปแล้ว เผ่าหงส์หยก ก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว
ชิงเสี้ยวเทียนไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีทางเลือก
เหตุใดเขาถึงได้มีความรู้สึกว่าครูฝึกค่อนข้างที่จะเข้าข้างมู่เฉียนซี? แต่ทว่าเขาเป็นผู้นำครูฝึกในครั้งนี้ ดังนั้นเมื่อพูดอะไรก็ต้องเป็นเช่นนั้น
มู่เฉียนซีก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย กับเรื่องที่ครูฝึกผู้มีใบหน้าที่เย็นชานี้ทำอยู่ตลอด แต่ทว่ามันก็ดีมากเลยจริง ๆ
ปัง ปัง ปัง! เมื่อการต่อสู้ครั้งใหญ่โดยรอบสิ้นสุดลง ห้องอื่นอีกแปดห้องต่างก็ถูกเปลี่ยนเจ้าของไปหมด แต่ทว่าห้องแรกกับห้องที่สองยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “แม่นางมู่ ดูเหมือนว่าพวกเราจะได้เป็นเพื่อนบ้านกันอีกครั้งแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างราบเรียบว่า “ใช่แล้วล่ะ!”
ทันใดนั้น ที่ห้องของมู่เฉียนซีก็ถูกพลังบางอย่างตัดขาดทุกสิ่งออกไปภายในชั่วลมหายใจ พลันนั้นนางก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความก้าวร้าวของคนคนหนึ่ง
“จิ่วเยี่ย ท่านทำธุระเสร็จแล้วอย่างนั้นหรือ”
จิ่วเยี่ยเข้ามาใกล้มู่เฉียนซีแล้วกล่าวสองคำออกมาที่ข้างหูของนางว่า “เพื่อนบ้าน!”
“ก็เป็นเพื่อนบ้าน เขาเป็นเพื่อนบ้านที่เพิ่งรู้จักได้สามวันเท่านั้นเอง ท่าน…”
“อุ้บ…”
สามารถอยู่ใกล้ซีได้ถึงเพียงนี้ ทำให้ราชาจิ่วเยี่ยผู้นี้หึงไม่น้อยเลยทีเดียว
ในที่สุดหลังจากที่แยกออกจากกันแล้ว มู่เฉียนซีก็เห็นว่าเสี่ยวโม่โม่หันหลังให้พวกเขาอย่างเขินอาย!
แสดงความเสน่หาต่อหน้าเด็กน้อยเช่นนี้ เป็นเรื่องที่พูดไม่ออกเลยจริง ๆ มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย ท่านมาก็ดีแล้ว ตอนนี้เสี่ยวโม่โม่ปรับตัวเข้ากับการต่อสู้จริงได้แล้ว ท่านช่วยค่อย ๆ ชี้แนะให้เจ้าตัวน้อยนี้หน่อยเถอะ!”
มู่เฉียนซีได้ทิ้งเสี่ยวโม่โม่ไว้ที่จิ่วเยี่ย สำหรับเสี่ยวโม่โม่แล้วยังมีความหวาดกลัวต่อจิ่วเยี่ยอยู่เล็กน้อย แต่มันก็รู้ว่าคนนี้ก็คือคนสำคัญที่สุดของนายท่าน ความหวาดกลัวเพียงเล็กน้อยแค่นี้สามารถพิชิตได้อยู่แล้ว
จิ่วเยี่ยเหลือบมองไปทางเสี่ยวโม่โม่แล้วกล่าวว่า “ดี!”
อู๋ตี้และเสี่ยวหงทั้งสองคนนั้นเป็นคนที่มั่วนิ่มเก่งที่สุด แล้วจะไม่ให้มู่เฉียนซีต้องเป็นกังวลใจได้อย่างไร?
แต่เสี่ยวโม่โม่เป็นเพียงเด็กแรกเกิดเท่านั้น ทั้งยังไม่ไว้ใจที่จะมอบให้เจ้าทั้งสองนั้นดูแลอีกด้วย เช่นนั้นมอบให้จิ่วเยี่ยยังดีเสียกว่าอีก
จิ่วเยี่ยตอบตกลงอย่างว่าง่าย และเขาก็ให้มู่เฉียนซีเอาเสี่ยวโม่โม่กลับเข้าไปในห้วงมิติ เพื่อที่ได้อยู่ในโลกของพวกเขากันแค่สองคน
ในวันที่สอง ก็ยังเป็นการฝึกฝนโดยการต่อสู้จริง
มู่เฉียนซีและเสี่ยวโม่โม่ออกมาค่อนข้างช้า และในครั้งนี้ชิงอ้าวเทียนก็ได้เป็นคนยึดครองตำแหน่งไว้แล้ว
เขากล่าวว่า “ครั้งนี้ จะไม่ปล่อยให้เจ้าประสบความสำเร็จได้!”
“เรื่องของข้า แต่ก็ไม่อยากที่จะมาเสียเวลากับเจ้าหรอก”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาหลายเล่มพุ่งออกมา ชิงอ้าวเทียนนั้นโกรธเคืองมาก
“เจ้า…ไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะกล้าใช้อาวุธลับ!”
“ครูฝึกไม่ได้บอกว่าไม่สามารถใช้อาวุธลับได้นี่!”
หนึ่ง สอง สาม เพียงชั่วอึดใจ ชิงอ้าวเทียนและผู้ผูกพันธสัญญาของเขาก็ล้มลงไป
หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาท้าทายมู่เฉียนซีอีก แต่ก็ถูกมู่เฉียนซีจัดการไปจนหมด และเป็นอีกครั้งที่นางได้อยู่ห้องแรก
หลานเนี้ยนหลี่เคาะหน้าต่างห้องของมู่เฉียนซี เขากล่าวว่า “นี่พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกันมาสี่วันแล้ว”
“อื้ม!” มู่เฉียนซีพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “หากคุณชายหลานยังสามารถที่จะอยู่ต่อละได้ก็ เกรงว่าอาจจะมากกว่าสี่วันก็ได้”
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “แม่นางมู่เป็นนักปรุงยา”
“ไม่คิดเลยว่าจะถูกท่านมองออกเสียแล้ว” มู่เฉียนซีไม่ได้กล่าวปฏิเสธ
ทันใดนั้นก็มีลมกระโชกพัดหน้าต่างจนปิด เมื่อมู่เฉียนซีหันกลับไปก็เห็นใบหน้าที่งดงามจนเตะตาผู้อื่น และดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกคู่นั้นจ้องมองมาที่มู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีมอบเสี่ยวโม่โม่ให้กับจิ่วเยี่ยพลางกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย วันนี้เสี่ยวโม่โม่มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก แล้วยังพยายามอย่างไม่ลดละด้วย”
ต่อมา การต่อสู้กับหุ่นเชิดของมู่เฉียนซีและเสี่ยวโม่โม่เริ่มรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
เสี่ยวโม่โม่ได้เลื่อนขั้นเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าแล้ว!
นี่เพิ่งมีอายุได้ไม่เท่าไร พวกเขาก็สามารถเห็นได้ถึงการเติบโตของอัจฉริยะคนหนึ่งแล้ว
ครั้งนี้มู่เฉียนซีไม่จำเป็นที่จะต้องท้าทาย ก็ได้ครอบครองห้องที่หนึ่งแล้ว หลังจากนั้นเมื่อมีคนมาท้าทาย เสี่ยวโม่โม่ก็จะเป็นคนต่อสู้เองทั้งหมด
นี่ไม่ได้เหมือนกับพลังการต่อสู้ของเด็กทารกตัวน้อยเลย
พรสวรรค์ของเสี่ยวโม่โม่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก แต่ทว่าเจ้าตัวน้อยนี้ก็ไม่เคยนิ่งนอนใจเลย และยังคงรู้สึกว่าตนเองนั้นยังแข็งแกร่งไม่พอ
หลังจากที่การฝึกฝนในรอบนี้สิ้นสุดลงแล้ว ครูฝึกจื่อก็กล่าวว่า “เวลาของพวกเจ้ามีไม่มากเท่าไรแล้ว ลำดับต่อไปเป็นการฝึกฝนพิเศษขั้นสุดท้าย! และจะเลือกสิบอันดับแรกออกมา แล้วจากนั้นจะให้เข้าร่วมในภารกิจสุดท้าย”
“ต่อไปพวกเราจะย้ายสถานที่ฝึกฝนกัน สถานที่ฝึกฝนต่อไปเป็นหนึ่งในดินแดนโกลาหลที่มีระดับต่ำที่สุด”
ที่นี่เป็นโลกที่มีองค์ประกอบของต้นอู๋ถงกว้างใหญ่มากที่สุด ยิ่งขึ้นไปด้านบน พลังวิญญาณยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แต่ทว่าแผ่นดินที่อยู่ข้างล่างนั้น กลับมีความโกลาหลมากยิ่งกว่า
สัตว์ร้ายที่สูญเสียสติเหล่านั้น มีความโหดร้ายป่าเถื่อนเป็นอย่างมาก ทว่าพวกมันก็ไม่ได้มีความสามารถในการโจมตีที่แข็งแกร่งเท่าไรนัก แต่สำหรับคนหนุ่มสาวเหล่านี้แล้ว ก็ถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เมื่อได้ยินถึงดินแดนโกลาหล สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน
“ตอนนี้พวกเจ้า สามารถเลือกถอนตัวได้!” ครูฝึกจื่อกล่าว
ถอนตัวหรือ? มาจนถึงจุดนี้แล้ว จะถอนตัวไปได้อย่างไร?
เช่นนั้นความยากลำบากทั้งหมดที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ ก็เปล่าประโยชน์นะสิ
“พวกเราเลือกที่จะออกเดินทาง!”
“ใช่แล้ว! จะฝึกฝนพิเศษครั้งนี้ต่อไป!”
“……”
ครูฝึกจื่อกล่าวว่า “ดีมาก!”
“วางใจเถอะ ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าต้องตายอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน”
เผ่าหงส์ในฐานะที่เป็นเผ่าสัตว์เทพอันดับต้นๆ ที่มีความสามารถในการขยายพันธุ์ไม่แข็งแกร่งนัก ฉะนั้นพวกเขาจึงเป็นของล้ำค่าอย่างยิ่งของแต่ละเผ่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนของเผ่าที่มีพรสวรรค์ระดับสูง
คนเหล่านี้ แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถปล่อยให้ต้องตายไปอย่างเปล่าประโยชน์ได้ แม้ว่าครูฝึกจื่อจะรู้สึกว่า พรสวรรค์ของพวกเราเขาเหล่านี้จะมีเพียงเท่านี้ก็ตาม!
“นี่คือปีกเมฆม่วง หากพบเจออันตราย ให้ใช้พลังวิญญาณในการกระตุ้น และผู้แข็งแกร่งของเผ่าหงส์ม่วงจะรีบไปช่วยเหลือเจ้าทันที”
“คนที่เหลืออยู่สิบคนสุดท้าย จะถือว่าผ่านด่าน!”
หลังจากที่ครูฝึกจื่อพูดเนื้อหาของการฝึกพิเศษในครั้งนี้จบลงแล้ว ต่อมาก็มีคนไปส่งพวกเขาที่ดินแดนโกลาหล
เมื่อเดินลงไปข้างหน้าตามต้นอู๋ถง แสงสว่างก็เริ่มเปลี่ยนเป็นมืดมิด และอากาศต่างก็เปลี่ยนเป็นเปียกชื้นมากยิ่งขึ้น
หากกล่าวว่าแคว้นจื่อเฟิ้งคือสวรรค์ ที่นี่ก็เกือบจะเป็นเหมือนนรกอยู่แล้ว มันเต็มไปด้วยผลพวงของการโจมตี และความโกลาหลที่มากเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากที่พวกเขามาถึงสถานที่ได้อย่างราบรื่น ต่อไปก็ถือว่าเป็นเวลายืดเส้นยืดสายได้ตามอิสระ
โฮ่ก โฮ่ก โฮ่ก!
ยังไม่ทันรอให้พวกเราได้ปรับสภาพให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายนี้ได้ ฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งก็กระโจนออกมาเสียแล้ว
การต่อสู้ที่นองเลือดแสนยากลำบากที่พวกเขาเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้ เมื่อเทียบกับการต่อสู้ที่นองเลือดของการฝึกฝนพิเศษก่อนหน้า ปรากฏว่าเป็นเด็กน้อยไปเลย
หลังจากที่พาทุกคนไปไว้ที่ดินแดนโกลาหลแล้ว ก็มีคนหนึ่งถามขึ้นมาว่า “ครูฝึกจื่อ ที่นี่คงจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่หรือไม่? หากเกิดเรื่องขึ้นแล้วละก็ ราชวงศ์ต่าง ๆ จะต้องไม่ยอมปล่อยไปแน่นอน”
ครูฝึกจื่อกล่าวว่า “แผ่นดินนี้เลือกมาตามความแข็งแกร่งของพวกเขา ไม่อาจจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตได้! เพียงแต่ก็ไม่อาจที่จะประมาทเลินเล่อได้ สั่งให้ผู้แอบสังเกตการณ์ระมัดระวังสักหน่อย”
“ขอรับ!”
ครืน! เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัว พวกเขาทั้งหมดต่างก็ค่อย ๆ แปลงร่างเป็นร่างเดิมเพื่อทำการต่อสู้
เสี่ยวโม่โม่ก็ทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าขึ้น แล้วเข้าร่วมท่ามกลางการต่อสู้
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณฟาดลงไปกลางอากาศ ถึงแม้ว่าสัตว์ร้ายที่นี่จะดุร้าย แต่ทว่าสมุนไพรวิญญาณก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว!
เนื่องจากว่าคนที่มายังสถานที่แห่งนี้มีจำนวนน้อยมากเกินไป อีกทั้งสัตว์ร้ายที่อยู่ในนี้ต่างก็ไม่รู้จักของดี เช่นนั้นสมุนไพรวิญญาณมากมายถึงได้ถูกทิ้งไว้ที่นี่โดยที่ไม่มีคนเก็บไป
ครืน!
สัตว์ร้ายจำนวนไม่น้อย ถูกพวกเขาทำให้กระจายตัวออกไป
หลังจากที่หลบหลีกออกมาไกลจากฝูงชนแล้ว มู่เฉียนซีกล่าว “อู๋ตี้ เสี่ยวหง พวกเจ้าทั้งสองพักผ่อนกันจนราขึ้นไปหมดแล้ว รีบไปทำงานเร็วเข้าสิ!”
อู๋ตี้กล่าวว่า “ในที่สุดก็สามารถทำงานได้แล้ว”
“ใช่แล้ว! ตั้งแต่มาถึงโลกของหงส์ ข้านอนจนจะเฉาตายอยู่แล้ว” เสี่ยวหงกล่าว